พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 16 จับกุมผู้ต้องหา
บทที่ 16 จับกุมผู้ต้องหา
ตอนบ่าย หลังจากที่ชิวมู่เฉิงรู้ข่าวก็รีบกลับมาที่บ้าน เธอพิจารณาเนี่ยเฟิงอย่างละเอียด หลังจากยืนยันได้ว่าเนี่ยเฟิงไม่ได้เป็นอะไร ชิวมู่เฉิงถึงได้ผ่อนลมหายใจออก
“เสี่ยวเฟิงเรื่องทั้งหมดนี้ล้วนเกิดจากพี่ นายวางใจได้ พี่จะต้องแก้ไขเรื่องนี้อย่างแน่นอน”
เนี่ยเฟิงไม่ได้มีแผนที่จะให้ชิวมู่เฉิงเข้ามาเกี่ยวข้อง ฟางซื่อเหาคนนี้เข้ามาล้ำเส้นเขา เขาได้ทดสอบความอดทนของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เนี่ยเฟิงไม่คิดจะปล่อยเขาไป
แต่ว่าต่อหน้าพี่สาวของเขา เนี่ยเฟิงก็เหมือนกับลูกแกะตัวน้อยตัวหนึ่งเท่านั้น เขาพยักหน้า “ผมเชื่อพี่ใหญ่ แต่ว่าพี่ใหญ่ก็ต้องระวังตัวให้มากๆนะ คนคนนี้สุดโต่งสุดๆ พี่จะต้องไม่เป็นอะไรนะ ถ้าพี่เป็นอะไรขึ้นมาผมคงปวดใจ”
ชิวมู่เฉิงมองน้องชายที่เข้าใจเรื่องต่างๆได้ดี บนในหน้าปรากฏรอยยิ้มแห่งความปลื้มใจออกมา
แต่เย่หรูเสว่ เนื่องจากได้รับภารกิจเช่นนั้น คืนนี้ทั้งคืนก็ไม่ได้กลับมาที่คฤหาสน์ เธอดิ้นรนเข้าไปในห้องเก็บข้อมูลเพื่อหาข้อมูล
วันรุ่งขึ้น เธอถึงกลับมาที่คฤหาสน์ด้วยสีหน้าเหนื่อยล้า
เนี่ยเฟิงเห็นสีหน้าที่เหนื่อยล้าของเย่หรูเสว่ ก็รู้สึกปวดใจทันที
“กราบเรียนราชามังกร อาชญากรคนสุดท้ายถูกพวกเราจับได้ที่สหรัฐ ขอเรียนถามว่าจะให้จัดการอย่างไร?”
สำนักมังกรทำงานอย่างรวดเร็วอย่างน่าทึ่ง ถึงอย่างไรเสียสิ่งที่เนี่ยเฟิงควบคุมอยู่ติดตัวก็คือเครือข่ายข้อมูลข่าวสารที่หนาแน่นยอดเยี่ยมยิ่งกว่าดวงตาของสวรรค์ คิดอยากจะหาคนสิบคนในประชากรหกพันล้านคน ไม่ต่างอะไรกับการงมเข็มในมหาสมุทร
แต่ว่าสำหรับเนี่ยเฟิงแล้ว ก็เป็นแค่เรื่องที่แสนง่ายดายเรื่องหนึ่งเท่านั้น
“ดีมาก เอาพวกเขาทั้งสิบคนไปรวมกันไว้ที่โรงงานร้างที่ชานเมือง จำเอาไว้ว่าต้องทำให้พวกเขาสิบคนไม่ต่อต้านและหาทางหลบหนี”
ถ้าเกิดว่าทำร้ายพี่หกของเขาตอนที่กำลังจับกุมอยู่ละก็ นั่นก็จะได้ไม่คุ้มเสีย
“รับทราบ ราชามังกร!”
“บอกต่อกันไป คนที่เข้าร่วมแผนการไล่ตามจับกุมจะได้รางวัลพิเศษสิบเปอร์เซ็นต์ของของขวัญ ฉันจะให้”
มีการลงโทษมีการให้รางวัลถึงจะทำให้คนทำงานให้อย่างสุดจิตสุดใจ
ถึงแม้ว่าพวกเขาทั้งหมดจะถือเป็นคนของสำนักมังกร เกิดมาก็เป็นคนของสำนักมังกร ตายไปก็เป็นผีของสำนักมังกร แต่เนี่ยเฟิงคนนี้เป็นพวกแบ่งแยกผิดถูกชัดเจน
“รับทราบ!”
เนี่ยเฟิงดันแก้มมองเย่หรูเสว่ที่นอนอยู่บนเตียงจนมืดฟ้ามัวดิน มุม
ปากอดไม่ได้ที่จะยกขึ้นมาเบาๆ ตอนนี้พี่หกของเขาก็ไม่ต้องโดนลงโทษแล้ว
เย่หรูเสว่นอนหลับสบายเป็นอย่างมาก ตื่นขึ้นมาก็พบว่าท้องฟ้าข้างนอกเริ่มมืดแล้ว เย่หรูเสว่ตระหนกตกใจจนเหงื่อเย็นออก
“ใครปิดนาฬิกาปลุกฉัน!”
