พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 193 ผู้คนต่างตระหนกอกสั่น
บทที่ 193 ผู้คนต่างตระหนกอกสั่น
แม้ว่าหงต้าเป่าจะชอบผู้หญิง แต่หงต้าเป่าก็รักเงินมากกว่า
แต่เรื่องนี้ก็เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของตัวเองอยู่แล้ว หงต้าเป่ารู้ดีว่าหากโครงการอ่าวนกยูงพัฒนาขึ้นมาจะต้องทำเงินได้มากมายอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงลงทุนไปตั้งแต่เนิ่นๆ
เงิน 1.5 พันล้านที่มีอยู่ในเงินพัฒนาโครงการ 5 พันล้านนั้นหงต้าเป่าเป็นคนลงทุนไป
แม้ว่าบริษัทเทียนหลงจะยึดบิลได้ในจำนวนมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าบริษัทเทียนหลงจะสามารถทำโครงการอ่าวนกยูงได้สำเร็จ
นอกจากนี้ ยังไงโครงการนี้ก็มุ่งเน้นไปที่คนทั้งประเทศ หากถึงตอนนั้นเรื่องเสียๆหายๆ ของประธานหญิงแห่งบริษัทอสังหาริมทรัพย์เทียนหลงถูกขุดขึ้นมาละก็จะทำยังไงกันเน้อ?
หงต้าเป่าสังเกตชิวมู่เฉิงอย่างละเอียดจากหัวจรดเท้า แล้วคิดในใจว่าถ้าชิวมู่เฉิงสามารถอยู่เป็นเพื่อนเขาตลอดทั้งคืนที่สวยงามในฤดูใบไม้ผลิได้ เขาก็คงสามารถพิจารณาที่จะลงทุนต่อไปได้ ถ้าไม่ได้เช่นนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงเลย อย่างไรก็ตามเขาก็ยังถือฐานะผู้นำไว้ในมืออีกด้วย และทุกคนที่อยู่ในที่จัดงานล้วนไม่ใช่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ซึ่งมีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้น!
“ประธานชิวครับ ผมชื่นชมและยกย่องคุณมานานแล้วครับ มาๆให้เรามาจับมือกันหน่อย
หงต้าเป่าพูดไปด้วยและยิ้มไปด้วย จากนั้นก็ยื่นมือออกมาส่วนชิวมู่เฉิงก็มองไปที่มืออันอ้วนท้วมของหงต้าเป่า ในใจก็รู้สึกลังเลขึ้นมาทันที แต่หล่อนก็รู้คุณสมบัติของงานในคืนนี้เช่นกัน ดังนั้นจึงยื่นมือที่สวยเรียวนั้นไปทันทีที่หงต้าเป่าจับมือของชิวมู่เฉิง หลังจากที่เขาเริ่มจับมือก็พบว่ามือของชิวมู่เฉิงนั้นนุ่มนวลราวกับว่าไม่มีกระดูก ดังนั้นเขาจึงฉวยโอกาสแตะเนื้อต้องตัวหล่อน
ชิวมู่เฉิงอยากดึงมือกลับมา แต่กลับทำไม่ได้
เมื่อเนี่ยเฟิงเห็นฉากนี้ เขาก็ก้าวออกไปข้างหน้าอย่างไม่สงบ และเหยียบเท้าไว้บนรองเท้าหนังของหงต้าเป่าจากนั้นจึงได้ยินเพียงเสียงกรีดร้องเหมือนหมูที่กำลังโดนเชือดของหงต้าเป่า!
ในห้องโถงใหญ่ที่กำลังล่องลอยอยู่นั้น ซึ่งเดิมทีมีเสียงดนตรีที่ไพเราะและเบาสบาย แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นเหมือนเสียงเชือดหมูที่น่าหวาดกลัว และทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะหันมองไปตามทิศทางของเสียงนั้น
ทุกคนต่างพากันรู้สึกว่ามันน่าแปลกมาก
หงต้าเป่าเจ็บจนต้องร้องไห้หาพ่อเรียกแม่เขานั่งย่อตัวลงอย่างรีบร้อนพร้อมกับกุมเท้าตัวเองไว้ แต่นิ้วเท้าของเขาก็โดนเหยียบจนหักไป!
