พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 191 คิดหาวิธีอื่น
บทที่ 191 คิดหาวิธีอื่น
“คุณอยากรู้หรือเปล่า? ถ้าอยากรู้ก็สามารถนับถือผมเป็นอาจารย์ได้นะ”
เนี่ยเฟิงแค่พูดล้อเล่นไปเท่านั้นแต่คิดไม่ถึงว่าโรเบิร์ตจะพูดอย่างนอบน้อมและจริงใจว่า
“ผมอยากรู้ว่าสุดท้ายแล้วคุณจะสามารถขุดเลือดคั่งที่กดทับเส้นประสาทในสมองของหล่อนได้อย่างไร เพราะทักษะทางการแพทย์ของคุณดีมาก ถ้าสามารถทำได้ ผมก็อยากจะนับถือคุณเป็นอาจารย์จริงๆนะครับ!”
พอโรเบิร์ตพูดจบ “ตูม” เสียงคุกเข่าลงกับพื้นก็ดังขึ้น “พวกคุณคนจีน เวลาที่จะคุกเข่าขอเป็นศิษย์ดูเหมือนว่าต้องคุกเข่าลง!”
เมื่อเนี่ยเฟิงมองไปที่โรเบิร์ตซึ่งอาจเป็นปู่ของเขาได้คุกเข่าลงให้ตัวเขา ทำให้เขาเหมือนรู้สึกว่าไม่รู้จะทำอย่างไรดี เขาจึงโบกมือและเชิญเขาให้ลุกขึ้น
“คุณโรเบิร์ตครับ คุณไม่จำเป็นต้องเคร่งเครียดขนาดนี้หรอก ผมแค่ล้อคุณเล่นเอง”
“แต่ผมไม่ได้ล้อเล่นนะครับ ผมอยากเรียนจริงๆ!”
ดวงตาสีฟ้าคู่นั้นของโรเบิร์ตเต็มไปด้วยความจริงใจ
“การแพทย์แผนจีนนั้นลึกซึ้งกว้างไกล ไม่ได้หมายความว่าอยากจะเรียนก็สามารถเรียนได้ง่ายๆแต่ในเมื่อคุณอยากเรียน ผมก็สามารถสอนคุณได้”
โรเบิร์ตได้ยินเนี่ยเฟิงพูดดังนั้นเขาก็ดีใจเหมือนอย่างเด็กๆขึ้นมาทันที “นี่คือเรื่องจริงใช่ไหมครับ”
“คุณบอกว่าคุณมีใจที่จะช่วยชีวิตผู้ที่กำลังจะตาย และเมื่อเห็นว่าคุณได้รับรางวัลโนเบลสาขาการแพทย์แล้ว งั้นผมจะสอนคุณก็ได้”
เดิมทีโรเบิร์ตมีตาราง งานต่อไปอยู่แล้ว แต่เพื่อที่จะสามารถเรียนรู้การแพทย์ที่ยอดเยี่ยมเมื่อครู่นั้นได้ ดังนั้นโรเบิร์ตจึงขอให้ผู้ช่วยของเขาช่วยเลื่อนตารางงานที่เหลือออกไป
เนี่ยเฟิงมองไปที่ฟางหัว และตู้ซงที่ตื่นเต้นอยู่นั้นไปแวบหนึ่ง เขาจึงก้าวไปข้างหน้าและบอกตู้ซงว่า “ภรรยาของคุณเพิ่งฟื้นเมื่อครู่นี้ และตอนนี้สภาพจิตใจของหล่อนยังไม่สู้ดีมาก ดังนั้นทางที่ดีคุณควรปล่อยให้หล่อนพักผ่อน และรอหลังจาก 3 วันผ่านไป อาการของภรรยาคุณก็จะดีขึ้นมาก เมื่อถึงตอนนั้นแค่ต้องบำรุงรักษาร่างกายหน่อยก็ได้แล้ว”
ตู้ซงพยักหน้าและมองไปที่ฟางหัวภรรยาของเขาอย่างน้ำตาคลอ ซึ่งฟางหัว ณ ตอนนี้ก็ดูเหมือนอ่อนระโหยโรยแรงเหลือเกิน หล่อนหลับตาลง และเผลอหลับไปอย่างมึนงง
หลังจากเดินออกจากห้องผู้ป่วยแล้ว ตู้ซงกุมตัวเองไว้แล้วโดนเตะ และเขาเองก็เจ็บท้องจนต้องก้มลงอย่างรวดเร็ว คุณเนี่ย เมื่อครู่เป็นผมเองที่เข้าใจคุณผิด ผมขอโทษครับ!”
