พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 174 รองผู้อำนวยการ
บทที่ 174 รองผู้อำนวยการ
เนี่ยเฟิงขมวดคิ้ว พร้อมกับเอ่ยปากพูดขึ้น
“ผมว่าคุณเป็นหมาจนตรอกแล้วล่ะ ไม่ว่าเจอใครหน้าไหนก็กัดไปทั่ว”
“คุณเป็นแฟนของครูหลิน แน่นอนว่าคุณก็ต้องเข้าข้างครูหลินอยู่แล้ว ต่อให้รู้ว่าครูหลินไปอ่อยนายโหว คุณก็ไม่ยอมรับแน่ๆ ถึงยังไงสำหรับพวกคุณสองคนแล้วนี่มันแทบจะไม่มีประโยชน์อะไรเลยนะ”
หลี่ซวนมองหัวหน้าฝ่ายวิชาการด้วยสีหน้าจริงจัง“ตอนนี้นายโหวถูกเขาเล่นงานจนบาดเจ็บสาหัส หรือว่าคุณกะจะใช้งานครูที่มีตำแหน่งสำคัญๆงั้นเหรอ? ถ้าถูกนายโหวรู้ พวกคุณจะต้องรับผิดชอบสิ่งที่พวกคุณทำทั้งหมดแน่ๆ!”
คำพูดเหล่านี้ของหลี่ซวน ทำให้หัวหน้าฝ่ายวิชาการรู้สึกลังเลไม่น้อย แน่นอนว่าหัวหน้าฝ่ายวิชาการรู้ว่าโหวหย่งเป็นกรรมการของโรงเรียน
“หัวหน้าฝ่ายวิชาการ คุณจะฟังความข้างเดียวจากครูหลี่ไม่ได้นะคะ ฉันไม่เคยไปอ่อยหรือล่อลวงโหวหย่งเลย แล้วฉันก็ไม่เคยคิดจะหลอกใช้โหวหย่งเพื่อให้ได้ตำแหน่งชนะเลิศเลยด้วย”
หลินซูอินรู้สึกว่าหลี่ซวนก็เป็นแค่ผู้หญิงที่ชอบหยิ่งทะนงโอ้อวดคนหนึ่งเท่านั้น คนแบบนี้จะเป็นครูได้ยังไง?
“คุณบอกว่าที่ฉันพูดเป็นการพูดลอยๆ แล้วคุณล่ะ? คุณมีหลักฐานอะไร? เห็นๆอยู่ว่าตัวเองทำเรื่องน่ารังเกียจ แต่กลับไม่ยอมรับ ดู๊ดู บนโลกใบนี้ไม่คิดว่าจะมีคนที่หน้าไม่อายได้ขนาดนี้อยู่ด้วย!”
หัวหน้าฝ่ายปกครองขมวดคิ้ว จากนั้นก็นวดๆขมับ“พวกคุณเถียงกันหัวชนฝาไม่รู้ใครผิดใครถูก ตอนนี้ผมสับสนมึนงงไปหมด เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าพวกคุณทั้งสองคนใครผิดใครถูกกันแน่ เอาแบบนี้ไหม หลังจากที่ผมสอบถามสถานการณ์แล้ว……”
“หัวหน้าฝ่ายวิชาการคุณก็ไม่ต้องถามอะไรแล้ว ในเมื่อคุณอธิบายไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปหารองผู้อำนวยการเลยก็แล้วกัน!”
หลี่ซวนพูดจบก็เชยคางเย้ยหยันใส่พวกเขา เนี่ยเฟิงเห็นหลี่ซวนท่าทางมั่นอกมั่นใจขนาดนั้น ในใจก็คิดว่าหลี่ซวนจะต้องมีความคิดชั่วร้ายอยู่ในใจแน่ๆ
เรื่องนี้มันเกินความสามารถตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ถึงยังไงต่างคนต่างก็บอกว่าตัวเองมีเหตุผลของตัวเอง แล้วนี่ยิ่งไม่มีหลักฐานอีก หัวหน้าฝ่ายวิชาการก็เลยบอกไม่ได้ว่าใครเป็นฝ่ายถูกกันแน่
แต่ในเมื่อหลี่ซวนบอกไปแล้วว่าจะไปหารองผู้อำนวยการ หัวหน้าฝ่ายวิชาการจึงวางใจลงได้หน่อย จากนั้นพวกเขาก็พยักหน้า
“ถ้าอย่างนั้นก็ดี พวกคุณไปหารองผู้อำนวยการโรงเรียนเถอะ ดูว่ารองผู้อำนวยการโรงเรียนจะพูดยังไง รองผู้อำนวยโรงเรียนการเป็นคนที่ยุติธรรมมากๆ”
หลี่ซวนออกไปจากห้องของหัวหน้าฝ่ายวิชาการ จากนั้นก็หน้าไปมองหลินซูอินหนึ่งที
“ทำไมเดินช้าแบบนั้นล่ะ หรือว่าพวกคุณไม่กล้าตามมาเหรอ?”
