พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 147 บุคคลผู้ขายหน้าได้ไม่เว้นวัน
บทที่ 147 บุคคลผู้ขายหน้าได้ไม่เว้นวัน
“เหอะ! คนอย่างพวกนายดีแต่ข่มเหงรังแกคนที่อ่อนแอกว่า ถึงกับส่งคนมาพังรถทำร้ายคนที่แหล่งขายรถหงต๋าโดยไม่ให้สุ้มให้เสียง! คนอย่างพวกนาย ควรได้รับบทเรียนเสียบ้าง!”
เมื่อครู่ซาวาได้เห็นบุคลิกอันห้าวหาญของเนี่ยเฟิง จึงอดกรีดร้องอยู่ในใจไม่ได้ พี่เฟิงช่างเท่เป็นบ้า!
ซาวาเคยพบเห็นคนเก่งๆ มาไม่น้อย แต่ไม่มีใครสักคนที่แข็งแกร่งเหมือนเนี่ยเฟิง!
“หึ! คนอย่างแกก็แค่กล้ารังแกลูกศิษย์ที่มือไม่มีแรงแม้แต่จะมัดไก่เท่านั้นแหละ เป็นยังไง? แกกล้าดวลกับเราไหม?!”
สถานฝึกยุทธเฮยหลงแบ่งเป็นสามลัทธิเก้าอาชีพ โดยปกติศิษย์เหล่านี้ล้วนได้รับการฝึกสอนจากอาจารย์ระดับสาม พอพวกเขามีความสามารถเท่าอาจารย์ระดับสามแล้ว ถึงจะเลื่อนขั้นไปเรียนกับอาจารย์ระดับสอง จากนั้นก็เป็นอาจารย์ระดับหนึ่ง และอาจารย์ระดับขั้นเทพ
และคนที่สามารถบรรลุถึงระดับขั้นเทพได้ ล้วนต้องผ่านพวกเขา
“ดูไปแล้วพวกนายก็ไม่เห็นจะเก่งสักเท่าไหร่ ฉันกลัวว่าอีกเดี๋ยวพวกนายจะร้องเรียกหาพ่อแม่ที่ถูกตี ดังนั้นพวกนายประหยัดแรงไว้ดีกว่า เรียกคนที่เก่งที่สุดของพวกนายมา บัญชีนี้ฉันยังไม่ได้สะสางกับพวกนายให้ชัดเจนเลยด้วยซ้ำ”
เนี่ยเฟิงโบกมือ ไม่อยากจะเสียเวลากับพวกเขาเลยแม้แต่น้อย
หลังกลุ่มอาจารย์ระดับสามได้ยินก็โมโหอย่างยิ่ง เจ้าหมอนี่ช่างโอหังเสียเหลือเกิน หากพวกเขาไม่สั่งสอนบทเรียนให้เนี่ยเฟิงบ้าง อย่างนั้นอาจารย์ระดับสามอย่างพวกเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน!
อาจารย์ระดับสามมีทั้งหมดห้าสิบคน
เพราะสถานฝึกยุทธเฮยหลงใหญ่โตมาก ศิษย์ที่อยู่ด้านในจึงมีมากมายเช่นกัน นี่เป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น
พวกอาจารย์ระดับสามรีบบุกเข้ามาทันที “เดี๋ยวจะหาว่าพวกเรารังแกนาย พวกเราจะให้โอกาสแกสักครั้ง ยอมแพ้เสียแต่ตอนนี้ก็ยังไม่สาย!”
“คำพูดนี้ทุกคำฉันขอคืนให้พวกแกแล้วกัน ฉันจะให้โอกาสพวกแกสักครั้ง”
เนี่ยเฟิงแสยะยิ้ม “พวกแกเข้ามาพร้อมกันเลยเถอะ หากฉันออกนอกเขตวงกลมนี้ นั่นก็ถือว่าฉันแพ้ ฉันจะชดใช้ให้เต็มจำนวนอย่างแน่นอน รวมถึงหักแขนขาของตัวเองแล้วค่อยจากไป”
หลังเนี่ยเฟิงพูดจบ ก็ใช้รองเท้าเปื้อนฝุ่นแตะเลือดบนตัวศิษย์ที่อยู่ด้านข้าง วาดวงกลมวงหนึ่งที่ด้านหน้าตัวเอง
วงกลมนี้ดูไปแล้วมีเส้นผ่านศูนย์กลางแค่ประมาณครึ่งเมตรเท่านั้น
“อวดดีนัก!”
กลุ่มอาจารย์ระดับสามโมโหสุดขีด เห็นได้ชัดว่าเจ้าหมอนี่ไม่เห็นพวกเขาอยู่ในสายตา!
