พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 18 ใครกล้าลงมือกับเขา?
บทที่ 18 ใครกล้าลงมือกับเขา?
วันรุ่งขึ้น เนี่ยเฟิงตื่นตั้งแต่เช้า เขามองดูนาฬิกาข้อมือ พยักหน้า วันนี้เป็นวันคิดบัญชี เขาจะรอดูว่าอาคารฟางเจิ้งนั้นราบเรียบไปหรือยัง
“นายจะไปไหน?”
ขณะที่เนี่ยเฟิงกำลังจะแอบออกไปข้างนอกเงียบๆ ทันใดนั้นชิวมู่เฉิงก็พูดขึ้น
เนี่ยเฟิงถึงกลับตัวสั่น จากนั้นก็พูดอย่างแห้งๆว่า: “พี่ใหญ่ ทำไมพี่ไม่ไปที่บริษัท?”
“งานที่บริษัทจัดการไปได้พอสมควรแล้ว นายตั้งใจที่จะไปอาคารฟางเจิ้ง?”
เนี่ยเฟิงอึ้งไป “พี่ใหญ่ พี่รู้ได้อย่างไร?”
“ลุงสี่มาหาที่นี่ นายตั้งใจจะไปจัดการฟางซื่อเหาคนเดียว?”
เนี่ยเฟิงคิดไม่ถึงว่าเมื่อวานตอนที่เขากับคางเมิ่งไปแข่ง เนี่ยเหล่าสี่จะมา เนื่องจากเรื่องที่ฟางซื่อเหาระดมคนมากมายมาล้อมคฤหาสน์ เปิดโปงตำแหน่งของคฤหาสน์ เนี่ยเหล่าสี่กังวลมาก ก็ไม่มีเวลารักษา ถึงได้มาหา
“พี่ใหญ่ พี่ก็รู้ว่าสำหรับผมแล้วบ้านเดิมมีความหมายมาก ผมจำเป็นต้องไป พี่ไม่ต้องขวางผม”
เนี่ยเฟิงหน้าเข้มทันที พูดอย่างจริงจังมาก
“อืม ไม่ได้ตั้งใจจะขวางนาย ไปเถอะ ขึ้นรถ”
“อ๋า?”
เนี่ยเฟิงอึ้งไป “พี่ใหญ่ พี่ พี่จะไปส่งผม?”
“พ่อแม่นายก็คือพ่อแม่พี่ พวกเราจะทำเป็นไม่สนใจได้อย่างไร? พี่บอกพี่สาวทั้งหลายของนายแล้ว ไป ก็ถึงเวลาที่จะให้พวกเขาได้รับรู้ถึงความสามารถของพวกเราตระกูลเนี่ยแล้ว”
ในตอนนั้นดวงตาของเนี่ยเฟิงรู้สึกร้อน “เยี่ยม!”
พวกเขาขับรถไปถึงอาหารฟางเจิ้งอย่างรวดเร็ว ฟางซื่อเหารู้ว่าเนี่ยเฟิงจะมา ดังนั้นจึงจัดวางคนเสร็จตั้งแต่เช้า
เขาเรียกรวมคนมีฝีมือของกลุ่มมืดมานับพันคน ดักซุ่มอยู่ภายในอาคารฟางเจิ้ง ก็เพื่อที่จะให้เนี่ยเฟิงตายอย่างไร้ที่ฝังศพ
ในเวลานั้นเอง กก็มีรถมาเซราติสีขาวขับเข้ามาจอดที่สนาม หญิงงามที่สวมใส่เสื้อเสื้อผ้าสีขาว สวนแว่นตาดำเดินลงมา ดูเหมือนว่ารูปร่างของเธอจะดีมาก “ดูท่าน่าจะเป็นที่นี่”
ฟางซื่อเหามองจนดวงตาตรงแล้ว ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร? ทำไมถึงได้สวยงามขนาดนี้?
ยังไม่ทันให้เขามีปฏิกิริยาตอบกลับ ก็มีรถBMWสีแดงขับเข้ามาอีกคัน
ที่ลงจากรถลงมาคือสองสาวงามขั้นสุด คนหนึ่งใส่ชุดกี่เพ้า ผมสีดำเป็นลอนกระจายออกจากกัน ที่หางตามีไฝคนงามหนึ่งเม็ด เป็นสาวงามที่ราวกับว่าเดินออกมาจากภาพวาดในสมัยโบราณ!
