พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 169 ออกโรง
บทที่ 169 ออกโรง
ตอนหลินซูอินฟื้นก็พบว่าตัวเองอยู่บนเตียงคนไข้ในโรงพยาบาล เธอรู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมา
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เธอไม่สามารถนึกออกในทันที
“นี่ฉันเป็นอะไรไปนี่? ทำไมฉันถึงรู้สึกทรมานจัง?”
สาเหตุเพราะเหล้าที่หลินซูอินดื่มไปเมื่อวาน จึงทำให้เสียงที่พูดในวันนี้แหบลงนิดหน่อย
“พี่สาม? ในที่สุดพี่ก็ฟื้นแล้ว ทำผมใจหายหมด ตอนนี้พี่รู้สึกอย่างไรบ้าง? เป็นอะไรไหม?”
พอเนี่ยเฟิงเห็นหลินซูอินฟื้นขึ้นมา ก็กระวีกระวาดสอบถาม
“พี่ไม่เป็นไร รู้สึกไม่สบายที่กระเพาะนิดหน่อย เสี่ยวเฟิง พวกเรามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? ที่นี่เป็นโรงพยาบาล เมื่อคืนพี่เป็นอะไรไปเหรอ?”
เนี่ยเฟิงเห็นหลินซูอินเหมือนจำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้ พอนึกถึงท่าทางของเจ้าโหวหย่ง เนี่ยเฟิงก็รู้สึกทุเรศเป็นที่สุด
ถ้าเขาบอกหลินซูอินไป เธอต้องรับไม่ได้แน่ แล้วยังจะรู้สึกตำหนิตัวเธอเอง
“ดังนั้นเนี่ยเฟิงจึงลองเชิงถามว่า “พี่สาม เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนพี่จำไม่ได้แล้วเหรอ?”
หลินซูอินส่ายหน้า เธอจำได้แค่ว่าดื่มเหล้าไปแก้วเดียว เรื่องราวหลังจากนั้นเธอก็จำไม่ได้แล้ว
“พี่ดื่มมากไปเหรอ พี่ก่อความหายนะอะไรเข้าหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นพี่จะมาอยู่โรงพยาบาลได้อย่างไร?”
เนี่ยเฟิงกรอกตาไปมา จากนั้นก็หัวเราะพูดขึ้นมาว่า “พี่ไม่เป็นไร พี่แค่คออ่อน แอลกอฮอลล์เป็นพิษเข้า ผมเลยส่งพี่มาโรงพยาบาล”
สีหน้าของหลินซูอินซีดเผือด “มีเรื่องอย่างนี้ด้วยเหรอ? เมื่อก่อนพี่ก็รู้ว่าตัวเองคออ่อน แต่นึกไม่ถึงว่าจะแย่ขนาดนี้ ถ้ารู้ว่าเป็นอย่างนี้แต่แรก พี่ก็ไม่ไปดื่มเหล้าแก้วนั้นแล้ว”
เนี่ยเฟิงรีบปลอบใจว่า:
“ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย? แค่ดื่มเหล้าไปนิดหน่อยเอง อีกอย่าง พี่ดื่มก็เพื่อสังสรรค์”
หลินซูอินมองดูเนี่ยเฟิงอย่างตำหนิตัวเอง:
“ขอโทษนะเสี่ยวเฟิง ที่ต้องให้นายเก็บกวาดความเละเทะ พี่ไม่รู้ว่าควรจะขอบใจนายอย่างไรดี”
“ไม่เป็นไรครับ เป็นเรื่องที่น้องชายควรทำอยู่แล้ว พี่แค่พักผ่อนให้ดีๆ ก็เป็นการตอบแทนที่ยิ่งใหญ่ให้ผมแล้ว”
