พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 155 วิตกกังวล
บทที่ 155 วิตกกังวล
แม้ว่าอันน่าพวกเขาจะอาลัยอาวรณ์แค่ไหน แต่ก็ยังตามคนที่มาตุภูมิส่งมากลับไปด้วยกัน
พวกเขาเผชิญเรื่องวุ่นวายมากมายที่นี่ แต่หากพวกเขาจะอยู่ที่นี่ต่อไป อาจจะโดนพวกอันธพาลพวกนั้นทำร้ายก็เป็นได้
อันน่าพวกเขาเพิ่งจะออกไปได้ไม่นาน เนี่ยเฟิงก็ได้รับโทรศัพท์จากพี่สาวหลายคน
โดยคนแรกที่โทรมาคือพี่ใหญ่
ชิวมู่เฉิงพูดอย่างกระวนกระวายว่า “พี่ได้ยินมาว่าเกิดการโจมตีของผู้ก่อการร้ายในเมืองเยี่ยนตู น้องเป็นอะไรมากไหม? ”
“พี่ใหญ่วางใจเถอะ ผมไม่เป็นไร ผมยังสบายดีครับ”
เนี่ยเฟิงรู้สึกอบอุ่นใจและคิดไม่ถึงเลยว่าพวกพี่พี่จะได้รับข่าวเร็วขนาดนี้
“น้องห้านี่ก็จริงๆเลย แล้วทำไมถึงทิ้งน้องไว้คนเดียวที่นั่นล่ะ? มันจะอันตรายเกินไปแล้วนะ งั้นเอาอย่างนี้ เดี๋ยวพี่จะไปรับน้องตอนนี้เลย ”
พอชิวมู่เฉิงพูดจบก็ขยับตัวเตรียมจะออกไป
เนี่ยเฟิงส่ายหน้า “พี่ใหญ่ พี่ยังมีงานที่ต้องทําอยู่ไม่ใช่เหรอครับ?ถ้าพี่มาแล้ว งานของพี่ทางโน้นจะทำยังไง? ”
“งานสําคัญหรือน้องสําคัญ พี่ยังสามารถแยกแยะได้งานน่ะทําไม่เสร็จ แต่น้องชายน่ะพี่มีแค่คนเดียว”
เนี่ยเฟิงรู้สึกซาบซึ้งใจมาก เพราะเขารู้ว่าคําพูดที่พี่ใหญ่พูดนั้นเป็นเรื่องจริง และพี่ใหญ่ก็คิดเพื่อเขามาโดยตลอด เวลามีเรื่องอะไรก็นึกถึงแต่เขา
ในตอนนั้นที่เนี่ยเฟิงลงจากเขาก็ยังกังวลเลย และเขาก็ไม่รู้ว่าพี่สาวคนอื่นอื่นจะยังทำตัวเหมือนเมื่อก่อนกับเขาอยู่หรือเปล่า?
สำหรับในตอนนี้แล้ว ความกังวลของตัวเองนั้นกลับเป็นอะไรที่ฟุ่มเฟือยไปเสียแล้ว
“ผมสบายดีจริงๆครับ และโรงแรมที่เกิดการจลาจลนั้นก็ถูกควบคุมไว้แล้ว คนอื่นอื่นก็ถูกจับตัวไปหมดแล้ว งั้นเอาอย่างนี้แล้วกัน เดี๋ยวผมจะกลับไปเองดีไหมครับ?”
สีหน้าของชิวมู่เฉิงที่ปลายสายก็ดูเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก
“อ่อ จริงสิ พี่จําได้ว่าพี่สามของน้องไปเยี่ยนตูแล้ว พอดีเลย น้องก็กลับมากับพี่สามสิ เดี๋ยวพี่จะโทรหาพี่สามให้”
เนี่ยเฟิงรู้สึกงุนงง พี่สามของเขามาทําอะไรในเมืองเยี่ยนตูกันล่ะ? เนี่ยเฟิงกําลังจะถามพอดีแต่คิดไม่ถึงเลยว่าชิวมู่เฉิงจะวางสายไปก่อนแล้ว
ไม่นานมากพี่สามหลินซูอินก็โทรมา
“เสี่ยวเฟิง น้องไม่เป็นไรนะ พี่ได้ยินมาว่าทางโน้นเกิดการจลาจลขึ้น บังเอิญเป็นโรงแรมที่น้องและพี่ห้าเคยพักก่อนหน้านี้ด้วย”
น้ำเสียงอันนุ่มนวลเหมือนนกขมิ้นของหลินซูอินนั้นชวนให้ผู้คนรู้สึกสบายจนหาที่เปรียบไม่ได้ หล่อนถามด้วยความกังวล
“พี่สาม ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมไม่เป็นอะไรทั้งนั้นครับ เมื่อวานหลังจากที่แยกย้ายกับพี่ห้าผมก็ไปหาเพื่อนของผมที่นั่น และหลีกเลี่ยงเรื่องร้ายนี้ได้โดยบังเอิญ พี่ห้าตอนนี้พี่อยู่บนเครื่องบินใช่ไหมครับ?”