“ฉันไม่เข้าใจจริงๆ เห็นๆอยู่ว่าคนที่ทำเรื่องเลวเป็นคุณชัดๆ แต่ทำไมคุณถึงพูดอย่างเต็มปากเต็มคำ มั่นอกมั่นใจได้ขนาดนั้น?”
หลินซูอินขมวดคิ้ว สีหน้าดูแย่ไม่น้อย
“พี่สามไม่ต้องถามเธอหรอก มีคนบางประเภทหนังหน้าหนา ต่อให้พูดอะไรเธอก็ไม่เก็บไปคิดหรอก มิหนำซ้ำกลับภูมิใจในตัวเองด้วยซ้ำ”
เนี่ยเฟิงส่ายหัว เขาอยากรู้ว่าหลี่ซวนคิดจะทำอะไรกันแน่
“พวกคุณไม่ต้องพูดคำพูดพวกนี้เพื่อมากระตุ้นอารมณ์ฉันหรอกนะ ถึงยังไงอีกเดี๋ยวพวกคุณก็จะรู้ถึงความสุดยอดเก่งกาจของฉันแล้ว!”
แม้ว่าโหวหย่งจะช่วยอะไรไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าหลี่ซวนจะมีที่พึ่งแค่คนเดียวสักหน่อย
ตอนแรกหลี่ซวนกะที่จะอาศัยโอกาสนี้เพื่อที่จะล้มหลินซูอิน ถ้าหลินซูอินถูกโค่นแล้ว จะมีความเป็นไปได้มากว่าเธอจะได้เป็นตัวแทนของโรงเรียนไปเข้าร่วมการแข่งขัน อีกอย่าง เรื่องครั้งที่แล้ว เป็นไปได้ยังไงที่หลี่ซวนจะไม่เข้าใจ ตัวเองไม่มีโหวหย่งมาเป็นที่พึ่งพิงแล้ว ถ้าอย่างนั้นมีความเป็นไปได้สูงว่าเนี่ยเฟิงอาจจะมาจัดการกับเธอก็ได้!
ดังนั้นหลี่ซวนจึงวางแผนที่จะลงมือก่อนดีที่สุด
พวกเขามาถึงห้องทำงานของรองผู้อำนวยการโรงเรียน เพิ่งจะเดินเข้าไป สีหน้าของรองผู้อำนวยการก็เผยให้เห็นถึงรอยยิ้มที่แสนเบิกบาน ที่แท้รองผู้อำนวยการกับหลี่ซวนสองคนนี้ก็มีความสัมพันธ์กันนี่เอง
หลี่ซวนรู้ว่ารองผู้อำนวยการคนนี้เป็นผู้ชายเลว ชอบลวนลามบุคลากรผู้หญิง แต่การให้รองผู้อำนวยการลวนลามมันก็มีประโยชน์อยู่เหมือนกัน
ตอนแรกหลี่ซวนอยากที่จะอยู่กับโหวหย่ง เพราะว่าโหวหย่งตระกูลร่ำรวยแถมเป็นกรรมการของโรงเรียนอีก ส่วนรองผู้อำนวยการก็แค่เป็นคนจนๆน่าสมเพชคนหนึ่งเท่านั้น
แต่ตอนนี้โหวหย่งจบเห่ไปเรียบร้อยแล้ว หลี่ซวนจึงต้องหาเป้าหมายรองลงมา
หลี่ซวนขยิบตาให้กับรองผู้อำนวยการหนึ่งที
จริงๆแล้วรองผู้อำนวยการก็คิดไม่ซื่อกับหลินซูอินอยู่ก่อนแล้วเช่นกัน
แต่เสียดายที่หลินซูอินเอาแต่แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ หลบหน้ารองผู้อำนวยการมาตลอด ดังนั้นรองผู้อำนวยการจึงไม่สามารถทำอะไรหลินซูอินได้
แถมหลินซูอินก็เอาเหรียญรางวัลมาให้กับโรงเรียนมากมายขนาดนั้น ถึงรองผู้อำนวยการจะมีความคิดอย่างว่า แต่ก็ไม่มีความกล้ามากพอ
ดังนั้นรองผู้อำนวยการจึงมาคบชู้กับหลี่ซวน ตอนนี้หลี่ซวนจึงกุมจุดอ่อนของรองผู้อำนวยการเอาไว้อยู่ในมือ
แบบนี้ถือว่าพวกเขาสองคนเต็มใจกันทั้งสองฝ่าย คนหนึ่งกล้าตีอีกคนกล้าโดน พวกเขาทั้งสองคนก็ไม่ใช่คนดีกันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แน่นอนว่าต่างคนต่างหลอกใช้ซึ่งกันและกัน
พอหลี่ซวนเข้ามาก็เล่าเรื่องก่อนหน้านี้ไปจนหมดเปลือก หลังจากรองผู้อำนวยการได้ฟังจนจบก็ตบโต๊ะด้วยความโมโห ชี้หน้าหลินซูอินพร้อมกับพูดขึ้นทันที
“ครูหลิน ปกติแล้วผมเห็นคุณเป็นคนมีความยุติธรรมเที่ยงตรง คิดไม่ถึงว่าคุณจะเป็นคนแบบนี้!”
หลินซูอินถลึงตาโตอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“รองผู้อำนวยการเรื่องพวกนี้ล้วนเป็นคำพูดลอยๆของหลี่ซวนทั้งนั้น หาต้นสายปลายเหตุไม่ได้นะคะ หรือว่าคุณเชื่อจริงๆเหรอ?”
“คำพูดพวกนี้ของครูหลี่ ผมคิดว่าเป็นเรื่องจริง!ยังไงซะตบมือข้างเดียวมันก็ไม่ดังอยู่แล้ว ไม่มีมูลหมามันไม่ขี้หรอก ผมว่าคุณคงจะใช้ความสวยของตัวเองมาเป็นสิทธิพิเศษบ่อยล่ะสิท่า จึงมีคนมากมายคอยให้คุณหลอกใช้อยู่เสมอ!”
หลินซูอินรู้สึกโกรธขึ้นมาทันที
“รองผู้อำนวยการ คุณก็เป็นครูที่สั่งสอนคนเหมือนกัน คุณพูดคำพูดพวกนี้ออกมาได้ยังไง? คุณพูดแบบนี้เท่ากับว่าคุณกำลังดูถูกบุคลากรผู้หญิงตั้งมากมายอยู่นะคะ จะโตมาเป็นคนแบบไหน พวกเราไม่สามารถเลือกได้หรอกนะคะ อีกอย่างพวกเราแต่งเนื้อแต่งตัวก็เพื่อให้มันเหมาะสมกับงานนี้ แล้วคุณมาคิดแบบนั้นได้ยังไง?!”
“นี่มันไม่เกี่ยวอะไรกับผม ถึงยังไงที่ครูหลี่พูดก็มีเหตุมีผล ในเมื่อเป็นแบบนี้ ผมก็จะพักงานคุณชั่วคราว คุณกลับไปสำนึกผิดก่อนก็แล้วกัน รอโรงเรียนแจ้งให้คุณทราบเมื่อไร คุณก็ค่อยกลับมาเข้าสอน!”
โรงเรียนของพวกเขาเป็นโรงเรียนเอกสารชั้นสูง สิ่งที่สำคัญที่สุดในการปลูกฝังสั่งสอนเด็กๆก็คือคุณงานความดี
โดยเฉพาะวิชาเลือกพวกศิลปะ ได้รับความนิยมที่สุดของโรงเรียนพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงมีครูด้านศิลปะ ดนตรีที่ยอดเยี่ยมอยู่จำนวนไม่น้อย
แต่เมื่อเทียบกับคนอื่นๆแล้ว หลินซูอินค่อนข้างมีชื่อเสียงมากกว่า
หลี่ซวนพอได้ยินรองผู้อำนวยการบอกให้หลินซูอินพักงาน ก็ยิ้มอย่างดีอกดีใจออกมาทันที ในใจคิดไว้ว่าวันนี้จะต้องมีเรื่องที่ได้ดั่งใจตัวเองสักหนึ่งเรื่องสิ
หลินซูอินทำการสอนไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นเธอก็ไม่มีสิทธิ์เป็นตัวแทนของจังหวัดไปเข้าร่วมการแข่งขันแล้วสินะ ถึงตอนนั้นโควต้าของคนที่ได้ไปเข้าร่วมการแข่งขันก็คงจะต้องตกเป็นของหลี่ซวนแล้วใช่ไหม? เธอดูเงียบๆแต่พอได้ลงมือแล้วมันก็ทำให้น่าประหลาดใจอยู่ไม่น้อยเลย
หลี่ซวนยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้น ยิ้มออกมาทันทีอย่างอดไม่ได้
พวกเขาทั้งสองคนแอบสบตากัน แต่การกระทำเล็กๆนี้ไม่สามารถหลบพ้นสายตาของเนี่ยเฟิงไปได้
เนี่ยเฟิงดูก็รู้แล้วว่าจะต้องมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลอยู่เบื้องหลังแน่นอน
ถ้าไม่อย่างนั้นทำไมหลี่ซวนจะต้องดึงดันที่จะมาร้องขอความยุติธรรมที่ห้องของรองผู้อำนวยการด้วยล่ะ?
“รองผู้อำนวยการ ฉันรู้สึกว่าการตัดสินใจแบบนี้ไม่ถูกต้องนะคะ……”
“ผมไม่ต้องการความเห็นของคุณ ความเห็นของผมเท่านั้นที่มีผล อีกอย่างคุณลองคิดดู คุณเป็นครูที่ให้ความรู้กับคนนะ ถ้าเหตุการณ์แบบนี้ไปถึงหูของผู้ปกครองเข้า พวกเราจะรับผิดชอบผู้ปกครองยังไง