พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 195 ทองคำมูลค่า 5 พันล้าน
บทที่ 195 ทองคำมูลค่า 5 พันล้าน
เดิมทีชิวมู่เฉิงคิดว่าหากยังมีเวลาให้ตั้งหนึ่งวัน เช่นนั้นหล่อนสามารถหาคนอื่นให้ยืมได้ แม้ไม่รู้ว่าจะสามารถยืมได้หรือเปล่า แต่ไม่ว่าอย่างไรหล่อนก็จะจะพยายามทำอย่างสุดความสามารถ แต่คิดไม่ถึงว่าเนี่ยเฟิงกลับบอกว่าเขาจะจัดการให้ได้ภายในครึ่งชั่วโมง…
แม้แต่ชิวมู่เฉิงก็ยังรู้สึกว่านี่เป็นเพียงเรื่องพันหนึ่งราตรีเท่านั้น และเงินตั้ง 5 ร้อยล้านหยวนไม่ใช่ตัวเลขน้อยๆเลย แค่ครึ่งชั่วโมงจะไปรวบรวมเงินจากไหนทันกันล่ะ?
“ถ้าคุณสามารถระดมเงินก้อนนี้ได้ภายในครึ่งชั่วโมง ผมก็จะไม่รับเงินที่ผมลงทุนในอ่าวนกยูงไป! ยกให้คุณไปเลย!”
“ใช่ๆ ไม่ผิด ของผมก็จะให้คุณเช่นกัน ถ้าคุณมีความสามารถเช่นนั้นจริงๆ”
ทุกคนต่างคนต่างแย่งกันพูดขึ้นมา และเนี่ยเฟิงเองก็ยิ้มกริ่มและพูดว่า
“ก็ยังคงเป็นคำนั้น ซึ่งการที่มีแค่คำพูดลอยๆเชื่อถือไม่ได้ยังไงก็ตามพวกคุณก็ต้องเซ็นสัญญาด้วยเช่นกัน”
ถ้ามีเงินแต่ไม่รับมันก็ช่างโง่เง่าเต่าตุ่น และเนี่ยเฟิงก็พูดอีกว่า ถ้าเขาไม่สามารถหยิบเงิน 5 พันล้านหยวนออกมาได้ เช่นนั้นเขาก็จะชดเชยเงินในราคาเดียวกันให้กับพวกเขา
นี่ยังไม่รีบส่งมอบเงินให้พวกเขาอีกเหรอ? แค่ยังไม่รู้ว่าเนี่ยเฟิงจะสามารถหยิบเงินก้อนนี้ออกมาๆได้หรือเปล่า
พวกเขาอยากเห็นเนี่ยเฟิงเสียหน้า ดังนั้นจึงทยอยเซ็นสัญญา
“ในเมื่อพวกคุณได้วางเดิมพันไว้แล้วงั้นก็ดีมาเริ่มกันตอนนี้เลยดีกว่า”
หลังจากที่เนี่ยเฟิงพูดจบก็ยกมือถือขึ้น “การเซ็นสัญญากับพวกคุณเมื่อครู่ทำให้ผมเสียเวลาไปหน่อย งั้นก็ลบเวลานั้นไปเลยดีกว่า และตอนนี้ยังเหลืออีก 15 นาที กล่าวคือผมจะหาเงินทุน 5 พันล้านหยวนภายในเวลา 15 นาทีนี้เอง”
ทุกคนต่างมองไปที่เนี่ยเฟิงด้วยสายตาแห่งการมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น และพวกเขาต้องการดูว่าเนี่ยเฟิงจะสามารถข้ามผ่านอุปสรรคมากมายนี้ไปได้หรือเปล่า
เนี่ยเฟิงโทรออกและพูดกับคนในปลายสายนั้นว่า
“ผมต้องการเงิน 5 พันล้านหยวนตอนนี้ผมอยู่ที่ชั้น 20 ของโรงแรมควีนและผมมีเวลาจำกัดให้คุณจัดการให้เสร็จภายใน 10 นาทีนี้เท่านั้น”
หลังจากที่เนี่ยเฟิงออกคำสั่งไปแล้วก็กดวางสายไป จากนั้นก็มองไปยังคนกลุ่มนั้น
บนใบหน้าของหงต้าเป่าก็ปรากฏรอยยิ้มที่มุ่งร้ายขึ้นมา
แม้ว่าเท้าของเขาจะเจ็บจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว แต่เขาก็ยังสามารถทนรอ 15 นาทีนี้ได้ และเขาก็อยากดูว่าเนี่ยเฟิงที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นจะคุกเข่าและร้องขอความเมตตากับเขาอย่างไร!
กระทั่งชิวซือมี่ก็ได้วางแผนที่จะบันทึกฉากที่น่าสนใจนี้ไว้ เมื่อถึงตอนนั้นก็จะโพสต์ลงบนอินเทอร์เน็ตโดยตรง และมันจะต้องน่าตื่นเต้นมากเลย!
