พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 223 กลับบ้านไปดูตัว
บทที่ 223 กลับบ้านไปดูตัว
“สวัสดีครับคุณลุง ผมไม่ใช่เพื่อนร่วมงานครับ ผมเป็นแฟนของเสี่ยวเสว่ ชื่อเนี่ยเฟิงครับ”
เนี่ยเฟิงยิ้มยิงฟันอย่างไม่มีพิษไม่มีภัย
เป็นอย่างที่คิดไว้ สีหน้าของพวกเขามืดมนลงทันที
สองสามีภรรยามองหน้ากัน ในเวลานี้ภรรยาของเย่ฉงหยาง จางลี่ถิงก็เปิดปากพูดขึ้น
“เสี่ยวเสว่ ทำไมแม่ถึงไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าลูกหาแฟนได้แล้ว!ทำไมถึงไม่ปรึกษากับแม่ก่อนล่ะ?”
“ยังไงก็หาไปแล้ว แล้วฉันก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว ให้ตัดสินใจด้วยตัวเองไม่ได้หรือไง?”
เย่หรูเสว่พูดจบ ก็นั่งลง เธอเรียกให้เนี่ยเฟิงนั่งลงข้างๆ
ที่นี่นอกจากเย่ฉงหยางกับจางลี่ถิงแล้ว ยังมีผู้ชายกับผู้หญิงอีกสองคน ทั้งสองคนค่อนข้างเด็ก คนหนึ่งเป็นลูกสาวของเย่ฉงหยาง ชื่อเย่เหม่ยย่า ส่วนอีกคนเป็นลูกชายของเย่ฉงหยาง ชื่อเย่เล่อ
เย่เหม่ยย่าโตกว่าเย่หรูเสว่หนึ่งปี เย่เล่อเด็กกว่าเย่หรูเสว่หนึ่งปี
แต่ยีนของครอบครัวนี้ไม่เหมือนกันเลย ลูกสาวไม่ได้หน้าตาดีอะไร ลูกชายก็ไม่ได้หล่ออะไร แถมไม่ได้สูงอีกด้วย
“ยัยเด็กนี่หนิ ทำไมถึงพูดกับพ่อแม่แบบนี้ล่ะ? พ่อแม่ก็แค่หวังดีกับเธอเท่านั้น เนรคุณจริงๆ!”
เย่เหม่ยย่าวางท่าทางเป็นพี่ใหญ่ จ้องมองเย่หรูเสว่อย่างไม่สบอารมณ์
“ใช่ๆ พี่สอง พ่อแม่ก็แค่กลัวว่าพี่จะดูคนไม่เป็น!ก็เลยพูดไปแบบนั้น!”
ในความจริงแล้วเย่เล่อแทบจะไม่เห็นว่าเย่หรูเสว่เป็นพี่สาวเลยด้วยซ้ำ
สายตาที่เย่เล่อมองเย่หรูเสว่ก็ไม่สบอารมณ์เช่นเดียวกัน ตอนที่เย่หรูเสว่เรียนอยู่ก็พักอาศัยอยู่ที่หอพักของโรงเรียน
เพราะว่าเธอต้องเรียนม.ปลาย แต่ม.ปลายต้องใช้เงิน คนของตระกูลเย่ก็ไม่เต็มใจ แถมบอกว่าเด็กผู้หญิงจะเรียนหนังสือไปทำไม? ผู้หญิงไร้ความสามารถถือว่าเป็นเรื่องที่ดีแล้ว ใช้คำพูดแบบนี้ในการสกัดกั้นเย่หรูเสว่
แน่นอนว่าเย่หรูเสว่รับไม่ได้กับวาทศิลป์แบบนี้ของพวกเขา เธอพยายามสอบเข้าม.ปลายให้ได้ สองสามปีมานี้ก็ใช้ทุนการศึกษาในการสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้กับตัวเองทั้งสิ้น
หลังจากที่เย่หรูเสว่อาศัยอยู่ที่หอของโรงเรียนแล้ว เธอก็ทะเลาะกับคนตระกูลเย่อยู่ยกใหญ่
ทั้งครอบครัวของเย่ฉงหยางต่างมองว่าเย่หรูเสว่เป็นบ่อเงินบ่อทอง แน่นอนว่าไม่อยากปล่อยให้เธอ
แต่เย่หรูเสว่ก็ห้าวหาญมากพอสมควร
พอพวกของเย่ฉงหยางได้เงินก้อนใหญ่มาก่อนหนึ่งแล้ว แล้วก็ไม่สนอะไรเธออีก
แต่ตอนนี้พวกเขาใช้จ่ายเงินสุรุ่ยสุร่ายจนแทบจะเกลี้ยง พวกเขาไม่มีเงินให้ใช้แล้ว การใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยเป็นเรื่องง่ายมาก แต่จะให้กลับมาใช้จ่ายอย่างประหยัดมันยากไม่ใช่น้อย
เพราะว่าเงินก้อนนี้พวกเขาถึงขนาดที่ไม่ต้องไปทำงานเลย แล้วตอนนี้จะให้พวกเขาไปทำงานอีกอย่างนั้นเหรอ? พวกเขาทำไม่ได้หรอก!
