พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 194 การเดิมพันครั้งใหญ่
บทที่ 194 การเดิมพันครั้งใหญ่
แต่หงต้าเป่าก็ไม่ได้สนใจในเรื่องพวกนี้ เรื่องที่เนี่ยเฟิงเหยียบหลังเท้าของเขาเจ็บจนปางตายนั้นหงต้าเป่าจะปล่อยพวกเขาสองคนไปได้อย่างไรกันล่ะ?
ไม่ว่าอย่างไรหงต้าเป่าก็จะเรียกคืนเงิน หงต้าเป่าฝั่งนี้ก็อยากจะเรียกคืนเงิน และส่วนคนอื่นๆก็ต่างก็พากันตื่นตระหนก ถ้าหงต้าเป่าถอนหุ้นออกไป เช่นนั้นพวกเขาก็ไม่สามารถคิดจะลงทุนในโครงการอ่าวนกยูงอีกต่อไป และไม่ว่าอย่างไรก็ตามก็ไม่อาจรู้ได้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะหานักลงทุนมาได้อีก 1.5 พันล้านหยวน
หากสามารถหานักลงทุนในระยะเวลาอันสั้นได้ ก็ยังนับว่าไม่เลว อย่างน้อยโครงการนี้ก็ยังสามารถดำเนินการต่อไปได้ แต่ถ้าหานักลงทุนไม่ได้ เช่นนั้นงบประมาณของพวกเขาจะได้รับผลประโยชน์น้อยลง
พวกเขาล้วนเป็นนักธุรกิจ และคิดแต่เพื่อประโยชน์เท่านั้น
“ชิวมู่เฉิง ถ้าคุณยังอยากอยู่ในสายงานอสังหาริมทรัพย์ต่อไปล่ะก็ ทางที่ดีคือให้มันคุกเข่าขอโทษผม ไม่อย่างนั้นเรื่องนี้คงไม่จบแน่ ในเมื่อผมสามารถลงทุนในโครงการอ่าวนกยูงได้นั่นก็หมายความว่าผมมีเส้นสาย! ครั้งนี้พวกคุณล่วงเกินผม และผมจะไม่ยอมปล่อยไป เว้นแต่จะสามารถเกลี้ยกล่อมให้ผมดีใจได้เท่านั้น!”
หงต้าเป่าแทบจะพ่นคำเหล่านี้ออกมาจากซอกฟัน และเมื่อชิวซือมี่ได้ยินหงต้าเป่าพูดแบบนี้ ก็ดีใจเป็นอย่างมากคิดในใจว่าในที่สุดหงต้าเป่าก็กระโชกกระชั้นแล้ว!
ถ้าหงต้าเป่าสู้กับบริษัทอสังหาริมทรัพย์เทียนหลงแล้ว เช่นนั้นหากบริษัทอสังหาริมทรัพย์เทียนหลงอยากจะอยู่ในเมืองจินไห่ต่อไป คงเป็นเรื่องยาก!
นอกเสียจากตอนนั้นเขาสามารถใช้ตัวเองร่วมมือกับหงต้าเป่าได้
เพียงแค่ได้รับเงินก็เพียงพอแล้วเพราะเดิมทีสิ่งที่หงต้าเป่ามีก็คือเงิน
แม้ว่าโรเบิร์ตจะขาดทุน แต่โครงการนี้ก็ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้แล้ว เช่นนั้นอ่าวนกยูงจำต้องขาดทุน ถ้าอ่าวนกยูงขาดทุนแล้ว งั้นหล่อนคงสามารถให้คำอธิบายกับคุณย่าชิวแล้ว
ลูกคิดของชิวซือมี่อาจกล่าวได้ว่าดังก้องมาก และหล่อนก็อดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มของผู้ชนะออกมา
“อยากให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์เทียนหลงไม่สามารถอยู่ในเมืองจินไห่ต่อไปได้งั้นเหรอ เธอเอาความมั่นใจจากไหนมาพูดแบบนี้?”
เนี่ยเฟิงเอ่ยปากพูดขึ้นทันที หงต้าเป่าคิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าหมอนี่ยังจะกล้าพูดอีก ทั้งทั้งที่เป็นแค่หนุ่มหน้าขาวที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้น
“ทำไมฉันถึงจะมีความมั่นใจนี้ไม่ได้ล่ะ?” บางทีก่อนที่แกจะล่วงเกินฉันคงยังไม่ไปถามสินะว่าฉันเป็นใคร? ฉันคือตระกูลหงซึ่งเป็นหนึ่งในห้าตระกูลใหญ่ของเมืองเยี่ยนตู! คนที่มีอำนาจมักจะชอบประจบฉัน เพราะสิ่งที่ครอบครัวฉันมีคือเงิน! โดยมีเหมืองทอง เงิน หยก และเหมืองแร่อีกหลายแห่งที่อยู่ในมือของฉัน! ถ้าอยากได้รับการลงทุนจากฉัน ก็ต้องประจบฉันเท่านั้น!”