เวลาก็ผ่านไปทุกวินาที แต่พอผ่านไปเกือบสิบนาทีต่อมาทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะดังลั่น
“เนี่ยเฟิง เงิน 5 พันล้านหยวนของคุณล่ะ?”
“ใช่ๆ เงิน 5 พันล้านหยวนของคุณล่ะตอนนี้อยู่ที่ไหนกัน? แม้แต่เงายังไม่มีเลย?”
คิ้วที่สวยงามของชิวมู่เฉิงขมวดเข้าหากัน หล่อนมองไปที่เนี่ยเฟิงที่มีความมั่นใจมากนั้นแล้ว ในใจก็กลับกังวลเป็นอย่างมาก คนกลุ่มนี้มีอำนาจมากนะ หากเนี่ยเฟิงล้อพวกเขาเล่น พวกเขาคงไม่ยอมปล่อยเนี่ยเฟิงไปอย่างแน่นอน
สำหรับสิ่งที่พวกเขาพูดเนี่ยเฟิงคงแค่ฟังเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาแค่นั้น และในตอนนั้นเองเขาก็เหลือบมองในมือถือและเห็นว่ากำลังถึง 10 นาทีพอดี
ในวินาทีต่อมา ก็มีคนเดินเข้ามาจากนอกประตู คนผู้นี้ทำหน้าเย็นชา ซึ่งดูแล้วเหมือนจะเป็นคนที่เข้าหาได้ยาก
เขาหาเงาร่างของเนี่ยเฟิงท่ามกลางฝูงชน หลังจากที่เห็นเนี่ยเฟิงแล้ว เขาก็เดินเข้าไป และโค้งคำนับเนี่ยเฟิง
“คุณเนี่ยครับเงิน 5 พันล้านหยวนที่คุณต้องการผมได้นำมาแล้ว ให้ผมย้ายเข้ามาตอนนี้เลยไหมครับ?”
“โธ่เอ๊ย ยังจะหาคนมาแสดงละครตบตากับแกอีกเหรอ แกนี่ช่างผ่านเรื่องยากลำบากด้วยการทำด้วยใจล้วนๆเลยจริงๆ!”
หงต้าเป่าหัวเราะอย่างเสียงดังออกมาทันที “เนี่ยเฟิงเอ๊ยตอนนี้แกควรพูดคำว่าขอโทษกับฉันได้แล้ว ฉันยังสามารถพิจารณาได้นะ เพื่อแกจะได้ไม่ต้องกระโดดลงไปจากที่นี่”
“ฉันไม่เคยเห็นเรื่องตลกขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต แกรู้หรือเปล่าว่า 5 พันล้านหยวนคือเท่าไหร่? ย้าย 5 พันล้านหยวนมาจากด้านล่างเหรอ ตลกสิ้นดีว่ะ”
ชิวซือมี่รู้สึกว่าตอนนี้เนี่ยเฟิงก็คงดื้อรั้น ดังนั้นหล่อนจึงเอ่ยปากเยาะเย้ยอย่างไร้ความปรานี แต่เนี่ยเฟิงกลับไม่เหลียวแลพวกเขาทั้งสองเลย
“นำของเข้ามา”
เนี่ยเฟิงยกมือขึ้น และในตอนนี้เองกลุ่มบอดี้การ์ดที่สวมชุดสีดำ ก็ใช้รถเข็นเข็นกล่องสีเงินเข้ามาทีละกล่อง
พวกเขาทำความสะอาดโต๊ะ และจัดเรียงกล่องสีเงินไว้เป็นแถวๆ พร้อมกับเรียงตามลำดับทั้งหมดไว้บนโต๊ะ
“อย่าบอกนะว่าสิ่งที่บรรจุไว้ในกล่องเพียงไม่กี่ใบนี้เป็นเงิน 5 พันล้านหยวน!”
“แน่นอน สิ่งที่บรรจุไว้ในกล่องพวกนี้มีมูลค่าครบ 5 พันล้านหยวนแล้ว”
เนี่ยเฟิงพยักหน้าอย่างมั่นใจ จากนั้นก็ออกคำสั่งให้พวกเขา “เปิดกล่องออก”
เมื่อลูกน้องของเนี่ยเฟิงได้ยินคำสั่ง ก็เปิดกล่องออก ทองคำแท่งสีทองที่สดใสและพร่างพราวก็ปรากฏในสายตาของทุกคน
เมื่อทุกคนในงานเห็นทองคำเหล่านี้ก็เงียบไปโดยไม่ได้ตั้งใจ และพวกเขาก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดีไปชั่วขณะหนึ่ง ซึ่งทองคำมากมายขนาดนี้แม้แต่ไปที่ธนาคารก็ใช่ว่าจะสามารถเห็นได้ง่ายๆ แต่กลับปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าพวกเขา
แม้ว่าครอบครัวของหงต้าเป่าจะทำธุรกิจเหมืองแร่ แต่หงต้าเป่าก็ไม่เคยเห็นทองคำแท่งมากมายขนาดนี้มาก่อน
“เนี่ยเฟิง แกใช้ทองคำแท่งปลอมมาหลอกพวกเรางั้นเหรอ!”
