พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 170 รนหาถึงที่
บทที่ 170 รนหาถึงที่
พอเนี่ยเฟิงพูดจบประโยคนี้ก็ตัดสายทิ้ง ปล่อยให้หลี่ซวนกรีดร้องไป
พอเนี่ยเฟิงวางสายก็เข้าสู่เว็บไซต์ พอผ่านขั้นตอนการยืนยัน จากนั้นเขาก็ส่งข้อความถึงสำนักมังกร “ตาหาตัวโหวหย่งมาให้ได้ คัดกรองคนที่เข้ารักษาตัวเมื่อคืนในโรงพยาบาลเมืองเยี่ยนตูทั้งหมด ฉันต้องได้ข่าวภายในหนึ่งนาที”
เนี่ยเฟิงพูดจบไม่ทัน 30 วินาที กลุ่มหน่วยข่าวกรองก็แจ้งชื่อโรงพยาบาลให้กับเนี่ยเฟิง
“รายงานราชามังกร คนที่ท่านตามหาตัวตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาลเสินโจว”
เนี่ยเฟิงพยักหน้าเล็กน้อย แล้วก็เห็นเขาเลี้ยวรถตรงไปที่โรงพยาบาลเสินโจว
พอถึงโรงพยาบาลเสินโจว เนี่ยเฟิงจอดรถด้านหนึ่งเสร็จ จากนั้นก็ขึ้นไปบนอาคารอย่างช่ำชอง มายังห้องไอซียูระดับวีไอพี
อาการของโหวหย่งดูไม่ดีนัก โดยเฉพาะฐานสืบทอดลูกหลาน ที่ถูกเหยียบจนเละ จนไม่สามารถฟื้นฟูได้
ทว่าเมื่อเทียบกับอาการเมื่อคืน โหวหย่งตอนนี้ดีกว่ามาก อย่างน้อยก็สามารถพูดได้
ตอนนี้ คุณนายหลันกับนายท่านโหวยังตามหาร่องรอยของสองคนเมื่อคืนนี้อยู่ด้านนอก
พวกเขาจึงส่งบอดี้การ์ดมาเฝ้า
“ขอโทษครับ ไม่ทราบคุณมาหาใคร?”
“ผมมาหาโหวหย่ง”
เนี่ยเฟิงถูกสองบอดี้การ์ดขวางไว้ สองบอดี้การ์ดมองเนี่ยเฟิงตั้งแต่หัวจรดเท้า “นอกจากหมอเจ้าของไข้แล้ว ไม่มีคำสั่งของคุณนายกับนายท่านโหว คุณก็เข้าไปไม่ได้”
“ผมก็คือหมอเจ้าของไข้เขา”
เนี่ยเฟิงยิ้มด้วยใบหน้าที่ไม่เป็นภัยต่อมนุษย์และสัตว์ ดูแล้วท่าทางไม่เหมือนคนชั่วเสียเลย
“ดูท่าทางคุณไม่เหมือนคุณหมอ”
“ผมแค่ไม่ได้ใส่เสื้อกราวด์เท่านั้นเอง ผมเป็นหมอจริงๆ แต่ไม่ได้มาดูอาการเขา ทำไมผมถึงเป็นหมอเจ้าของไข้เขา นั่นก็เพราะตอนนี้ผมจะมาตัดสินความเป็นความตายของเขา”
เนี่ยเฟิงเชิดคางขึ้น สองบอดี้การ์ดรู้สึกไม่เข้าท่า ก็ลงมือทันที แต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะตั้งตัว ก็ถูกเนี่ยเฟิงเตะจนกระเด็น
สองบอดี้การ์ดสลบไป เนี่ยเฟิงปัดมือ อดยิ้มอย่างเลือดเย็นไม่ได้ “ไหนบอกว่าสุดยอดมากเลยไม่ใช่เหรอ? ส่งกุ้งปูมาแค่สองตัวก็คิดจะมาขวางทางฉัน?”
เขาผลักประตูออก เดินเข้าไป โหวหย่งที่นอนอยู่บนเตียงกำลังหลับสบาย
เนี่ยเฟิงมองดูคอหอยที่ใส่เครื่องช่วยหายใจ จมูกเขียวปัดหน้าบวมเป่งดวงตาที่หลับตาพริ้ม
ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะเนี่ยเฟิงแผ่รังสีอันตรายเหมือนอย่างปกติออกมาหรือเปล่า จึงทำให้โหวหย่งต้องตัวสั่น
โหวหย่งลืมตาขึ้น เหมือนสะลึมสะลือเห็นเนี่ยเฟิง พอแน่ใจแล้ว ก็อดร้องเสียงหลงขึ้นมาไม่ได้ “แก! แก! แกเข้ามาได้อย่างไร?”
