พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 152 สมรู้ร่วมคิด
บทที่ 152 สมรู้ร่วมคิด
“ทำท่าอิดออดอะไรของคุณ? ตกลงจะพูดหรือไม่พูด!”
ซาวาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการประชุมครั้งนี้ด้วยซ้ำ และการที่หล่อนมาที่นี่ ก็เพราะหล่อนติดตามอันน่ามาก็เท่านั้น
“ถึงแม้ว่าคุณจะได้รับการคุ้มครองอย่างดีจากพวกพี่ชายของคุณ แต่พวกเขาก็มีจุดประสงค์เพื่อสร้างพันธมิตรในการประชุมครั้งนี้ เพื่อต่อต้านสำนักมังกร”
ดังที่เรียกว่า ไม้เด่นเกินไพร ลมพัดหักโค่น สำนักมังกรยอดเยี่ยมขนาดนั้น และแน่นอนว่าย่อมกลายเป็นเป้าหมายที่หลายคนต้องการจะดึงมาเป็นพวกด้วย แต่ในขณะเดียวกันก็ย่อมเป็นหนามยอกอกของคนหลายคนด้วยเช่นกัน
พวกเขาคิดจะดึงสำนักมังกรมาเป็นพวก และร่วมงานกับพวกเขาแต่อีกด้านหนึ่งก็เกรงกลัวความสามารถของสำนักมังกรด้วยเช่นกัน
ทรัพย์สมบัติของสำนักมังกรมีอยู่ทุกที่ทั่วโลก ดังนั้นจึงทำให้เกิดภัยคุกคามต่อคนจํานวนมาก
อันน่าขมวดคิ้วอย่างกลั้นไม่ได้ “ประเด็นหลักของการประชุมในครั้งนี้คือวิธีการต่อต้านสำนักมังกร”
เนี่ยเฟิงพยักหน้าอย่างรู้แจ้งกระจ่างในฉับพลัน “ไม่เป็นไร นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ”
ในตอนที่สำนักมังกรเพิ่งขึ้นสู่อันดับแรกของกลุ่มทหารรับจ้าง ก็มีผู้คนมากมายคิดจะสังหารเนี่ยเฟิงอยู่แล้ว
เพราะสำนักมังกรอยู่ภายใต้การนําพาของเนี่ยเฟิงจึงได้รับความรุ่งโรจน์ของวันนี้
เพียงแต่ว่าผู้ที่อยากได้ชีวิตของเนี่ยเฟิงไม่มีความสามารถเช่นนี้ และต่อให้พวกเขาจะรวมกลุ่มกันก็คงเป็นได้แค่ กลุ่มพวกหัวมังกุท้ายมังกรกลุ่มหนึ่งเท่านั้น
“แต่สิ่งที่ทําให้ผมประหลาดใจมากก็คือ…ใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้กันแน่? ”
อันน่าส่ายหัว “เพื่อรับประกันความเป็นส่วนตัวของทุกคนที่มาร่วมการประชุม พวกเราจัดขึ้นในสถานที่ที่สัญญาณทั้งหมดถูกปิดกั้นไว้ และฉันก็ไม่เห็นคนอื่นอื่นเลย พวกเราถูกจัดให้อยู่ในห้องเล็กเล็กห้องหนึ่ง โดยการประชุมทั้งหมดถูกจัดขึ้นในห้องเล็กเล็กเพียงห้องเดียว และพวกเราสามารถใช้เพียงหน้าจออิเล็กทรอนิกส์ในการสื่อสารเท่านั้น ”
อันน่า รู้เพียงว่าหลายคนที่อยู่ในนั้นต่างก็ถูกส่งตัวมาจากพวกคนชนชั้นสูงของแต่ละประเทศ
“แต่ ฉันรู้ว่าการประชุมครั้งนี้ถูกจัดขึ้นโดย สำนักฟีนิกซ์ ซึ่งน้ำเสียงในการพูดของเขาคนนั้นไม่สามารถแยกออกเลยว่าเป็นชายหรือหญิง….. ตัวฉันเองก็แยกไม่ออกว่าตกลงเขาเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงเช่นกันแต่เขากลับพูดจาอย่างปลุกปั่น”
อันน่าลูบคางตัวเอง “การประชุมครั้งนี้ยังแบ่งออกเป็นการประชุมเล็กเล็กอีกจํานวนมาก” ซึ่งพวกเขากําลังคัดกรองผู้ที่สามารถเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดได้ แต่หากกตราบใดที่พวกเขาพบว่าเราไม่สามารถทํางานร่วมกันกับพวกเขาได้ พวกเขาก็จะขับไล่เราออกจากการประชุมครั้งนี้ทันที”
“งั้นคุณก็กําลังจะบอกว่าคุณผ่านด่านแล้วงั้นเหรอ? พวกเขายินดีที่จะทํางานร่วมกันกับคุณแล้วเหรอ? ”
อันน่าส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ “ในการคัดกรองขั้นต้นฉันก็โดนคัดออกแล้ว เพราะประเทศของเราและสำนักมังกรมักจะไปมาหาสู่กันอยู่บ่อยครั้ง”
“แล้วคุณรู้ได้ยังไงล่ะ?”