“สถานการณ์เมื่อครู่ค่อนข้างฉุกเฉินดังนั้นผมจึงเตะคุณไปทีหนึ่งไม่งั้นคุณก็กลับไปตรวจสอบดูดีดีอีกครั้งสิครับ”
เนี่ยเฟิงเกรงว่าแรงเตะของตัวเองในครั้งนี้คงมากไปหน่อย หรือไม่บางทีกระดูกของอีกฝ่ายอาจร้าวไปเลยก็เป็นได้
ตู้ซงยิ้มและส่ายหัว “ไม่เป็นไรครับ คุณหมออัจฉริยะครับ ลูกเตะของคุณลูกนี้นี่ค่อนข้างคล่องเลยทีเดียว! แต่ผมก็ไม่เป็นอะไรเลยสักนิด!”
แม้ว่าคำพูดจะพูดไปอย่างนั้น แต่ตู้ซงก็ยังรู้สึกว่าเรื่องราวภายในของเขาพันกันจนเป็นกองและความเจ็บนั้นเรียกว่าการแสยะยิ้มด้วยความเจ็บปวด
แต่ก็สมน้ำหน้าตู้ซงแล้ว เพราะเมื่อครู่หลังจากที่เห็นอัตราการเต้นหัวใจคงที่ของฟางหัวแล้ว ตู้ซงก็รู้สึกรีบร้อนและยุ่งมากจนไม่สามารถจัดการอะไรได้มากขนาดนั้น ดังนั้นเขาจึงโถมตัวเข้าสู้กับเนี่ยเฟิงอย่างสุดชีวิต แต่คิดไม่ถึงว่าเนี่ยเฟิงจะสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยให้กลับมาแข็งแรงดังเดิมได้
ตู้ซงจึงไม่สามารถจัดการอะไรได้ขนาดนั้น ดังนั้นจึงเห็นแต่เขาคุกเข่าแล้วมือยันกับพื้น พร้อมกับก้มศีรษะของเขาลงสามครั้งให้เนี่ยเฟิงอย่างฉับพลัน “คุณหมออัจฉริยะครับ ภรรยาของผมเป็นคนที่สำคัญที่สุดสำหรับผม หากไม่มีภรรยาผมคงไม่มีวันนี้ได้ วันนี้คุณช่วยชีวิตภรรยาผมแล้ว ผมก็ไม่รู้ว่าจะตอบแทนคุณอย่างไรดี!”
เนี่ยเฟิงได้แต่โบกมือ “ไม่ใช่เพื่อผมจะได้รับอะไรบางอย่างจากคุณ ถึงจะช่วยชีวิตภรรยาคุณ แต่เพราะผมรู้ ว่าการช่วยคนหนึ่งชีวิต ยิ่งกว่าสร้างเจดีย์เจ็ดชั้น และในขณะเดียวกันภรรยาของคุณก็ช่วยผมด้วย ซึ่งมันแน่นอนว่าจะต้องคอยออกมือช่วยเหลือกัน”
“แท้จริงแล้วเป็นพระโพธิสัตว์กวนซีหยินที่คอยช่วยเหลือความทุกข์ยากนี่เอง! ขอบคุณเป็นอย่างมากสำหรับพระคุณการช่วยชีวิตของคุณหมออัจฉริยะนะครับ!”
