พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 17 พ่ายแพ้ยับเยิน
บทที่ 17 พ่ายแพ้ยับเยิน
มีเน็ตไอดอลชื่อดังสองคนอย่างคางเมิ่งกับซ่งสี่จื้อมาช่วย ห้างเซ็นจูรี่เลยได้รับความสนใจมากมายจากผู้คน
คางเมิงได้โน๊ตเพลงที่ร้องร่วมกันมา มองดูเพียงเล็กน้อยก็เข้าใจได้
เนี่ยเฟิงเห็นท่าทางลุกลี้ลุกลนของผู้จัด ใมใจก็รู้สึกกังวล สงสัยว่าผู้จัดจะต้องมีปัญหาแน่ เขาคิดเช่นนั้น ก็ขยับนิ้วมือ แฮกโปรแกรมหลังเวทีของที่นี่
และหลังจากที่ทั้งสองคนแสดงร่วมกันเสร็จแล้ว พิธีกรก็ตีเหล็กตอนร้อน “ต่อจากนี้ไป ก็คือการแสดงที่สำคัญ trump card! ระหว่างสองท่านนี้สุดท้ายแล้วใครจะเป็นคนที่แข็งแกร่งกว่ากันแน่? หลังจากช่วงเวลาในการเต้นอย่างร้อนแรง ทุกคนตั้งหน้าตั้งตารอ!”
เพลงที่พวกเธอใช้ในการแสดงนั้นล้วนเป็นผู้จัดเตรียมไว้ คางเมิ่งถือโน๊ตเพลงเอาไว้ ก็ย่นหัวคิ้วทันที
“เพลงนี้ฉันไม่ค่อยชำนาญนัก เปลี่ยนเพลงไม่ได้หรอ?”
“ขอโทษด้วย คุณคาง เพลงพวกนี้ล้วนถูกเตรียมไว้อย่างดีแล้ว ถ้าเปลี่ยนก็คงไม่ทันการ”
นี่เป็นการกลั่นแกล้งเธอมาแต่ไหนแต่ไร
เป็นไปตามที่เนี่ยเฟิงกังวลจริงๆ ผู้จัดมีปัญหาจริงๆ
“ทำไม ไม่กล้าแข่งแล้ว?”
ซ่งสี่จื้อยิ้มเย็น เธอตั้งใจกระตุ้นคางเมิ่ง
ดังนั้นที่ซ่งสี่จื้อพุ่งเป้าไปที่คางเมิ่งสุดๆ ล้วนเป็นเพราะก่อนหน้านี้ตอนที่คางเมิ่งไปแคสงานก็แย่งบทเธอ
ซ่งสี่จื้อไม่ง่ายเลยที่จะไปประจบเสี่ยเลี้ยงถึงได้มีโอกาส คิดไม่ถึงว่ากลับโดนคางเมิ่งแย่งไป
เป็นเพราะว่าคางเมิ่งมีฝีมือการแสดงดี อีกทั้งยังหน้าตาสวยงาม แค่ผู้กำกับนั่นเห็นเธอเข้า ก็ตั้งใจที่จะเลือกเธอ
หลังจากที่ซ่งสี่จื้อได้รับข่าวนี้ก็โกรธเป็นอย่างยิ่ง ต้องรู้ว่านี่คือโอกาสดีในการเปลี่ยนแบบงาน!
ซ่งสี่จื้อโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ จะไม่ยกโทษให้คางเมิ่งอย่างแน่นอน
คางเมิ่งหรี่ตามองซ่งสี่จื้อ ถึงแม้จะรู้ว่าเป็นวิธีการยั่วยุ แต่ว่าก็ไม่คิดจะเห็นซ่งสี่จื้อเย่อหยิ่งอวดดี! “ทำไมฉันจะไม่กล้า แข่งก็แข่ง ใครกลัวกัน?”
“ดี แต่ทว่าฉันขอบอกอะไรสักหน่อยนะ ถ้าเกิดว่าเธอแพ้ เธอจะต้องเป็นคนไปยกเลิกบทนนักแสดงสมทบหญิงในเรื่อง《Dreamlike》 เป็นไง”
คางเมิ่งรู้ว่าซ่งสี่จื้อไม่สามารถสงบจิตใจได้ เพียงแต่เธอกับผู้จัดสมรู้ร่วมคิดกัน เธอกังวลว่าผู้จัดจะใช้กลอุบายกับเธอ
“ตกลงก็ตกลง”
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เนี่ยเฟิงเดินมาถึงที่ข้างกายคางเมิ่ง คางเมิ่งตกใจหมด “เสี่ยวเฟิง นายมาตอบตกลงแทนฉันทำไม?”