ชิวซือมี่ก็คิดไม่ถึงว่าเนี่ยเฟิงจะดุร้ายขนาดนั้นได้และถึงขั้นเหยียบเท้าของหงต้าเป่าจนเน่าไปเลย!
ชิวซือมี่รู้ว่าคนอย่างหงต้าเป่าเป็นคนประเภทที่ไม่รู้จักพอ ดังนั้นในขณะที่หงต้าเป่าจับมือของชิวมู่เฉิงชิวซือมี่ถึงได้มีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่นขนาดนั้น
เมื่อเห็นชิวมู่เฉิงโดนกระทำอย่างน่ารังเกียจนั้นชิวซือมี่ก็รู้สึกมีความสุขอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
แต่ใครไปจะรู้ว่า เนี่ยเฟิงไม่ได้คำนึงถึงเลยว่าหงต้าเป่าจะเป็นผู้ลงทุน และยังทำร้ายหงต้าเป่าไปอย่างไม่คาดคิด!
“ท่านหงคะ! ท่านคงไม่เป็นไรนะคะ? ท่านรู้สึกยังไงบ้างคะ?”
ชิวซือมี่โน้มตัวลงอย่างรวดเร็ว หล่อนเห็นว่ามือที่กุมเท้าของหงต้าเป่านั้นเปื้อนไปด้วยเลือด!
เนี่ยเฟิงคนนี้ไม่รู้ว่าใช้แรงไปเยอะแค่ไหนถึงเหยียบนิ้วเท้าของหงต้าเป่าจนเน่าไปอย่างนั้น!
“เนี่ยเฟิง! นี่คุณกำลังทำอะไร! ถึงขั้นกล้าทำร้ายคนเลยงั้นเหรอ!”
ชิวซือมี่มองเนี่ยเฟิงด้วยความโกรธ
เนี่ยเฟิงส่งเสียงหัวเราะอย่างเย็นชา “ผมไม่เพียงแค่ทำร้ายคนนะ ยังอยากจะฆ่าคนเสียอีก”
“นี่คุณ! คุณ!”
หงต้าเป่าสั่นด้วยความเจ็บปวด “ไอ้เลวเอ๊ย! ชิวซือมี่เคยบอกผมว่าเวลาที่บริษัทเทียนหลงของพวกคุณไม่น่าเชื่อถือ และผมก็ไม่ได้พูดอะไรสักคำ ผมยังคิดว่าชิวซือมี่เข้าใจพวกคุณผิด แต่คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะเป็นความจริง! ผมจะถอนหุ้น! และเรียกคืนเงิน! ”
เมื่อหงต้าเป่าพูดออกไป ผู้คนเกือบทั้งงานต่างก็พากันโกลาหล!
หากหงต้าเป่าถอนหุ้นจริงๆ เช่นนั้นโครงการสวนนิเวศวิทยาอ่าวนกยูงก็จะถูกเลื่อนออกไป
และไม่สามารถคาดการณ์การดำเนินการพัฒนาได้เลย นับว่าเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับกลุ่มนักลงทุนของพวกเขากันเลยทีเดียว!
“ท่านหงครับ ที่ท่านพูดจริงหรือครับ?”
