พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 20 พี่ห้าที่สวยงาม
บทที่ 20 พี่ห้าที่สวยงาม
เนี่ยเฟิงมองป้ายหน้าหลุมศพที่ถูกขนส่งมา ในใจก็ตื่นเต้น แล้วค่อยมองสีหน้าของบรรดาพี่สาว เขารู้ว่าปัจจุบันนี้คนที่ดีกับเขาจริงๆก็มีแค่บรรดาพี่สาวของเขา
หลังจากที่จัดวางทุกอย่างเรียบร้อย เนี่ยเฟิงก็เดินมาที่สุสานที่ฝังเสื้อผ้าและสิ่งของของคนตาย หลากหลายความรู้สึก
เนี่ยเฟิงคุกเข่าที่หน้าป้าย พวกพี่สาวที่ด้านหลังก็คุกเข่าตามกัน
“เหนือท้องฟ้าสีเหลือง ใต้น้ำพุเก้าแห่ง พ่อ แม่ ผมเนี่ยเฟิงให้สัญญา จะต้องหาความจริงให้กระจ่างให้ได้ ยืนความยุติธรรมให้พวกท่าน ให้พวกท่านได้ตายตาหลับ!”
เนี่ยเฟิงพูดจบก็โขกศีรษะสามครั้ง
“เสี่ยวเฟิง เพื่อที่จะรักษาความปลอดภัยของที่นี่ พี่จะส่งคนมาเฝ้าที่นี่ไว้ วันหลังจะได้ไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก นายวางใจได้”
หยูจิงหงพูดปลอบเนี่ยเฟิง
“ขอบคุณพี่สองมากๆ!” เนี่ยเฟิงรู้สึกตื้นตันใจ
ความจริงแล้ว เขาสามารถใช้คนของสำนักมังกรมาดูที่นี่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปแล้ว คิดว่าฟางซื่อเหาและพ่อบุญธรรมของเขาคงจะตกใจไม่น้อย ในเวลาอันสั้นนี่น่าจะยังไม่ทำอะไร
นานแล้วที่ไม่ได้เจอกัน ในตอนนี้บรรดาพี่สาวมองเนี่ยเฟิงอย่างมีความสุข
“ฉันได้จองโต๊ะที่ร้านไผ่เขียวไว้แล้ว คืนนี้พวกเราทุกคนไปทานข้าวด้วยกันนะ” หลินซูอินมองออกว่าตอนนี้เนี่ยเฟิงอารมณ์ไม่ค่อยดี
“ตามที่พวกพี่สาวจัดการ!”
เนี่ยเฟิงสนับสนุนเป็นอย่างมาก
“เมื่อกี้นี้เกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อย ฉันคงต้องกลับไปที่สถานีตำรวจรายงานผลก่อน ฉันคงจะไปสายสักหน่อย” ยิ่งกว่านั้นเหนื่อยจะออกเหม็นทั้งตัวแล้ว เย่หรูเสว่รู้สึกว่าตัวเองควรจะกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสักหน่อย
“งั้นฉันก็กลับไปเหมือนกัน บนตัวมีแต่ฝุ่น”
คางเมิ่งปัดๆชุด พูดขึ้นอย่างรังเกียจ
“ฉันจองไว้ตอนสองทุ่ม ทุกคนตรงมาพร้อมกันที่ประตูร้านไผ่เขียว”
หลังจากจัดการเรื่องเวลาเสร็จเรียบร้อย แต่ละคนก็แยกย้ายกันไป
เนี่ยเฟิงอาบน้ำเปลี่ยนชุดอย่างง่ายๆ ก็ลงมารอที่ด้านล่าง
ในตอนที่เขาดูโทรศัพท์มือถือไม่มีอะไรทำนั้น ก็มีกลิ่นหอมสดชื่นลอยมาจากที่ไกลๆ จิตสำนึกสั่งให้เขาเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นคางเมิ่งที่อยู่ในชุดเดรสสีเขียว
เดิมทีคางเมิ่งก็คือสาวงามที่สวยออกมาด้านนอก โดยเฉพาะดวงตากลมโตที่เหมือนมีน้ำอยู่ภายใน สามารถปลุกใจผู้ชายให้อยากปกป้องเป็นพิเศษ
วันนี้คางเมิ่งตั้งใจแต่งตัวเป็นพิเศษยิ่งทำให้คนเอาตาไปที่อื่นไม่ได้
“ทำไมมองพี่อย่างนั้น?”
คางเมิ่งกระดกปากขึ้น รู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง เธอเพิ่งคิดได้ว่าตัวเองแต่งตัวมากเกินไปหรือเปล่า ก็แค่ไปทานข้าวกับน้องชายเท่านั้น…….