หงต้าเป่ายิ้มเยาะ “เงินทุนก้อนนี้ฉันถอนออกแล้ว!” เมื่อถึงตอนนั้นแกควรจะยอมรับอุตสาหกรรมสําหรับแบรนด์ของพวกแก เพราะการสูญเสียของคนเหล่านี้ล้วนเกิดจากพวกแก!”
ตามที่คาดไว้จริงๆ กลุ่มคนที่ล้อมรอบอยู่ด้านหลังหงต้าเป่านั้น ต่างจ้องมองไปยังพวกเขาด้วยสายตาเย็นชาและในสายตาของพวกเขานั้นเต็มไปด้วยความเยาะเย้ยและตำหนิ อย่างชัดเจน
“งั้นก็ปล่อยให้โครงการนี้พัฒนาต่อไปก็หมดเรื่องแล้วไม่ใช่เหรอ?”
เนี่ยเฟิงยักไหล่ “ผมกลับคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่โตสะอีก โดนพวกคุณพูดไปซับซ้อนสะขนาดนั้น”
“ไอ้เด็กสารเลวเอ๊ย แกรู้หรือเปล่าว่าแกกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่? นั่นมัน 1.5 พันล้านหยวนนะเว้ย ไม่ใช่แค่ 15 หยวน แล้วแกจะไปลงทุน 1.5 พันล้านหยวนได้อย่างไร?”
หงต้าเป่ายังต้องสงสัยว่าตัวเองฟังผิดหรือเปล่า เจ้าหมอนี่ยังกล้าโม้อีก!
“มันไม่ใช่ 1.5 พันล้านหยวนหรอกเหรอ? อย่าพูดเลยว่าเป็นเงินลงทุน 1.5 พันล้านหยวน แต่มันคือเงินลงทุน 5 พันล้านหยวนเลยนะเว้ย แต่ฉันก็สามารถหยิบเรื่อยเปื่อยไปตามใจชอบได้อย่างง่ายดายเลยล่ะ”
ทันทีที่เนี่ยเฟิงพูดแบบนี้ ทุกคนในงานต่างก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา ช่างเป็นเกิดเป็นลูกไม่กลัวเสือเสียจริง ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนจะยังเรียนไม่จบวิทยาลัยด้วยซ้ำ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าที่จะคุยโวโอ้อวดขนาดนี้
“เนี่ยเฟิง คุณคิดว่าพี่สาวของคุณมีเงิน 1.5 พันล้านจริงๆเหรอ? บริษัทของพวกเขาเพิ่งเริ่มต้นเองนะ และเมื่อรวมสินทรัพย์หมุนเวียนทั้งหมดก็ยังไม่ถึงจำนวนนี้เลย นับประสาอะไรกับสินทรัพย์ถาวรของพวกคุณกันล่ะ อยากเรียนรู้การลงทุนจากคนอื่นต้องดูกำลังตัวเองเสียก่อน!”
ชิวซือมี่ที่อยู่ข้างๆก็หัวเราะจนยืดตัวตรงไม่ได้
“ผมไม่ได้ล้อเล่นนะ ถ้าผมได้รับเงินทุน 5 พันล้านหยวนแล้ว เช่นนั้นทุกคนที่อยู่ในงานนี้ก็สามารถออกไปได้แล้ว? ”
เนี่ยเฟิงไม่ได้ใส่ใจทุกคนที่จะได้รับการล่วงเกินที่นี่เลย
“ไอ้เด็กสารเลวเอ๊ย แกจะกำเริบเกินไปแล้ว!”
“ขอโทษด้วยนะครับ พอดีว่าผมมีทุนที่จะกำเริบครับ”
เห็นเพียงเนี่ยเฟิงก้าวออกมาด้านหน้าและปกป้องชิวมู่เฉิงไว้ด้านหลัง เมื่อครู่ชิวมู่เฉิงยังโดนคนเป็นหมื่นเป็นพันชี้หน้าด่ากราด แต่ในตอนนี้เนี่ยเฟิงกลับเหมือนภูเขาเล็กๆลูกหนึ่ง ที่บังชิวมู่เฉิงไว้แน่น และปิดกั้นสายตาคมกริบของคนเหล่านั้น
“ช่างเป็นน้ำเสียงที่ยิ่งใหญ่เสียจริง!”
“แต่มันก็แค่นั้นแหละ แม้แต่นายท่านหงก็ยังไม่อาจหยิบเงิน 5 พันล้านหยวนออกมาได้ในพริบตาเดียวเลย แกคุญโวอะไรของแกน่ะ!”
“ที่เขาไม่สามารถหยิบออกมาได้เพราะเขาไม่มีความสามารถพอไง”
เนี่ยเฟิงมองหงต้าเป่าที่ยืนไม่ขึ้นจากด้านบนและเท้าของหงต้าเป่าก็ยังเจ็บอยู่
หงต้าเป่าเองก็มีหน้ามีตาอยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน และพวกชนชั้นสูงพอเห็นหงต้าเป่า ต่างก็พากันเรียกเขาว่านายท่านหง
แต่คิดไม่ถึงว่า ในปากของเนี่ยเฟิงเขาจะกลายเป็นเพียงพวกอันธพาลที่ไร้ความสามารถเท่านั้น
“เวรเอ๊ย! ถ้าแกมีความสามารถพอแกก็หยิบออกมา 5 พันล้านหยวนดิวะ!”
