พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 145 ทวงหนี้
บทที่ 145 ทวงหนี้
โจวลี่ซือหวั่นไหวอยู่บ้าง เพราะอย่างไรเครื่องบินลำนี้ก็เป็นเครื่องบินที่เธอชอบที่สุด
เพียงแต่เธอไม่อยากให้เนี่ยเฟิงถูกคนอื่นควบคุมเพราะเรื่องของตัวเอง
“พี่อย่าปฏิเสธเลย หากพวกเราปฏิเสธไปโต้งๆ บางทีต่อไปเขาคงไม่มาให้ผมช่วยงานแล้ว อีกอย่างคนอย่างเขาเป็นคนดีมากจริงๆ ถึงอย่างไรพวกเราก็ไม่ต้องการเครื่องบินของเขา เพียงแค่มีเวลาไปขับบ้างเท่านั้นเอง”
โจวลี่ซือได้ยินคำพูดนี้ของเนี่ยเฟิง หลังเล่นตัวอยู่สักครู่จึงค่อยพยักหน้า “งั้นก็ได้ เอาตามนี้แล้วกัน!”
หลังทั้งคู่ร่วมงานชมนิทรรศการเสร็จแล้วก็กลับมาที่โรงแรม
เช้าตรู่วันต่อมา พวกเขาสองคนเตรียมตัวจะกลับเมืองจินไห่ แต่เวลานี้กลับเห็นคนคนหนึ่งยืนอยู่หน้าประตู คนคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น เป็นซาวานั่นเอง
ซาวาสวมชุดเอี๊ยมกระโปรงยืนอยู่ด้านนอก หน้าตาสะสวยและผิวขาวของเธอดูสะดุดตาเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของคนต่างชาติเหล่านั้นโดยเฉพาะ ทำให้คนที่เห็นไม่อาจละสายตาได้เลย
หลังซาวาเห็นเนี่ยเฟิงออกมาก็ดีใจมาก รีบพุ่งเข้ามาหาทันที “พี่เฟิง!”
เนี่ยเฟิงรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย ไม่รู้ว่าซาวามาหาตนเองที่นี่ทำไม
โจวลี่ซือใช้สายตาหยอกล้อมองพวกเขาสองคน ยิ้มกล่าวทันที “เพื่อนนายยังอยู่ที่นี่ ทำไมนายไม่อยู่กับเพื่อนนายต่ออีกหน่อยล่ะ ถึงอย่างไรพี่ก็ดูแลนายไม่ได้แล้ว งั้นนายก็อยู่เที่ยวเล่นที่นี่อีกสักสองสามวันเถอะ พี่จะทิ้งเงินนิดหน่อยไว้ให้ นายอย่าลืมพาเพื่อนไปกินข้าวอร่อยๆ ด้วยล่ะ!”
โจวลี่ซือพูดเสร็จก็ยกมือถือขึ้นมา เวลานี้ได้โอนเงินเรียบร้อยแล้ว
เนี่ยเฟิงเห็นโจวลี่ซือลากกระเป๋าเดินหายลับไปไกลแล้วก็รู้สึกจนปัญญาอยู่บ้าง
เขาจะเรียกคนก็ไม่อยู่ให้เรียกแล้ว ได้แต่มองโจวลี่ซือขึ้นรถเช่าจากไป
“เธอมาทำอะไรที่นี่?”
ซาวาเห็นสีหน้าเนี่ยเฟิงไม่ค่อยมีความสุขนัก พลันอดเบะปากพูดไม่ได้ว่า
“เพราะฉันคิดถึงพี่มาก ก็เลยมาหาที่นี่ ไม่คิดว่าพี่จะยังอยู่ที่โรงแรมนี้”
“พูดมาเถอะ มีเรื่องอะไรกันแน่”
ซาวาจิตตกอยู่บ้าง
“ไม่มีเรื่องก็มาหาไม่ได้เหรอ?”
เนี่ยเฟิงมุ่นหัวคิ้วเล็กน้อย “ช่างเถอะ ถึงอย่างไรฉันก็คิดจะมาเยี่ยนตูอีกสักเที่ยวหนึ่งอยู่แล้ว เดิมทียังมีเรื่องบางเรื่องที่ต้องจัดการ ในเมื่อฉันอยู่ต่อ งั้นก็จัดการเรื่องที่อยู่ในมือให้เสร็จก่อนค่อยว่ากันเถอะ”
ซาวาดีใจขึ้นมาทันที เดินขึ้นหน้ามาหนึ่งก้าวกุมมือเนี่ยเฟิงเอาไว้ “พี่เฟิงจะไปจัดการเรื่องอะไร? ให้ฉันไปกับพี่ด้วยนะ!”
