พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 209 ทีมมังกร
บทที่ 209 ทีมมังกร
แต่รออยู่นานในสายก็ไม่มีคนมารับสักที
“ตะกี้คุณบอกเองไม่ใช่เหรอ? ว่าคุณมีอำนาจมากแค่สั่งก็จะมีคนมากมายมาทันที แล้วตอนนี้ไหนกองกำลังของคุณล่ะ? หรือว่าพวกเขาหนีระหว่างทางซะแล้ว?”เนี่ยเฟิงพูดยิ้มๆออกมาอย่างช่วยไม่ได้
ส่วนเหอเหรินเจ๋ในตอนนี้ไม่อยากจะเชื่อ โทรออกไปอีกรอบ แต่ว่าไม่มีใครมารับสายแต่อย่างใด
“รู้สึกแปลกใช่ไหม? ทำไมถึงไม่มีคนรับสาย? ใช่แล้ว ผมน่าจะให้คุณดูสถานการณ์ในตอนนี้สักหน่อย”
เนี่ยเฟิงก็ดีดนิ้วส่งสัญญาณไปข้างนอก จากนั้นก็มีคนใส่ชุดดำเดินเข้ามาสองคน
ในมือของพวกเขาถือแท็บเล็ตมาด้วย ส่วนบนจอแท็บเล็ตนั่นก็มีภาพจากมุมกล้องมากมาย
พอเหอเหรินเจ๋เห็นแล้ว ก็ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก เพราะว่าภาพที่แสดงอยู่บนจอแท็บเล็ตก็คือโรงแรมของเขา สถานการณ์ในตอนนี้ พวกพนักงานของตัวเองกำลังถูกควบคุมตัวกันหมดแล้ว ทุกหนทุกแห่งล้วนแต่มีคนใส่ชุดดำยืนอยู่เต็มไปหมด ส่วนชุดสีดำเหล่านี้ก็เป็นชุดที่ปักลายมังกรขดตัว
“คนพวกนี้เป็นใคร!”
“โอ้ ขอโทษที เมื่อตะกี้ผมไม่ได้แนะนำให้คุณใช่ไหม? คนพวกนี้เป็นลูกน้องของผมเอง ดูทรงแล้วน่าจะมีการต่อสู้กันกับคนของคุณเล็กน้อยนะ แต่ว่าลูกน้องของคุณดูท่าจะสู้ไม่เป็นเลยจริงๆนะเนี่ย”
เนี่ยเฟิงทำเป็นแสร้งยิ้มยิ้มพร้อมกับตอบคำถามเหอเหรินเจ๋
เหอเหรินเจ๋โกรธสุดๆ“แกจงใจ!”
“แน่นอนอยู่แล้ว ถ้าผมไม่ปราบพวกเขา อีกเดี๋ยวคุณก็จะเรียกพวกเขามาทุบตีผมน่ะสิ แขนขาน้อยๆของผมจะสู้ไหวได้ยังไงล่ะ?”
เนี่ยเฟิงพูดพลางตบๆลงที่กล้ามเนื้อกำยำล่ำสันของตัวเอง จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืน เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าของเหอเหรินเจ๋ เขาที่สูงกว่าเหอเหรินเจ๋อยู่แล้ว ตอนนี้ก็ยิ่งมองเหยียดเหอเหรินเจ๋ด้วยท่าทีดูถูกดูแคลนไปอีก ราวกับว่าเหอเหรินเจ๋เป็นพวกมดปลวกที่อยู่บนพื้นอย่างไรอย่างนั้น
“คุณชายเหอ ผมกลัวว่าคุณจะมาแก้แค้นผม ดังนั้นผมก็จะชิงลงมือก่อนดีที่สุด ขอแค่คุณตายไปก็จะไม่มีใครมาจัดการกับผมแล้ว คุณว่าถูกไหม?”
เหอเหรินเจ๋รู้สึกได้ถึงความหวาดกลัวทันที เหมือนกับหนูที่เผชิญหน้าอยู่กับแมว!
ราวกับว่าเป็นความกลัวที่เกิดจากความต่างของสายเลือด เป็นความหวาดกลัวโดยสัญชาตญาณ เหอเหรินเจ๋ไม่สามารถต่อต้านรับมือได้เลย ถึงขนาดที่เขาไม่แม้แต่จะกล้าเงยหน้าขึ้น!
“ทำไมถึงไม่พูดอะไรเลยล่ะ? คุณชายเหอ? เมื่อตะกี้คุณยังบอกว่าจะเรียกคนมาจัดการผมอยู่เลยไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้พวกเขาถูกผมควบคุมเอาไว้แล้ว แล้วคุณจะทำยังไง?”