“หรือเมื่อคืนฉันกระทืบนายหนักเกินไป ตอนนี้นายเลยติดอ่าง หรือว่านี่คือผลข้างเคียงที่ตามมา?”
เนี่ยเฟิงลากเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆ มานั่ง เหลือบตามองต่ำดูโหวหย่ง
เนื่องจากโหวหย่งกลัวจนเกินไป จึงออกแรงดิ้นสุดชีวิต แต่เพราะการดิ้นไปมาก็ส่งผลให้แผลตามตัวเจ็บขึ้น
“อย่าขยับสิ กระดูกบนตัวนายหักหลายแห่ง มือไม้หักหมด แม้แต่ฐานสืบลูกหลานก็ถูกเหยียบจนเละ ต่อให้ดิ้นไปดิ้นมา นายก็หนีไปจากที่นี่ไม่ได้”
“แกคิดจะทำอะไรของแก?!”
“เมื่อคืนนี้ บัญชีของอินอินฉันยังคิดกับนายไม่จบ ถ้าเมื่อคืนไม่เพราะฉันห่วงที่ต้องส่งอินอินไปโรงพยาบาลไม่มีเวลาแยแสนาย นายคิดว่านายจะรอดชีวิตได้เหรอ?”
น้ำเสียงเนี่ยเฟิงเยือกเย็นอย่างกับป่าละเมาะ
โหวหย่งกระเดือกน้ำลายคงคือ “แกไม่รู้เหรอว่าโลกนี้ฆ่าคนมันผิดกฎหมายนะ?”
“ฉันรู้สิ แต่ฉันมันเป็นคนบ้า ฉันฆ่าคนไม่เคยต้องดูว่าผิดกฎหมายเหรอเปล่า อีกอย่าง เมื่อคืนนายเป็นคนสั่งให้วางยาในเหล้าของอินอิน หรือพฤติกรรมของนายถูกกฎหมายอย่างนั้นเหรอ?”
“นายนี่มันช่างกล้าไม่เห็นกฎหมายอยู่ในสายตา ที่นี่เป็นเมืองเยี่ยนตู! ไม่ใช่ที่ให้นายมาก่อกรรมทำชั่ว อีกอย่างนายมีหลักฐานอะไรที่ชี้ว่าเมื่อคืนฉันวางยาหลินซูอิน?!”
กระทืบโหวหย่งให้ตายก็ไม่มีทางยอมรับ อีกอย่าง ทำไมเขาต้องยอมรับ!
“กล้าทำไม่กล้ารับเหรอ?”
เนี่ยเฟิงเผยสีหน้าอยู่ๆ ก็นึกอะไรขึ้นมาได้ จากนั้นก็หัวเราะพูดว่า:
“ไม่เป็นไร มันเป็นเรื่องปกติ ฉันก็คิดเอาไว้แล้ว ว่านายเป็นคนอย่างนี้ แต่คนอย่างฉันน่ะ เกลียดพวกกล้าทำแต่ไม่กล้ารับที่สุด”
เนี่ยเฟิงเริ่มมองดูโหวหย่งตั้งแต่หัวจรดเท้า โหวหย่งถูกสายตาของเนี่ยเฟิงมองจนหนาวสะท้านไปทั้งตัว “นายจะทำอะไร!”
เขาตะโกนขึงขังแต่ข้างในปอดแหก
“ฉัน? ฉันแค่จะดูว่าบนตัวนายมีตรงไหนยังดีอยู่บ้าง? ฉันจะได้หักมันทิ้งซะ”
พอเนี่ยเฟิงพูดเช่นนี้ โหวหย่งจะทนได้อย่างไรกัน และแล้วฉี่ก็ราดออกมา ถุงปัสสาวะก็เต็มในพริบตา
เนี่ยเฟิงก้มหน้าอดหัวเราะไม่ได้ “อะไรกัน? ฉันก็แค่พูดเท่านั้นเอง ถึงกับตกใจขนาดนี้เลยเหรอ?”
“ใครมันช่างกล้า มาคุกคามลูกชายของฉันขนาดนี้!”
