พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 217 การวางแผน
บทที่ 217 การวางแผน
เนี่ยเฟิง ออกจากเฮ่ากง และเมื่อกลับมาถึงที่โรงแรม ก็พบว่าคางเมิ่งยังไม่กลับมา ป่านนี้แล้ว คางเมิ่งยังออดิชันอยู่อีกเหรอ?
เนี่ยเฟิงเปิดมือถือเพื่อเช็กดูสถานที่ที่เดินทางของคางเมิ่ง พี่สาวหลายคนคิดว่าตำแหน่งบนมือถือของเนี่ยเฟิงนั้นแม่นยำแต่ที่จริงแล้วตำแหน่งบนมือถือของเนี่ยเฟิงมีผลการป้องกันการสอดแนม
เนี่ยเฟิงสามารถเห็นสถานที่เดินทางของพี่สาวทั้งหลายและเหล่าพี่สาวก็สามารถเห็นที่อยู่ของเนี่ยเฟิงได้โดยภายใต้การควบคุมของเนี่ยเฟิง และตราบใดที่เนี่ยเฟิงต้องการไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหน ก็สามารถแสดงว่าที่อยู่ของเขาปลอดภัยและไม่มีอันตราย
เนี่ยเฟิงเปิดมือถือ และหาสถานที่เดินทางของคางเมิ่งเจออย่างคุ้นเคย ในขณะนั้นเองเขาก็พบว่าตำแหน่งปัจจุบันของคางเมิ่งอยู่ที่วิลล่าน้ำพุร้อน ไหนบอกว่าออดิชันที่แท้ก็ไปที่วิลล่าน้ำพุร้อนนั่นเอง?
เนี่ยเฟิงโทรหาคางเมิ่ง แต่ปลายอีกฝั่งกลับแสดงให้เห็นว่าไม่ได้รับการตอบรับ จากนั้นมือถือก็ตกอยู่ในสถานะปิดเครื่อง
แม้ว่าจะอยู่ในสถานะปิดเครื่อง แต่ตราบใดที่เนี่ยเฟิงต้องการค้นหา ก็จะสามารถหาสถานที่เดินทางของคางเมิ่งได้อย่างง่ายดาย และในตอนนี้ก็ยืนยันได้แล้วว่าคางเมิ่งอยู่ในวิลล่าน้ำพุร้อน ดังนั้นเนี่ยเฟิงจึงไม่รอช้า
เขาจึงรีบไปที่วิลล่าน้ำพุร้อนทันที เพื่อตามหาคางเมิ่ง
และในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงนั้นนักแสดงที่แจ้งให้คางเมิ่งไปออดิชันนั้น ก็ได้ถามเหอเหรินเจ๋ว่า
“คุณชายเหอคะ คุณคิดว่าฉันทำแบบนี้มันพอได้ไหมคะ?”
“ดีมาก เมื่อทำเรื่องนี้สำเร็จแล้วของรางวัลที่ฉันจะให้ไม่ขาดแน่นอน วางใจเถอะ สิ่งที่ฉันได้สัญญาไว้ฉันจะไม่ลืมแน่นอน”
หลังจากที่เหอเหรินเจ๋พูดจบเขาก็รีบวางสายไป และนั่งรออยู่ในวิลล่าน้ำพุร้อนทันที ไม่นานมาก คนของเขาก็นำตัวคางเมิ่งที่หมดสติมาที่วิลล่าน้ำพุร้อน
เหอเหรินเจ๋โดนยิงที่ขา และในตอนนี้เขายังไม่สามารถขยับได้ เขานั่งบนรถเข็นและมองไปที่คางเมิ่งซึ่งกำลังหลับสนิทอยู่บนเตียงและบนใบหน้าของเขาเผยสีหน้าโหดร้ายทารุณออกมาทันที
“นางบ้าเอ๊ยคิดไม่ถึงเลยว่าแกจะมีวันนี้กับเขาด้วย?”
เหอเหรินเจ๋ยกคางขึ้นและสั่งให้ลูกน้องปลุกคางเมิ่ง คางเมิ่งตื่นขึ้นด้วยความฉงนงุนงง พร้อมกับมองไปรอบๆ ด้วยความสับสนและเมื่อหล่อนเห็นเหอเหรินเจ๋ที่นั่งอยู่บนรถเข็น คางเมิ่งก็ตกใจ
“ทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่?”