ในเมื่อผ่านการคัดเลือกมาอย่างละเอียดแล้ว อันน่า ต้องไม่รู้สิถึงจะถูก
อันน่ายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “นั่นเป็นเพราะประเทศของเรายังมีคนอยู่ในนั้น” ”
ซึ่งคนคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่เขาคือ เสด็จอาของอันน่านี่เอง
“เสด็จอา และพ่อของฉันไม่ค่อยลงรอยกันมาตลอดทั้งปีนี้แล้ว เนื่องจากพวกเขาตกอยู่ในสภาพของการแบ่งแยกประเทศตลอดมา ซึ่งเสด็จอาก็ได้ตั้งฝักฝ่ายขึ้น และคิดวางแผนการที่จะต่อสู้กับพวกเราจนถึงที่สุด แต่เพราะฉันค่อนข้างใกล้ชิดกับสำนักมังกร ดังนั้นเสด็จอาจึงค่อนข้างหวาดกลัว บวกกับในเดือนนี้ ที่เรามีสงครามกันหลายครั้ง และเห็นได้ชัดว่าเสด็จอากำลังเสียเปรียบ ดังนั้นเพื่อที่จะสามารถยุติสงครามได้ เขาจึงทำข้อตกลงกับฉัน”
อันน่าภาคภูมิใจในตัวเอง จากนั้นก็จับมือของเนี่ยเฟิงไว้แน่นอย่างกับแย่งความดีความชอบมาเป็นของตน…. ” พวกเขาสบตากันอยู่ข้างๆฉัน แต่ดันโดนฉันขัดจังหวะไป พี่เฟิง ฉันไม่สามารถหาข้อมูลที่ดีกว่านี้จาก เสด็จอา ได้อีกแล้ว แต่ข่าวนี้ก็นับว่ายังมีประโยชน์อยู่นะ? ”
เนี่ยเฟิงลูบศีรษะอันน่าเบาๆ “ทําได้ดีมาก”
ใบหน้าของอันน่าก็ยิ้มแย้มขึ้นมาทันที “แค่คําพูดนี้ของพี่เฟิงฉันก็พอใจมากแล้ว!”
ซาวาก็รู้สึกร้อนรนขึ้นมาทันที “พี่เฟิง ถ้าฉันรู้การประชุมครั้งนี้ด้วย ฉันคงจะพยายามช่วยพี่ค้นหาข้อมูลอย่างสุดความสามารถเหมือนกัน!”
“ฮึ่ม มันสายไปแล้วเหรอที่จะพูดตอนนี้?”
“อย่าได้ภูมิใจไปเลยฉันจะบอกให้นะ ว่าฉันจะเป็นคนที่มีประโยชน์ต่อพี่เฟิงให้ได้!”
“เอาล่ะ พวกคุณทั้งสองหยุดทะเลาะกันได้แล้ว ในเมื่อพวกเขาต้องการต่อต้านสำนักมังกร เช่นนั้นก็ให้พวกเขามาเถอะ อย่างไรก็ตามสําหรับผมแล้ว พวกเขาก็เป็นได้แค่พวกหัวมังกุท้ายมังกรพวกหนึ่งเท่านั้น”
เนี่ยเฟิงแยกพวกเขาทั้งสองออกจากกัน เพราะพวกหล่อนนั้นสถานการณ์ตึงเคลียด ราวกับว่าจะสู้กันในวินาทีต่อมา
“พี่เฟิง งั้นวันนี้พี่จะนัดกับฉันใช่ไหมคะ?”