เนี่ยเฟิงไม่ได้รับโทรศัพท์จากโจวลี่ซือ เพราะคิดว่าโจวลี่ซือคงยังอยู่บนเครื่องบิน
เรื่องใหญ่ขนาดนี้โจวลี่ซือจะไม่โทรมาได้ยังไง?
“ใช่แล้ว เมื่อวานพี่ห้าบอกกับพวกเราแล้วจากนั้นก็กลับเมืองจินไห่ไป พวกเราคิดว่าถ้าน้องมีเพื่อนที่นั่น ก็ไม่ต้องกังวลแล้ว แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเมืองเยี่ยนตูจะเกิดการจลาจลเช่นนี้ขึ้น”
หลินชูอินยังคงกังวนอยู่อย่างนั้น หล่อนเหลือบตามองตําแหน่งในโทรศัพท์ “ทําไมตําแหน่งของน้องถึงอยู่ใกล้โรงพยาบาลขนาดนั้นล่ะ? น้องโกหกพี่อยู่หรือเปล่า? น้องได้รับบาดเจ็บเหรอ? อย่าเพิ่งขยับตัวนะ พี่จะไปที่นั่นเดี๋ยวนี้เลย! ”
เนี่ยเฟิงไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
ปกติเขาจะไม่ปิดสัญญาณ และพี่พี่ของเขาก็สามารถเข้าถึงตําแหน่งทางภูมิศาสตร์ของเขาได้
เมื่อครู่นี้พี่ใหญ่โทรมา และเนี่ยเฟิงก็ปิดกั้นสัญญาณไม่ทัน คิดไม่ถึงเลยว่าพี่สามจะสังเกตเห็นได้
หลังจากหลินซุอินวางสายไปแล้ว หล่อนก็รีบวิ่งไปโรงพยาบาลอย่างร้อนรนทันที เมื่อเห็นเนี่ยเฟิงที่หน้าประตูโรงพยาบาลอย่างเงียบสงัด หลินซุอินก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
หลินซูอินคว้ามือเนี่ยเฟิงไว้ แล้วมองเขาจากด้านบน”น้องแน่ใจนะว่าไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร? ”
“เมื่อคืนผมอยู่กับเพื่อนจริงๆครับ ดังนั้นผมจึงไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ขอพูดอีกครั้งด้วยตัวของผมเองว่า ไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะเป็นใคร ก็ไม่มีทางทําร้ายผมได้หรอก”
เนี่ยเฟิงพูดอยู่อย่างนั้น และตบหน้าอกตัวเอง
“พี่รู้ว่าน้องเก่งกาจมาก แต่ไม่ว่าจะเก่งกาจขนาดไหน น้องก็ยังมีเลือดเนื้ออยู่ดี เมื่อคืนเป็นเหตุระเบิดใหญ่ ทั่วทั้งโรงแรมถูกเผาจนไหม้หมด ฟังดูแล้วก็ชวนให้คนรู้สึกกลัว แต่สมแล้วที่เป็นพนักงานในโรงแรมระดับห้าดาวที่มีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงไม่มีผู้เสียชีวิตเลย นี่คงเป็นความโชคดีที่อยู่ในความโชคร้ายสินะ”
เมื่อหลินซูอินแน่ใจแล้วว่าเนี่ยเฟิงไม่เป็นอะไรหล่อนจึงค่อยถอนหายใจอย่างโล่งอก
ในความเป็นจริงแล้วเมื่อคืนในโรงแรมฉางอานมีผู้เสียชีวิตเพียงแต่คนที่เสียชีวิตไปคือนักฆ่าที่ถูกส่งมาฆ่าองค์หญิงทั้งสองและเจ้านั่นที่คิดจะเอาชีวิตเนี่ยเฟิงไป
เพียงแต่ว่าเจ้านั่นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเนี่ยเฟิง จึงโดนเนี่ยเฟิงชกจนฟันกราก และคาดว่าคงไม่กล้ามาอีกในระยะเวลาอันสั้นนี้
“แน่นอนว่า พี่ไม่สามารถปล่อยให้น้องอยู่ที่นี่คนเดียวได้ เสี่ยวห้านี่ก็จริงๆเลย จะปล่อยให้น้องอยู่ที่นี่คนเดียวได้ยังไงกัน? ”
หลินซูอินอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
“ผมไม่เป็นไรจริงๆครับ! พี่ ไม่เห็นเหรอว่าผมยังสบายดีอยู่? ที่ผมอยู่ใกล้โรงพยาบาล เพราะผมมีเพื่อนที่พักอยู่ในโรงแรมฉางอานด้วย และผมก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย ดังนั้นผมจึงมาเยี่ยม แต่เขาก็ไม่เป็นอะไรมากแค่สําลักควันนิดหน่อย ”
ตอนนี้ทักษะการจ้องตาและพูดเรื่องไร้สาระของเนี่ยเฟิงยิ่งฝึกก็ยิ่งชำนาญมากขึ้น
“การบาดเจ็บที่ลําคอเป็นเรื่องร้ายแรงมาก! ให้เขาบำรุงร่างกายและพักผ่อนให้ดีๆถึงจะหายดีนะ จะให้พี่ไปเยี่ยมเขาด้วยไหม? ”
เนี่ยเฟิงรีบโบกมือ “ผมไปมาแล้วครับ และแน่ใจแล้วว่าเขาไม่เป็นไรผมถึงได้ลงมา ให้เขาพักผ่อนดีกว่าครับ”
“ในเมื่อน้องพูดอย่างนี้แล้วงั้นก็ให้เขาพักผ่อนเถอะ”
“จริงด้วย พี่สาม ทําไมพี่ถึงอยู่ที่เมืองเยี่ยนตูครับ?”
เนี่ยเฟิงเปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที
“พี่มาเข้าร่วมการแข่งขันน่ะ เพราะความสามารถของพี่นั้นไม่เลว ดังนั้นโรงเรียนจึงมักส่งพี่ไปยังเมืองใกล้เคียงเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันครูน่ะ” เดิมทีมีกําหนดว่าเป็นเย็นนี้ แต่เนื่องจากเกิดความไม่สงบขึ้น ดังนั้นผู้จัดงานจึงต้องเลื่อนเวลาออกไป”
“งั้นก็แสดงว่าพี่ก็มาแต่เช้าแล้วสิ?”
หลินซูอินส่ายหน้า “เพิ่งมาถึงเมื่อกี้นี้เอง ได้ยินว่าเกิดเรื่องขึ้นกับน้อง พี่ก็ตกใจมาก เลยรีบมาหาน้อง โชคดีที่น้องไม่เป็นไร ”
“งั้นน้องคงเหนื่อยแล้วสิ? ทําไมไม่กลับไปพักผ่อนกับพี่ล่ะ ”
เนี่ยเฟิงแสยะยิ้ม
“เอาสิ พี่รู้สึกโล่งใจที่ได้เห็นว่าน้องก็ไม่เป็นไร พี่ตั้งใจไว้ว่าจะให้น้องกลับไปคนเดียว แต่พี่ก็กังวล เอาอย่างนี้ดีกว่า น้องไปร่วมการแข่งขันครั้งนี้กับพี่ก่อนแล้ว พี่ค่อยพาน้องกลับไปดีไหม? ”
หลินูอินตัดสินใจแล้ว
“ฟังที่พี่จัดการดีกว่า!”
เนี่ยเฟิงพยักหน้าอย่างว่าไม่ถูก ท่าทีนี้ทําให้หลินซูอินรู้สึกปลื้มใจมาก
“พี่ ตอนนี้พี่พักอยู่ที่ไหน? ผมจะไปส่งพี่? ”
หลินซูอินขมวดคิ้วอย่างสงสัย “น้องมีรถเหรอ?”
“ผมยืมของเพื่อน”
เนี่ยเฟิงชี้ไปที่รถที่จอดอยู่ข้างๆ หลินซูอินเห็นแล้วก็แอบตกใจ “เพื่อนน้องช่างใจกว้างเสียจริง ให้น้องยืมรถราคาแพงเลยนะ”
“ผมกับเขาสนิทกันมาตลอด บ้านเขาทำธุรกิจเกี่ยวกับรถน่ะ ไปกันเถอะครับ!”
หลินซูอินพยักหน้า หลังจากขึ้นรถแล้วหล่อนก็ยังคงกังวลอยู่อย่างนั้น
“เสี่ยวเฟิง สักพักน้องคงต้องคืนรถให้เพื่อนแล้วนะ? รถคันนี้ราคาแพงมากนะ ถ้าชนขึ้นมา พี่คงขอโทษเพื่อนน้องไม่ไหวแน่”
เนี่ยเฟิงพยักหน้า “ผมรู้ครับ ผมจะระวังให้มากครับ”
หลินซูอินมาในนามของโรงเรียน ทุกครั้งที่หล่อนมักจะมาคนเดียวและกับครูฝึกหัดอีกคน