พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 163 เป็นอย่างนี้เหรอ?
บทที่ 163 เป็นอย่างนี้เหรอ?
“นายนี่มันไม่รู้จักดีชั่ว! ถ้าไม่เพราะพี่หย่งเอาชุดใส่แสดงมาให้ครูหลิน นายคิดว่าครูหลินจะได้ขึ้นเวทีแสดงไหม?”
หลี่ซวนระเบิดโมโหถลึงตาใส่เนี่ยเฟิง
โหวหย่งกัดฟันกรามแน่น “ไม่รู้ไอ้พวก รปภ.ทำงานกันประสาอะไร ถึงปล่อยให้คนนอกเข้ามาได้!”
“ขอโทษค่ะคุณหลิน เสี่ยวเฟิงเขาวู่วามไปหน่อย คุณช่วยยกโทษให้เขาด้วย”
หลินซูอินเข้าขวางเนี่ยเฟิงตรงหน้าอย่างเงียบๆ แน่นอนเธอไม่อยากให้เนี่ยเฟิงถูกรังแก
โหวหย่งเป็นคนไร้ซึ่งความอดทนอยู่แล้ว ตอนนี้พอเห็นแฟนของหลินซูอินมา ก็โมโหขึ้นมาอีกเรื่อง
“ครูหลินคุณคิดดูให้ดีนะ นี่ผมกำลังช่วยคุณ แต่แฟนของคุณกลับกระทืบผมจนเป็นอย่างนี้ บัญชีนี้จะคิดอย่างไรหา!”
โหวหย่งจ้องมองเนี่ยเฟิงด้วยความโมโห
“ผมกระทืบคุณจริงๆ แต่เพราะคุณแตะเนื้อต้องตัวแฟนผมก่อน ผมถึงได้ลงมือกับคุณ อีกอย่าง ฝ่ายจัดงานของคุณทำงานประสาอะไร? ให้ชุดที่จะใส่แข่งขันถูกตัดในถิ่นของคุณซะขนาดนี้ พวกคุณไม่คิดจะรับผิดชอบเหรอไง?”
เนี่ยเฟิงมีเหตุมีผล โหวหย่งจุกไปชั่วขณะ
“เรื่องนี้จะโทษพี่หย่งก็ไม่ได้ จะโทษก็ต้องโทษบริษัท รปภ.ที่ส่งคนมาแล้วไม่รับผิดชอบ! ดูสิขนาดนายยังเข้ามาได้ ก็ยากที่จะรับประกันว่าจะไม่มีใครเข้ามาทำเรื่องชั่วช้าได้!”
“เฮอะ เอาเสื้อผ้ามาบังคับให้คนอื่นออกเที่ยวด้วย นี่เป็นจรรยาบรรณของพวกฝ่ายจัดงานเหรอ?”
สีหน้าของโหวหย่งก็ดำคล้ำขึ้นมาทันที “นายพูดจาเหลวไหลอะไร! ถึงแม้ครูหลินจะเป็นแฟนของนาย แต่อย่างไรพวกนายก็ยังไม่ได้แต่งงาน ในเมื่อยังไม่ได้แต่งงาน ฉันก็มีโอกาส! โอกาสของเราเท่าเทียมกัน ผมให้ที่ยืนกับครูหลินได้ดีกว่าให้ชีวิตกับครูหลินที่ดีกว่า แล้วครูหลินจะเลือกผมไม่ได้เหรอ? เรื่องของความรักมีลำดับก่อนหลังที่ไหนกัน?”
“นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินคนที่แย่งแฟนสาวคนอื่นพูดจาเอาตัวรอดอย่างชื่นมื่น”
เนี่ยเฟิงยิ้มอย่างเยือกเย็น
“เนี่ยเฟิง ฉันว่าไอ้หมอนี่คิดจะทำให้โรงเรียนเราขายหน้ากระมัง ทั้งที่รู้ว่าการแข่งครั้งนี้สำคัญมากแค่ไหน แต่นายกลับขัดขวางครูหลินไม่ให้เธอเปลี่ยนชุด นายมีความประสงค์อะไร?”
หลี่ซวนรีบเปลี่ยนหัวข้อ
“ผมต้องให้อินอินเปลี่ยนชุดอยู่แล้ว เพียงแต่ชุดที่เขาเปลี่ยนต้องไม่ใช่ขุดของพวกคุณ เงื่อนไขที่แนบมาด้วยมันมากเกินไป ฟังแล้วมันทุเรศ!”