พวกเขานึกถึงเงินที่อายัดอยู่ในธนาคารก้อนนั้น ตอนนี้เย่หรูเสว่ก็ใกล้จะอายุครบแล้ว พอครบยี่สิบเอ็ดปี เธอก็จะสามารถเอาเงินในธนาคารก่อนนั้นออกมาได้ ยิ่งไปกว่านั้นอายุยี่สิบเอ็ดปีเธอก็สามารถรับใบทะเบียนสมรสได้แล้วด้วยเหมือนกัน! เงินสองก้อนใหญ่ๆเลยนะนั่น!
เงินที่ให้พวกเขาเลี้ยงดูเย่หรูเสว่ในตอนแรกก็เยอะมากอยู่แล้ว พวกเขาซื้อบ้านแล้วก็ห้องที่เมืองหนานหูไว้แล้วด้วย ตอนนี้ห้องเอาไปปล่อยเช่าแต่ละเดือนก็ได้มาเงินมาไม่น้อย แต่เงินแค่นี้ก็ยังไม่พอใช้จ่ายสี่ชีวิตอยู่ดี
ดังนั้นพวกเขาจึงคิดแผนการชั่วร้ายขึ้นมา
“ฉันรู้สึกว่าสายตาของฉันดีกว่าของพวกคุณอีกนะ”
ตอนนี้เย่หรูเสว่มีความกล้าหาญแล้ว แล้วก็ไม่ต้องให้พวกเขามาหาข้อแย่ของเนี่ยเฟิงด้วย ถึงยังไงมันก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรอยู่แล้ว
“ในฐานะที่เป็นผู้ปกครองของลูกพ่อก็ต้องมีการถามไถ่บ้างสิ”
เย่ฉงหยางไอกระแอมหนึ่งที มองเนี่ยเฟิง“นายเป็นใคร? บ้านอยู่ไหน? ทำงานอะไร? มีบ้านมีรถไหม? มีเงินเก็บเท่าไร? แล้วจะให้สินสอดเท่าไร?”
คำถามชุดใหญ่นี้ทำให้เนี่ยเฟิงสับสนมึนงงไปหมด เย่หรูเสว่กลอกตามองบนอย่างอดไม่ได้ เธอคิดไม่ถึงว่าเย่ฉงหยางคนนี้จะนึกว่าตัวเองเป็นผู้ปกครองของเธอจริงๆ พูดอะไรไม่คิดเลยสักนิด
“ผมชื่อเนี่ยเฟิง เป็นคนเมืองจินไห่ ตอนนี้ว่างงาน ไม่มีบ้านไม่มีรถไม่มีเงินเก็บ ส่วนเรื่องสินสอดก็……”
สีหน้าของเย่ฉงหยางกับจางลี่ถิงมืดมนทันที คนว่างงานที่ไม่มีบ้านไม่มีรถ นี่มันสินค้าโนเนมชัดๆ!แล้วจะมาหวังให้สินค้าโนเนมแบบนี้ให้สินสอดอีกเหรอ?
“ฉันไม่เห็นด้วย!”
ใบหน้าของเย่ฉงหยางบึ้งตึงทันที เขาส่ายหัวด้วยความโมโห“ฉันเลี้ยงดูลูกสาวตัวเองจนเติบโตมาอย่างลำบากลำบนขนาดนี้ แล้วจะให้แต่งงานกับคนแบบแกได้ยังไง!”
“คุณลุง ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมน่ะเป็นหุ้นระยะยาว ต่อไปผมจะทำตัวดีกับเสี่ยวเสว่แน่นอนครับ ผมจะให้ทุกสิ่งทุกอย่างของผมกับเสี่ยวเสว่เลย!”
เนี่ยเฟิงตบๆลงที่หน้าอกรับประกันสิ่งที่ตัวเองพูดออกมา
แม้ว่าเย่หรูเสว่จะรู้ว่านี่มันเป็นการแสดง แต่ไม่รู้ว่าทำไมพอได้ยินเนี่ยเฟิงพูดแบบนี้แล้ว ใจของเธอก็เต้นเร็วอย่างบอกไม่ถูก
เย่หรูเสว่หันไปมองเนี่ยเฟิง ส่วนเนี่ยเฟิงก็มองเย่หรูเฟิงด้วยสายตาที่แน่วแน่ไม่สั่นคลอน
“ฉันจะแต่งงานกับเขา นี่เป็นสิ่งที่ฉันเลือก”
“ที่คุณท่านมอบลูกให้กับพวกเราในตอนแรก ก็เพื่อให้พวกเรารับผิดชอบเลี้ยงดูลูก!ลูกจะตอบแทนคุณท่านแบบนี้เหรอ!พ่ออุส่าเลี้ยงดูลูกจนเติบโตมาขนาดนี้ จู่ๆมาให้ไอ้หมอนี่มันพรากลูกไปอย่างนั้นเหรอ? ลูกนี่ช่างไม่เข้าใจหัวอกพวกเราเลยจริงๆ!”
