พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 196 จับเสือมือเปล่า
บทที่ 196 จับเสือมือเปล่า
ใบหน้าของทุกคนที่อยู่ในงานนั้นช่างดูน่าเกลียดเป็นอย่างมาก เนี่ยเฟิงหยิบเงินออกมามากมายขนาดนี้ได้อย่างไร?
“แต่ถึงแม้แกจะหยิบออกแล้วมันจะเป็นไง! มันก็ไม่ได้หมายความว่าแกจะลงทุนได้นิ! แก ที่แกยืมมาน่ะมันใช้ได้เหรอ?”
หงต้าเป่าเปลี่ยนใจ และโต้กลับทันที
“แกนี่ความทะเยอทะยานมีไม่สิ้นสุดเสียจริง แต่ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้วก็…”
เมื่อเสียงพูดของเนี่ยเฟิงเพิ่งจะเงียบลงตู้ซงก็เอ้อระเหยลอยชายมา
เขาก็พูดด้วยใบหน้าที่ดีอกดีใจว่า “ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ พอดีว่าภรรยาผมเพิ่งฟื้น ผมต้องไปดูแล เลยต้องล่าช้าไปหน่อย พวกคุณคือ?”
ตู้ซงมองไปที่ทองคำบนโต๊ะ แล้วก็อดสงสัยไม่ได้ ใครเป็นคนนำทองคำเหล่านี้มากันครับ? นี่ก็ร่ำรวยเกินไปแล้วนะครับ?
“คุณตู้ครับ คุณมาได้ทันเวลาพอดีเลย ผมต้องการลงทุนด้วย พวกนี้ทั้งหมด 5 พันล้านหยวนนะครับ โปรดให้คนมานับด้วย”
เนี่ยเฟิงมองไปที่ตู้ซง รอยยิ้มบนใบหน้าผ่อนคลายและเป็นกันเอง ดูเหมือนจะพูดว่าลงทุนไปแค่ไม่กี่หยวน
ตู้ซง “เอื๊อก” เขากลืนน้ำลายไปคำหนึ่ง และถามอย่างไม่น่าเชื่อว่า “นี่ ทองคำเหล่านี้คุณหมออัจฉริยะต้องการลงทุนใช่ไหมครับ?”
“ใช่ครับ”
ตู้ซงคิดไม่ถึงเลยว่าแฟนของประธานชิวมู่เฉิงของบริษัทอสังหาริมทรัพย์จะร่ำรวยขนาดนี้ นี่มันเป็นเงินที่ล้ำค่ามากเลยนะ! แค่พูดว่าหยิบออกมาก็สามารถหยิบออกมาได้เลยงั้นเหรอ?!
แต่หลังจากนั้นตู้ซง ก็คิดอีกว่า ทักษะทางการแพทย์ของเนี่ยเฟิงนั้นก็ดีมาก และการที่สามารถหยิบเงินก้อนนี้ออกมาได้ก็นับว่าเป็นเรื่องปกติ
การเกิดแก่เจ็บตาย เป็นธรรมชาติของมนุษย์และตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เจ็บป่วย
แม้แต่คุณหมอโรเบิร์ตก็ยังบอกว่าภรรยาของเขาไม่มีหวังแล้ว แต่เนี่ยเฟิงก็ช่วยได้แล้วไม่ใช่เหรอ?
ทักษะทางการแพทย์ที่ไม่สามารถได้มาง่ายๆนี้ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ก็ต้องประจบ และเลื่อมใสศรัทธาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
การใช้จ่ายไปอย่างฟุ่มเฟือยเพื่อเชิญเขามารักษาต้องมีคนจำนวนไม่น้อยเลย
ตู้ซงรีบพยักหน้าทันที “มีคุณหมออัจฉริยะมาร่วมงานด้วย ช่างเป็นเกียรติต่ออ่าวนกยูงจริงๆครับ! ยังจะชะงักงันทำไมอีก? ยังไม่รีบให้คุณหมออัจฉริยะเซ็นสัญญาอีก!”