เนี่ยเฟิงเห็นเหอเหรินเจ๋ไม่พูดอะไร เขาก็เลยพูดเสริมขึ้นมาเบาๆ
“ผมเป็นคนที่ความอดทนมีจำกัดมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ถ้าตอนนี้คุณไม่ให้คำตอบที่ทำให้ผมพอใจ ถ้าผมขาดอะไรผมก็จะไปเอามันกลับมาด้วยตัวผมเอง”
“แกอยากได้เงินไม่ใช่เหรอ? ฉันให้แกก็ได้!”
เหอเหรินเจ๋พยายามฝืนสงบนิ่งลง ในหัวของเขาครุ่นคิด จากนั้นก็เปิดปากพูดขึ้น
“ดีมาก สองหมื่นสี่สิบล้าน ห้ามขาดแม่แต่แดงเดียว”
เนี่ยเฟิงฉีกยิ้มกว้าง แต่ว่าเหอเหรินเจ๋ไม่มีเงินมากมายขนาดนั้น เหอเหรินเจ๋ไม่เต็มใจแน่นอน
“ตอนนี้ฉันยังหาเงินมากขนาดนั้นมาไม่ได้ ตอนนี้ฉันจะติดต่อเพื่อนให้โอนมาให้ฉันก่อน”
เหอเหรินเจ๋พูดพลางหยิบมือถือขึ้นมา ส่งข้อความไปหาบอดี้การ์ดของตัวเอง ให้พวกเขารีบมาที่โรงแรมตี้เหมินให้เร็วที่สุด
ถึงยังไงเหอเหรินเจ๋ก็เป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลเหอ พ่อของเขาหาคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมอิทธิพลมืดจำนวนไม่น้อยให้มาเป็นบอดี้การ์ดให้กับเขา วันปกติคนพวกนี้ก็ต่างคนต่างใช้ชีวิตของตัวเอง แต่พอถึงสถานการณ์เร่งด่วนแล้วก็จะรวมตัวกัน
คนพวกนี้แข็งแกร่งสุดๆ ตอนสมัยเป็นวัยรุ่นถูกขนานนามว่าทีมมังกร
เขาไม่เชื่อว่าเนี่ยเฟิงจะรับมือกับพละกำลังของคนพวกนี้ไหว!
“เสร็จแล้วยัง?”
เนี่ยเฟิงนั่งกลับลงไปอีกครั้งด้วยท่าทางเกียจคร้าน มีเหงื่อไหลออกมาตามตัวของเขาแล้ว เพราะว่าอุณหภูมิของซาวน่าสูงมาก
เหอเหรินเจ๋พยักหน้า เขาเลียๆริมฝีปากที่แห้ง ในใจรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย หลังจากที่ทีมมังกรมาถึงแล้ว พวกของเนี่ยเฟิงจะต้องจบเห่ลงแน่นอน
เนี่ยเฟิงช่างใจกล้าจริงๆ คิดไม่ถึงว่าจะมาก่อเรื่องถึงถิ่นของเขา ในหัวช่างไม่รู้เรื่องอะไรเลยจริงๆ!
ผ่านไปไม่นาน ก็มีผู้ชายสูงใหญ่ห้าคนมาถึงยังโรงแรมตี้เหมิน ในมือพวกเขาแต่ละคนถือกล่องคนละกล่อง
ถึงแม่ว่าพวกเขาจะดูเหมือนคนวัยกลางคน แต่รูปร่างก็กำยำล่ำสันสุดๆ สวมใส่เสื้อผ้าบางๆ รัดแนบกล้ามเนื้อของพวกเขาจนแน่น ดูท่าจะไม่ใช่พวกคนที่ควรจะไปยุแหย่ได้ง่ายๆ
พวกเขาพรูกันเข้ามา วางกล่องลงบนพื้น
เหอเหรินเจ๋คุมรอยยิ้มที่มุมปากเอาไว้ไม่อยู่
เขามองเนี่ยเฟิงด้วยสายตาอาฆาตแค้นก่อนจะพูดตอบกลับมาอย่างยิ้มๆ
“คนของฉันมาถึงแล้ว”
“อ๋อ? เงินสองหมื่นกว่าล้านบรรจุอยู่ในกล่องพวกนี้เนี่ยนะ? เหอเหรินเจ๋คุณคิดว่าผมโง่หลอกง่ายมากเลยเหรอ?”