เนี่ยเฟิงให้คางเมิ่งไปหลบอยู่ด้านหลัง ยิ้มไปมองซ่งสี่จื้อไป: “แต่ถ้าเธอแพ้ละ?”
“ฉันเนี่ยนะจะแพ้? น่าขำ!” ซ่งสี่จื้อหัวเราะเย็นๆ
“เธอมั่นใจในตัวเองเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าคุยอะไรกับผู้จัดอย่างดีแล้ว? วางแผนทำร้ายพวกเรา?”
เนี่ยเฟิงมองซ่งสี่จื้อด้วยความสนใจเป็นอย่างยิ่ง
ซ่งสี่จื้อถูกพูดแทงใจ สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นลึกลับทันที แต่เธอก็ทำกลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว
“โอเค งั้นนายก็บอกมา ว่าจะพนันอะไร?”
“เอาอย่างนี้ ถ้าเกิดว่าพวกเราแพ้ เช่นนั้นคางเมิ่งบ้านเราก็จะยกเลิกตำแหน่งนักแสดงสมทบหญิง แต่ถ้าเธอแพ้ งั้นเธอก็คุกเข่าเลียรองเท้าคางเมิ่งต่อหน้าผู้คน เป็นอย่างไร?”
ซ่งสี่จื้อหรี่ตา “แข่งก็แข่ง ฉันกลัวเธอหรือไง? คอยดูแล้วกัน!”
ซ่งสี่จื้อพูดจบก็หมุนตัวเดินจากไป
“ไอหยา! ทำไมนายถึงได้ทำตามความเห็นของตัวเองโดยพลการ” คางเมิ่งกระทืบเท้าด้วยความโมโห ท่าทางโมโหนั้นสุดน่ารักเสียจริง
“เธอกับผู้จัดสมรู้ร่วมคิดกันแน่นอน ดังนั้นถึงได้มีความมั่นใจนัก น้องเจ็ดวางใจได้ ผมจะช่วยดูให้อย่างเงียบๆ ไม่ให้พวกเขาทำอะไรแน่นอน
แม้ว่าคางเมิ่งจะโกรธอยู่บ้าง แต่อย่างไรก็ตอบตกลงไปแล้ว เธอก็แค่ต้องทำให้ดีเท่านั้น
“งั้นก็ได้……”
เนี่ยเฟิงกลับไปที่ที่นั่ง หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา เมื่อกี้นี้เขาได้ใช้ระบบลึกลับแฮกเข้าไปในคอมพิวเตอร์และมอนิเตอร์ควบคุมของ ผู้จัดเรียบร้อยแล้ว เขาสงสัยว่าซ่งสี่จื่อกับผู้จัดนั่นจะต้องมีปัญหา ดังคาดเขาได้ความถี่ของเสียงมาบางส่วน “น่าสนใจ”
อาศัยหุ่นยนต์อย่างซ่งสี่จื้อ ยังคิดที่จะรังแกพี่เจ็ดของเขา? เพ้อฝัน!
การเต้นอย่างร้อนแรงกำลังจะจบลงแล้ว ต่อไปเป็นการแข่งร้องเพลง ผู้มีชื่อเสียงสองท่านหยิบเพลงที่จะใช้ในการแข่งขัน
คนที่จะแสดงเป็นคนแรกก็คือคางเมิ่ง
ถึงแม้ว่าจะไม่ถนัดเพลงนี้ แต่คางเมิ่งก็ยังคงสีหน้าร้องเพลง เดิมทีเธอเป็นคนที่มีพรสวรรค์เป็นอย่างยิ่ง ความยากระดับนี้ไม่สามารถทำอะไรเธอได้
เสียงร้องของเธอนั้นคล้ายกับเสียงของนกขมิ้น ทำการแสดงเพลงที่เสียใจเกี่ยวกับความรักนี้อย่างเต็มที่
คิดไม่ถึงว่า ตอนที่เริ่มท่อนที่สอง อยู่ๆทำนองดนตรีสูงขึ้น
ยังดีที่ว่าความสามารถในการรับมือต่อสถานการณ์แข็งแกร่งพอ พลังที่ปล่อยออกมาก็สูงมาก สุดท้ายก็ตามทันจังหวะและทำนอง
หลังจากที่ร้องเพลงนี้จบ คางเมิ่งก็โกรธขึ้นมา นี่มันตั้งใจชัดๆ!
จากนั้นก็ถึงคิวของซ่งสี่จื้อขึ้นเวที ครั้งนี่เธอร้องอย่างสุภาพเรียบร้อยราบรื่นเป็นอย่างยิ่ง
หลังจากที่ทั้งสองแสดงเสร็จเรียบร้อย กรรมการก็ให้คะแนนคางเมิ่งศูนย์คะแนนทันที
คาดไม่ถึงว่ากรรมการพวกนี้จะความผิดปกติ!