เหอเหรินเจ๋ยิ้มด้วยใบหน้าที่น่าเกลียดน่ากลัวและเห็นเพียงเขาจับคางของคางเมิ่งขึ้นมา และบังคับให้คางเมิ่งมองตัวเอง
ในตอนนี้คางเมิ่งโดนมัดไว้และไม่สามารถขยับตัวได้
“ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่ได้? แล้วทำไมฉันเป็นแบบนี้ไปได้? ทั้งหมดนี้เป็นเพราะพวกคุณทำ! เนี่ยเฟิงทำร้ายฉันจนเป็นแบบนี้แล้วก็จากไป แม้ว่าฉันจะทำอะไรเขาไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันทำอะไรแกไม่ได้?”
เหอเหรินเจ๋กดมือแรงขึ้น คางเมิ่งรู้สึกว่าแก้มตัวเองเจ็บเป็นอย่างมาก แต่เหอเหรินเจ๋ก็ไม่ได้คิดจะปล่อย
“รู้สึกกลัวมากใช่ไหม? ต่อให้กลัวมันก็ไร้ประโยชน์ เพราะฉันจะไม่มีวันปล่อยแกไป!”
เหอเหรินเจ๋มองไปที่คางเมิ่งด้วยใบหน้าโหดร้ายทารุณ เพราะคางเมิ่งกลัว จึงรีบเดินถอยหลังไปสองสามก้าวแต่เหอเหรินเจ๋ก็ไม่ได้ให้โอกาสนี้กับคางเมิ่ง จากนั้นก็เห็นเพียงเขาดึงผมของคางเมื่งขึ้นมา และลากคางเมิ่งมาอย่างกะทันหัน
คางเมิ่งเจ็บจนน้ำตาไหลออกมาที่จริงแล้วทั้งหมดนี้ล้วนเป็นกับดัก และเหอเหรินเจ๋เองก็จงใจหลอกตัวเองมาที่นี่!
“แกดูถูกฉันไม่ใช่เหรอ? เช่นนั้นฉันก็จะให้แกเห็นว่า ผลของการดูถูกฉันเป็นอย่างไร มานี่หน่อย โยนมันลงไปสะ! ”
ด้านข้างเป็นบ่อน้ำพุร้อน หากพูดตามลักแล้ว แม้ว่าคางเมิ่งจะตกลงไปก็อาจไม่ถึงขั้นจมน้ำตาย แต่ในตอนนี้คางเมิ่งโดนมัดไว้และไม่สามารถขยับตัวได้ถ้าหล่อนโดนโยนลงไปก็คงทำได้แค่จมลงสู่ก้นสระเท่านั้น!
แต่ไม่ว่าคางเมิ่งจะพยายามดิ้นแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ เพราะยังไงสะคางเมิ่งก็เป็นเพียงผู้หญิงยิงเรือคนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งเดิมทีก็ไม่มีพละกำลังอะไรมากอยู่แล้ว และในตอนนี้ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาอีกด้วย
คางเมิ่งถูกโยนลงไปในสระน้ำพุร้อน หลังจากนั้นหล่อนก็ลอยอยู่ในน้ำเดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง และรู้สึกถึงความอันตรายของการหายใจไม่ออก หล่อนรู้สึกหวาดกลัวและกระวนกระวายใจ
ในขณะที่คางเมิ่งคิดว่าตัวเองกำลังจะจมน้ำตายนั้น ก็มีเงาร่างของคนกระโดดลงมาในสระน้ำพุร้อน และอุ้มคางเมิ่งขึ้นมา คางเมิ่งโดนอีกฝ่ายอุ้มขึ้นบนบ่า หล่อนถึงรู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังจะรอดขึ้นมา หล่อนออกแรงดึงคนตรงหน้า เพื่อให้ตัวเองสามารถหายใจออก
คางเมิ่งในตอนนี้ก็เป็นเหมือนลูกหมาตกน้ำ แต่แม้ว่าคางเมิ่งจะตกลงไปน้ำ เมื่อขึ้นมาก็ยังชวนให้คนใจเต้น อย่างไรก็ตามสาวสวยคนหนึ่งตกน้ำก็ทำให้ผู้คนรู้สึกปวดใจ สงสาร และแม้เปียกน้ำก็ยังคงงดงาม
เมื่อคางเมิ่งได้สติกลับมา ก็พบว่าคนที่แบกตัวหล่อนไว้บนบ่านั้นมันรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตามาก หล่อนรีบยื่นมือออกมาเช็ดน้ำออกจากหน้า จากนั้นก็มองไปที่คนคนนั้น และเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยแข็งแกร่งและเด็ดเดี่ยว ของเนี่ยเฟิง ซึ่งเนี่ยเฟิงในขณะนั้นก็อุ้มคางเมิ่งขึ้นฝั่งมาแล้ว
ทันทีที่เห็นเนี่ยเฟิง คางเมิ่งก็เกือบจะร้องไห้ “เสี่ยวเฟิง! น้องมาแล้วเหรอ! พี่กลัวแทบตายเลย พี่ยังคิดว่าชีวิตนี้พี่คงจะไม่ได้เจอน้องแล้ว!”
