พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 168 ท่าผ่าหมากสูญพันธุ์
บทที่ 168 ท่าผ่าหมากสูญพันธุ์
โหวหย่งพูดจบก็ฉีกเสื้อผ้าของหลินซูอินอย่างบ้าคลั่ง
ในเวลานี้เอง ประตูก็ถูกเปิดออก เกิดเสียงดังโครมขึ้น
โหวหย่งตกใจยกใหญ่ เหลียวมองไปดูข้างหลัง ยังไม่ทันเห็นชัดว่าคนที่เข้ามาเป็นใคร ก็ถูกอัดคะมำแล้ว
เนี่ยเฟิงออกแรงทั้งหมดกดเอาไว้ เหลือบตาต่ำลงมองดูโหวหย่ง
“นายกินดีเสือดาวลงไปเหรอไง ถึงได้กล้าลงมือกับแฟนสาวของฉัน?”
เนี่ยเฟิงกำหมัดแน่น ดีที่วันนี้เขาแฮ็กกล้องวงจรปิดงานสัมมนาที่นี่เอาไว้ ถึงได้เห็นฉากนี้เข้า แต่ตรงจุดนี้ไม่มีกล้องวงจรปิด เนี่ยเฟิงต้องเสียเวลาหาอยู่ระยะใหญ่
โหวหย่งถูกเนี่ยเฟิงต่อยเข้าที่ใบหน้า ฟันก็หักไปสองสามซี่
เขารู้สึกดวงตาเหมือนเห็นดาวระยับ จะลุกก็ลุกไม่ขึ้น
“แก! แก! แกกล้าอัดฉันเหรอ!”
“ถ้าเมื่อวานอินอินไม่ขวางฉันไว้ มือนายคงหักไปแล้ว แค่เสียดายถ้ารู้เร็วกว่านี้ ฉันน่าจะหักมือนายทั้งสองข้างทิ้งซะ!”
เนี่ยเฟิงมองดูหลินซูอินที่นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียง ดวงตาทั้งคู่ฉายไอสังหาร ในเวลาสั้นๆ เพียงแค่สองสามนาที นึกไม่ถึงว่าหลินซูอินจะถูกคุกคามเช่นนี้!
แก้มที่ขาวละมุนของหลินซูอินมีรอยนิ้วมือสีแดงห้านิ้วประทับอยู่ ดูก็รู้ว่าถูกตบเข้า
อีกทั้งเสื้อผ้าก็ไม่เข้าที่ สารรูปดูโทรม หากเนี่ยเฟิงมาช้ากว่านี้ ไม่รู้ว่าหลินซูอินจะต้องโดนกับอะไร!
“แกกล้าหักมือฉันเหรอ? เหอะๆ! แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? ฉันน่ะโหวหย่งนะเว้ย! พ่อฉันเป็นถึงตระกูลโหวแห่งเยี่ยนตู แม่ฉันเป็นคนตระกูลหลัน! ถ้าแกแตะต้องฉัน ก็เท่ากับแตะต้องสองตระกูลใหญ่นะโว้ย!”
โหวหย่งมองดูเนี่ยเฟิงที่ดูดุเดือด อยู่ก็เกิดสั่นขึ้นมา สายตาของเนี่ยเฟิงน่ากลัวมากจริงๆ ดูเหมือนจะแล่เนื้อเขาออกมาสดๆ อย่างนั้น
“ตระกูลหลัน?”
“ใช่! ถูกต้อง! กลัวขึ้นมาแล้วล่ะสิ คงรู้สินะตระกูลที่ร้ายกาจที่สุดในเมืองเยี่ยนตู! น่ันก็คือตระกูลหลัน! ถ้าแกทำฉันบาดเจ็บ พ่อแม่ฉันไม่ปล่อยนายเด็ดขาดแน่!”
โหวหย่งเป็นลูกคนเดียวของบ้าน ถูกตามใจเป็นปกติ
มีของดีอะไร ก็ประเคนให้โหวหย่งหมด ดังนั้นตั้งแต่เล็กจนโตโหวหย่งอยากได้อะไรก็ได้ ไม่เคยต้องลำบากอย่างนี้มาก่อน
แต่เพราะการไม่ได้หลินซูอินตามใจต้องการ จึงเกิดความอยากเอาชนะในใจโหวหย่งขึ้น
โหวหย่งสาบานกับตัวเองไว้ว่าต้องแย่งหลินซูอินมาไว้ในมือให้ได้ นึกไม่ถึงว่านังตัวดีนี่จะใช้สเปรย์พ่นใส่เขา!