นักลงทุน คนอื่นๆ ต่างก็ตื่นตระหนกเล็กน้อย โดยนักลงทุนที่มาที่นี่ มีเป็นเกือบร้อยคน และงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ก็เพ่งความสนใจไปที่การดำเนินการพัฒนาอ่าวนกยูงอีกด้วย
ทุกคนต่างก็พึ่งพาท่านหงกันเท่านั้น ในฐานะที่เขาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด และเขายังเป็นเป้าหมายในการส่งเสริมความก้าวหน้าที่เป็นไปตามระเบียบของแผนทั้งหมด
1.5 พันล้านไม่ใช่จำนวนน้อยๆเลยนะ! ถ้าเขาถอนหุ้น เช่นนั้นก็อย่าแม้แต่จะคิดเลยว่าโครงการใหญ่ของทุกคนนี้จะไปได้ดี
ดังนั้น ทุกคนจึงมองไปที่เนี่ยเฟิงด้วยสายตาที่ประณาม
“นี่มันแน่นอนอยู่แล้ว! ประธานชิวของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เทียนหลงสมยอมให้แฟนของหล่อนกระทำรุนแรงกับผม ในเมื่อวันนี้หล่อนสามารถทำเรื่องแบบนี้กับผมได้ ก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าพรุ่งนี้จะทำให้ผลประโยชน์ของเราอยู่บนเขียงได้! และพวกเราก็ยอมทุ่มทุนอย่างยากลำบากเพื่อพัฒนาอ่าวนกยูง แล้วจะให้พวกเราไปเชื่อถือคนแบบนี้ได้ยังไงกัน?
หงต้าเป่าเจ็บจนหน้าบูดบึ้ง แต่ก็ยังพูดคำเหล่านี้ออกไปอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ซึ่งคำพูดที่เขาพูดนั้น ก็ปลุกความเชื่อมั่นเป็นอย่างมากและเดิมทีทุกคนก็ดูเขาลงทุนแล้วลงทุนตามเขา
และในตอนนี้ที่หงต้าเป่าบอกว่าเขาต้องการที่จะถอนหุ้น เช่นนั้นพวกเขาก็คงจะไม่ลงทุนต่อไปด้วยเช่นกัน และเงิน 1.5 พันล้านหยวนก็จะถูกถอนออกไป ซึ่งผู้ถือหุ้นที่เหลือถ้าไม่ลงทุนไปหลาย10 ล้านหยวน ก็คงลงทุนมากสุดแค่1 หรือ2 พันล้านเท่านั้น
1.5 พันล้านไม่ใช่จำนวนน้อยๆเลยนะ
“ใช่แล้ว ทำไมถึงปล่อยให้คนแบบนี้เข้ามาได้ ก่อนหน้านี้ฉันก็ได้ยินเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์เทียนหลงของพวกเขาเหมือนกันนะ แม้ว่าจะได้รับการชี้แจงแล้ว แต่ใครจะรู้ว่าตกลงเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แล้วใครจะไปรู้อีกล่ะ?”
“บางทีอาจไม่ใช่ก็ได้นะ? ดังคำกล่าวที่ว่าตบมือข้างเดียวไม่ดัง ฉันเลยไม่เชื่อไงเพราะข่าวลือไม่ใช่ว่าจะไม่มีมูลเสีย”
ทุกคนน่ะพูดขึ้นมาคนละปาก คนละคำ ราวกับว่าสิ่งที่พวกเขาพูดเป็นความจริง
ชิวมู่เฉิงขมวดคิ้วอย่างไม่หยุดหย่อน หล่อนยืนบังอยู่หน้าเนี่ยเฟิงโดยไม่รู้ตัว ดูเหมือนท่าทางนั้น จะคิดปกป้องเนี่ยเฟิงจนถึงที่สุด
เพราะเพื่อที่เนี่ยเฟิงจะช่วยหล่อนเขาถึงให้บทเรียนกับหงต้าเป่า
“ขอทุกท่านโปรดอย่าฟังคำพูดที่โกหกและใส่ร้ายเหล่านั้นเลยค่ะ พวกเราบริษัทสังหาริมทรัพย์เทียนหลงร่วมมือกับอีกหลายองค์กร หากบริษัทสังหาริมทรัพย์เทียนหลงไม่มีความสามารถนี้แล้ว เช่นนั้นจะสามารถยึดบิลมากมายขนาดนั้นได้อย่างไรกันละคะ? ”
