พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 222 เจอหัวหน้าครอบครัว
บทที่ 222 เจอหัวหน้าครอบครัว
ณ สถานีรถไฟ บนรถเย่หรูเสว่มองเนี่ยเฟิงที่นั่งยิ้มอย่างไม่มีพิษไม่มีภัยอยู่ตรงข้ามกับตนเอง เธอค่อยๆถอนหายใจออกมา
“ทำไมเด็กนี่ถึงตามมาด้วย? น้องเจ็ด เธอไปปากมากพูดอะไรกับเขาใช่ไหม?”
พวกพี่ๆไม่อยากที่จะบอกเนี่ยเฟิง ก็เพื่อไม่ให้เนี่ยเฟิงเครียด แต่คิดไม่ถึงว่าจะมาถูกเนี่ยเฟิงได้ยินจนได้
คางเมิ่งกระพริบๆตา“ฉันก็แค่พูดออกมาตามใจปากเท่านั้น อีกอย่าง ฉันรู้สึกว่าเรื่องนี้ยังไงก็ต้องให้บอกให้เสี่ยวเฟิงรู้อยู่ดี……”
เย่หรูเสว่จ้องคางเมิ่งตาเขม็ง“ฉันรู้อยู่แล้วว่าเธอจะต้องอยู่ฝั่งเดียวกับเสี่ยวเฟิง ตอนเด็กตอนที่พวกเธอเล่นพ่อแม่ลูกกัน เธอก็ชอบอุ้มเสี่ยวเฟิง บอกว่าเสี่ยวเฟิงเป็นลูกชายเธอตลอด!”
เนี่ยเฟิง“……”.
คางเมิ่ง“……”
อดีตอันน่าอับอายถูกขุดขึ้นมา ทั้งสองคนหันมองหน้ากัน หน้าคางเมิ่งแดงเหมือนกับก้นลิง เธอรีบกุมหน้าของตัวเองทันที“นี่มันเรื่องสมัยไหนกันแล้ว เธอยังพูดถึงมันอีกทำไม!”
“เหอะ!”
เย่หรูเสว่จ้องเขม็งคางเมิ่ง จากนั้นก็หันไปพูดกับเนี่ยเฟิง“นายแน่ใจนะว่าจะไปกับพวกเรา?”
“แน่นอนอยู่แล้ว!ผมจะเป็นบอดี้การ์ดของพี่เอง!”
เนี่ยเฟิงพูดพลางตบๆลงที่หน้าอกของตัวเอง
“ช่วงนี้นายว่างจริงๆนะ ไม่มีอะไรทำหรือไง?”
เย่หรูเสว่หรอกตามองบน“ช่างเถอะ ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว นายก็ไปกับพวกเราก็แล้วกัน แต่ว่า พอถึงที่นั่นแล้ว นายต้องจำไว้ว่าอย่าพูดอะไรเด็ดขาด ทำเหมือนว่านายเป็นใบ้ไปเลย เข้าใจไหม?”
เนี่ยเฟิงพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง“ครับ!ไม่มีปัญหา!”
ถึงแม้ว่าข้างกายคางเมิ่งจะมีทหารระดับเอกของสำนักมังกรคอยประกบอยู่ แต่ว่าเขาจะให้ทหารระดับเอกตามประกบเย่หรูเสว่ไม่ได้
ถึงยังไงเย่หรูเสว่ก็เป็นตำรวจอาชญากรรม ถ้าขืนไปสะกดรอยตามเธอรับรองว่าจะต้องถูกดักลอบทำร้ายกลับแน่ๆ
ดังนั้นเนี่ยเฟิงจึงกะที่จะตามไปด้วยตัวเอง
พวกเขาลงรถที่เมืองหนานหู ตอนแรกเนี่ยเฟิงเสนอว่าให้นั่งเครื่องบินไป ผลที่ได้กลับถูกคางเมิ่งพูดกรอกหูซ้ำแล้วซ้ำเล่า“ต้องรู้จักประหยัดเพื่อครอบครัวสิ อีกอย่างระยะทางแค่สองสามชั่วโมงจะนั่งเครื่องบินทำไม คิดซะบ้างสิ”
เนี่ยเฟิงจึงจำใจยอมแพ้ไป
หลังจากลงรถแล้ว คางเมิ่งกับผู้จัดการก็จากไป เย่หรูเสว่แล้วก็เนี่ยเฟิงทั้งสองคนยืนอยู่ตรงทางเข้าสถานีรถไฟ หลังจากเย่หรูเสว่เห็นว่าคางเมิ่งจากไปแล้ว ก็พูดกับเนี่ยเฟิง
“เสี่ยวเฟิง ไหนๆนายก็มากับฉันแล้ว ฉันมีหนึ่งเรื่องที่จะบอกกับนาย”
เนี่ยเฟิงพยักหน้า“ครับ!คุณพูดมาเถอะ”
“เดี๋ยวพอถึงแล้ว นาย……นายแกล้งทำเป็นคู่หมั้นของฉันก็แล้วกันนะ!”
