พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 19 ไม่มีใครสู้ได้
บทที่ 19 ไม่มีใครสู้ได้
มีเสียงสัญญาณออกมาจากเครื่องบินรบ และผู้คนที่อยู่ด้านล่างทั้งหมดนี้ถูกกำหนดเวลาของสงครามตกตะลึงจนพูดไม่ออก
เนี่ยเฟิงมองหยูจิงหงที่ยืนอยู่บนรถจิ๊ปอย่างสง่าผ่าเผย ทันใดนั้นก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ พี่สองของเขานั้นเป็นคนที่มีความสามารถโดดเด่นจริงๆ
เนี่ยเฟิงในสภาพแวดล้อมที่วุ่นวายเช่นนี้ เข้าร่วมรบหลายครั้ง เขาได้ประสบการณ์อย่างมากมาย แต่ที่คล้ายพี่สอง
หยูจิงหงของเขามีความกล้าหาญขนาดนี้เพิ่งจะเคยเห็น
ฟางซื่อเหาเห็นภาพนี้ก็ตกใจจนแทบจะฉี่รดกางเกง คนๆนี้แท้จริงแล้วมีที่มาที่ไปอย่างไรกันแน่? รถหุ้มเกราะเครื่องบินรบพวกนี้ไม่มีทางที่จะเป็นของปลอม!
แต่ที่เมื่อกี้นี้ยกตนข่มท่านอย่างรองผู้อำนวยการหลังจากที่เห็นสงครามเช่นนี้ ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าเหงื่อแตก เขาอดไม่ได้ที่จะจ้องมองฟางซื่อเหาอย่างโหดร้าย
แม่มันเถอะ เดิมทีคิดว่าเรื่องนี้สามารถจัดการได้โดยง่ายดายแต่คิดไม่ถึงว่าฟางซื่อเหาจะไปแหย่เข้ากับคนของฝ่ายทหาร!
ฟางซื่อเหามองขอความช่วยเหลือไปทางพ่อบุญธรรมของตนเอง แต่ทว่ารองผู้อำนวยการไม่ตั้งใจที่จะช่วยเหลือฟางซื่อเหาอีกต่อไป
รองผู้อำนวยการไอแห้งๆหนึ่งที จากนั้นหันไปโบกมือให้ตำรวจพิเศษที่อยู่ด้านหลัง “ขอโทษด้วยผู้บัญชาการ พวกเราน่าจะมีเรื่องเข้าใจผิดนิดหน่อย ฉันจะถอดไปตอนนี้ทันที!”
รองผู้อำนวยการไหนเลยจะกล้าเพชรตัดเพชรกับหยูจิงหง? เครื่องบินรบที่อยู่เหนือศีรษะนี้ถ้าปล่อยขีปนาวุธออกมา พวกเขาทั้งหมดก็ต้องจบเห่
รองผู้อำนวยการพูดจบก็รีบวิ่งหนีไปที่รถ รีบเรียกคนขับรถให้ขับออกไปทันที
ฟางซื่อเหาเห็นพ่อบุญธรรมของตัวเองหนีอย่างมืดมน เขารีบหดหัวหดตัวหลบอยู่ในกลุ่มคน คนตั้งมากมาย ถึงแม้เขาจะไม่ค่อยฉลาดนักแต่ก็รู้ว่าไม่สามารถแข็งข้อได้!
เขาฉวยโอกาสตอนที่วุ่นวายกันอยู่นั้น ฝ่าเท้าเหมือนทาน้ำมันไว้หนีออกไปทันที
“น่ารังเกลียจ! นั้นที่หดหัวอยู่ในกระดองหนีแล้ว!”
หลังจากที่มีคนหนุนหลัง คางเมิ่งก็ไม่กลัวไม่แต่นิดเดียว คางเมิ่งหันหัวไปหาร่องรอยของฟางซื่อเหาทันที แต่คิดไม่ถึงว่ากลับไม่เจอฟางซื่อเหา
ในตอนนี้เองเนี่ยเฟิงก็กลับมามีสมาธิอีกครั้ง เมื่อกี้นี้เขามัวแต่มองพี่สอง ก็ลืมไปเลย ว่ายังมีเรื่องที่ต้องจัดการ เขาหันหัวไปก็ไม่พบร่องรอยของฟางซื่อเหาจริงๆ
“ช่างมัน ยังไม่ต้องสนใจเขาชั่วคราว คนๆนั้นหนีไปได้ พระหนีวัดไปไม่ได้”
เย่หรูเสว่ด้านหนึ่งพูดอยู่ อีกด้านก็วิ่งเข้ามาหา เธอตรวจดูสภาพของเนี่ยเฟิงอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็ถอนหายใจออกมา “ยังดีที่นายไม่เป็นอะไร”
“เสี่ยวเฟิงจะเกิดเรื่องได้อย่างไร พวกเราพี่สาวไม่กี่คนออกจะร้ายกาจ อันธพาลพวกนั้นไม่มีทางที่จะโดนแม้แต่ปลายเสื้อผ้าของเสี่ยวเฟิง!”