เนี่ยเฟิงยิ้มกวักมือเรียกพวกเขา “เข้ามาพร้อมกันเลย ไม่แน่อาจจะยังมีสิทธิ์ชนะ”
พวกเขาทนรับการยั่วยุเช่นนี้ได้ที่ไหนกัน แต่ละคนราวกับเทเกี๊ยวลงในน้ำเดือดพุ่งเข้าหาเนี่ยเฟิง!
ช่างน่าเสียดายแม้พวกเขาจะมีฝีมืออยู่บ้าง แต่ยังคงเป็นพวกนอกคอกฝูงหนึ่ง
เนี่ยเฟิงหมัดชกเท้าเตะใส่พวกเขา พวกเขาถึงกับต้านไม่ไหว แค่กระบวนท่าเดียวก็ถูกตีจนหัวหมุนหลงทิศเสียแล้ว
อาจารย์ระดับสามห้าสิบคนไม่ใช่คู่มือของเนี่ยเฟิงโดยสิ้นเชิง
หลังเนี่ยเฟิงตีพวกเขาจนยอมแพ้แล้ว ก็ก้มศีรษะลง ยิ้มพลางพูดว่า “ตอนแรกยังคิดว่าจัดการพวกนาย ฉันจะได้วอร์มร่างกายนิดหน่อย คิดไม่ถึงว่าตอนนี้แม้แต่เหงื่อยังไม่ออก หรือว่าสถานฝึกยุทธเฮยหลงจะมีความสามารถแค่นี้?”
“ไอ้เด็กอวดดี ถึงกับกล้ามาเหยียบสถานฝึกยุทธเฮยหลงของฉัน ความกล้าของแกช่างใหญ่โตนัก!”
เสียงหนักแน่นเสียงหนึ่งดังลอยเข้ามา เนี่ยเฟิงหันมองไปทางต้นเสียง ก็เห็นชายชราชุดดำถือไม้เท้าคนหนึ่งเดินเข้ามา แม้ชายชราคนนั้นจะดูแก่มาก แต่ยังดูสดใสกระปรี้กระเปร่า
เนี่ยเฟิงมองสำรวจชายชราทีหนึ่ง “คุณคือหัวหน้าของที่นี่? เฮยหลง?”
“เหอะ! ด้วยฝีมืออย่างแกน่ะเหรอ จะทำให้พี่ใหญ่เฮยหลงออกโรงเองได้ยังไง!”
ความสนใจของเนี่ยเฟิงพลันหดหายทันที “ก็ว่าแล้วเชียว คนที่ก่อตั้งสถานฝึกยุทธเฮยหลงขึ้นมาได้ ควรจะมีความสามารถกว่านี้สิ คนอายุอย่างคุณนี้ กระดูกกระเดี้ยวคงจะกร่อนหมดแล้ว ไม่เหมือนคนที่ฝึกยุทธเลยสักนิด”
ชายชราถูกเนี่ยเฟิงพูดเช่นนี้ พลันโกรธจนเดือดดาลทันที ควรรู้ว่าเขามีระดับฝีมือสูงล้ำมากเพียงใด!
เขาอยู่ที่นี่เป็นถึงระดับผู้อาวุโส เนี่ยเฟิงถึงกับกล้าบอกว่าเขาไม่เหมือนคนฝึกยุทธ แถมยังพูดจาสามหาวบอกว่ากระดูกกระเดี้ยวเขากร่อนหมดแล้ว!
“ไอ้เด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ! อย่าคิดว่าเล่นงานคนไม่กี่คนได้ แกก็เจ๋งแล้ว!”
ที่ด้านข้างชายชรายังมีคนสวมชุดฝึกยุทธสีดำอยู่อีกไม่น้อย พวกเขาดูสุขุมมากขึ้น ที่แท้พวกเขาก็คืออาจารย์ระดับหนึ่งทั้งสิ้น
เนี่ยเฟิงรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายที่ไหลเวียนอยู่ในตัวพวกเขา ต่างกับพวกกะเลวกะลาดเมื่อกี้โดยสิ้นเชิง
ดูท่าจะผ่านการฝึกฝนมา
ตอนนั้นที่เนี่ยเฟิงรอดพ้นอยู่ท่ามกลางทหารและม้าจำนวนมากได้ ก็เพราะว่าเขาออกกำลังกายฝึกวิชาการต่อสู้
แตกฉานวูซูหวาเซี่ยลึกซึ้ง พวกนอกคอกที่เป็นแต่ถือปืนเหล่านั้นจะมาเทียบชั้นได้ยังไงกัน?