เดิมเนี่ยเฟิงไม่อยากพาซาวาไปด้วย แต่พอคิดว่าคนเหล่านันก็เป็นคนที่รังแกซาวาด้วยเช่นกัน จึงพยักหน้าอย่างแกนๆ ทันที
“ไปที่แหล่งขายรถหงต๋ากันก่อน”
ทั้งสองคนมาถึงแหล่งขายรถหงต๋า เพิ่งลงจากรถ ผู้จัดการใหญ่ก็รีบเข้ามาต้อนรับทันที บนศีรษะเขาพันด้วยผ้าพันแผลเต็มไปหมด ดูอาการน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง
เนี่ยเฟิงเห็นว่าในแหล่งขายรถมีรถไม่น้อยที่ถูกชนพัง จึงเลิกคิ้วขึ้นทันที “นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
“เถ้าแก่ วันนี้ผมกำลังคิดจะโทรหาคุณเพื่อรายงานสถานการณ์ แต่คิดไม่ถึงว่าจะมีคนกลุ่มหนึ่งบุกเข้ามา ในมือพวกเขาถือไม้เบสบอลมาด้วย ผมยังไม่ทันได้ตั้งตัวด้วยซ้ำ ก็ถูกพวกมันตีหัวจนเลือดอาบ เมื่อกี้ผมเพิ่งจะได้สติ กำลังจะไปบอกคุณ คิดไม่ถึงว่าคุณจะมาพอดี”
“ดูท่าน่าจะเป็นฝีมือของพวกเฮยเป้า กล้องวงจรปิดจับภาพได้ไหม?”
ผู้จัดการพยักหน้า “จับภาพได้ คุณมาดูเอาเองเถอะ!”
เนี่ยเฟิงเปิดดูในคอมพิวเตอร์ผ่านๆ รอบหนึ่ง มีสองสามคนที่เป็นคนเดิมจากเมื่อวาน ดูท่าพวกเขาจะจงใจมาหาเรื่องจริงๆ
“รถที่ถูกชนมีตั้งแต่ราคาต่ำไปจนถึงราคาสูง”
สีหน้าผู้จัดการดูซีดขาวอย่างมาก เนี่ยเฟิงเห็นท่าทางน่าสงสารของผู้จัดการใหญ่ จึงโบกมือ “คุณพาคนเจ็บไปหาหมอที่โรงพยาบาลก่อน พอรักษาเรียบร้อยแล้ว ค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้มาเบิกคืนที่ผม ไม่ต้องกังวล”
หลังผู้จัดการได้ยินก็รีบพยักหน้า “ขอบคุณเถ้าแก่ใหญ่มาก เรื่องนี้เถ้าแก่ใหญ่จะแจ้งตำรวจไหม?”
“ผมไม่ให้ตำรวจมายุ่งหรอก พวกเขาทำกับพวกเรายังไง พวกเราก็จะทำกับพวกเขาอย่างนั้น”
เนี่ยเฟิงหรี่ตา เขายังไม่ได้เคลื่อนไหวเลย คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะร้อนใจเช่นนี้ งั้นเขาก็ไม่ต้องเกรงใจแล้ว
ก่อนหน้านี้ฟางหลงเทียนเคยบอกกับเขาแล้ว สถานฝึกยุทธเฮยหลงของที่นี่กับสายของเขามีความเกี่ยวข้องกัน ตอนนี้ยังสืบไม่ได้ว่าสายเป็นใคร ดังนั้นเนี่ยเฟิงจึงคิดจะลงมือจากสถานฝึกยุทธเฮยหลงก่อน
เขาจะต้องหาตัวคนบงการอยู่เบื้องหลังที่ทำร้ายครอบครัวของพวกเขาออกมาให้ได้ และยังต้องลงโทษพวกมันอย่างสาสมอีกด้วย
“น่ารังเกียจเกินไปแล้ว คิดไม่ถึงว่าพวกมันจะทำเรื่องต่ำช้าเช่นนี้ออกมา ถ้าไม่อย่างนั้นพี่เฟิงมอบเรื่องนี้ให้ฉันเถอะ? ฉันจะให้พวกนักฆ่าของฉันไปกำจัดพวกมันให้สิ้นซาก!”
ซาวากำหมัด พูดอย่างโกรธแค้นเต็มอก
“อย่าเพิ่งผลีผลาม พวกมันยังมีของที่ฉันต้องการ”
ซาวามุ่นหัวคิ้วอย่างไม่เข้าใจ “พี่ต้องการอะไร?”