เนี่ยเฟิงอึ้งตะลึงทันที“ทำไมเหรอ?”
เย่หรูเสว่พูดขึ้นอย่างหมดความอดทน“เมื่อก่อนครอบครัวของพวกเขาอาศัยอยู่ที่เมืองจินไห่ แต่หลังจากที่เขาได้รับค่าเลี้ยงดูก้อนแรกพวกเขาก็มาซื้อบ้านอยู่ที่เมืองหนานหู ตอนนี้เรียกฉันกลับไปก็เพียงแค่เรื่องที่ขัดใจพวกเขาแค่เรื่องเดียวเท่านั้นแหละ พวกเขากระตือรือร้นที่จะหาคู่ให้กับฉัน ทุกๆครั้งฉันก็จะหาวิธีเลี่ยงตลอด แต่หลังจากที่ผ่านวันเกิดในครั้งนี้ของฉันไป ฉันก็จะสามารถมีทะเบียนสมรสได้แล้ว ดังนั้น……”
เย่หรูเสว่ชำเลืองตาไปมองเนี่ยเฟิง“นายอย่าถามว่าทำไม!ฉันพูดอะไรก็ทำแบบนั้น เข้าใจไหม?”
ในความจริงแล้วเนี่ยเฟิงรู้สึกได้ตั้งนานแล้วว่ามันเป็นแบบนี้ เนี่ยเฟิงจึงพยักหน้าอย่างทันที“ไม่มีปัญหา!แต่ว่าพี่หก ถ้าผมช่วยคุณแล้วผมจะได้ผลตอบแทนอะไรบ้างไหม?”
เนี่ยเฟิงยิ้มกว้าง ถูๆนิ้วด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์
“เด็กคนนี้นี่!กล้ามาตักตวงผลประโยชน์จากฉัน? อยากตายหรือไง? กวนตีน?”
เย่หรูเสว่จ้องเนี่ยเฟิงตาเขม็ง ทุบกำปั้นไปที่หลังของเนี่ยเฟิงหนึ่งที
เนี่ยเฟิงร้องอุทานออกมา เจ็บจนร้องอ้าปาก“แรงของพี่หกเยอะเกินไปแล้ว!แบบนี้ดีไหม!หลังจากเรื่องนี้สำเร็จแล้ว พี่หกก็นวดให้ผมก็แล้วกัน!ดีไหม?”
“เหอะ!ถึงตอนนั้นค่อยว่ากันก็แล้วกัน!ไปกันเถอะ ไปที่โรงแรมหนานหูกันก่อน”
เมืองหนานหูก็อยู่ในมณฑลซานเจียง แต่ว่าเมืองหนานหูมีชื่อเสียงมากๆ แล้วก็เป็นเมืองที่พัฒนามากที่สุดในบรรดาเมืองทั้งหมด ราคาห้องพักก็เลยแพงมากด้วยเช่นกัน
ในเมืองหนานหูมีชายหญิงที่แต่งตัวเก๋ไก๋มีสไตล์มากมาย บนถนนมีเน็ตไอดอลมากมายอยู่ให้เห็นเต็มไปหมด หนุ่มหล่อสาวสวยก็มีให้เห็นอยู่ไม่น้อยเช่นกัน
เนี่ยเฟิงไม่มีความสนใจกับอะไรแบบนี้เลยแม้แต่น้อย จริงๆแล้วในสายตาของเขาสิ่งเหล่านี้มันไม่มีค่าอะไรเลยสักนิด
วันนี้เย่หรูเสว่ไม่ได้สวมใส่เครื่องแบบตำรวจ ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว กระโปรงจับจีบสีดำ แล้วก็รองเท้าหนังหนึ่งคู่ธรรมดาๆ
ผมสีดำแววมัดรวบไว้ เผยให้เห็นถึงใบหน้าเล็กๆที่สวยงาม ผิวของเธอขาวนวล ต่อให้ต้องออกไปปฏิบัติภารกิจข้างนอกอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอดูหมองคล้ำลงเลย
เย่หรูเสว่ที่หน้าตาสวยอยู่แล้ว แถมเป็นความสวยงามชนิดที่หยิ่งผยอง ดูแล้วเป็นความสวยงามที่ไม่สามารถไปยุแหย่ได้
แต่เพราะว่าสวยเกินไป จึงดึงดูดคนจำนวนไม่น้อย
พวกเขานั่งรถประจำทางไป บนรถก็มีคนไม่น้อยที่มองพวกเขา
“พี่หก คุณคุ้นเคยกับเมืองเมืองนี้ไหม?”