เนี่ยเฟิงเองก็ร่ำเรียนมาตั้งแต่เด็กจนโตเช่นกัน ดังนั้นถึงมีความสามารถอย่างในตอนนี้
และก็เพราะว่าแก่นแท้ของร่างกายมีความแข็งแรง ดังนั้นหลังเกิดเรื่องฆ่าล้างบนทะเลเนี่ยเฟิงถึงยังมีชีวิตรอดมาได้
“ช่วยไม่ได้ คุณว่าผมเจ๋งแค่ไหนล่ะ หากพวกคุณรู้สึกว่าผมโอหังเกินไปล่ะก็ งั้นพวกคุณทั้งหมดก็จัดการผมให้ได้สิ”
เนี่ยเฟิงยักไหล่ ดูท่าทางไม่ยี่หระ
ชายชราโกรธจนหน้าอกพองขยาย เห็นเพียงเขากระแทกไม้เท้าในมืออย่างรุนแรง
“พวกแกมัวยืนทำอะไร? รีบไปจัดการเขาสิ!”
พวกอาจารย์ระดับหนึ่งพยักหน้า อาจารย์ระดับหนึ่งมีทั้งหมดสิบคน ดูจากท่าทางการเดินของพวกเขา ก็รู้ว่าระดับฝีมือของพวกเขาสูงมากจริงๆ
“ฉันยังนึกว่าสถานฝึกยุทธเฮยหลงจะไม่มีใครเสียแล้ว คนเหล่านี้ดูสมรรถภาพไม่เลว ดูท่าคงจะฝึกมานานมากสินะ”
ดวงตาของเนี่ยเฟิงราวกับเครื่องX-ray มองพวกเขาทะลุปรุโปร่งอย่างรวดเร็ว
“รู้ก็ดี ตอนนี้จะถอยหนีก็ยังมีโอกาสนะ!”
ชายชราดูภาคภูมิใจเมื่อรู้แบบนี้ อาจารย์ระดับหนึ่งเขาเป็นคนปั้นออกมาเองกับมือ!
“เมื่อกี้พวกเขาก็บอกว่าจะให้โอกาสผม ผลคือถูกผมเล่นงานจนฟันร่วงหมดปาก ตอนนี้คุณมาบอกอีกว่าจะให้โอกาสผม คุณอยากจะโดนแบบเดียวกันใช่ไหม?”
เนี่ยเฟิงพูดจาช่างทำให้คนโกรธจนแทบตายจริงๆ ชายชราบีบไม้เท้าในมือแน่น “อย่าอวดดีนัก อีกเดี๋ยวจะเป็นนายที่ร้องไห้!”
เนี่ยเฟิงเตะคนที่เกะกะไปอยู่อีกด้าน ในนี้มีคนบาดเจ็บนอนอยู่เต็มไปหมด
“มาตรงนี้เถอะ ตรงนี้สามารถออกเท้าออกหมัดได้เต็มที่ คนอย่างฉันมีเวลาให้คิดมากมาย ที่ฉันมาก็เพื่อต้องการให้พวกนายชดใช้ ดังนั้นพวกนายสิบคนเข้ามาพร้อมกันเลยเถอะ!”
พอเนี่ยเฟิงพูดคำนี้ออกมา ชายชราก็พ่นลมเย็นออกมาทางปาก “เหอะ! คำพูดคำจาของนายช่างใหญ่โตนัก งั้นฉันก็จะทำให้นายพอใจ! ให้เขาได้รู้ซึ้งถึงความร้ายกาจของสถานฝึกยุทธเฮยหลงเรา!”
ทุกคนพุ่งเข้าไปหาทันที พวกเขารวดเร็วอย่างยิ่ง ราวกับพายุบุแคม
อีกทั้งหมัดของพวกเขายังโจมตีถึงเนื้อ ท่วงท่าแต่ละท่าก็สูงล้ำยากคาดเดา ทำให้คนตาลายหัวหมุน!
หัวใจซาวาพลันเต้นโลดขึ้นมา คนเหล่านี้เห็นได้ชัดว่าแตกต่างจากพวกเมื่อกี้ ไม่รู้ว่าเนี่ยเฟิงจะรับมือไหวหรือเปล่า
แต่คิดไม่ถึงว่าเวลานี้เนี่ยเฟิงกลับหลับตาลง การกระทำเช่นนี้ถือเป็นการยั่วยุพวกเขาโดยตรง!
“รนหาที่ตาย!”
หนึ่งในนั้นคำรามบุกเข้ามา เห็นเพียงเขายกเท้าข้างหนึ่งขึ้น ท่วงท่ารุนแรงและรวดเร็วอย่างยิ่ง!
กล้ามเนื้อตรงส่วนขาของเขาค่อนข้างแข็งแรง เท้าเดียวก็สามารถเตะคอคนให้หักได้อย่างง่ายดาย!
แต่เขายังไม่ทันเตะถูกเนี่ยเฟิง ก็ถูกเนี่ยเฟิงทุบเข้าที่กระดูกขาในหมัดเดียว!
พริบตาเดียวเขารู้สึกเพียงว่าร่างกายสั่นเทิ้ม ความเจ็บเริ่มแผ่ลามไปทั่ว!