แน่นอนว่าคางเมิ่งนั้นโกรธมากๆ “พวกแกเป็นพวกเดียวกันอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ!”
“ไอหยา คางเมิ่ง เธอไม่ใช่หรอ? เมื่อกี้นี้ที่เธอร้องเพลงจนแทบจะหมดลมอยู่แล้ว ฝีมือในการแสดงก็แย่ กรรมการให้เธอศูนย์คะแนนแล้วอย่างไร?” ซ่งสี่จื้อพูดอย่างยินดีปรีดา
“พวกแกสมรู้ร่วมคิดกัน เมื่อกี้นี้เขาตั้งใจปรับทำนองเพลงของฉันให้สูงขึ้น พวกคุณไม่ได้ยินหรอ?!”
คางเมิ่งชี้ไปที่คนปรับเสียงอย่างเดือดดาล เธอก็ไม่ได้คิดที่จะเก็บมันเอาไว้
“คางเมิ่ง ผู้ชมมากมายกำลังดูอยู่นะ เธอแพ้ก็คือแพ้ ทำไมแพ้ไม่เป็น? ถ่ายทอดสดก็ถ่ายอยู่น่ะ!”
ซ่งสี่จื้อชี้ไปที่กล้องอย่างอิ่มอกอิ่มใจ
ครั้งนี้ตกอับแน่ เดาว่าความนิยมของคางเมิ่งคงจะตกฮวบฮาบอย่างแน่นอน!
ผู้ชมที่อยู่ด้านล่างก็แอบกระซิบกระซาบกัน คางเมิ่งอึดอัดจนหน้าแดง
“คางเมิ่ง กล้าแข่งก็ต้องกล้าแพ้!”
ซ่งสี่จื้อยกตนข่มท่าน
แต่ทว่า ในเวลานี้เองก็มีเสียงดังออกมาช่วงหนึ่ง และบนหน้าจอยักษ์ก็ปรากฏภาพช่วงหนึ่งที่มอนิเตอร์
“ต้องทำให้เธอแพ้ให้ได้ เข้าใจไหม? พวกคุณวางใจ ผลประโยชน์ที่พวกคุณจะได้ไม่มีทางน้อย!”
“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะทำให้เธอร้องไม่ได้!”
ซ่งสี่จื้อจ้องมองตาโตทันที “ใครทำ! ปิดมันเดี๋ยวนี้!”
“คุณซ่ง ตอนนี้กำลังถ่ายทอดสดอยู่ คุณไม่ได้เที่ยวโอ้อวดว่าเป็นคนเปิดเผยตรงไปตรงมาหรือ? ทำไมถึงได้ทำเรื่องไม่มีศีลธรรมเช่นนี้?”
เนี่ยเฟิงแสยะยิ้ม สถานการณ์เปลี่ยนไปในพริบตา!
“รีบปิดเร็ว!”
ซ่งสี่จื้อแยกเขี้ยวยิงฟันตะโกนร้องด้วยความโมโห ความอ่อนโยนก่อนหน้านี้ก็พังทลายลงมาภายในชั่วพริบตา
ผู้คนส่วนใหญ่ต่างแย่งกันพูดคุย แม้แต่แฟนคลับในอินเทอร์เน็ตของซ่งสี่จื้อ ก็รู้สึกเพียงว่าถูกหลอก พากันออกจากการเป็นแฟนคลับ!
“คุณซ่ง กล้าแข่งก็ต้องกล้าแพ้ ไม่ใช่ว่าต้องคุกเข่าขอโทษ เลียรองเท้าหรือ?”
ซ่งสี่จื้อในหน้าซีดเผือก เธอมองดูคนมากมายที่อยู่ด้านล่าง อึดอัดจนไม่สามารถผู้ออกมาได้!
คำพูดพวกนั้นที่เธอพูดกับผู้จัดทำไมถึงได้ถูกเอามาฉายบนจอได้?
ผู้ชมด้านล่างต่างก็โกรธ รวมถึงแฟนคลับของคางเมิ่งด้วย
“ให้เธอคุกเข่าซะ!”
“คนที่มีแผนการมากมาย ยากจะบอกได้ว่าจะทำอะไรขึ้นมาอีก ให้เธอเพิ่มความจำ!”
ซ่งสี่จื้อกลืนน้ำลายอย่างลำบาก เธอเดินเซถอยไปด้านหลังหนึ่งก้าว “พวกแกหุบปาก! ไม่ใช่เรื่องของพวกแก พวกแกนับเป็นอะไรได้ พวกกระจอก!”