อีกคนนั้นสีหน้าเคร่งขรึม สายตาเฉียบแหลม แลดูมีความสามารถในการทำงาน ผมมัดหางม้า มีกลิ่นอายของราชินีที่ทำให้คนยอมสวามิภักดิ์
สาวสวยทั้งสามทำให้คนพวกนั้นน้ำลายหก
ในตอนนั้นเองชิวมู่เฉิง คางเมิ่ง และเนี่ยเฟิงก็มาถึง
คางเมิ่งวิ่งลงมาจากรถ คล้ายกับผีเสื้อที่กำลังเต้นรำรวดเร็วฉับไว “พี่สาม พี่สี่ พี่ห้า ไม่เจอกันนานเลยนะคะ!”
“เป็นน้องเจ็ดเองหรอ”
บนใบหน้าของคนงามแบบโบราณปรากฏรอยยิ้มอ่อนโยนขึ้น เธอก็คือพี่คนที่สามหลินซูอิน
พี่สี่หมิงอี๋หานพยักหน้าเบาๆ และพี่ห้าโจวลี่ซือที่กำลังมองไปรอบๆ: “ไม่ใช่ว่าเสี่ยวเฟิงก็มาด้วยหรอ? อยู่ไหนละ?”
พวกพี่สาวเครียดขึ้นมาทันที พวกเธอได้รู้ข่าวว่าเนี่ยเฟิงยังมีชีวิตอยู่ ก็รีบร้อนมาในทันที
“พวกพี่สาว ผมก็คือเสี่ยวเฟิง!”
เนี่ยเฟิงได้พบพวกพี่สาว ทันใดนั้นตื่นเต้นเป็นอย่างมาก พวกพี่สาวของเขานั้นมีเสน่ห์เพาะตัวท่าทางอ่อนหวาน!
โดยที่ทั้งหมดนั้นก็อยู่ในสายตาของฟางซื่อเหา!
เนี่ยเฟิงช่างน่ารังเกียจนัก!
“เนี่ยเฟิง! แกไม่มีใครหนุนหลังหรือไง ถึงได้พาทหารหญิงมากลุ่มหนึ่ง!”
ฟางซื่อเหาเดินกร่างลงมา ด้านหลังของเขาเต็มไปด้วยคนมีฝีมือในกลุ่มมืด
เนี่ยเฟิงมองอออกว่าครั้งนี้นั้นมีจำนวนคนมากกว่าครั้งที่แล้วมาก
ฟางซื่อเหาลำพองใจสีหน้าทุเรศเป็นพิเศษ “ครั้งที่ปล่อยให้แกหนีไปได้ ไม่ได้หมายความว่าครั้งนี้แกจะรอดไปได้!”
เนี่ยเฟิงกวาดสายตาไปมองคนที่ฟางซื่อเหาหามา เทียบพวกกับครั้งที่ไปล้อมคฤหาสน์แล้วมีฝีมือมากกว่าจริงๆ ดูท่าแล้วฟางซื่อเหาหวังเก็บเกี่ยวจากการลงทุนอย่างมาก
“ฟางซื่อเหา ฉันไม่ได้บอกแกแล้วหรือไง? ว่าให้เวลาแกสามวันในการทำลายที่นี่ให้ราบเป็นหน้ากลอง แกกลับไม่ฟัง?”
เนี่ยเฟิงยืนขวางข้างหน้าพวกพี่สาวเอาไว้ วันนี้เขาก็เป็นเหมือน หนึ่งคนเฝ้าด่าน ทหารนับหมื่นมิอาจย่างกราย
“แกนับเป็นอะไรได้? ถึงแม้ว่าฉันจะทำลายสุสานบรรพบุรุษของพวกแก แล้วแกจะทำอะไรฉันได้?”
ฟางซื่อเหาหัวเราะอย่างเยือกเย็น มองชิวมู่เฉิงที่ยืนอยู่ด้านหลังเนี่ยเฟิงก็รู้สึกเดือดดาลขึ้นในใจทันที
“ชิวมู่เฉิง เธอทำให้ฉันเสียหน้าต่อหน้าคนที่มีตำแหน่งสูงมากมาย ฉันไม่มีวันปล่อยเธอไปแน่! สวรรค์มีทางกลับไม่ไป นรกไร้ประตูกลับแส้เข้ามา วันนี้ฉันจะทำให้พวกแกมาได้แต่กลับไปไม่ได้! ฆ่าพวกมันให้หมด!”