ตู้ซงพูด พร้อมกับตำหนิเลขาฯของเขาด้วยน้ำเสียงเข้ม
เลขาฯจึงรีบเร่งมือเตรียมสัญญาทันทีและภายใน 3 นาที สัญญาก็พิมพ์เสร็จและยื่นส่งมา
“ตู้ซง! ผมต่างหากที่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของอ่าวนกยูง! คุณจะล่วงเกินกับพวกเราแบบนี้เพียงเพื่อเจ้าหมอนี่งั้นเหรอ?!”
หงต้าเป่าคิดไม่ถึงเลยว่าตู้ซง จะไม่สนใจพวกเขาเลยยังจะร่วมมือกับเนี่ยเฟิงอีกงั้นเหรอ!
เนี่ยเฟิงเหลือบมองไปที่หงต้าเป่าแวบหนึ่งและเขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะและพูดว่า
“ไม่กี่นาทีที่แล้ว คุณเป็นจริงๆ แต่ตอนนี้ คุณไม่ใช่แล้ว และการลงทุนของทุกคนที่ในงาน ตอนนี้ก็ได้มาถึงชื่อของผมแล้ว”
เนี่ยเฟิงหยิบสัญญาบนโต๊ะขึ้นมา แล้วเขย่าต่อหน้าพวกเขา
เดิมทีที่ทุกคนที่ต่างคนต่างแย่งกันพูด แต่ตอนนี้กลับเป็นใบ้เงียบไปสะงั้น!
ริมฝีปากของหงต้าเป่าสั่นเล็กน้อย และมองไปที่เนี่ยเฟิงอย่างไม่ยินยอม เขากัดฟันพูดว่า “นับว่าโหดร้ายจริงๆ!”
หงต้าเป่าทิ้งคำพูดเหล่านี้เสร็จก็คิดจะออกไป แต่เนี่ยเฟิงกลับหยุดเขาไว้ “อะไรกัน? นี่คุณกำลังคิดที่จะออกไปนี่? ไม่ใช่ว่าจะต้องคุกเข่าเหรอ? แล้วคำขอโทษล่ะ?”
“ไอ้เด็กสารเลวเอ๊ย! แกจะรังแกคนอื่นเกินไปแล้ว! ”
หงต้าเป่าตะโกนออกไปด้วยความโกรธ คุกเข่าลงขอโทษเนี่ยเฟิงต่อหน้าผู้คนมากมายอย่างนั้นเหรอ? บ้าเปล่า!
ใบหน้าของเนี่ยเฟิงเปลี่ยนไป และรอยยิ้มของเขาก็หายไป “ถ้าคุณไม่คิดที่จะคุกเข่าและขอโทษแล้ว? เช่นนั้นสัญญาของเราก็จะไม่นับ?”
“นี่แก!”
“ผมรังแกคนอื่นเกินไปแล้วงั้นเหรอ?”
เนี่ยเฟิงก้าวไปข้างหน้า 1 ก้าว และดูถูกหยาบหยามหงต้าเป่า “แล้วใครเป็นคนรังแกใครก่อนล่ะ? คิดว่าผู้หญิงของผมเป็นคนที่น่ารังแกมากเหรอแล้วไอ้หมอที่มาทำตัวน่ารังเกียจกับผู้หญิงของผมล่ะคือใคร? ถ้าคุณไม่คุกเข่าขอโทษ ผมก็จะไม่ถือสาที่จะทำให้คุณพิการในตอนนี้”
คำพูดของเนี่ยเฟิงพูดไปเบาๆ แต่กลับตกลงไปในหูของหงต้าเป่าและทำให้ผู้คนรู้สึกขนพองสยองเกล้า
หงต้าเป่ามองไปที่ดวงตาของเนี่ยเฟิงราวกับว่าความอาฆาตกำลังจะระเบิดออกมา แต่เขาก็ไม่สามารถคุกเข่าลงได้แม้ว่าเขาจะกลัวก็ตาม! นี่มันเป็นการเสียหน้าไม่ใช่เหรอ?