อันน่ากะพริบตาปริบและมองไปยังเนี่ยเฟิง
“อันน่า!” ทําไมถึงทำตัวเจ้าเล่ห์ขนาดนั้น คนที่จะนัดกับพี่เฟิงต้องเป็นฉันสิถึงจะถูก เธอรู้หรือเปล่าล่ะว่าอะไรที่เรียกว่าถึงก่อนมีสิทธิ์ก่อน? ”
ซาวากัดริมฝีปากของเธออย่างไม่สบอารมณ์ และจ้องไปที่อันน่า
“ฉันไม่รู้ว่าถึงก่อนมีสิทธิ์ก่อนมันหมายความว่าอะไร ฉันรู้เพียงว่าคนที่มีประโยชน์กับพี่เฟิงเท่านั้นถึงจะมีคุณสิทธิ์ยืนข้างกายพี่เฟิง เหมือนเช่นเธอ……แต่ก็ช่างมันเถอะ รู้แค่ว่าสร้างปัญหาเพิ่มให้พี่เฟิงก็แล้วกัน”
อันน่ายกคางขึ้นอย่างภาคภูมิใจ ทั้งสองมองตากันเหมือนกับว่ากําลังจะทะเลาะกันอีกครั้ง
“เอาเถอะ พวกคุณอย่าทะเลาะกันอีกเลย เรื่องนี้ยังไงผมก็ต้องจัดการให้ได้อยู่แล้ว”
อันน่าได้ยินดังนั้นก็ห้อยหน้าลงอย่างจิตตก “งั้นก็ได้ค่ะ ถ้าพี่เสร็จธุระแล้วก็อย่าลืมมาหาฉันนะ” พี่เฟิงวางใจเถอะ ไม่ว่าคนอื่นจะพยายามจะปราบปรามพี่ยังไง ฉันก็ยังจะอยู่ข้างพี่อย่างแน่นอน”
เพราะอันน่ารู้ดีว่า คนเก่งกาจอย่างเนี่ยเฟิงต้องเป็นบุคคลที่มีอำนาจและทรงอิทธิพลอย่างแน่นอน
ไม่มีใครที่จะสามารถเป็นคู่ต่อสู้ของเนี่ยเฟิงได้ เพราะว่าจะไม่มีใครเอาชนะเขาได้
เมื่อเนี่ยเฟิงกลับจากโรงแรมฉางอาน ซาวาก็ยิ้มอย่างหยาบหยามอยู่ข้างๆและพูดว่า
“ดูท่าทางอันนอบน้อมของเธอสิ มันช่างน่าเกลียดจริงๆ ฉันแนะนําให้เธออย่าเสียเวลาอีกเลย พี่เฟิงมีคนที่ชอบอยู่แล้ว”
หลังจากเนี่ยเฟิงออกไป ซาวาก็จงใจยั่วยุอันน่าอย่างนี้เมื่ออันน่า ได้ยินดังนั้นก็หรี่ตาลง
“เธอคงอยากจะบอกว่าคนที่พี่เฟิงชอบคือเธออย่างนั้นเหรอ? ถ้าเช่นนั้นเธอก็คงหลงตัวเองเกินไปแล้วล่ะ? ”
“ไม่ คนที่พี่เฟิงชอบไม่ใช่ฉัน คนที่พี่เฟิงชอบคือสาวสวยเพริศพริ้งคนหนึ่ง และหล่อนก็ไม่ใช่ผู้หญิงตะวันตกแบบพวกเราด้วยซึ่งฉันก็เคยเห็นหล่อนมาก่อนแล้ว และฉันก็รู้สึกละอายใจมาก แล้วน้ำหน้าอย่างเธอมันไม่คู่ควรหรอก แม้ว่าเธอจะรู้ข่าวบางอย่างแล้วมันเป็นไง สุดท้ายพี่เฟิงก็ยังไม่สนใจเธออยู่ดี”
อันน่า รู้สึกถึงวิกฤติทันที และหล่อนก็ถามไปโดยไม่รู้ตัวว่า
“เธอเคยเห็นแล้ว?งั้นผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกันล่ะ? แล้วหล่อนอยู่ที่ไหน?”
“แน่นอนอยู่แล้ว ฉันเคยเห็นมาแล้วจริงๆ เพราะช่วงหลายวันมานี้ฉันอยู่กับพี่เฟิง แต่ฉันจะไม่บอกเธอหรอกว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร และตอนนี้หล่อนอยู่ที่ไหน เพราะด้วยนิสัยใจคอของเธอแล้วคงอยากฆ่าผู้หญิงคนนั้นอย่างแน่นอน ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอทําแบบนั้นหรอก”
ในความเป็นจริงแล้วซาวาจงใจทำอย่างนั้น เพราะหล่อนอยากให้อันน่าโกรธอย่างกระหืดกระหอบ และเมื่อเห็นอันน่าไม่มีความสุข ซาวาก็ยิ่งรู้สึกมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น
อันน่ากําหมัดแน่น เพราะหล่อนรู้ว่าซาวาไม่มีทางบอกหล่อนแน่ แต่ก็ไม่เป็นไร หล่อนจะต้องสืบให้ได้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร เมื่อถึงตอนนั้นหล่อนก็จะจัดการผู้หญิงคนนั้นอย่างลับลับ พี่เฟิงถึงจะกลับมาหาหล่อน
ซึ่งในตอนนี้พวกหล่อนกำลังพยายามแย่งชิงความโปรดปรานของราชามังกรแห่งสำนักมังกรอยู่
เหตุผลที่อันน่าพยายามประจบสอพลอเนี่ยเฟิงในทุกวิถีทาง นอกจากจะยกย่องในตัวเนี่ยเฟิงแล้ว อีกเหตุผลหนึ่งก็เพื่อแผนการของประเทศพวกเขา และมีเพียงการกำจัดกระบี่คมเล่มนี้อย่างเนี่ยเฟิงเท่านั้น พวกเขาถึงจะเดินหน้าต่อไปได้
ทั้งสองแยกย้ายกันไปอย่างไม่สบอารมณ์อันน่ารู้ว่าเนี่ยเฟิงพักอยู่ที่โรงแรมฉางอาน จึงรีบส่งกองกําลังของตัวเอง เพื่อมาเช่าห้องที่นี่