ก็ไม่รู้ว่าทำไม เธอถึงได้คาดหวังว่าสายตาของเนี่ยเฟิงหลังเห็นการแต่งตัวของตัวเอง
“พี่เจ็ด ผม…….”
คางเมิ่งที่ถูกเนี่ยเฟิงมอง รู้สึกว่าหัวใจเต้นเร็วมาก
ทันใดนั้นเนี่ยเฟิงก็เดินเข้ามาใกล้ ใจของคางเมิ่งยิ่งเต้นเร็วมากยิ่งขึ้น ราวกับว่ามันจะเต้นออกมาจากทรวงอก
“เป็นอะไร?”
อย่างไรก็ตามคางเมิ่งก็เป็นถึงผู้ประกาศข่าว เผชิญหน้ากับแฟนคลับเป็นพันเป็นหมื่นเธอยังไม่เคยรู้สึกว่าทำผิดพลาดจนน่าหัวเราะขนาดนี้ แต่ไม่รู้ว่าทำไม ตอนที่เนี่ยเฟิงมองเธอ เธอถึงได้ตื่นเต้น
“ที่หางตาของพี่ทำไมถึงมีขี้ตาที่มีแสงละ?”
ใบหน้าของคางเมิ่งเปลี่ยนเป็นสีดำอย่างรวดเร็ว “คนเลว! นายจะเข้าใจอะไร! นี่มันแผ่นสติกเกอร์!”
คางเมิ่งโมโหจนกำหมัดแน่น วิ่งตามไปตีเนี่ยเฟิงรอบห้อง
เนี่ยเฟิงรู้ว่านั่นคืออะไร เขาแค่แกล้งคางเมิ่งเล่นเท่านั้น
“พวกเธอเลิกเล่นได้แล้ว”
ตอนที่ชิวมู่เฉิงเดินลงมา ก็เห็นสองพี่น้องไล่ตีกัน เธอทนไม่ไหวถอนหายใจออกมา ออกเสียงหยุดกินน้ำ
คางเมิ่งถึงได้หยุดมือ “ถือว่านายโชคดีไป ครั้งน่าไม่ปล่อยนายไว้แน่!”
“พี่ใหญ่ ถ้าพี่มาช้ากว่านี้อีกนิดเดียว ผมอาจจะโดนพี่เจ็ดตีจนตายได้”
เนี่ยเฟิงแบะปากยิ้ม มองชิวมู่เฉิง เขาถึงกลับตกใจ
ชิวมู่เฉิงอยู่ในชุดราตรีสีม่วง เพรียบพร้อม ล้ำค่า มีระดับ เธอไม่พูดไม่ยิ้ม คล้ายกับดอกไวโอเล็ต ทำให้คนไม่อาจดูหมิ่น แวววาวละลานตาจริงๆ
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมฟางซื่อเหาถึงได้คิดถึงแต่ชิวมู่เฉิงไปทุกอย่าง
“พี่ใหญ่ วันนี้พี่สวยมาก!”
เนี่ยเฟิงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
“น่าเกลียด! นายเสียวเฟิง! พี่ใหญ่แต่งตัวนายก็ชมว่าสวย! ฉันแต่งตัวนายกลับบอกว่าที่หางตามีขี้ตาที่มีแสง!”
คางเมิ่งโมโหกระทืบเท้า
ชิวมู่เฉิงบนหน้าภูเขาน้ำแข็งตอนนี้ปรากฏรอยยิ้มออกมา ถึงแม้จะเป็นเพียงดอกถานฮวาหนึ่งดอก แต่กลับสวยงามคนทำให้คนต้องหลบหลีก
“เอาล่ะ อย่าพูดมากอยู่เลย พวกเรารีบไปที่ร้านไผ่เขียวกันเถอะ อย่าให้พี่น้องคนอื่นๆต้องรอ”
“โอเค! วันนี้ให้ผมขับรถให้แล้วกัน ผมเป็นทหารม้าของพวกพี่”
เนี่ยเฟิงพูดจบ ก็หยิบกุญแจรถไป เปิดประตูรถให้เป็นพิเศษ
ตอนที่พวกเขาไปถึงร้านไผ่เขียวหลินซูอินก็ไปถึงก่อนแล้ว เธอใช่ชุดกี่เพ้าสีขาวลายดำยืนรออยู่ที่นอกประตู ในมือหิ้วกระเป๋า ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
เนี่ยเฟิงจำได้ว่าตอนเด็กเวลานอนไม่หลับ พี่สามหลินซูอินจะร้องเพลงกล่อมเด็กกล่อมเขาเข้านอน
เสียงของพี่สามในตอนนั้นเหมือนกับเสียงนกขมิ้น ไพเราะอ่อนหวาน เนี่ยเฟิงชอบมากที่สุด
“พวกเธอมาแล้ว? รีบเข้ามาเร็ว พี่น้องคนอื่นๆรออยู่ข้างในกันหมดแล้ว”
หลินซูอินเข้ามารับพวกเขาเป็นพิเศษ
“พวกพี่ๆเข้ามาถึงกันนานแล้วหรอ? ฉันมาสายไปหรือ?”