เนี่ยเฟิงหัวเราะ จากนั้นก็ยกโจ๊กร้อนๆ มา “ทานโจ๊กก่อนสิ เมื่อคืนพี่ไม่ได้กินอะไรเลย แล้วก็ไม่สบาย ตอนนี้คงไม่สบายมาก”
หลินซูอินกินโจ๊กไปนิดหน่อย ก็รู้สึกว่ากระเพาะดีขึ้น
“ในเมื่อพี่เมา เช่นนั้นกิจกรรมบริจาคการกุศลเมื่อคืนพี่ก็ไม่ได้เข้าร่วมสิ ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี ทั้งที่รับปากกับทางโรงเรียนแล้ว แต่พี่ไม่ได้ทำให้ดีตั้งแต่ต้น”
เนี่ยเฟิงจำได้ว่างานบริจาคการกุศลงานนั้นไม่ได้ดำเนินการลุล่วง ก็เพราะเนี่ยเฟิงบุกเข้าไปก่อความปั่นป่วน อีกอย่างตอนเขาพาเธอออกมา ก็เป็นที่ดึงดูดสายตาของผู้คน บวกกับโหวหย่งถูกกระทืบจนเป็นอย่างนี้ ถ้างานการกุศลยังดำเนินต่อไปได้สิแปลก
เนี่ยเฟิงส่ายหน้า “ไม่เป็นไร ผมเชื่อว่าโรงเรียนต้องอภัยให้พี่แน่ อย่างไรเรื่องนี้ก็คงอภัยให้ได้ พี่ไม่ได้เจตนาเสียหน่อย”
“แม้ว่าจะพูดเช่นนี้ไม่ผิด แต่ความรับผิดชอบอยู่ที่ตัวพี่ พี่ไม่ถูกต้องเอง”
หลินซูอินถอนใจด้วยสีหน้าที่ดูไม่ดี “เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน พี่จะไปคุยกับฝ่ายจัดงาน เกี่ยวกับเรื่องกิจกรรมการกุศลของเมื่อคืน”
“ตอนนี้พี่เป็นซะขนาดนี้ ยังจะออกไปอีก ถ้าหมอหรือพยาบาลเห็นเข้าต้องโทษผมแน่ พี่พักผ่อนดีๆ เถอะ ผมจะไปแทนพี่เอง จะไปดูว่าทางนั้นเป็นอย่างไรบ้าง?”
หลินซูอินหน้านิ่วคิ้วขมวด “แต่นายไม่ใช่คุณครูของโรงเรียนเรา……อย่างนี้คงไม่ดีแน่”
“แล้วตอนนี้พี่ลงจากเตียงได้เหรอ?”
ตอนนี้หลินซูอินปวดเมื่อยไปทั้งตัวจะลุกขึ้นมาก็รู้สึกทรมาน ยาเมื่อคืนนี้ออกฤทธิ์แรงดีจริงๆ
อีกทั้งหลินซูอินดื่มเหล้าจนหมดแก้ว……
ฉะนั้นตอนนี้เธอจึงรู้สึกไม่ค่อยสบาย แม้แต่จะเดินก็ยังลำบาก
“ดูพี่สิแค่เดินยังเดินได้ไม่ดีเลย ยังจะมาบอกว่าจะถามไถ่เหตุการณ์อีก ผมว่าพี่นอนรอฟังข่าวจากผมดีๆ ในห้องคนไข้จะดีกว่า ก็แค่ให้แน่ใจเรื่องงานบริจาคการกุศลเมื่อคืนเอง ไม่เห็นจะเป็นไรเลย?”
“อย่างนั้นก็ได้ รบกวนนายไปดูให้หน่อยนะ ขอโทษด้วยจริงๆ ต่อไปพี่จะไม่ดื่มเหล้าอีกแล้ว”
“พี่สาม ดูพี่พูดเข้าสิ ระหว่างพี่กับผมไม่ต้องเกรงใจขนาดนั้นก็ได้ ถ้าอย่างนั้นพี่ก็อยู่ในห้องคนไข้ดีๆ อย่าเที่ยวไปไหน ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็ให้โทรหาผม ผมจะรีบมาในทันที”
ในใจเนี่ยเฟิงคิดว่าต้องไปที่เมื่อคืนนั่นจริงๆ สักรอบ
คิดว่าพ่อแม่ของโหวหย่งคงมากันแล้ว บางทีไม่แน่อาจจะควานหาพวกเขาอยู่ก็ได้