คางเมิ่งลูบจมูกตัวเองอย่างยินดีปรีดา
เวลานี้เองหยูจิงหงก็เดินเข้ามา
ในบรรดาพี่สาวทั้งหลาย หยูจิงหงเป็นคนที่สูงที่สุด ผมของเธอนั้นสั่นศีรษะทุกอย่างชัดเจน ทำให้คนที่เห็นรู้สึกว่าความสามารถในการทำงานไม่มีใครเทียบได้ เธอสวมใส่ชุดทหาร ยิ่งทำให้เธอดูน่าเกรงขามมากยิ่งขึ้น
แต่ว่าตอนที่หยูจิงหงหัวเราะขึ้นมากลับมีลักยิ้มเล็กๆทั้งสองข้าง ทำให้ความน่าเกรงขามนั้นหายไปหายใจพริบตา
“เป็นเสี่ยวเฟิงของบ้านพวกเราจริงๆ คิดไม่ถึงว่าเวลาผ่านไปเพียงแป๊ปเดียวกลับโตขึ้นตั้งเยอะแล้ว สูงกว่าพี่สองอีก! ”
หยูจิงหงเห็นเนี่ยเฟิงยังมีชีวิตอยู่ ก็รู้สึกว่าดวงตาชื้นเล็กน้อย ตอนแรก
หยูจิงหงก็แค้นเคืองตัวเอง ที่ไม่มีปัญญาปกป้องเนี่ยเฟิง ดังนั้นไม่ว่าอย่างไรก็ตามจะต้องสอบเข้าโรงเรียนทหาร
เธอไม่สามารถที่จะควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ กอดเนี่ยเฟิงเข้ามาให้อ้อมกอด เนี่ยเฟิงชะงักไป รู้สึกว่าอ้อมกอดของพี่สองยังคงอบอุ่นเหมือนเดิม
“พอแล้วพี่สอง ในเมื่อเสี่ยวเฟิงยังมีชีวิตอยู่อย่างดี งั้นวันเวลาที่พวกเราจะคุยกันในเรื่องอดีตยังมีอีกมาก ตอนนี้จัดการเรื่องให้เรียบร้อยก่อนดีไหม? ”
โจวลี่ซือพูดปลอบใจ
หยูจิงหงพยักหน้าเห็นด้วย “เสี่ยวเฟิง พวกเราถอยไปข้างหลังก่อน พวกเราจะทำลายอาคารนี้ด้วยระเบิด”
เนี่ยเฟิงพยักหน้ารับ เดินตามคนส่วนใหญ่ถอยไปด้านหลัง พวกทหารบกของหยูจิงหงเข้าไปค้นหาในอาคารอย่างละเอียด หลังจากยืนยันได้ว่าไม่ได้สิ่งมีชีวิต เธอก็ออกคำสั่ง
การปล่อยขีปนาวุธลงสู่พื้นนั้นต้องผ่านการคำนวณที่ละเอียดรอบคอบ พริบตาเดียวที่ปล่อยออกมา ไม่ใช่แค่เพียงฝีมือชั่วพริบตา อาคารฟางเจิ้งถูกทำลายราบเป็นหน้ากลอง
“รีบดำเนินการเก็บกวาดทันที!”
หลังจากที่ระเบิดทำลายเสร็จเรียบร้อย หยูจิงหงก็ยกมือขื้น เรียกรวมทหารบกที่อยู่ด้านหลัง มิน่าหยูจิงหงถึงได้นำทหารบกมาเป็นจำนวนมาก ที่แท้ก็เพื่อที่จะดำเนินการชำระล้างที่นี่กำแพงที่ทรุดโทรมอาคารที่รกร้างได้ด้วยระดับความเร็วที่เร็วที่สุด
ทหารบกหนึ่งแสนคนที่ได้รับการฝึกมาอย่างดีใช้เวลาสองชั่วโมงในการจัดการให้สะอาดเรียบร้อย
เดิมทีที่นี่มีอาคารสูง แต่ทว่าตอนนี้ตัวอาคารนั้นได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยเรียบร้อยแล้ว เหลืออยู่ก็แค่พื้นที่ราบเรียบเท่านั้น
เนี่ยเฟิงมองสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย รู้สึกดวงตาร้อน ที่นี่เดิมทีเป็นบ้านของบรรพบุรุษของพวกเขา แต่ว่าตอนนี้ไม่มีอะไรเหลือแล้ว
“เสี่ยวเฟิง นายไม่ต้องเสียใจไป นายต้องเชื่อคน เพียงแค่ยังมีชีวิตอยู่ก็มีความเป็นไปได้ทั้งนั้น”
หลินซูอินดูออกว่าเนี่ยเฟิงนั้นอารมณ์ไม่ดี ก็เดินมาข้างหน้าค่อยๆพูดให้สบายใจ
หลินซูอินไม่เพียงแต่รูปร่างหน้าตาเหมือนหญิงงามในสมัยโบราณ แม้แต่เสียงพูดก็ยังไพเราะอ่อนหวาน เต็มไปด้วยนิสัยที่ชอบปลอบโยนเป็นอย่างยิ่ง หลังจากที่เนี่ยเฟิงได้ฟังแล้ว ก็รู้สึกสบายใจขึ้นเยอะ
“ลุงสี่ ตอนนั้นลุงสร้างสุสานนั้นไว้ที่ไหนกัน?”