คำพูดของซ่งสี่จื้อทำให้ผู้ชมโมโห เดิมทีทุกคนยังคงเห็นใจเธอ แต่ตอนนี้ไม่มีเหลือแม้แต่น้อย!
“คุกเข่า!”
“ใช่แล้ว กล้าแข่งก็ต้องกล้าแพ้
คางเมิ่งเห็นฉากนี้ ก็รู้สึกเสียใจในบางส่วน ถึงจะรู้ว่าซ่งสี่จื้อนั้นตั้งใจจะทำร้ายเธอ แต่ทว่าการให้คุกเข่าเลียรองเท้ามันก็ออกจะเกินไปหน่อยไหม?
“ไม่งั้นก็ช่างมันเถอะ?”
คางเมิ่งพูดออกมาเบาๆ ผู้ชม พวกแฟนคลับได้ยินก็รู้ปวดใจเป็นอย่างยิ่ง นางอสรพิษนี่ทำร้ายเธอขนาดนี้แล้ว คิดไม่ถึงว่าเธอใจดีขนาดนี้!
“ใครใช้ให้แกเสแสร้ง! แกคิดว่าแกเป็นใคร? แกก็แค่คนที่ไปนอนกับคนอื่นถึงได้มีทรัพยากร! แกก็เป็นแค่คนที่ออกไปขาย!”
วันนี้ซ่งสี่จื้อโกรธจนทะลุสวรรค์ จะเอาที่ไหนมาคิดอะไรมากมาย?
“คุณพูดอะไร”
เนี่ยเฟิงหรี่ตา ในดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยจิตสังหาร เขาเดินพุ่งไปที่ซ่งสี่จื้อ “พูดใหม่อีกรอบ?”
ซ่งสี่จื้อรู้สึกกลัวจนหนาวขึ้นมา เธอทนไม่ไหวตัวสั่น เหมือนโดยงูพิษจ้องมองหนาวเย็นทั่วทั้งตัว
“ขอโทษ เดี๋ยวนี้ ”
เนี่ยเฟิงมองซ่งสี่จื้อคล้ายมองคนตาย ซ่งสี่จื้อตกใจไม่เบา ทันใดนั้น “ตึ่ง” คุกเข่าอยู่ที่พื้น!
เธอถูกทำให้ตกใจกลัวจนตัวสั่น!
“ขอ ขอโทษ ฉันผิดไปล้ว”
ความกดดันจนน่าสะพรึงกลัวเช่นนั้นทำให้ซ่งสี่จื้อปลุกสัญชาตญาณในการเอาตัวรอดออกมา เธอคลานเข้าไป เลียรองเท้าให้คางเมิ่ง
คางเมิ่งตกใจ รีบดึงเท้ากลับมา สีหน้าแปลกประหลาด: “ช่างเถอะช่างเถอะ เสี่ยวเฟิง พวกเรากลับกันเถอะ”
เนี่ยเฟิงมองไปทางคางเมิ่ง ก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มบริสุทธิ์ไร้พิษสง “ได้!”
หลังจากที่ทั้งสองคนได้จากไปแล้วนั้น ซ่งสี่จื้อราวกับตื่นจากฝัน เมื่อกี้เธอเป็นอะไรไป? เป็นฝ่ายคุกเข่าแถมยังเลียรองเท้าคางเมิ่ง!
“คางเมิ่ง! ฉันไม่ปล่อยเธอไปแน่!”
ซ่งสี่จื้อคุกเข่าคลานขึ้นมา รู้สึกว่าตัวเองจะต้องโดนวางยาพิษแน่ๆ
ในระหว่างทางที่กลับนั้น คางเมิ่งมองไปที่เนี่ยเฟิงตลอดเวลา
“พี่เจ็ด บนหน้าของผมมีอะไรหรอ?”
“ไม่มี”
“ถ้าอย่างนั้นแล้วพี่จะมองผมตลอดทำไม?” เนี่ยเฟิงสงสัย
“เมื่อกี้นายทำอะไรกับเธอ?” ไม่อย่างนั้นซ่งสี่จื้อจะหวาดกลัวได้อย่างไร?
“ด้วยความสัตย์จริง ผมไม่ได้ทำอะไรเลย เธออาจจะสำนึกผิดขึ้นมาเองก็ได้!”เนี่ยเฟิงพูดออกมาโดยไม่ต้องคิด
ถึงแม้ว่าคางเมิ่งจะยังสงสัย แต่เธอก็ไม่ได้เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจ เธอตรวจดูแอคเคาท์ของตัวเอง แฟนคลับกลับมาแล้ว!
เนี่ยเฟิงเห็นคางเมิ่งดีใจ ตัวเองก็พลอยดีใจไปด้วย