เมื่อชิวซือมี่เห็นทองคำแท่งเหล่านี้ ปฏิกิริยาแรกก็คือหล่อนรู้สึกว่าทองคำแท่งพวกนี้เป็นของปลอมไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะได้ทองคำแท่งมากมายขนาดนี้มาจากไหนกันล่ะ?
“มีผู้เชี่ยวชาญอยู่ข้างคุณไม่ใช่เหรอ? และอีกอย่างตระกูลของพวกเขาก็มีเหมืองทองและเหมืองเงินนิทำไมไม่มาตรวจสอบ และดูว่าสิ่งที่ผมบรรจุไว้ในกล่อง เป็นทองคำแท้หรือปลอมล่ะ
เนี่ยเฟิงยกคางไปที่หงต้าเป่า และหงต้าเป่าก็ไม่เชื่อในความเจ้าเล่ห์นี้ เห็นแต่หงต้าเป่าพยายามอดทนต่อความเจ็บแล้วปวดลุกขึ้นจากพื้นกระโดดเท้าข้างหนึ่งไปยังตรงหน้ากล่องใบหนึ่ง เขาหยิบทองคำแท่งขึ้นมาตรวจสอบอย่างละเอียด จากนั้นนิ้วมือของเขาก็สั่นเล็กน้อย
ทองคำแท่งเหล่านี้ทั้งหมดล้วนมีรหัส และยังมีรหัสป้องกันการปลอมแปลงอีกด้วย
และจากการที่หงต้าเป่าได้มีการติดต่อเกี่ยวกับทองคำมาหลายปี แล้วของที่อยู่ตรงหน้าเขานี้ล้วนเป็นทองคำแท้จริงๆ!
เดิมทีที่ทุกคนต่างพากันมองพวกเขาอย่างหัวเราะคิกคัก และคิดว่าจะดูเรื่องตลก แต่พอเห็นสีหน้าที่ไม่น่าเชื่อซึ่งหงต้าเป่าได้แสดงออกมาแล้ว พวกเขาก็ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที
“เป็นอะไรไปแล้วล่ะ?” แม้แต่คุณก็ยังมองไม่ออกงั้นเหรอ ถ้าคุณมองไม่ออก งั้นผมก็จะเชิญผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านนี้มา ให้เขามาประเมินว่ากล่องทองคำของผมเป็นของจริงหรือของปลอม พวกคุณว่าเป็นไง?”
เนี่ยเฟิงเผยรอยยิ้มที่ไม่มีพิษภัยออกมา
เมื่อเห็นว่าทุกคนไม่ได้พูดขัดอะไร เนี่ยเฟิงจึงตบมือ ผู้เชี่ยวชาญด้านการประเมินหลายคนก็เดินเข้ามาเป็นแถวยาวเหยียด พวกเขาถือเครื่องจักรที่มีความซับซ้อนอยู่หน้าทุกคนเพื่อดำเนินการสาธิต
“มันเป็นทองคำแท่งจริงๆครับ”
“ทองคำแท่งเหล่านี้เมื่อรวมกันแล้วสามารถประเมินผลได้เป็นเงินประมาณ 5 พันล้านหยวนครับ”
เนี่ยเฟิงตบกล่องที่อยู่ข้างๆ แล้วยิ้มให้ทุกคนที่อยู่ในงาน บางคนก็สั่นสะท้านราวกับตะแกรงแกลบ ซึ่งเดิมทีพวกเขาพนันกับเนี่ยเฟิงไปตามตามกระแสเท่านั้น แต่คิดไม่ถึงว่าเนี่ยเฟิงจะสามารถหยิบเงิน 5 พันล้านหยวนออกมาได้จริงๆ นั่นก็หมายความว่าเงินก้อนนี้ของพวกเขาต้องกลายเป็นการปาหินลงน้ำไปแค่นั้น!
ทว่าพวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ สัญญาก็ได้เซ็นไปแล้วลายนิ้วมือก็ได้กดไปแล้วด้วย และในตอนนี้เนี่ยเฟิงก็ยังสามารถหยิบเงิน 5 พันล้านหยวนออกมาได้แล้วจริงๆอีก
กระทั่งบางคนไม่สามารถทนรับกับบทสรุปนี้ได้เสียงดังโครมไปทีหนึ่งแล้วล้มลงกับพื้น
“คุกเข่าขอโทษสะ” เมื่อครู่คุณยังพูดอีกว่าจะปิดบริษัทอสังหาริมทรัพย์เทียนหลง ไม่ทราบว่าตอนนี้คุณยังมีคิดนี้อยู่อีกหรือเปล่า”
เนี่ยเฟิงเหลือบมองหงต้าเป่าไปแวบหนึ่งและในตอนนี้เองหงต้าเป่าก็เหงื่อไหลออกทั่วร่างกาย
สมองของเขาเต็มไปด้วยเงิน 5 พันล้านหยวนของตัวเอง เมื่อจะต้องกลายเป็นของคนอื่นเขาก็คงต้องรีบส่งเงินให้เนี่ยเฟิงอย่างสิ้นเชิงแล้ว