โหวหย่งจากโกรธสุดขีดกลายเป็นหัวเราะ “นายรู้ไหมว่าการแข่งขันครั้งนี้หมายถึงอะไร? การแข่งขันครั้งนี้เป็นการแข่งขันระดับมณฑล! ตอนนี้เวลาคับขันลุกเป็นไฟ นายหาชุดอื่นมาให้ครูหลินเปลี่ยนได้เหรอ? ต่อให้นายหาได้ แล้วมันจะเทียบกับชุดนี้ของฉันได้เหรอ?”
โหวหย่งยังคงมีน้ำโห พอนึกถึงเนี่ยเฟิงทำลายแผนการของตัวเอง ก็โมโหขึ้นมาอีกเรื่อง!
“ผมว่าคุณเตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้วล่ะมั๊ง? บางทีชุดของแฟนผมอาจจะโดนพวกคุณตัดจนขาดก็ได้”
เนี่ยเฟิงพูดแทงใจ สีหน้าของโหวหย่งกับหลี่ซวนทั้งสองคนถอดสี
ดูสีหน้าของพวกเขาสิ เนี่ยเฟิงรู้ว่าสิ่งที่เขาคิดไว้ไม่ผิดแน่ ไม่เช่นนั้นคงไม่ประจวบเหมาะ ไฟดับเอาในเวลานั้นเช่นนี้
“เนี่ยเฟิง อย่าเที่ยวมาใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น!
พวกเขาสองคนรีบโต้กลับ
“ใช่หรือไม่ใช่พวกคุณรู้ดีแก่ใจ แต่ว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ผมจะไม่ให้อินอินอยู่ในอาณัติของพวกคุณ”
เนี่ยเฟิงก้าวมาข้างหน้าปกป้องหลินซูอินไปข้างหลัง จากนั้นใช้สายตาช่างเลือกมองไปที่ชุดราตรีของโหวหย่ง
“สายตาคุณแย่ขนาดนี้เลยเหรอ? เลือกชุดราตรีได้น่าเกลียดมาก ใส่เสื้อผ้าชุดนี้ขึ้นโชว์บนเวที ยังสู้ชุดที่อินอินใส่อยู่นี่ไม่ได้เลย!”
“นาย! เหอะๆ! รู้จักแต่พูดจาเพ้อเจ้อ นายทำอะไรเพื่อครูหลินบ้าง ตอนนี้ครูหลินต้องขึ้นแสดงบนเวทีแล้ว แต่เธอไม่มีแม้แต่ชุดจะใส่ ฉันทุ่มเทกายใจซื้อชุดนี้มา นายรู้ไหมว่าชุดนี้ราคาเท่าไหร่?!”
“เท่าไหร่? หนึ่งหมื่น? หรือหนึ่งแสน?”
เนี่ยเฟิงอดหัวเราะดูถูกไม่ได้ “นายคิดจะใช้เงินแค่นั้นมาอึ๊บแฟนฉันเหรอ? น่าขำจริงๆ เลย”
เนี่ยเฟิงดีดนิ้วดังเปาะขึ้น ขณะที่พวกเขาทั้งกลุ่มกำลังตะลึงงัน ก็มีรถเข็นคันหนึ่งเข็นเข้ามา
และรถเข็นคันนี้ก็แขวนเต็มไปด้วยชุดราตรีที่สวยสดงดงาม แม้แต่ป้ายยี่ห้อก็ยังไม่ถูกดึงออก
หลี่ซวนเดิมเป็นคนที่ชอบความหรูหราอยู่แล้ว เธอมองแว๊บเดียวก็รู้ยี่ห้อ ถึงขนาดอุทานขึ้นมา “เป็นไปไม่ได้ ทำไมนายถึงมีเงินซื้อชุดราตรีราคาแพงอย่างนี้ได้?!”
ไม่สิ! ฉับพลันหลี่ซวนก็นึกถึงรถเฟอร์ราลี่ที่เนี่ยเฟิงขับขึ้นมาว่าเนี่ยเฟิงเป็นคนมีเงินจริงๆ วันก่อนเธอก็เพิ่งคิดจะประจบเนี่ยเฟิงอยู่เลย ปรากฏตกหลุมพรางของเนี่ยเฟิงกับหลินซูอินเข้าให้!