“เคยเรียนที่นี่ แต่ก็รับพวกเขาไม่ไหว ฉันก็เลยสอบเข้าไปโรงเรียนตำรวจ กลับไปเมืองจินไห่”
เย่หรูเสว่กับคนในครอบครัวนั้นไม่มีจุดที่เหมือนกันเลยสักนิด แต่เธอแข็งแกร่งก้าวร้าวมาก คนพวกนั้นก็ดื้อรั้นมากเช่นกัน รู้สึกว่าเย่หรูเสว่เป็นคนหัวรั้นจัดการยาก ด้วยเหตุนี้เวลาที่มีเรื่องขัดแย้งความคิดเห็นไม่ตรงกันก็มักจะเกิดการทะเลาะเบาะแว้งที่น่ากลัวอยู่ตลอด
“ใช่แล้ว อีกเดี๋ยวนายจะเรียกฉันว่าพี่หกไม่ได้แล้วนะ”
เย่หรูเสว่เหมือนกับคิดอะไรขึ้นมาได้ จู่ๆก็เอ่ยปากพูดเตือนขึ้น
เนี่ยเฟิงกระพริบตา ก่อนจะถามขึ้นด้วยความไม่เข้าใจ“ถ้าผมไม่เรียกว่าพี่หก แล้วผมควรจะเรียกคุณว่าอะไรล่ะ?”
“จะเรียกหรูเสว่ เสี่ยวเสว่ก็ได้หมด แต่ยังไงก็ต้องเรียกให้มันดูสนิทสนมกันหน่อย เข้าใจไหม?”
“เข้าใจแล้วครับ คุณภรรยา!”
เย่หรูเสว่“……”
“ที่ฉันบอกว่าสนิทสนม ไม่ได้ให้นายเรียกซะสนิทสนมขนาดนั้น นายคิดจะฉวยโอกาสใช่ไหม? เดี๋ยวแม่ก็ฟาดให้หรอก!”
เย่หรูเสว่ง้างมือขึ้นมาด้วยความโกรธ เนี่ยเฟิงรีบกลับคำทันที“เข้าใจแล้วครับ!เสี่ยวเสว่!”
เย่หรูเสว่จึงพยักหน้า“ดีมาก แบบนี้แหละ อีกเดี๋ยวอย่าตกใจพวกเขาล่ะ พวกเขาก็แค่แข็งนอกอ่อนในเท่านั้น จริงๆแล้วไม่ได้มีอะไรเลย วางใจได้”
เนี่ยเฟิงกลับอยากที่จะไปดูสักหน่อยว่าคนพวกนี้เป็นคนยังไงกันแน่
ไม่นาน รถก็แล่นมาถึงโรงแรมหนานหู
เย่หรูเสว่จัดๆเสื้อผ้าให้เนี่ยเฟิงให้เรียบร้อย จากนั้นก็พาเขาไปยังห้องพิเศษซีหูของโรงแรมหนานหู
เพิ่งจะเข้าไปในโรงแรมหนานหู มือถือของเนี่ยเฟิงก็มีข้อความเข้ามาหนึ่งข้อความ
ทหารระดับเอกที่ประจำอยู่ที่โรงแรมหนานหูของเมืองหนานหูแห่งสำนักมังกร ไห่เทา ขอพบครับ
ที่นี่มันก็เป็นอุตสาหกรรมของสำนักมังกรของพวกเขาเช่นกัน ดูท่าแล้วไม่เลวเลย
“อย่ามัวแต่อ้ำอึ้งอยู่ รีบมาเร็วเข้า”
เย่หรูเสว่พาเนี่ยเฟิงมาถึงยังห้องพิเศษซีหู มาถึงหน้าประตูของห้องพิเศษซีหูแล้ว เย่หรูเสว่ก็ถอนหานใจออกมาอย่างช้าๆ“อีกเดี๋ยวอย่ากดดัน ทำอะไรดูตาของฉันไว้”
เย่หรูเสว่พูดจบ ก็เปิดประตูเข้าไป ข้างในมีเสียงหัวเราะยิ้มแย้มดังออกมา คนกลุ่มหนึ่งกำลังพูดคุยกันอย่างดีอกดีใจ หลังจากที่ได้ยินเสียงเปิดประตูแล้ว พวกเขาก็หันมองมาตามเสียงทันที ทันทีที่เห็นว่ามีคนยืนอยู่ข้างๆเย่หรูเสว่ รอยยิ้มบนใบหน้าของทุกคนก็หยุดชะงักลง
เย่หรูเสว่เห็นสีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปก็ดีใจสุดๆ พยักหน้าอย่างปลื้มอกปลื้มใจ จากนั้นก็เดินเข้าไป“คุณลุงคุณป้า”
เย่หรูเสว่ไม่เรียกพ่อแม่บุญธรรมว่าพ่อแม่มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ถึงยังไงพวกเขาก็ไม่ดีกับเย่หรูเสว่อยู่แล้ว
“เสี่ยวเสว่ ลูกจะมาก็มาคนเดียวสิ ทำไมถึงพาเพื่อนร่วมงานกลับมาด้วยล่ะ?”
คนที่พูดอยู่นี้เป็นพ่อบุญธรรมของเย่หรูเสว่ เย่ฉงหยาง เย่ฉงหยางดูเป็นคนที่ฉลาดเฉลียวมากๆคนหนึ่ง พลางสองตาหันมามอง