“ใครไปจะรู้ว่าคุณได้รับบิลพวกนี้มาได้อย่างไร? บางทีคุณอาจได้มาโดยการทุจริตหรือร้องขอ คนอื่นเลยมอบให้กับคุณ”
ชิวซือมี่พูดเยาะเย้ยอย่างไม่สนใครอยู่ข้างๆ เป็นเพราะหล่อนทำตัวเองทั้งนั้น ดังนั้นหล่อนจึงรู้สึกว่าทุกอย่างที่ชิวมู่เฉิงมีในตอนนี้ มันขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชาแล้ว
“ชิวซือมี่ เธออย่าคิดว่าทุกคนจะสกปรกเหมือนเฉกเช่นเธอนะ เธอมันสามหาว และมันก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะอย่างนั้น”
ชิวมู่เฉิงจ้องชิวซือมี่อย่างเย็นชา “และอย่านำฉันมาเปรียบเทียบกับเธอ”
เดิมทีชิวซือมี่เสียเปรียบมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ยิ่งหล่อนคิดเท่าไหร่ก็ยิ่งโมโหขึ้นเท่านั้น ถ้าไม่ใช่เพราะชิวมู่เฉิงและเนี่ยเฟิง หล่อนก็คงจะประสบความสำเร็จในการร่วมมือกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์จี๋เสียงไปแล้วแล้วทำไมยังจะมีเรื่องบ้าอะไรพวกเขาสองคนนี้อีก?
และเพื่อเชิญคุณโรเบิร์ตมา พวกเขาจึงใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยไป ซึ่งในตอนนี้พวกเขาไม่สามารถนำเงินก้อนนี้กลับคืนมาได้และยังไม่สามารถร่วมมือกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์จี๋เสียงได้อีก นี่นับว่าเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับตระกูลชิวพวกเขาเลยนะ
เพื่อที่ชิวซือมี่จะสามารถกอบกู้สถานการณ์กลับมาได้ ดังนั้นถึงได้จงใจประจบนักลงทุนหงต้าเป่า
เหมือนกับว่าสวรรค์กำลังช่วยหล่อน เนี่ยเฟิงจึงรู้สึกอิจฉาอย่างที่คาดไว้ และทุบตีคนไปแบบนี้ซึ่งในตอนนี้ไม่ว่าทั้งคู่จะแก้ต่างอย่างไร ก็ฟังไม่ขึ้นแล้ว!
ยิ่งชิวซือมี่คิดเรื่องนี้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น และบนใบหน้าแสดงรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยการมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นอย่างอดไม่ได้
“ในเมื่อมันมาถึงจุดจุดนี้แล้วก็ลองดูสิว่าใครจะสูงส่งกว่าใคร เธอก็ลองคิดดูสิ ตอนแรกที่แต่งงานกับฟางซื่อเหาก็เพื่อผลประโยชน์นิ แต่พอออกจากประตูไปก็วิ่งหนีตามคนรักไป ซึ่งเรื่องนี้ทุกคนต่างก็รู้ดี!”
“เพราะอะไรทำไมฉันถึงต้องแต่งงานกับฟางซื่อเหานั้น ในใจเธอรู้ดีที่สุด และโปรดอย่ามาย้อนกลับถูกเป็นผิดที่นี่เลย”
เพื่อที่ตระกูลชิวจะไต่ขึ้นสู่ระดับต่อไป เรื่องที่ใช้ลูกบุญธรรมตัวเองมาเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้นใน เมืองจินไห่ก็ไม่ใช่ความลับอะไร นอกจากนี้แล้วฟางซื่อเหาและครอบครัวของเขาจะล้มเหลวกันทุกคนได้อย่างไร เชื่อว่าทุกท่านที่นั่งอยู่ที่นี่คงเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนอย่างแน่นอน