“ให้ผมหยิบออกมาน่ะไม่มีปัญหาแน่นอน แต่ถ้าผมสามารถหยิบ 5 พันล้านหยวนออกมาแล้ว เช่นนั้น พวกคุณจะทำอะไรได้? จะถอนหุ้นให้พวกคุณมันคงราคาถูกเกินไป?”
เนี่ยเฟิงกวาดตามองพวกคนที่กำลังนั่งอยู่ และคนอื่นต่างก็มองหน้ากันและกัน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่เชื่อว่าเนี่ยเฟิงจะสามารถหยิบเงินนี้ออกมาได้ และเนี่ยเฟิงเองก็ดูเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น
จะใช้เส้นสายแต่ก็ไม่มีเส้นสายอะไรเลย จะใช้เงินแต่ก็ดันไม่มีเงินอีก เป็นที่แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องเลือกเชื่อหงต้าเป่า และไม่เชื่อว่าเนี่ยเฟิง
“ผมหงต้าเป่าวันนี้ก็จะพูดถึงแค่ตรงนี้ ถ้าแกหาเงินลงทุน 5 พันล้านหยวนได้ภายในวันพรุ่งนี้ เช่นนั้นฉันก็จะให้เงินแก 1.5 ล้านหยวนฟรีๆ ไปเลย! เพื่อเป็นคำขอโทษแล้วกัน!”
หงต้าเป่าก็ไม่เชื่อเช่นกัน! ว่าเจ้าหมอนี่จะสามารถหยิบเงินก้อนนี้ออกมาได้!
“ทุกท่านในที่นี่คงได้ยินชัดกันแล้วนะครับ? แต่คนที่มีแค่คำพูดลอยๆ เชื่อถือไม่ได้อย่างนี้ พวกเราคงต้องช่วยกันเป็นพยานแล้วล่ะ”
เนี่ยเฟิงพูดจบก็หยิบกระดาษและปากกาในห้องโถงมาเขียนลงในสัญญา
“ถ้าผมสามารถทำได้ คุณจะต้องออก 1.5 พันล้านหยวนและคุกเข่าลงขอโทษผม “แต่ถ้าผมทำไม่ได้ เช่นนั้นผมจะสระเงินให้คุณ 1.5 พันล้านหยวน และกระโดดจากที่นี่ลงไป”
เนี่ยเฟิงพูดอยู่อย่างนั้นก็ชี้นิ้วออกไปด้านนอกเพื่อให้พวกเขารู้ แต่กระโดดลงจากชั้น 20 นี้ลงไปก็มีแต่ความตายเท่านั้นนะ
“เสี่ยวเฟิง…”
ชิวมู่เฉิงรู้สึกกระวนกระวายใจ เห็นเพียงหล่อนคว้ามือของเนี่ยเฟิงไว้ เนี่ยเฟิงเงินเดิมพันนี้มันเยอะเกินไปแล้วนะ
เนี่ยเฟิงตบมือชิวมู่เฉิง แล้วพูดกับชิวมู่เฉิงอย่างมั่นใจว่า
“เชื่อผม”
แววตาของเนี่ยเฟิงเด็ดเดี่ยว และชิวมู่เฉิงเองก็ทำอะไรไม่ได้ หล่อนจึงได้แต่พยักหน้า แล้วเลือกที่จะเชื่อเนี่ยเฟิง
เนี่ยเฟิงลงชื่อตัวเอง แล้วกดรอยนิ้วมือลงไป
และคนอื่นๆก็มองฉากนี้ด้วยสายตาที่มีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น
หลังจากที่หงต้าเป่าเซ็นสัญญาเสร็จ ก็ส่งเสียงหัวเราะอย่างเย็นชา “ผมแค่อยากเห็นว่าคุณจะตายยังไงในกี่วัน!”
“ไม่สิ ไม่ต้องผ่านกี่วันหรอก เวลาของผมกับแฟนผมมีค่ามาก เลยจัดการให้ได้ภายในครึ่งชั่วโมงนี้เท่านั้น”
ทันใดนั้นภายในสถานที่จัดงานก็เงียบสงัด จากนั้นก็มีเสียงหัวเราะเยาะเย้ยปะทุขึ้นมา
“นี่มันโม้ไม่ขึ้นแล้วนะ คุณคิดว่าสิ่งที่คุณพูดน่ะยังจะเป็นจริงอยู่ไหมนะ?”
“ครึ่งชั่วโมงเก็บเงิน 5 พันล้านหยวนเลยนะ? คุณคิดว่าคุณเป็นเครื่องปั๊มเงินงั้นเหรอ!