พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 219 อยู่ได้แค่คนเดียว
บทที่ 219 เหลือไว้แค่คนเดียว
“ผมก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อคืนหลังจากที่กลับมาพร้อมกันกับพี่ผมเหนื่อยมาก เลยเผลอหลับไป…”
เนี่ยเฟิงแสร้งทำตัวเป็นโง่เขลาเบาปัญญาเก่งมาก หลังจากพูดจบก็ดูเหมือนว่าเนี่ยเฟิงจะคิดอะไรบางอย่างได้ เขาจึงรีบหยิบมือถือขึ้นมาและค้นหาทันที จากนั้นก็พูดอย่างเข้าใจได้ในทันทีว่า
“นี่อาจเป็นกรรมตามสนองหรือเปล่าครับพี่ พี่ดูสิร้านของพ่อเขาก็โดนระเบิดจนยับเยินเช่นกัน ดูเหมือนว่าศัตรูในอดีตที่ต้องการแก้แค้น หรือบางทีเขาอาจหาพ่อเขาไม่เจอเลยมาหาเขาแทน โชคดีที่เมื่อคืนพวกเรากลับมาเร็ว ไม่งั้นพวกเราก็จะโดนเกี่ยวพันไปด้วย!”
คางเมิ่งตกใจจนเบิกตากว้าง หล่อนพยักหน้าอย่างรีบร้อน “ไม่น่าแปลก ที่ฉันบอกว่าเขาโดนระเบิดตายได้ยังไงที่แท้กลับกลายเป็นว่าศัตรูไปหานั่นเอง! ศัตรูของคนพวกนี้น่ากลัวจริงๆ เลย!”
“ก็อาจไม่ใช่อย่างนั้น ผมได้ยินมาว่าตอนที่พ่อเขายังหนุ่มก็ชอบทำ พวกเรื่องไม่ถูกต้อง ดังนั้นการที่มีศัตรูมาหาถึงที่มันจึงเป็นเรื่องปกติ และเขาก็ยังไม่สนใจลูกชายตัวเองด้วยซ้ำ ดูเหมือนว่าพ่อเฒ่าคนนี้ไม่สมควรเป็นพ่อคนเลย”
ที่จริงแล้วในตอนนี้เหอคุนยังคงได้รับการทุบตีอย่างกระหน่ำอยู่ในห้องใต้ดินที่มืดมิด เขาโดนทุบตีตลอดทั้งคืน และเจ็บปวดจนต้องแสยะยิ้มด้วยความเจ็บปวด เหอคุนผู้ซึ่งคุ้นเคยกับการใช้ชีวิตที่ร่ำรวย แล้วจะทนต่อการโดนทุบตีเช่นนี้ได้อย่างไร?
เขารีบเรียกคนสองคนมาทันที
“ฉันเคยพูดไปแล้วว่า ให้พวกแกไว้ชีวิตฉัน และในบรรดาผู้สังหารหมู่ที่เข้าร่วมคดีร้ายแรงบนทะเลในตอนนั้น ตอนนี้ที่ยังอยู่ในเมืองเยี่ยนตูนั้นมีเพียงคนพวกนี้ไม่กี่คนเท่านั้น”
เมื่อเหอคุนพูดคำพวกนี้เขาก็หายใจอย่างแผ่วเบา ซึ่งสามารถเห็นถึงความเจ็บปวดของเหอคุนได้ และเหอคุนเองก็ไม่เคยโดนบังคับจนกลายเป็นแบบนี้มาก่อน และในตอนนี้สามารถพูดได้ว่าแม้เขาจะเรียกฟ้าๆ ไม่ตอบ เรียกดินๆ ก็คงไม่ขานแล้ว
หลังจากที่ทีมข่าวกรองได้ข้อมูลแล้ว พวกเขาก็รีบส่งไปให้เนี่ยเฟิง เนี่ยเฟิงเหลือบมองเขา และหัวเราะเยาะอย่างอดไม่ได้“ไม่ใช่ว่าเมื่อคืนเหอคุนยังปากแข็งงั้นเหรอ คิดไม่ถึงเลยว่าตอนนี้จะสารภาพทั้งหมดมันออกมา”
หลังจากที่เนี่ยเฟิงดูเสร็จแล้ว ก็โยนข้อมูลนั้นทิ้งไปยังอีกฝั่ง ความทรงจำของเขาดีมาก และฉันก็ได้จดจำลักษณะและข้อมูลภูมิหลังของคนคนนี้ไว้นานแล้ว
ทรัพย์สินของเหอคุนโดนระเบิดไปหมดแล้ว และลูกชายของเหอคุนก็โดนระเบิดตายเช่นกัน ข่าวนี้ไม่นานก็จะถูกเผยแพร่ออกไปอย่างรวดเร็วในเมืองเยี่ยนตู หลังจากที่หงต้าเป่ารู้ข่าวก็ตกใจไปด้วยเช่นกัน ซึ่งเดิมทีเขาบากหน้าไปขออาศัยเหอคุนอยู่ แต่คิดไม่ถึงว่าในตอนนี้เหอคุนจะหายตัวไปและไม่สามารถติดต่อได้ และทรัพย์สมบัติของเหอคุนก็กลายเป็นของคนอื่นไปทั้งหมดแล้ว โดยที่ทุกอย่างเกิดขึ้นภายในค่ำคืนเดียวเท่านั้น