“ฉันไม่เห็นจะเคยได้ยิน”
เนี่ยเฟิงลงน้ำหนักที่เท้าไปแต่ละก้าว ก้าวแรกเหยียบลงไปที่มือของโหวหย่ง จนโหวหย่งร้องเสียงหลง เขาอยากจะดิ้นรน แต่มือถูกเหยียบไว้แน่นขยับไม่ได้
เนี่ยเฟิงใช้สายตามองดูคนตายมองดูโหวหย่ง แค่เหยียบลงไปมือโหวหย่งก็หักแล้ว!
“เมื่อกี๊นายใช้มือไหนตบอินอิน? ช่างเถอะ อย่างไรทุกส่วนของตัวนายมีส่วนหมด อย่างนั้นฉันหักมือทั้งสองข้างของนายเลยดีกว่า”
เนี่ยเฟิงพูดจบก็เหยียบไปที่มืออีกข้าว มือทั้งคู่ของโหวหย่งแน่นิ่งไปชั่วขณะ!
เวลานี้โหวหย่งเจ็บปวดจนเหงื่อท่วมหัว จนพูดจาไม่ออก ความเจ็บเช่นนี้ช่างสับสนไม่รู้ว่าเกิดจากตรงไหนจริงๆ
“สมองนายคงไว้อยู่ในกางเกงสินะ? ในเมื่อนายชอบฝืนใจคนอื่นขนาดนี้ บ้ากามอย่างนี้ อย่างนั้นฉันจะให้นายทำเรื่องเมถุนอย่างนี้ได้อีก”
พอโหวหย่งได้ยินเนี่ยเฟิงพูดเช่นนี้ ก็กระวนกระวายใจขึ้นมาทันที “แกจะทำอย่างนี้ไม่ได้ ตระกูลฉันมีฉันเป็นลูกโทนเพียงคนเดียว ถ้าแกทำอย่างนี้……อ๊าก!”
โหวหย่งเจ็บปวดจนสลบไปในพริบตา เพราะเนี่ยเฟิงไม่ทันรอให้เขาพูดจบก็เหยียบตรงนั้นของเขาจนเละ
“ถึงจะเหยียบทั้งที่มีกางเกง แต่ฉันก็ยังรู้สึกว่าเลอะรองเท้าฉันอยู่ดู”
เนี่ยเฟิงมองโหวหย่างอย่างเย็นชา จากนั้นก็ใช้ขาเขี่ยตัวเขาพลิกขึ้นมา
เสียงดังกรอบดังขึ้นมา กระดูกในตัวโหวหย่งหักไปหลายท่อน
ขณะที่เนี่ยเฟิงเตรียมตัวจะฆ่าโหวหย่งอยู่นั่นเอง หลินซูอินก็เปล่งเสียงความเจ็บปวดออกมา “เสี่ยวเฟิง……พี่ทรมานจัง”
เวลานี้เนี่ยเฟิงไม่สนเรื่องอื่นแล้ว รีบตรงเข้าไปหา “พี่สาม ผมอยู่นี่! พี่รู้สึกไม่สบายตรงไหน?”
“ฉันอยากอาเจียน……”
เนี่ยเฟิงรีบจับชีพจรที่ข้อมือของหลินซูอิน “พี่สาม ผมจะพาพี่ออกไปจากที่นี่ก่อน”
หลินซูอินดื่มสิ่งที่ไม่ควรดื่มลงไป พลังมหาศาลปะทุขึ้นมาทันที เนี่ยเฟิงคลุมร่างกายของหลินซูอินไว้ พาตัวหลินซูอินออกไป
อาการหลินซูอินตอนนี้ไม่ดีเลย ในมือของเนี่ยเฟิงก็ไม่มีอุปกรณ์การแพทย์ เขาจึงส่งหลินซูอินไปที่โรงพยาบาลประจำเมืองเยี่ยนตูก่อน
ดีที่หลินซูอินดื่มเหล้าไปแค่แก้วเดียว หลังจากเธอได้รับการล้างท้องก็รู้สึกสบายดีขึ้น ครึ่งดึกหลังก็หลับสลบลงไป
ส่วนอีกฝั่งสภาพโหวหย่งที่น่าอนาถก็ถูกคนมาพบเข้า อีกฝ่ายรีบติดต่อไปที่ตระกูลโหว
หลังจากพ่อของโหวหย่งได้ยินเรื่องราวก็โมโหใหญ่โต รีบมาที่โรงพยาบาลพร้อมกับภรรยา
“นายท่านโหว พวกเราพยายามสุดความสามารถแล้ว อาการคุณชายของนายท่านไม่ดีเอาเลย”
“ลูกชายฉันจะตายอย่างนั้นเหรอ?!”