ถ้าเนี่ยเฟิงไม่รู้สถานการณ์ของครอบครัวนี้มาก่อน แล้วพอได้ฟังคำพูดที่แสนโศกเศร้าเหล่านี้ของเย่ฉงหยางนี้ เขาก็คงจะคิดว่ามันเป็นเรื่องจริงไปแล้ว
“ใช่ๆ!ลูกทำร้ายจิตใจของแม่และพ่อขนาดนี้!แม่กับพ่อของลูกจะรู้สึกยังไงลูกรู้บ้างไหม!”
จางลี่ถิงพูดพลาง แสร้งทำเป็นปาดน้ำตา แต่ความเป็นจริงแล้วเธอพยายามบีบน้ำตาอยู่นานก็บีบไม่ออกสักหยด
“คุณลุงคุณป้า พวกคุณไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอกครับ ถึงแม้ว่าตอนนี้ผมจะไม่มีอะไรเลย แต่ผมยังเด็กขนาดนี้ ต่อไปผมจะต้องมีแน่นอนครับ!”
“สายตาที่ลูกใช้เลือกผู้ชายแย่มากๆ ดูคนที่ลูกหามาได้สิ น่ารังเกียจขยะแขยงมาก!เขาก็ทำได้แค่พูดจาอ่อนหวานใช้คารมทำให้ลูกชอบใจเท่านั้น จริงๆแล้วไม่มีอะไรเลยสักอย่าง ถ้าลูกแต่งงานไป ลูกทั้งสองคนก็จะต้องมาเป็นทุกข์กับการใช้ชีวิตในทุกๆวันแน่ๆ ตอนนี้เขาไม่มีแม้แต่งานทำ ลูกก็ใกล้จะถึงอายุที่จะแต่งงานได้แล้วด้วย หรือว่าลูกจะแต่งงานกับคนที่ไม่สามารถเลี้ยงดูลูกได้อย่างนั้นเหรอ?”
จางลี่ถิงพูดเกลี้ยกล่อมอย่างไม่หยุดไม่หย่อน
“ฉันตัดสินใจไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ ใช่แล้ว ที่พวกคุณเรียกฉันกลับมาในวันนี้ มีเรื่องอะไรกันแน่?”
เย่หรูเสว่ลาหยุด กลับมาที่เมืองหนานหูโดยเฉพาะ ไม่ใช่เพื่อมาฟังคนพวกนี้พูดพล่ามไร้สาระ แถมเย่หรูเสว่ก็รู้สึกว่าการลาหยุดของตัวเองในครั้งนี้ล้มเหลวไม่เป็นท่าสุดๆ ปกติแล้ววันหยุดของพวกเขาก็ไม่ได้มีมากมายอยู่แล้ว แล้วยังต้องมาลาหยุดโดยเฉพาะเพื่อคนพวกนี้อีก ช่างไม่คุ้มเลยจริงๆ
จางลี่ถิงกับเย่ฉงหยางมองหน้ากัน ในความจริงแล้วที่พวกเขาให้เย่หรูเสว่กลับมาวันนี้ แน่นอนว่าต้องมีเรื่องอยากจะปรึกษาหารืออยู่แล้วแน่นอน
จางลี่ถิงไอกระแอมเล็กน้อย เมื่อตะกี้ก็พูดปูทางบอกมาเป็นลางๆบ้างแล้ว ดังนั้นสองสามีภรรยาจึงเปิดปากพูดขึ้น“ในความจริงแล้วที่เรียกลูกกลับมาวันนี้ก็เพื่อแนะนำคู่ให้กับลูก”
“พวกคุณให้ฉันกลับมาก็เพื่อหาคู่ดูตัวให้กับฉันเนี่ยนะ?”
เย่หรูเสว่ยิ้มเย้ยหยันอย่างช่วยไม่ได้ จริงๆแล้วนี่มันก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาสองคนทำเรื่องอะไรแบบนี้ ตอนที่อายุสิบเจ็ดปี จางลี่ถิงก็พูดไว้แล้ว“ลูกอายุขนาดนี้แล้ว ลูกสาวที่บ้านเก่าของพวกเราก็แต่งงานไปเรียบร้อยแล้ว ถ้าลูกไม่รีบแต่งงานมีลูกให้เร็วๆ จากนี้ไปคนอื่นก็จะเป็นฝ่ายเลือกลูกแล้วนะ!”
ในความจริงแล้วที่พวกจางลี่ถิงพูดแบบนี้ ก็เพื่อที่จะจัดการเย่หรูเสว่ให้อยู่หมัด ล้างสมองเย่หรูเสว่ พอถึงตอนนั้นเธอจะได้ยอมให้เงินก้อนนั้นกับพวกเขาอย่างเชื่อฟังแต่โดยดี
แต่เย่หรูเสว่ไม่ใช่คนที่จัดการง่ายขนาดนั้น ในใจของเย่หรูเสว่คิดถึงเนี่ยเฟิงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเธอจึงพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อเรียนหนังสือ แล้วสอบเข้าโรงเรียนตำรวจให้ได้