หงต้าเป่าไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากเช็ดฝ่าเท้าแล้วรีบหนีไป ซึ่งเดิมทีเขาอยากจะออกเดินทางโดยเครื่องบิน แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเมื่อเขาถึงไปที่สนามบินแล้วจะโดนจับตัวได้ และเขายังไม่ทันได้ต่อต้านก็หมดสติไป เมื่อหงต้าเป่าฟื้นขึ้นมา ก็พบว่าเขาอยู่ในห้องใต้ดินที่มืดมิดแล้ว
หงต้าเป่าไม่สามารถขยับตัวได้ ร่างกายที่อ้วนท้วนของเขาถูกมัดไว้ เขาอยากจะเรียกร้อง แต่ที่นี่ก็มีเพียงคนเดียวที่ตอบรับเขาเท่านั้น ซึ่งเขาคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเหอคุนที่กำลังจะตายนั่นเอง
“ฉันแนะนำให้นายหยุดตะโกนได้แล้วประหยัดกำลังหน่อยเพราะมันจะได้ไม่เป็นอันตรายต่อตัวนาย”
เหอคุนหายใจออกอย่างช้าๆ และเขาก็ไม่ได้กินอะไรมาทั้งวันแล้ว ฉันแค่รู้สึกว่าฉันหิวจนท้องร้อง อาหารอันโอชะแห่งป่าและทะเลของวันธรรมดาๆ ฉันกินจนเบื่อแล้ว และในตอนนี้ฉันแค่อยากกินข้าวสักคำเท่านั้นเอง
“พี่คุน พี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? โลกภายนอกบอกว่าพี่สาบสูญไปแล้ว!”
หงต้าเป่าได้ยินเสียงของเหอคุน ก็เหมือนกับว่าได้เห็นญาติสนิทตัวเอง จากนั้นก็เห็นแค่เขาเคลื่อนย้ายไปยังทิศทางของเหอคุนทันที
แต่เดินไปแค่สองก้าว หงต้าเป่าก็โดนควบคุมไม่ให้เคลื่อนไหว เพราะเชือกที่ผูกกับข้อเท้าของหงต้าเป่าถูก จำกัดไว้
ไม่ว่าหงต้าเป่าจะดิ้นรนแค่ไหนก็ไม่สามารถหลุดจากเชือกได้เขาจึงโยกตัวกลับมาด้วยความโกรธ
“นายไม่ต้องเสียแรงเปล่าหรอก ไอ้เด็กเหี้ยนั่นป้องกันเพื่อไม่ให้เราหนีโดยขังเราไว้อย่างหนาแน่น แม้ว่าเราจะร้องเรียกเจ็บคอก็ไม่มีทางออกไปจากที่นี่ได้”
เหอคุนหายใจออกอย่างช้าๆ อยู่ในกำมือของไอ้เด็กเวรนี่ มันเป็นเรื่องที่เขาไม่คาดคิดเลย
“ไอ้เด้กเวรอะไรกัน เรายั่วยุโดนคนอะไรเข้ากันเนี้ย? แล้วทำไมถึงโดนจับตัวมาด้วยล่ะ?”
จนถึงตอนนี้หงต้าเป่าก็ยังมึนงงและไม่เข้าในอะไรเหอคุนจึงจ้องไปที่หงต้าเป่า
“นี่นายลืมเรื่องคดีร้ายแรงบนทะเลไปแล้วเหรอ?
ครอบครัวของหงต้าเป่าทำอุตสาหกรรมเหมืองแร่จึงร่ำรวยขึ้นแต่หงต้าเป่าคนนี้ไม่มีความสามารถอะไรมากมายซึ่งในตอนแรกนั้นเขาก็เกือบจะสูญเสียทรัพย์สินไปทั้งหมดแล้ว
หลังจากที่ครอบครัวของพวกเขาข้นแค้นแสนลำบากแล้วหงต้าเป่าก็มีความผิดด้วยเช่นกัน เพราะเขาติดต่อเพื่อร่วมมือกับเหอคุนดังนั้นเขาจึงเข้าร่วมคดีร้ายแรงบนทะเล
แม้ว่าเขาจะเป็นแค่ลูกมือในคดีนี้ แต่เขาก็ได้รับผลประโยชน์มากมายด้วยเช่นกัน
“ฉันยังไม่ลืม แต่ทำไมพี่ถึงพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาในเวลานี้ล่ะ ฟังดูแล้วมันช่างซวยจริงๆ เลย”
“เนี่ยเฟิงเป็นคนที่รอดตายในตอนนั้น และในตอนนี้ที่เขาก็มาหาเราถึงที่แล้ว ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะมีความสามารถแบบนี้! ซึ่งในตอนนี้เขากำลังตามหาวางแผนก่อการและผู้ทำร้ายที่เข้าร่วมคดีร้ายแรงบนทะเล และฉันเองก็โดนพวกเขาจับตัวได้แล้ว แม้แต่แกก็ไม่มีข้อยกเว้นและพวกเขาทั้งหมดจะโดนจับในภายหลัง!”