“ผมเอง!”เนี่ยเฟิงยื่นหัวออกมา ยกมือขึ้น “ผมเห็นว่าที่หกเหนื่อยล้ามากจริงๆ ดังนั้นก่อนที่นาฬิกาปลุกจะดังผมก็ปิดมันแล้ว!”
“นายที่มันก่อเรื่องจริงๆเลย พี่ยังต้องไปที่สถานีตำรวจนะ!”
เย่หรูเสว่ไม่ได้โกรธแค่เรื่องนี้เท่านั้น เธอโกรธเป็นฟืนเป็นไฟกระโดดลงจากเตียงมา ใส่รองเท้า ในเวลานี้ก็มีข่าวสั้นส่งเข้ามาในโทรศัพท์มือถือเธอพอดี
เย่หรูเสว่ชะงักไปพักหนึ่ง หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา ดูชื่อที่ใช้ส่งข่าวสั้นมาก็ไม่พบ และแม้แต่ชื่อเมืองก็ยังหาไม่พบ แต่ข้อความสั้นนี้คือข้อความกล่าวหา
“พบอาชญากรที่หลบหนีอยู่ที่โรงงานทำลายกระดาษในเขตชานเมืองฝั่งตะวันตก”
จิตใจของเย่หรูเสว่ฮึกเหิมขึ้นมา หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมารีบร้อนวิ่งออกไปทันที
“พี่หก พี่จะไปที่ไหน?”
“นายไม่ต้องสนใจ อยู่บ้านดีๆละ!”
สำหรับข้อความสั้นนี้ภายในใจเย่หรูเสว่ยังคงมีความหวาดระแวง แต่ถ้าเกิดว่าเธอไม่ไป เป็นไปได้มากว่าจะทำให้อาชญากรที่หลบหนีอยู่นั้นหนีไปได้! เย่หรูเสว่กันริมฝีปาก ตอนนี้จะมาสนใจอะไรมากไม่ได้แล้ว หลังจากตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆเรียบร้อยแล้ว เธอก็รีบไปที่ชานเมืองฝั่งตะวันตกทันที
เพราะกลัวว่าจะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น ดังนั้นการเคลื่อนไหวของเย่หรูเสว่จึงเบามากๆ เธอตรวจสอบดูอย่างระมัดระวัง ดูสถานการณ์ในเขตชานเมืองฝั่งตะวันตก ที่นี่โรงงานทำลายกระดาษเพียงแห่งเดียว เธอมุ่งไปทางโรงงานทำลายกระดาษอย่างเงียบเชียบ
ยังไม่ทันได้เข้าไปใกล้โรงงานทำลายกระดาษ เย่หรูเสว่ก็ได้ยินเสียงกระซิบแห่งความเจ็บปวดทรมาน สีหน้าเข้มงวด คิดไม่ถึงว่าจะเห็นหลายคนถูกขังอยู่ในกรง?!
ไม่กี่วันมานี้เย่หรูเสว่ก็จำใบหน้าของอาชญากรที่หลบหนีจำนวนหนึ่งได้ตั้งนานแล้ว ขอเพียงเธอมองดูก็จะมองออกได้ คนพวกนี้ไม่ใช่อาชญากรหลบหนีที่ตัวเองต้องไปไล่ตามจับหรอกหรือ!
สิบคน! ไม่เยอะไม่น้อย!
เย่หรูเสว่ลืมตาโตทันที เธอค่อยๆดินไปที่ข้างๆกรงเหล็ก พบว่ากรงถูกใส่กุญแจล็อกเอาไว้ และลูกกุญแจก็วางเอาไว้ที่บนโต๊ะ คนพวกนี้เจ็บปวดจนบิดเบี้ยวเป็นก้อนกลม ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงในการต่อต้านโดยสิ้นเชิง
นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?
ยังไม่ทันที่เย่หรูเสว่จะมีปฏิกิริยากลับมา ก็มีเสียงไซเรนของรถตำรวจดังขึ้นมา ตำรวจพิเศษที่แบกปืนพร้อมกระสุนกลุ่มหนึ่งพุ่งเข้ามา
“หัวหน้าทีมเย่! พระเจ้า คิดไม่ถึงว่าระดับความเร็วของคุณยังเร็วกว่าพวกเรา!”
“ไม่ใช่……”
“หัวหน้าทีมเย่ คุณนี่มันยอดเยี่ยมจริงๆ คิดไม่ถึงว่าคุณจะจับกุมอาชญากรที่หลบหนีทั้งสิบด้วยตัวเอง!”