ทันใดนั้นเนี่ยเฟิงก็เอ่ยปาก เนี่ยเหล่าสี่ที่จมอยู่ในกลุ่มคนรีบออกมาจากกลุ่มคน เดินมาที่ตรงหน้าเนี่ยเฟิง “คุณชาย ผมจะพาไปตอนนี้เลย”
เนี่ยเหล่สี่จะสามารถลืมสุสานที่ตัวเองลงมือก่อตั้งได้อย่างไร?
เขาเดินขาเป๋นำทางอยู่ด้านหน้า หลังจากที่อาคารถูกทำลายราบเป็นหน้ากลอง ไปที่ไหนก็โกร๋นไปหมด ดูไปแล้วก็เหมือนโดนภัยพิบัติ
แต่ว่าที่นี่เก็บกวาดได้เรียบมาก ดังนั้นถึงแม้ว่าเนี่ยเหล่าสี่จะเดินไม่สะดวก แต่ก็สามารถพาพวกเขามาถึงที่กองเนินหน้าสุสานได้อย่างราบรื่น
พ่อแม่ของเนี่ยเฟิงถูกฆ่าขณะอยู่บนเรือสำราญ ถูกทิ้งลงทะเลเป็นอาหารปลา กระดูกไม่มีเก็บไว้ตั้งนานแล้ว ของอย่างเดียวที่เป็นสิ่งที่ให้นึกถึงได้ก็คือสุสานของบรรพบุรุษและสุสานที่ตอนนั้นเนี่ยเหล่าสี่เป็นคนจัดการ
ที่นี่มีเคยมีความทรงจำในสมัยเด็กของเนี่ยเฟิงมาก่อน เนี่ยเฟิงเพียงแค่นึกถึงก็เจ็บปวดใจไปหมด
เขากำหมัดแน่น หายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็พูดว่า: “พ่อ แม่ ผมมีชีวิตกลับมา พวกท่านก็วางใจได้ ความแค้นของพวกท่านผมจะแก้แค้นให้แน่นอน ผมจะต้องหาให้เจอให้ได้ว่าแท้จริงแล้วใครเป็นคนทำร้ายพวกท่าน ไม่มีทางปล่อยให้พวกท่านตายอย่างไม่เป็นธรรม ”
หยูจิงหงรอคนจนหน้าขรึม
“เสี่ยวเฟิง แปลนสุสานบรรพบุรุษในตอนนั้นพี่ได้ให้คนซ่อมเรียบร้อยแล้ว นายมาดูถ้าไม่มีปัญหาอะไร งั้นพวกเราก็ก่อสร้างสุสานบรรพบุรุษตามแบบในตอนนั้น”
ชิวมู่เฉิงพูดพร้อมกับยื่นแปลนไปให้
เนี่ยเฟิงตกตะลึงคิดไม่ถึงว่าพวกพี่สาวของเขา ระดับความเร็วจะรวดเร็วขนาดนี้ เขาซึ้งใจเป็นอย่างมากในตอนที่รับแปลนไป มองดูแปลนหนึ่งรอบคล้ายกับในความทรงจำของเขาไม่ผิด
“ไม่มีปัญหา!”
“ลงมือทำได้ทันที”
หยูจิงหงยกมือขึ้น สั่งการลงไป
อย่างไรก็ตามห้องนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะทำเสร็จออกมาได้ในเวลาอันสั้น แต่ทว่าในความทรงจำของเนี่ยเหล่าสี่ พวกเขาหาสุสานที่ฝังเสื้อผ้าและสิ่งของของคนตายเจออย่างราบรื่น
สุสานที่ฝังเสื้อผ้าและสิ่งของของคนตายถูกทำขึ้นมาใหม่ หมิงอี๋หานส่งคนไปก่อสร้างป้ายหน้าหลุมศพ ตอนนี้ก็ส่งมาแล้ว