เพียงแต่เพราะหลี่ซวนโกรธไม่น้อย จึงเที่ยวเห็นเนี่ยเฟิงเป็นพวกคนจนไปเรื่อย
“อินอินของผมใส่ชุดราคาถูกของพวกคุณไม่ได้หรอก”
เนี่ยเฟิงทำเสียง “หึ” ใส่ จากนั้นก็ถอยหนึ่งก้าว “อินอิน ชอบชุดไหน? ผมให้คนเจาะจงเชิญสไตล์ลิสมาด้วย”
หลินซูอินมองดูชุดราตรีมากมายเหล่านั้น จนพูดไม่ออก
“หลายชุดขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“แน่นอนอยู่แล้ว แฟนผมจะมีหลายชุดแล้วทำไมเหรอ? คุณรีบเลือกเถอะ ตอนนี้เวลาไม่คอยใคร แต่ว่าอินอินใส่ชุดไหนก็สวยหมอ”
ใบหน้าของหลินซูอินแดงก่ำ เธอกระแอมไอเล็กน้อย จากนั้นก็พูดกับโหวหย่งว่า “นายโหว ในเมื่อแฟนฉันส่งชุดมาให้ฉันแล้ว ฉันก็ขอขอบคุณน้ำใจของคุณละกัน”
โหวหย่งโมโหจนพูดไม่ออก เจ้าสองคนนี้ถึงกับอี๋อ๋อกันต่อหน้าพวกเขา!
หลังจากหลินซูอินเดินจากมาพร้อมกับเนี่ยเฟิง โหวหย่งก็อาละวาด อะไรที่อยู่บนโต๊ะขว้างแตกได้ก็ขว้างแตกหมด
“แม่งเอ๊ย! ไอ้คนมีแต่ตัวนี่มันมีเงินเยอะขนาดนั้นได้ยังไง!”
“พี่หย่ง ฉันลืมบอกพี่ไป หมอนั่นมันชื่อเนี่ยเฟิง เขาขับถึงรถแข่งความเร็วสูงเฟอร์รารี่เลยนะ ดูท่าทางไม่เหมือนคนจน!”
“เพียะ!”
เสียงตบฉาดหน้าดังขึ้นมาในพริบตา หลี่ซวนถูกตบเข้าที่ปากอย่างจังๆ “ทำไมเธอเพิ่งมาบอกฉันตอนนี้ ทำฉันขายหน้าหมด!”
“เมื่อคืนฉันก็รีบร้อนไปหน่อย ก็เลยลืมเรื่องนี้ไปหมด พี่หย่ง พี่อย่าโกรธฉันเลยนะ!
หลี่ซวนห่วงเรื่องที่ตัวเองจะเปลี่ยนจากพนักงานผ่านโปรเป็นพนักงานประจำจะแตกสลาย จึงรีบเสริมขึ้นมา พูดจาให้ดูน่าสงสาร
“ยังไงผมก็โมโห ไอ้หมอนั่นถึงกับทำผมขายหน้า!”
แม้ว่าจะไม่ได้ขายหน้าต่อประชาชี แต่ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไป แล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?
“ผมต้องเอาคืนสักที!”
“พี่หย่ง อย่างไรกล้องวงจรปิดก็บันทึกไว้ไม่ได้ ถึงเวลานั้นคุณแค่ยืนกรานไม่ยอมรับก็พอแล้ว แล้วค่อยหาตัวตายแทน อย่างไรเสียเรื่องนี้ก็ไม่ได้ผิดกฎหมายตรงไหนเสียหน่อย!”
โหวหย่งพยักหน้า “คุณพูดถูก แต่ยัยหลินซูอินนั่นถึงกับรวมหัวกับแฟนหนุ่ม ทำให้ผมต้องขายหน้า เห็นทีผมไม่จำเป็นต้องอ่อนโยนกับผู้หญิงคนนี้แล้ว!”
พอหลี่ซวนได้ยินดวงตาทั้งคู่ก็เป็นประกายขึ้นมาทันที รีบเข้ามาพูดว่า “พี่หย่ง คุณพูดถูก เดิมทีเธอก็ไม่ได้มีเงินทองอะไร ฉันว่าเธอคงคิดจะปีนป่ายนายแซ่เนี่ยอะไรนั่น ทำเป็นสูงส่ง ทั้งทีก็ไม่ได้มีดีอะไร! คุณไม่จำเป็นต้องเห็นอกเห็นใจเธอหรอก”