เนี่ยเฟิงมองกล่องไม่กี่กล่องที่วางอยู่บนพื้น อดไม่ได้ที่จะขำออกมา ต่อให้เป็นโลหะชั้นดีทั้งหมดก็ไม่คุ้มค่ากับเงินขนาดนี้อยู่ดี
ยิ่งไปกว่านั้นคนพวกนี้ฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ท่าทางการเดินไม่เหมือนกับคนธรรมดาทั่วไป ดังนั้นกล่องที่คนพวกนี้ถืออยู่ มีความเป็นไปได้สูงว่าข้างในอาจจะไม่ใช่เงิน
ที่เนี่ยเฟิงปล่อยให้พวกเขาเข้ามา ก็เพื่อที่จะได้เก็บรวบหัวรวบหางที่เดียวเลยยังไงล่ะ
“แน่นอนอยู่แล้ว ของที่อยู่ในกล่องนี้มีมูลค่ามหาศาลมาก แกอย่าได้ดูถูกกล่องพวกนี้เชียวล่ะ”
เหอเหรินเจ๋เชิดคางให้กับพวกชายกำยำเหล่านั้น เปิดกล่องออก จากนั้นก็หยิบปืนออกมาจ่อเนี่ยเฟิง
รูสีดำๆของกระบอกปืนอันตรายถึงชีวิต เนี่ยเฟิงยกคิ้วขึ้น“เหอเหรินเจ๋ นี่มันหมายความว่ายังไง?”
“เนี่ยเฟิง ตอนที่แกมายุแหย่ฉัน ไม่ได้ไปสืบมาก่อนบ้างเลยเหรอว่าฉันเป็นใคร? ฉันเป็นลูกชายของเหอคุน!แล้วเหอคุนคือใคร? เหอคุนก็คือลูกพี่ที่เก่งกาจมีอิทธิพลมากในเมืองซานเจียงในสมัยแรกๆยังไงล่ะ!เขาเป็นก่อร่างสร้างประเทศนี้ขึ้นมาเอง แล้วลูกชายของเขา จะยอมจำนนต่อคนอื่นได้ยังไงกัน?”
เหอเหรินเจ๋ระเบิดหัวเราะออกมา รอยยิ้มบนใบหน้าชั่วร้ายอย่างถึงที่สุด
“ตอนที่แกวางแผนหลอกฉัน ฉันก็คิดว่าจะเอาชีวิตแกยังไงดี คิดไม่ถึงว่าแกจะรนหาที่ตายเองแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นก็อย่ามาโทษว่าฉันไม่เกรงใจก็แล้วกัน!”
เหอเหรินเจ๋กัดฟันกรามกรอดๆ มองเนี่ยเฟิงด้วยสายตาที่น่ากลัว
“แสดงว่าตอนนี้คิดจะฆ่าผมสินะ?”
“ถ้าแกทำให้ฉันพอใจ ฉันอาจจะไว้ชีวิตแกสักครั้งก็ได้ ตอนนี้แกคุกเข่าขอร้องอ้อนวอนฉันซะสิ เรียกฉันว่าพ่อสักสองสามที ฉันอาจจะยอมเปลี่ยนใจไว้ชีวิตแกก็ได้”
คนของทีมมังกรที่อยู่ตรงนั้นต่างก็พากันหัวเราะออกมา รอยยิ้มของพวกเขาฟังแล้วรำคาญหูสุดๆ แถมยังแฝงไปด้วยความเย้ยหยันอีกต่างหาก
“ถ้าผมบอกว่าไม่ล่ะ?”
“เหอะ!ก็ลั่นไกยิงแกเลยไงล่ะ แกมีสิทธิ์พูดดำว่า ไม่ ได้เหรอ?”
เหอเหรินเจ๋มองเนี่ยเฟิงด้วยสายตาเย็นชา“ฉันเป็นคนที่ความอดทนมีจำกัด อย่ามาหยามกับฉัน ตอนนี้แกคุกเข่าขอร้องอ้อนวอนให้ฉันยกโทษให้แกจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นแกก็ตายสถานเดียว ทั้งเมืองเยี่ยนตูเป็นถิ่นของตระกูลฉัน ฉันเป็นใหญ่ที่สุด!”
“ถ้าอย่างนั้นคุณก็สุดยอดจริงๆน่ะสิ แต่ว่าผมคนนี้คุกเข่าให้ฟ้าให้ดินและพ่อแม่เท่านั้น จะไม่คุกเข่าให้กับคนแบบคุณแน่นอน”
เนี่ยเฟิงหรี่ตาลง มองไปยังเหอเหรินเจ๋
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฉันก็จะทำให้แกได้รู้ถึงความสุดยอดของฉัน ยิงได้!เอาให้มันพรุน ให้มันได้รู้ว่าคนที่มันกำลังก้าวก่ายอยู่เป็นใครกันแน่!”
เหอเหรินเจ๋ออกคำสั่ง ทีมมังกรก็ไม่มีลังเล จากนั้นพวกเขาก็เหนี่ยวไกปืน แต่ในเวลานี้เองเนี่ยเฟิงราวกับผีก็ไม่ปาน!
ในห้องซาวน่าที่ขนาดไม่ได้ใหญ่ห้องนี้ เขาหายไปอย่างไร้ร่องรอย!
“เห้ย!”เสียงร้องครวญครางดังลั่นไปทั่วห้องซาวน่า!