เมื่อเหอคุนนึกถึงเรื่องนี้ก็กำหมัดแน่นทันที และแสดงสีหน้าดุร้ายออกมา
“แล้วจะทำยังไงดีล่ะ? ฉันยังหนุ่มขนาดนี้ ฉันยังไม่อยากตาย พี่คุน พี่รีบคิดหาวิธีสิ!”
“นายคิดว่าฉันอยากตายเหรอ? ทรัพย์สินของครอบครัวที่ใหญ่ขนาดนั้นก็โดนเขายึดครองไปแล้วและตอนนี้ฉันก็ยังไม่รู้เลยว่าสถานการณ์ข้างนอกเป็นยังไงบ้าง!”
“ในเมื่อพวกแกสองคนยังไม่อยากตาย งั้นฉันก็จะให้โอกาสพวกแกก็ได้”
ในขณะนั้นเองเนี่ยเฟิงก็ค่อยๆเดินเข้ามาเนื้อหาที่พวกเขาสองคนได้คุยกันนั้นเนี่ยเฟิงได้ยินหมดแล้ว ที่นี่มีการควบคุมและคอยสังเกตอยู่ และพวกเขาทั้งสองคนก็คุยกันอย่างโง่เขลา ที่แท้ก็เป็นพวกเขาคนที่คุ้นเคยกับการใช้ชีวิตที่สุขสบายนั่นเอง และไม่มีความรู้สึกถึงวิกฤตเลยสักนิด
เหอคุนเห็นว่าเนี่ยเฟิงมา ก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาโดยสัญชาตญาณ วันนี้โดนทรมานจนไม่เหลือสภาพความเป็นคน และเขาก็สารภาพเกี่ยวกับคนทำร้ายคนอื่นๆ ตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วแต่ในตอนนี้เมื่อเห็นเนี่ยเฟิงก็ยิ่งรู้สึกกลัวมากขึ้นโดยอัตโนมัติ
เนี่ยเฟิงยิ้มพร้อมกับเดินเข้าไปเขาเปิดไฟสลัวในที่อยู่ห้องเมื่อหงต้าเป่าเห็นเหอคุนที่ทั้งตัวปกคลุมไปด้วยรอยแผล ถึงกับตะลึงไปในชั่วขณะหนึ่ง ไม่แปลกเลยที่เขาจะได้กลิ่นคาวเลือดที่ลอยอยู่ในอากาศ ที่แท้ก็เป็นเพราะเหอคุนที่อยู่ตรงหน้าเขาได้รับบาดเจ็บ
หงต้าเป่ากลืนน้ำลายอย่างยากลำบากและในขณะนั้นสมาชิกของสำนักมังกรก็รีบจัดเก้าอี้ในทันที และเชิญให้เนี่ยเฟิงนั่งลงหลังจากที่เนี่ยเฟิงนั่งลงก็มองไปที่พวกเขาอย่างจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม
“พวกแกทั้งสองคนต่างก็เข้าร่วมเป็นผู้สังหารหมู่ในคดีร้ายแรงบนทะเล เดิมทีฉันไม่ได้คิดว่าจะปล่อยพวกแกรอดชีวิตและออกไป แต่ใครจะสามารถออกจากตรงนี้ไปได้ล่ะ พวกแกว่ายังไง?
ฉันก็ยังเป็นคนแบบนี้ทำไมคุณไม่ทำแบบนี้ใครจะรอดจากการดวลระหว่างคุณล่ะ คุณคิดว่าจะออกไปจากที่นี่ได้ไหม? ”
เนี่ยเฟิงพูดพร้อมกับขว้างกริชใส่พวกเขาทั้งสอง เมื่อเหอคุนและหงต้าเป่าเห็นกริชที่เปล่งประกายแวววับนั้นต่างก็ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี และพวกทั้งสองคนก็ไม่ได้แก้ปัญหาด้วยการฆ่าคนมานานแล้ว
“แกบ้าไปแล้วฉันจะฆ่าพี่คุนได้ยังไง!”
หงต้าเป่าออกแรงส่ายหัวแต่ในใจเขากลับไม่ได้คิดเช่นนั้น