“เรื่องพวกนี้เธออย่ายุ่งดีกว่า ฉันต้องไปหาพวกเขาถามเรื่องราวให้ชัดเจนแน่นอน”
ซาวาพยักหน้า ถึงอย่างไรไม่ว่าเนี่ยเฟิงจะทำอะไร เขาล้วนรู้สึกว่าถูกต้องเสมอ เนี่ยเฟิงดูแลกลุ่มทหารรับจ้างที่ใหญ่ขนาดนั้น คิดดูก็รู้ว่าเก่งกาจแค่ไหน
อีกทั้งภายใต้การนำของเนี่ยเฟิง สำนักมังกรได้เดินทางไปทั่วโลก ตอนนี้สำนักมังกรกลายเป็นเป้าหมายที่ผู้นำแต่ละประเทศต้องการเข้าหาไปแล้ว
“งั้นให้ฉันไปกับพี่เฟิงด้วยเถอะ คนพวกนี้อภัยให้ไม่ได้!”
เนี่ยเฟิงพยักหน้า จากนั้นก็เรียกพนักงานคนอื่นๆ เข้ามา คำนวณความสูญเสีย มอบข้อมูลอย่างละเอียดและตัวเลขที่แม่นยำให้กับเขา
หลังคำนวณเสร็จแล้ว เนี่ยเฟิงก็ขับเฟอรารี่พร้อมกับซาวา ตรงไปที่สถานฝึกยุทธเฮยหลง
สถานฝึกยุทธเฮยหลงสมกับเป็นสถานฝึกยุทธอันดับต้นๆ ของเมืองเยี่ยนตู สถานฝึกยุทธแห่งนี้ครอบครองพื้นที่กว้างใหญ่ ราวกับเป็นวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
การตกแต่งเป็นกลิ่นอายโบราณ มองแวบเดียวก็รู้ว่าหากต้องการมาเรียนศิลปะการต่อสู้ของที่นี่ จะต้องใช้จ่ายเงินทองมากมาย
“เฮ้! พวกคุณเป็นใครกัน? เข้ามาต้องลงทะเบียนก่อน!”
ยามเฝ้าประตูเห็นรถของเนี่ยเฟิงจอดอยู่ที่หน้าประตู ก็รีบวิ่งเข้ามาทันที เคาะกระจกรถพูดกับเนี่ยเฟิง
หลังเนี่ยเฟิงลดกระจกรถลงมา ก็ยิ้มมองไปที่รปภ.คนนั้น “ขอโทษด้วย คนที่มาบุกสถานที่อย่างพวกเราไม่เคยลงทะเบียนมาก่อน”
“อะไรนะ?!”
ยามเฝ้าประตูกังวลว่าตนเองฟังผิดไปหรือเปล่า ยังไม่ทันที่เขาจะตอบโต้ เนี่ยเฟิงก็เหยียบคันเร่งพุ่งเข้าไปทันที
ต่อให้ยามเฝ้าประตูรวดเร็วเพียงใด ก็ไม่มีทางไล่ตามความเร็วรถของเนี่ยเฟิงทัน รถของเนี่ยเฟิงแกว่งหางมังกรทีหนึ่งจากนั้นก็จอดอยู่หน้าประตูสถานฝึกยุทธอย่างมั่นคง
จากนั้นเขาก็ลงจากรถ ยังไม่ทันได้เข้าใกล้สถานฝึกยุทธ ก็ได้ยินเสียงตะโกนอันทรงพลังดังมาจากข้างในเป็นชุด
ดูท่าคนที่อยู่ด้านในจะกำลังฝึกซ้อมกันอยู่
เนี่ยเฟิงเดินเข้าไปอย่างช้าๆ สถานที่แห่งนี้ใหญ่โตมาก ดูท่าสถานฝึกยุทธเฮยหลงจะมีคุณสมบัติอยู่บ้างจริงๆ
ทุกคนที่อยู่ในสถานฝึกยุทธเฮยหลงจะสวมใส่ชุดฝึกยุทธสีดำ คนกลุ่มหนึ่งกำลังฝึกซ้อมอยู่ด้านใน
การปรากฏตัวของเนี่ยเฟิง ทำให้คนที่อยู่ในสถานฝึกยุทธเฮยหลงพากันหันมามอง พวกเขามองไปที่แขกไม่ได้รับเชิญคนนี้
“คุณคนนี้ โปรดอย่าเดินเข้ามาอีก ที่นี่คือสถานฝึกยุทธ เดี๋ยวได้รับบาดเจ็บแล้วจะไม่ดี”
อาจารย์วูซูคนหนึ่งเดินมาทางเนี่ยเฟิง กล่าวเตือนเขา
“ขอโทษด้วย ผมมาทวงหนี้ คนรับผิดชอบของพวกคุณอยู่ที่ไหน?”