พอตู้ซงพูดจบก็อยากจะก้มหัวลงอีกครั้ง แต่เนี่ยเฟิงกลับโบกมือ “อายุคุณตอนนี้สามารถเป็นพ่อผมได้แล้วนะ ถ้ายังจะก้มหัวให้ผมอีก ผมอาจอายุสั้นไปอีกก็ได้นะครับ”
ตู้ซงแสยะยิ้มและลุกขึ้นจากพื้น เขากุมท้องพร้อมกับลูบท้องตัวเอง
เมื่อชิวซือมี่เห็นกลุ่มคนที่ปลาบปลื้มยินดีเป็นที่สุดนั้น ในใจหล่อนก็รู้สึกอิจฉาเป็นอย่างมาก มีสิทธิ์อะไรกัน เดิมทีคุณงามความดีนี้ควรเป็นของหล่อนถึงจะถูก! แต่ตอนนี้กลับตกอยู่กับตัวเนี่ยเฟิงและชิวมู่เฉิงสะงั้น!
ชิวซือมี่กัดฟันกรามตัวเอง ในใจคิดว่าตัวหล่อนเองไม่สามารถอยู่ที่นี่ต่อไปได้อีก ดังนั้นหล่อนจึงเช็ดฝ่าเท้าและอยากจะหนีไป
“ชิวซือมี่ เมื่อครู่เธอมีเจตนาอะไรกันแน่?”
ชิวมู่เฉิงไม่ได้คิดที่จะปล่อยชิวซือมี่ไป หล่อนจึงหันหน้าไปทันที และเมื่อเห็นว่าชิวซือมี่กำลังจะเดินจากไป จึงออกปากพูดเพื่อหยุดหล่อนไว้ทันที
“ชิวมู่เฉิง เธอพูดน่ะต้องเห็นความสำคัญกับหลักฐานด้วยนะ! เมื่อครู่ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ ทั้งทั้งที่เธอเป็นคนที่ชนเองนะ นี่มันสามารถโทษฉันได้ด้วยเหรอ? บางทีเธออาจมีความลับอยู่ก็ได้ คงกังวลว่าเนี่ยเฟิงจะไม่สามารถช่วยชีวิตภรรยาของคุณตู้ได้ ดังนั้นนั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงจงใจทำ! ”
อย่างไรก็ตามเป็นไปไม่ได้ที่ชิวซือมี่จะยอมรับได้ นอกจากนั้นวิดีโอนี้ก็ถ่ายไม่ได้อะไรเลยต่อให้ยอมรับ ก็คงไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้ด้วย
“ชิวซือมี่ ครั้งนี้ถือว่าเธอโชคดีนะ แต่ไม่ว่าผู้คนจะทำอะไรก็ย่อมอยู่แก่ใจ”
ชิวมู่เฉิงรู้ว่าชิวซือมี่เป็นคนปากจัด ถ้าวันนี้เธอไม่สามารถจับจุดอ่อนของหล่อนได้ ก็คงจะไม่มีวิธีอื่นแล้ว
“เธอกำลังขู่ฉันงั้นเหรอ? ฉันจะบอกให้นะว่าฉันไม่กลัวหรอก เพราะฉันไม่หวาดกลัวอะไรทั้งนั้น!”
ชิวซือมี่ส่งเสียงเย็นชา จากนั้นจึงหนีไปพร้อมกับเลขาฯของหล่อน
หลังจากที่ชิวซือมี่จากไปเมื่อยิ่งคิดเรื่องนี้มากขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น และเมื่อนึกถึงว่าครอบครัวของพวกเขาใช้เงินไปมากมายแต่กลับเหมือนกับการปาหินลงน้ำ หล่อนก็โกรธเป็นอย่างมาก
“ฉันยังคิดว่าการเชิญคุณหมอโรเบิร์ตที่จ่ายเงินไปเยอะขนาดนั้นมาจะสามารถช่วยชีวิตภรรยาของตู้ซงได้แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะให้เนี่ยเฟิงเป็นที่สนใจ! ฉันอดทนไม่ไหวแล้วนะ!”