เนี่ยเฟิงถูกบรรดาพี่สาวติดตามเดินไปด้านหน้า เขาสามารถได้กลิ่นน้ำหอมบนตัวหลินซูอินอย่างเข้มข้น สุภาพและงดงาม ทำให้จิตใจคนสงบ
“เป็นพวกเรามาเร็วเอง”
หลินซูอินเป็นคนที่มีนิสัยอ่อนนอกแข็งใน บนใบหน้าของเธอมักจะประดับไปด้วยรอยยิ้มเสมอ คล้ายกับว่าไม่เคยโมโห ไม่เคยโกรธ ใจกว้างมากๆ แล้วก็เข้าอกเข้าใจผู้อื่น
เนี่ยเฟิงฟังเสียงหลินซูอิน เหมือนกับว่าตอนที่ยังเด็ก ไม่ว่าเสียงของหลินซูอินในตอนนี้หรือว่าเมื่อก่อนนั้นจะแตกต่างกัน แต่พี่สาวก็ยังคงเป็นพี่สาม จุดนี้ไม่มีเปลี่ยนไป
พวกเขามาถึงห้องที่ได้จองเอาไว้แล้ว หลังจากที่เข้าไปตรงหน้าสว่างวาบ
คนสวยแฟชั่นพี่ห้าโจวลี่ซือ สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กระโปรงรัดรูปสีดำ ปล่อยผมยาวเป็นลอน หลังจากที่เธอเห็นเนี่ยเฟิง กวักมือเรียกอย่างดีใจ “เสี่ยวเฟิง มาที่พี่ห้านี่เร็ว”
เนี่ยเฟิงเดินเข้าไปหา ถูกโจวลี่ซือจับมือไว้ “ไม่ได้เจอกันหลายปี เสี่ยวเฟิงโตขึ้นแล้ว ไอ ทำไมมือนี้ถึงได้มีแต่รอยแผลแบบนี้?”
โจวลี่ซือเห็นรอยด่างๆบนมือ ดวงตาก็แดงทันที “ขอโทษ พี่สาวใช้ไม่ได้ เดินทางไปมาตั้งหลายที่แต่กลับหานายไม่พบ”
โจวลี่ซือไม่เชื่อมาตลอดว่าเนี่ยเฟิงตายไปแล้ว เธอคิดว่า ถ้าเป็นแอร์โฮมสเตสก็สามารถพบเจอคนได้หลากหลาย ดังนั้นเธอจึงพกรูปของเนี่ยเฟิงตอนเด็กติดตัวตลอด มักจะขอร้องผู้โดยสารบนเครื่องบินให้ช่วยเฝ้าดู
เห็นพี่ห้าเจ็บปวดใจ เนี่ยเฟิงก็รีบบอกทันที: “พี่ห้า! พี่ดูซิ ตอนนี้ผมไม่ใช่ว่าดีๆหรือ? ได้ยินว่าตอนนี้พี่ได้เป็นถึงรองกัปตันแล้ว?”
โจวลี่ซือยิ้มอย่างเบิกบานใจ “ใช่แล้ว อีกไม่นานก็น่าจะได้เลื่อนขั้นแล้ว”
“ไม่เสียทีที่เป็นพี่ห้า! ถึงตอนนั้นผมก็อยากไปดูตอนที่พี่ห้าทำงาน!”
โจวลี่ซือเหลือบมองเนี่ยเฟิง ยื่นมือออกไปบิดแขนเนี่ยเฟิง “เด็กนี่ คิดว่านายอยากจะเรียกใช้พี่ใช่ไหม?
พี่ห้าเป็นคนขี้เป็นห่วง เมื่อก่อนนั้นเนี่ยเฟิงซนมาก ไม่ยอมทานข้าวดีๆ ก็เป็นโจวลี่ซือที่ถือชามข้าวไล่ตามป้อนข้าวเขาทั่วลาน
“เจ็บเจ็บเจ็บ!”เนี่ยเฟิงรีบหลบไปอีกด้าน “ไม่เรียกใช้ จริงๆ!”
การกระทำของพวกเขาสองคนทำให้ทุกคนหัวเราะกันดังลั่น
“เอาล่ะ เสี่ยวเฟิงคงหิวแล้ว รีบทานข้าวเถอะ!”
อาหารมาเสิร์ฟตั้งนานแล้ว หยูจหงยกแก้วที่มีเหล้าอยู่เต็ม “ก่อนที่จะทานอาหารกัน ดื่มสักหนึ่งแก้ว! ฉลองให้เสี่ยวเฟิงที่ปลอดภัย!