ในเวลานี้เองก็มีเสียงเข้มดังขึ้นมา เนี่ยเฟิงมองไปยังประตูห้องคนไข้ ก็เหมือนคนวัยกลางคนสองคนเดินเข้ามา
คนสองคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น นั่นก็คือพ่อแม่ของโหวหย่ง
พ่อของโหวหย่งชื่อว่าโหวฟู่กุ้ย แม่ของโหวหย่งชื่อว่าหลันหยิงง
ชื่อของโหวฟู่กุ้ยดูจะเชยไปหน่อย แต่คนผู้นี้ก็ร่ำรวยเงินทองจริงๆ อีกทั้งตระกูลก็ทำการค้า โหวฟู่กุ้ยเป็นลูกโทนของบ้าน พวกเขาเป็นลูกโทนทั้งสามชั่วอายุคน
โหวหย่งก็เป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของโหวฟู่กุ้ย ฉะนั้นเมื่อโหวหย่งได้รับบาดเจ็บโหวฟู่กุ้ยก็ปวดใจ
อีกทั้งเมื่อรู้ว่าโหวหย่งไม่สามารถมีบุตรได้ โหวฟู่กุ้ยก็โมโหจนยั้งไม่อยู่
ฉะนั้นไม่ว่าอย่างไรโหวฟู่กุ้ย ก็สาบานว่าจะต้องหาตัวคนที่ทำร้ายลูกชายมาให้ได้ แล้วลงโทษอย่างหนัก!
วันนี้พวกเขาสองสามีภรรยาก็ออกไปหาคนแต่เช้าแต่ก็หาไม่เจอ แต่นึกไม่ถึงเจ้าคนชั่วจะมาหาลูกชายตัวเองถึงห้องคนไข้ แล้วยังกระทืบสองบอดี้การ์ดนั่นจนบาดเจ็บอีก!
“คิดว่าพวกคุณสองคนคงเป็นพ่อแม่ที่ร้ายกาจที่โหวหย่งมัดจะพูดติดปากเสมอล่ะสิ?”
เนี่ยเฟิงเห็นโหวฟู่กุ้ยกับหลินหยิงไม่มีความกลัวเลยแม้แต่น้อย เขาใช้สายตาช่างเลือกมองดูสองสามีภรรยานี้
“ดูแล้วก็ไม่เห็นจะพิเศษตรงไหน ลูกชายคุณบอกว่าถ้าผมทำเขาบาดเจ็บ ก็เท่ากับล่วงเกินตระกูลใหญ่สองตระกูล ถ้าอย่างนั้นขอให้พวกคุณช่วยบอกให้ผมรู้หน่อย ว่าตระกูลของพวกคุณเป็นตระกูลอะไร?”
เนี่ยเฟงหรี่ตาปริบๆ มองดูโหวฟู่กุ้ยแล้วถามแบบทั่วๆ ไป
โหวฟู่กุ้ยนึกไม่ถึงว่าหมอนี้จะกำเริบขนาดนี้ “ไอ้ตัวแสบทำร้ายลูกชายฉัน แล้วยังกล้ามาอวดดีในถิ่นของฉัน?! นายมันจะกล้ามากเกินไปแล้ว!”
“ลูกชายคุณต่างหากที่ลงมือกับภรรยาของผมก่อน วางยาภรรยาผม คิดจะล่วงเกินภรรยาผม บัญชีนี้อย่างไรผมก็ต้องสะสางใช่ไหมล่ะ?”
“นายพูดจาเหลวไหล ลูกชายฉันเป็นคนดีปกติ เขาไม่ทำเรื่องอย่างนี้แน่!”
“ดูท่าทางคุณจะรู้จักลูกชายคุณน้อยไปนะ ผู้หญิงที่ลูกชายออกไปเที่ยวเอามาเรียงเป็นหน้ากระดานได้เลย”
เนี่ยเฟิงส่ายหน้า “เพียงแต่เขาจะออกไปเที่ยวผู้หญิงอย่างไรก็ไม่เกี่ยวกับผม แต่เขากลับมาถูกใจผู้หญิงของผมนี่สิ”
“เหอะๆ! น่าขำจริงๆ ต่อให้ลูกชายฉันชอบผู้หญิงของนายเข้า นั่นก็ถือว่าเป็นบุญของพวกนาย!” โหวฟู่กุ้ยทำเสียงหึใส่