“ฮึม! ผมไว้หน้าคุณแล้วนะแต่คุณยังหน้าด้านอีก! เงิน 1.5 พันล้านนั้นถือว่าผมให้คุณซื้อโลงศพก็แล้วกัน! อยากให้ผมคุกเข่างั้นเหรอ! ฮึม! ไม่มีทางหรอก!”
หงต้าเป่าพูดจบก็หันหลังกลับและเดินจากไป
“ผมให้โอกาสคุณแล้วนะ อย่าเสียใจแล้วกัน”
เนี่ยเฟิงมองหงต้าเป่าที่เดินจากไปอย่างกะเผลกโดยที่ชิวซือมี่คอยประคอง และทำตาหยีอยู่อย่างนั้น
เมื่อคนอื่นๆเห็นดังนั้น พวกเขาก็พากันเดินจากไปอย่างเศร้าหมอง
จากเดิมทีที่วันนี้ในโรงแรมควีนมีนักลงทุนมาแลกเปลี่ยนกัน แต่ใครจะไปรู้ว่านักลงทุนเกือบร้อยคน ในตอนนี้กลับเหลืออยู่แค่คนเดียว
หลังจากตู้ซงเห็นพวกเขาจากไปกันหมดแล้ว เขาก็อดไม่ได้ที่จะยกนิ้วให้เนี่ยเฟิง “คุณหมออัจฉริยะนี่ใจกล้ามากเลยนะครับ!”
“ที่ไหนกันล่ะ?”
เนี่ยเฟิงส่ายหัว
ในตอนนั้นเอง ชิวมู่เฉิงก็คว้าตัวเนี่ยเฟิงไว้ “ขอโทษด้วยนะคะ คุณตู้ ขอตัวสักครู่นะคะ”
ชิวมู่เฉิงดึงตัวเนี่ยเฟิงออกไปอีกฝั่งและตำหนิด้วยใบหน้าที่มืดครึ้มว่า “ทำไมไม่ต้องอธิบายไปล่ะ?”
เนี่ยเฟิงรู้ว่าชิวมู่เฉิงจะต้องโกรธแน่
“ผมรู้สึกว่าไอ้หงต้าเป่านั่นน่ารังเกียจเกินไป เลยอดใจไม่ได้ที่ออกมือไปอย่างนั้น
“พี่ไม่ได้ตำหนิน้องเรื่องนี้” ชิวมู่เฉิงส่ายหัว “เมื่อครู่พี่ก็คิดที่จะออกมือเองแล้ว แต่สิ่งที่พี่อยากถามคือ น้องเอาทองคำที่ลงทุนไปนั้นมาจากไหนกัน?”
“ยืมครับ! ”
เนี่ยเฟิงแสยะปากยิ้ม “จับเสือมือเปล่าไงครับพี่!”
ชิวมู่เฉิงตะลึง “น้องหมายความว่ายังไง?”
เนี่ยเฟิงพา ชิวมู่เฉิงไปยังตรงหน้าทองคำเหล่านั้น จากนั้นจึงพูดกับตู้ซงว่า “คุณตู้ครับ ผมลงทุนไปแค่ 5 พันล้านหยวนนะครับ เงินถอนหุ้นนี่ผมเป็นคนลงทุนเอง ส่วนทองคำที่เหลือผมจะนำกลับไป”
ตู้ซงตะลึงงัน จากนั้นจึงพยักหน้าซึ่งเขากับชิวมู่เฉิงก็ดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ และในทันใดนั้นเขาก็คิดได้ทันที!
“คุณหมออัจฉริยะ! คุณนี่ ช่างเป็นคนที่มีความสามารถเฉพาะด้านจริงๆ!”
“น้องทำได้ยังไงกัน?” ชิวมู่เฉิงงุนงง
เนี่ยเฟิงหาคนให้ยืมเงิน 5 พันล้านหยวนลงทุน เพียงเพื่อให้พวกเขาเซ็นสัญญากับตัวเขาเอง นี่เป็นการพนันครั้งใหญ่เลยนะ!