“คุณหนูรองคะ คุณหนูว่าตอนนี้พวกเราควรทำยังไงดีคะ?”
“ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าต้องทำยังไงบ้างถ้าฉันรู้ว่าต้องทำยังไง ฉันคงจะโต้ตอบไปทันทีแล้ว!”
ชิวซือมี่จ้องมองไปที่เลขาฯของหล่อนอย่างดุร้าย แต่คิดไม่ถึงว่าคุณย่าชิวจะโทรมาในตอนนี้
เมื่อมองไปที่หมายเลขผู้โทรเข้าแล้วชิวซือมี่ก็รู้สึกกลัวเล็กน้อย แต่ก็ยังรับสาย
“เป็นยังไงบ้าง? ตู้ซงตกลงที่จะร่วมมือกับเราแล้วหรือยัง?”
“คุณย่าคะ…เกิดปัญหานิดหน่อยค่ะ”
“อะไรนะ! เกิดปัญหาอะไรขึ้น?”
คุณย่าชิวขมวดคิ้วอย่างงุนงง
“หนูเจอพี่ใหญ่ค่ะ…”
“ชิวมู่เฉิงเหรอ? เพราะพวกเขายังแย่งโครงการนี้อยู่ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจ เพราะอ่าวนกยูงอยู่ในเมืองจินไห่ เธอก็รู้ว่าอ่าวนกยูงกำลังจะได้รับการพัฒนาแล้ว เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่ไปแย่ง แต่คนที่เราเชิญมาเป็นคุณโรเบิร์ตนะ
ตราบใดที่คุณหมอโรเบิร์ตอยู่ เช่นนั้นความสำเร็จก็อยู่ในมือเราแล้ว”
“นี่มัน…”
“เราจ่ายเงินไปเยอะมากในการเชิญคุณหมอโรเบิร์ตมานะ อย่าบอกย่านะว่าหนูทำไม่สำเร็จ!”
เวลาที่คุณย่าชิวโกรธขึ้นมามันช่างน่าหวาดกลัวมาก
ชิวซือมี่ก็ไม่กล้าบอกคุณย่าชิวว่า เนี่ยเฟิงช่วยชีวิตภรรยาของตู้ซงไว้ ถ้าคุณย่าชิวรู้เรื่องนี้แล้ว หล่อนคงจะโกรธมากและชิวซือมี่เองก็ทนฟังเสียงร้องตะโกนด้วยความโมโหของคุณย่าชิวไม่ได้
“มันจะไม่สำเร็จได้ยังไงกันล่ะคะ? คุณย่าไม่ต้องกังวลไปหรอกค่ะ ทุกอย่างจะราบรื่นค่ะ!”
“เป็นแบบนี้ก็ดีมากแล้ว ย่าจะบอกหนูนะว่า ครอบครัวเราทุบเงินไปมากขนาดนั้น ก็เพื่อที่จะชนะโครงการอ่าวนกยูง และไม่ว่าอย่างไรหนูต้องนำข่าวดีกลับมาให้ได้ ไม่เช่นนั้นหนูก็อย่าเป็นคุณหนูรองอีกเลย!”
หลังจากคุณย่าชิวพูดจบก็วางสายไป ชิวซือมี่ก็ทรุดตัวลงนั่งบนที่นั่งของหล่อนอย่างแขนขาอ่อนแรง
“คุณหนูรองคะ ความจริงเป็นสิ่งที่ไม่อาจปิดบังได้ เราจะต้องคิดหาแผนการรับมือแล้ว!”