ก่อนเนี่ยเฟิงจะไปก็เอามือถือของหลินซูอินไป “พี่สาม พี่ใช้มือถือของผมไปก่อนนะ ผมต้องเอามือถือของพี่ไป ถ้าทางนั้นโทรมาจะเชื่อมต่อกับผม ผมห่วงว่าพี่จะโอนสายมาให้ผมไม่ทัน”
หลินซูอินพยักหน้า “เสี่ยวเฟิงรอบคอบจริงๆ ถ้าอย่างนั้นนายก็เอามือถือพี่ไปเถอะ”
มือถือของเนี่ยเฟิงไม่เคยล็อกเลย เพราะในมือถือเขาไม่มีอะไรเลย มีแต่เบอร์ติดต่อของพี่สาวทั้งเจ็ด ปกติเวลาเนี่ยเฟิงติดต่อกับคนสำนักมังกร ล้วนอาศัยการเชื่อมต่อทางอินเทอร์เน็ต พอปิดอินเทอร์เน็ต ไม่มีม่านตากับลายนิ้วมือรวมถึงสแกนหน้าปลดล็อกของเนี่ยเฟิง ก็ไม่สามารถเข้าอินเทอร์เน็ตได้
อีกอย่างเนี่ยเฟิงตั้งค่าไว้แต่แรกแล้ว มือถือนี้มีแต่บรรดาพี่สาวถึงจะโทรเข้ามาได้ คนอื่นได้แต่ใช้อินเทอร์เน็ตติดต่อกับเนี่ยเฟิงเท่านั้น
พอเนี่ยเฟิงออกไปขับรถยังไม่ถึงสถานที่ในเมื่อคืน มือถือของหลินซูอินก็ดังขึ้น
เนี่ยเฟิงเห็นหน้าจอแสดงชื่อว่าเป็นหลี่ซวน ก็เลิกคิ้วขึ้น แล้วรับสาย
“หลินซูอิน! เธอจะบ้าเหรอไง ที่กล้าทำกับพี่หย่งอย่างนี้? ! เธอรู้ไหมว่าพี่หย่งมีฐานะสูงส่งของที่นี่แค่ไหน! เธอกลับส่งน้องชายเธอไปกระทืบเขาจนบาดเจ็บ เขาต้องไม่ปล่อยเธอไว้แน่! ตอนนี้เธออยู่ที่ไหนของเธอ? ทางที่ดีจงบอกฉันมา ไม่อย่างนั้นเทวดาหน้าไหนก็คุ้มครองเธอไม่ได้!”
“ประโยคพวกนี้โหวหย่งเป็นคนให้เธอถ่ายทอดถึงพวกเราเหรอ?”
อยู่ๆ เสียงของเนี่ยเฟิงก็ดังขึ้น หลี่ซวนชะงักไปชั่วครู่ “หลินซูอินล่ะ? ฉันไม่ได้พูดกับนาย หุบปากนายซะ!”
“เมื่อคืนคนที่กระทืบโหวหย่งคือผมเอง ฉะนั้นคนที่ต้องเผชิญเรื่องนี้ก็คือผม หรือสัตว์เดรัจฉานอย่างโหวหย่งกล้าทำแต่ไม่กล้ารับ เมื่อคืนคนที่คิดจะล่วงเกินพี่สามผม ไม่ใช่เขาหรอกหรือ?”
เนี่ยเฟิงพูดถึงตรงนี้สายตาก็เปล่งความเฉียบคมขึ้นมา แล้วดวงตาทั้งคู่ก็เปล่งไอสังหารขึ้น
“นายอย่ามาพูดจาเหลวไหล พี่หย่งอยากได้ผู้หญิงแบบไหนก็ได้? จะไปชอบยัยหลินซูอินได้อย่างไร!”
“เมื่อคืนพี่สามดื่มเหล้าที่ถูกวางยาลงไป ผมพาเธอไปล้างท้องที่โรงพยาบาล ตอนนี้ในใบรายงานผลการตรวจแสดงส่วนประกอบของตัวยาด้วย”
“นาย! นายพูดจาเหลวไหล! พี่หย่งไม่ทำเรื่องต่ำทรามอย่างนี้แน่!”
“จะทำหรือไม่ไม่ใช่เธออ้างก็จบ ตอนนี้โหวหย่งคงนอนแผ่อยู่ในโรงพยาบาลสินะ ถ้าอย่างนั้นผมก็ไม่ต้องกลับไปสถานที่งานเมื่อคืนที่เต็มไปด้วยบรรยากาศเหม็นคาวแล้วสินะ ผมรู้ว่าคุณเป็นคนทำลายกี่เพ้าของพี่สามผม บัญชีของคุณ จะต้องถูกสะสางในเร็วๆ นี้แน่ ผมขอไปพบโหวหย่งกับครอบครัวที่สุดยอดของเขาก่อน!