“ถ้าพวกเขาไม่ติดกับดักล่ะ น้องจะคืนเงินก้อนนี้ได้ยังไง! น้องนี่ก่อเรื่องไร้สาระเลยจริงๆ!”
ชิวมู่เฉิงโกรธเล็กน้อย
“แต่มันก็สำเร็จแล้วไม่ใช่เหรอครับ พี่ดูสิ ได้เงิน 5 พันล้านหยวนมาฟรีๆเลยนะ! ผมสัญญากับเพื่อนที่ยืมเงินว่า หลังจากได้รับเงินลงทุนโครงการอ่าวนกยูงคืนแล้ว ผมจะให้เขา 1 พันล้านหยวนเพื่อเป็นการขอบคุณ พี่ใหญ่ ตอนนี้ผมติดหนี้แล้ว!”
ชิวมู่เฉิงกลัวจนตัวสั่น การกระทำของเนี่ยเฟิงนี่เป็นการก่อเรื่องไร้สาระอย่างสิ้นเชิงเลย!
“ความกล้าหาญ และกำลังนี้ ผมรู้สึกละอายใจต่อคนแปลกหน้ามากจริงๆ” และตอนที่ตู้ซงยังเด็กเขาก็ยังไม่กล้าทำเรื่องแบบนี้เลย ต้องบอกว่า ความกล้าของเนี่ยเฟิงช่างยอดเยี่ยมจริงๆ
“หากกล้าคว้าโอกาสที่จะทำยาก ก็จะมีการพัฒนา เช่นนั้นโอกาสดีๆก็มาถึงผมแล้วสิ แล้วผมจะไม่ใช้ประโยชน์จากมันได้ยังไงกันล่ะ! นอกจากนี้ ไอ้หงต้าเป่านั่นก็ควรเสียเปรียบแล้ว ”
เนี่ยเฟิงแสยะปากยิ้ม
แม้ว่าใบหน้าของชิวมู่เฉิงจะเต็มไปด้วยการตำหนิ แต่หล่อนกลับภูมิใจในความสำเร็จของเนี่ยเฟิง
อันที่จริงแล้ว ทองคำนั้นเป็นของเนี่ยเฟิง และเขาก็ไม่ได้ไปขอยืมของใครมา แต่ต้องมีข้อแก้ตัวที่สมเหตุสมผล มิฉะนั้นพี่ใหญ่จะต้องสืบให้ได้อย่างแน่นอน
“ในเมื่อร่วมมือกับคุณหมออัจฉริยะแล้ว เช่นนั้นโครงการอ่าวนกยูงนั้นแน่นอนว่าผมต้องทำงานอย่างหนักเลย คุณหมออัจฉริยะวางใจเถอะครับ มอบให้ผมไม่เป็นไรหรอกครับ” ตู้ซงรับประกัน
“ได้ครับ! งั้นคงต้องฝากไว้กับคุณและพี่ใหญ่แล้วครับ! ห้ามทำให้ผมขาดทุนนะครับ ไม่งั้นผมจะสับสนปนเปกันยุ่งแน่ๆเลย”
เมื่อตอนที่เพิ่งก่อตั้งสวนนิเวศวิทยาอ่าวนกยูงขึ้นมา เงินแค่ร้อยล้านก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่อีกไม่นานอ่าวนกยูงก็จะกลายเป็นอ่างสะสมของวิเศษ พร้อมกับกระแสเงินที่ไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเนี่ยเฟิงและชิวมู่เฉิงกลับโรงแรม หล่อนก็กำลังแก้ไขข้อความอยู่ที่เบาะคนขับรถ
“เสี่ยวเฟิง เมื่อกี้น้องทำให้พี่รู้สึกแปลกหูแปลกตาจริงๆ” ชิวมู่เฉิงเอ่ยปากขึ้นพูดอย่างฉับพลัน