ฟางซื่อเหาโกรธจนตาแดงทั้งสองข้าง พวกผู้มีฝีมือด้านหลังเขาหลังจากที่ได้รับคำสั่งก็รีบเตะต่อยออกมา
คางเมิ่งที่เห็นสถานการณ์เช่นนี้ ก็ถึงกลับตกใจทันที ชิวมู่เฉิงกลับหรี่ตา: “ปกป้องเสี่ยวเฟิง!”
พวกพี่สาวรีบล้อมเป็นวงกลมโดยให้เนี่ยเฟิงอยู่ตรงกลางของวง
ทันใดนั้นเนี่ยเฟิงไม่รู้ว่าจะร้องได้หรือหัวเราะดี เขาจะยอมให้พี่สาวปกป้องเขาได้อย่างไร?
อีกอย่างหนึ่ง ที่นี่มีคนเกือบจะเป็นพันคน คนมากขนาดนี้ถึงแม้ว่าพวกเธอจะสามารถคาดการได้แต่อย่างไรก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้
ชิวมู่เฉิงพึ่งจะจัดการล้มไปคนหนึ่ง ใครจะรู้ว่าจะมีเงาดำมาลอบทำร้าย!
เธอกำลังคิดที่จะโต้กลับ แต่ยังไม่ได้จะโดนอีกฝ่าย จู่ๆคนๆนั้นก็ถูกตีฟุบไปแล้ว!
ชิวมู่เฉิงรู้สึกได้ถึงอานุภาพอันแข็งแกร่งและรุนแรงมาจากทางด้านหลังของเธอ!
เธอตกใจ เธอยังคงไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา จากที่เต็มไปด้วยคนมีฝีมือ คิดไม่ถึงว่าจะบาดเจ็บและตายไป!
“เร็วมาก!”
โจวลี่ซือลืมตาจนลูกตาดำที่สวยงามนั้นโต
แต่ทว่าในตอนนี้พวกเธอก็สนใจอะไรไม่ได้มากมาย เพราะว่าศัตรูช่างมากมายจริงๆ!
ขณะที่เนี่ยเฟิงปลดปล่อยตัวตน เคลื่อนไหวไปมาในกลุ่มคนนี้ จัดการพวกเขาพี่น้องไม่ให้มีโอกาสอีก พลันก็มีเสียงปืนดังขึ้นมา!
ทุกคนถูกเสียงปืนทำให้ตกใจกลัว!
รถตำรวจยี่สิบกว่าคันคำรามเข้ามา ที่ลงมาจากรถคือกลุ่มตำรวจพิเศษพร้อมปืนและกระสุนจริง พวกเขาใส่เสื้อเกราะ ในมือถือโล่ป้องกันและปืนกล ได้รับการฝึกฝนมา จัดแถวหน้ากระดาน
“ใครกล้าลงมือกับเขา!”
เย่หรูเสว่ที่อยู่ในชุดตำรวจ บุคลิกสง่าผ่าเผย ทรงพลังเหมือนกับต้นไม้ ยืนรวมอยู่ในกลุ่มตำรวจพิเศษ ดูเหมือนไม่มีอะไรแต่ทว่าน่าเกรงขาม
“เย่หรูเสว่ เป็นแกอีกแล้ว!”
ฟางซื่อเหากัดฟันด้วยความโกรธ!
เย่หรูเสว่มองฟางซื่อเหาอย่างเยือกเย็น “ครั้งที่แล้วปล่อยแกให้หนีไปได้ แต่ทว่าครั้งนี้จะไม่มีทางให้แกหนีไปได้อีก จับกุมเขา!”
“ใครกล้า!”
ฟางซื่อเหาตวาด “แกรู้ไหมว่าพ่อบุญธรรมฉันเป็นใคร!”
เย่หรูเสว่รู้ว่าฟางซื่อเหาคนๆนี้จะต้องมีเบื้องบนอีก ไม่อย่างนั้นครั้งที่แล้วจะหลุดไปได้ง่ายๆได้อย่างไร?
“ทำไมต้องสนใจว่าแกจะเป็นใคร! คิดจะทำร้ายเสี่ยวเฟิง ฉันก็จำเป็นจะต้องกำจัดแก!”
“ใครให้อำนาจแกมากขนาดนั้น!”
ในเวลานั้นเอง ก็มีรถตำรวจพรั่งพรูเข้ามา รองผู้อำนวยการสำนักงานตำรวจลงมาจากรถ มองเย่หรูเสว่เย็นๆ “เย่หรูเสว่ คุณใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า หรือคุณคิดว่าสำนักงานตำรวจเป็นบ้านคุณ?”