“ไม่เป็นไรแล้วครับพี่”
เนี่ยเฟิงดึงเชือกที่มัดร่างกายของคางเมิ่งออก ราวกับว่าเชือกนั้นทำมาจากเต้าหู้คางเมิ่งไม่ได้โดนมัดแล้ว หล่อนรีบกอดเนี่ยเฟิงทันที และการกระทำนี้ก็โดนเหอเหรินเจ๋ที่นั่งอยู่บนรถเข็นเห็นเข้า
เหอเหรินเจ๋โกรธและเดือดดาลมาก เขาอยากจะลุกขึ้นจากรถเข็นทันที แต่ขาข้างหนึ่งของเขาโดนเนี่ยเฟิงทุบตีจนหักไปและไม่ว่าเขาจะทำอย่างไรมันก็ทำได้แค่โยกอยู่บนรถเข็นเท่านั้น
“พวกแกยังทำอะไรอยู่? ยังไม่รีบไปฆ่ามันอีก!”
ที่เหอเหรินเจ๋กลายเป็นแบบนี้ ก็เพราะเนี่ยเฟิงเตะ
ก่อนหน้านี้เขาทำไปเพราะอยากมีชีวิตรอดแค่นั้น แต่ในตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมแล้ว เพราะข้างกายเขามียอดฝีมือมากมายขนาดนั้นและคนเหล่านี้ก็เป็นคนที่พ่อเขาจ่ายไปด้วยราคาสูงเพื่อจัดให้มาอยู่ข้างกายเขา ดังนั้นมันจึงไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน
เมื่อเนี่ยเฟิงเห็นคนกลุ่มนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มพร้อมกับพูดว่า
“แค่พวกน่าเกลียดพวกนี้เองแกให้พวกมันเป็นเครื่องมือช่วยชีวิตจริงๆ งั้นเหรอ?”
สีหน้าเนี่ยเฟิงเย็นชาราวกับภูเขาน้ำแข็ง สายตาคู่นั้นของเขาดูเหมือนจะระเบิดความอาฆาตออกมา และเหอเหรินเจ๋เองก็พาลโกรธไปด้วยเช่นกัน เมื่อเขาออกคำสั่ง ก็เห็นเพียงบอดี้การด์ข้างกายเหอเหรินเจ๋รีบพุ่งออกไปทันที
บอดี้การ์ดเหล่านั้นได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี พวกเขาน่าจะเป็นพวกหัวกะทิที่ได้รับการคัดเลือกมาจากกลุ่มทหารรับจ้าง แต่สำหรับเนี่ยเฟิงเทพสังหารแล้ว คนเหล่านี้ก็เป็นเพียงแค่พวกแมวสามขาเท่านั้น และไม่ควรกล่าวถึงด้วยซ้ำ
บนบ่าเนี่ยเฟิงยังคงแบกคนไว้อีกด้วยแต่ฝ่าเท้าของเขากลับเป็นเหมือนพายุหมุน
คนเพียงไม่กี่คนนั้นไม่สามารถเข้าใกล้เนี่ยเฟิงได้เลยเพราะเมื่อไหร่ที่เข้ามาใกล้พวกเขาทั้งหมดก็โดนถีบลงไปในสระน้ำพุร้อนไปทันที
เมื่อเหอเหรินเจ๋เห็นฉากนี้ก็เบิกตากว้างอย่างอดไม่ได้ และเขาก็รู้สึกได้ถึงความสยดสยองที่ปกคลุมไปทั่วร่างกายของเขาเขาสั่นไปทั้งตัว เหมือนกับแกลบ ที่ไม่มีทางควบคุมให้มันสงบลงได้
เหอเหรินเจ๋กลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก เขาอยากจะถอยหนี แต่ไม่มีใครผลักรถเข็น เขาอยากจะก้าวไปข้างหน้าแต่เนี่ยเฟิงก็อยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้ก็เหมือนอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
เนี่ยเฟิงวางคางเมิ่งลง ขาของคางเมิ่งอ่อนแรง และเกือบจะล้มลงกับพื้น ถ้าไม่ใช่เพราะเนี่ยเฟิงรีบไปรับอย่างรวดเร็ว คางเมิ่งอาจจะล้มลงแล้ว
“พี่เจ็ด พี่นั่งตรงนี้ก่อนนะ ผมจะสั่งสอนไอ้หมอที่รังแกพี่สักหน่อย กล้าหาญมากใช่ไหม? ถึงขั้นกล้าพาพี่มาที่นี่”