พอคุณนายหลันได้ยิน ก็รู้สึกตัววูบ เกือบจะหมดสติไป
“พวกเราช่วยชีวิตเขาอย่างเต็มความสามารถ กระดูกคุณชายหักไปทั่วร่าง ตอนนี้ช่วยชีวิตไว้ได้แล้ว แต่ยังอยู่ในห้องไอซียู ยังไม่พ้นจากขีดอันตราย”
คุณนายหลันรู้สึกเหมือนฟ้าฟาดใส่ในวันที่อากาศแจ่มใส ขาทั้งคู่ทรุดลง แทบจะคุกเข่าลงไปกับพื้น
ดีที่สามีเขาตาไวมือเร็ว พยุงเธอไว้ได้ทัน
พ่อของโหวหย่งเป็นคนที่ผจญโลกมาอย่างโชกโชน แม้จะรู้ว่าลูกชายตัวเองถูกกระทืบจนสาหัส แต่เขาก็ยังพูดด้วยความสงบว่า “คุณหมอไม่ว่าจะต้องเสียเงินเท่าไหร่ก็ไม่เป็นไร แต่ต้องช่วยชีวิตลูกชายผมไว้ให้ได้!”
“พวกเราจะทำอย่างสุดความสามารถ ยังมีอีกเรื่องที่พวกคุณต้องเตรียมใจเอาไว้”
ใจคอของคุณนายหลันกับนายท่านโหวหืดขึ้นคอแล้ว
“ช่วงล่างของคุณชายถูกบดขยี้เสียหาย พวกเราพยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่ก็ไม่สามารถยื้อไว้ได้……”
“อะไรนะ! คุณหมายความว่าต่อไปลูกชายผมไม่สามารถมีลูกได้อย่างนั้นเหรอ?!”
พ่อของโหวหย่งเบิกตาโพล่งขึ้นมาในทันที
“ใช่ครับ”
“ไม่ว่าจะอย่างไร ต้องช่วยชีวิตลูกชายผมไว้ให้ได้!”
สองสามีภรรยาจับคุณหมอไว้แน่น เหมือนคนบ้าคลั่ง
“พวกเราต้องพยายามอย่างเต็มที่แน่นอน”
“ใครกันที่ทำเรื่องอย่างนี้ ฉันจะไม่ปล่อยมันไว้แน่!”
“นั่นน่ะสิ เมื่อสองสามวันก่อนเสียวหย่งยังบอกฉันอยู่เลยว่า พี่สาวของฉันให้หอใช้ฝึกการต่อสู้กับเขา เขาดีใจมาก แต่นึกไม่ถึงว่าวันนี้จะมาเกิดเรื่องแบบนี้!”
“ไม่ได้ฉันต้องสืบให้รู้!”
สองสามีภรรยากำหมัดแน่น ดวงตาฉายแสงแห่งความกลัวออกมา
ครึ่งคืนหลังผ่านไป โหวหย่งจึงได้สะลึมสะลือลืมตาขึ้น เขากลืนน้ำลายลงคอด้วยความลำบาก และคุณนายหลันกับนายท่านโหวที่เฝ้าอยู่ข้างเตียงก็รีบโผเข้าไป “ลูกชาย ลูกไม่เป็นไรนะ?”
“เนี่ยเฟิง! เนี่ยเฟิง! พ่อ แม่! พวกท่านต้องล้างแค้นให้ผมนะ ไอ้หมอนี่มันทำร้ายผม!”
ดวงตาทั้งคู่ของโหวหย่งแดงก่ำ พูดจาตะกุกตะกักออกมา
“ลูกวางใจเถอะ ไม่ว่าใครทำร้ายลูก แม่จะไม่ปล่อยมันไปแน่!”
ดวงตาของคุณนายหลันส่องประกายไอสังหาร
เมื่อเห็นบุตรชายของเธอกลายเป็นเช่นนี้ หัวใจแทบจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