หลังจากที่ฟางซื่อเหาเห็นรองผู้อำนวยการมา บนใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มแห่งความยินดี
“ตอนนี้ฉันขอถอดถอนอำนาจหน้าที่คุณชั่วคราว เอาปืนประจำกายออกมา! ยังมีจับพวกที่ก่อเรื่องก่อกวนสังคมให้หมด”
ที่รองผู้อำนวยการชี้ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็คือเนี่ยเฟิง
เย่หรูเสว่รู้ว่ารองผู้อำนวยการเป็นพวกเดียวกับฟางซื่อเหา แน่นอนว่าไม่สามารถมองเนี่ยเฟิงถูกจับไปได้ เธอยกมือขึ้นทันที ยิงปืนขึ้นเตือนอีกครั้ง “ใครที่กล้าทำร้ายเนี่ยเฟิง ฉันก็จะยิงคนนั้นให้ตาย!”
“เย่หรูเสว่! คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังพูดอะไรอยู่?”
รองผู้อำนวยการตกตะลึงอย่างไม่มีอะไรเทียบได้ คิดไม่ถึงว่าเย่หรูเสว่ กล้าที่จะต่อต้านคำสั่ง!”รองผู้อำนวยการ คุณคิดจะทำร้ายเสี่ยวเฟิงไหม?”
เย่หรูเสว่หันปากกระบอกปืนไปทางรองผู้อำนวยการ และปืนในมือตำรวจพิเศษที่อยู่ข้างกายรองผู้อำนวยการก็หันมาทางเย่หรูเสว่ พริบตาเดียวสถานการณ์ก็เปลี่ยนเป็นตึงเครียด
ในช่วงที่ไม่มีใครยอมใครนั่นเอง ทันใดนั้นบนพื้นก็มีเสียงดังกึกก้องดังขึ้นมา จากไกลจนใกล้ แม้กระทั่งพื้นก็กำลังสั่นสะเทือน ทุกคนต่างสงสัยและมองไปยังที่มาของเสียง เห็นเป็นรถหุ้มเกราะสีขาว รถถังขนาดใหญ่จากที่ไกลๆกำลังเข้ามา
ที่กลิ้งอยู่ภายในควันบุหรี่เข้มข้น ก็คือครูปรับปรุงกองทหารใหม่ทั้งห้าคน ทหารนับแสนคนได้ปิดล้อมที่นี่เอาไว้ แน่นขนัดไปด้วยปากกระบอกปืน ปากกระบอกปืนล้วนเล็งเป้าไปที่ตำรวจพิเศษที่รองผู้อำนวยการนำมารวมถึงคนทั้งหมดภายในอาคารฟางเจิ้ง
คนหนึ่งพันคนเผชิญหน้ากับทหารบกนับแสนคน ง่ายๆเลยก็คือเป็นเหมือนเม็ดกรวดขนาดเล็ก
รถจิ๊ปทหารกันคันหนึ่งที่ควบคุมทุกฝ่ายหยุดอยู่ตรงกลาง ผู้หญิงที่ใส่ชุดแม่ทัพ บนใบหน้าเพ้นสีน้ำมันอย่างบ้าระห่ำเดินลงจากรถมา สีหน้าจริงจังพูดว่า: “ฉันคือผู้บัญชาการเขตการต่อสู้ตงไห่หยูจิงหง พวกคุณถูกล้อมเอาไว้หมดแล้ว ขอให้ละทิ้งการต่อต้านที่ไร้ประโยชน์”
เพียงแค่หยูจิงหงยกมือขึ้น บนฟ้าก็มีเสียงดังกึกก้องลอยมา เครื่องบินยิงทำลายยี่สิบลำ เครื่องบินรบ 30 ลำตั้งขบวนบินมา
“พวกเราคือกองทัพอาการหัวเซี่ย อาคารสำนักงานใหญ่ของฟางซื่อกรุปถูกหน่วยทหารของฉันตั้งเป็นเป้าหมายในการโจมตีเรียบร้อยแล้ว ขอให้ผู้คนที่ไม่เกี่ยวข้องหลีกหนีจากบริเวณใกล้ๆอาคารใหญ่อย่างรวดเร็ว หลังจากห้านาทีพวกเราจะโจมตีที่นี่ทันที”