ตำรวจในทีมตำรวจพิเศษต่างอดไม่ได้ที่จะจุ๊ปากอย่างชื่นชมในความยอดเยี่ยมนี้ แต่ทว่าในความเป็นจริงแล้วเย่หรูเสว่ยังไม่ได้ทำอะไรแม้แต่น้อยเลย เพียงแค่ได้รับข้อความสั้น หลังจากนั้นก็รีบมาก็เท่านั้น ใครจะรู้ว่าอาชญากรที่หลบหนีทั้งสิบคนจะถูกจับขังเอาไว้ในกรงอยู่แล้ว
“ไม่ต้องพูดมากแล้ว จับพวกเขากลับไปดำเนินคดีต่อเถอะ!”
เย่หรูเสว่โยกหัว ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม คนร้ายที่ชั่วช้าสามานย์สุดขีดก็ถูกจับกุมได้แล้ว!
ในเวลานี้เนี่ยเฟิงที่อยู่ในคฤหาสน์ นั่งไขว่ห้าง ฟังความถี่ของเสียงที่ออกมาจากโทรศัพท์มือถือ มุมปากก็ยกขึ้นด้วยความพอใจทันที
“เด็กนี่ นายยังนั่งทำอะไรอยู่อีก? รีบลุกขึ้นมา! พวกเราจะไปแล้ว!”
คางเมิ่งที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้ว เปล่งแสงแพรวพราวด้วยสีสันกำลังเดินลงมา เนี่ยเฟิงเงยหน้าขึ้นมอง พริบตาตรงหน้าก็สว่างจ้า
“ไอหยา พี่เจ็ด พี่สวยมากเลย!”
คางเมิ่งเดิมทีนั้นก็สวยอย่างกับเซียนนางฟ้า ดวงตาก็สดใสแวววาวเหมือนดวงตาของกวางน้อย จิตใจอ่อนโยนมีเมตตาเหมือนน้องสาวเพื่อนบ้าน แต่ก็ยังมีกลิ่นอายของเซียนอยู่ เวลาที่ไม่ยิ้มก็เยือกเย็นไม่เห็นผู้อื่นอยู่ในสายตา แต่ถ้ายิ้มขึ้นมา แม้แต่น้ำแข็งหิมะก็ยังต้องละลาย
“ธรรมดา! เอาละ อย่ามัวแต่พูดมากเลย พวกเรารีบไปที่ห้างเซ็นจูรี่เถอะ อีกเดี๋ยวก็จะไม่ทันรอบนะ”
คางเมิ่งจูงมือเนี่ยเฟิงไปด้วยขณะพูด เพราะว่าตอนที่พวกเขายังเด็กนั้นมักจะจับมือกัน ดังนั้นคางเมิ่งในเวลานี้ก็ยังไม่ได้เปลี่ยนกลับ
เนี่ยเฟิงมองมือเล็กๆของคางเมิ่ง อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
ทั้งสองขับรถอย่างเร็วจนมาถึงห้างเซ็นจูหรี่ ที่นี่เพิ่งจะเปิดให้บริการ วันนี้ก็พอดีกับที่มีพิธีเปิด
คางเมิ่งเดินเข้าไปก็เห็นซ่งสี่จื้อนั่งอยู่ด้านข้าง ซ่งสี่จื้อจ้องไปที่คางเมิ่งที่รีบเดินเข้ามา ก็กลอกตามองบนทันที
“ฉันยังคิดว่าเธอไม่กล้ามาซะอีก”
คางเมิ่งเหอะออกมา “มีคนไม่เจียมตัวต้องการที่จะแข่งฉัน ฉันจะไม่มาได้อย่างไร?”
“ใครเป็นคนไม่เจียมตัว ก็ยังไม่แน่หรอกนะ”
ซ่งสี่จื้อพูดย้อนอย่างประชดประชัน
“คุณคาง คุณมาแล้ว!”
ในขณะนั้น ผู้จัดก็เร่งรีบเข้ามาหา ใบหน้าของเลขาผู้จัด ยิ้มประจบ “คุณคาง อีกเดี๋ยวขอเชิญคุณกับคุณซ่งแสดงบนเวทีด้วยกัน อันนี้ไม่มีปัญหาใช่ไหมคะ?”
คางเมิ่งหรี่ตา จากนั้นก็ยิ้มอย่างอ่อนหวานตอบว่า “นี่จะมีปัญหาอะไร?”
“ฉันก็ไม่มีปัญหาค่ะ”
คางเมิ่งกับซ่งสี่จื้อทั้งสองคนอย่างไรเสียก็ถือว่าเป็นเน็ตไอดอลชื่อดังระดับหนึ่ง ให้ทั้งสองคนขึ้นแสดงแน่นอนว่าจะต้องเรียกความสนใจจากผู้ชมไม่มากก็น้อย ก็เป็นการเพิ่มชื่อเสียงของห้างไปในตัว