พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 227 เงินสิบล้านแลกกับอิสรภาพ
บทที่ 227 เงินสิบล้านแลกกับอิสรภาพ
เนื่องจากพ่อแม่บุญธรรมและคนในครอบครัวเห็นแก่เงินและผลประโยชน์ของตัวเองมากเกินไป เย่หรูเสว่จึงคิดอยากที่จะหนีออกไปจากครอบครัวนี้
แถมคนดีที่ไหน ที่หาคู่ให้กับลูกสาวทั้งที่มีอายุแค่สิบเจ็ดสิบแปดปีเท่านั้น?
เมื่อก่อนพวกเขาก็เสแสร้งแกล้งทำ แต่ตอนนี้เพื่อเงินก้อนนี้แล้ว พวกเขาฉีกหน้ากากออกมาอย่างไม่มีลังเล
แม้ว่าเย่หรูเสว่จะไม่รู้ว่าเนี่ยเฟิงเอาเงินก้อนนี้มาจากไหน แต่ที่รู้ๆคือเย่หรูเสว่จะไม่มีทางให้เงินก้อนนี้กับพวกเขาเป็นอันขาด!
จ้าวต้าถงถูกพวกเขาพูดซะจนเงยหน้าไม่ขึ้น รับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นมากมายขนาดนี้ สีหน้าเปลี่ยนไปทันที
“พวกคุณหมายความว่ายังไง? เห็นๆอยู่ว่าพวกคุณเป็นคนเรียกผมมาเอง ก็เพื่อให้เย่หรูเสว่ยอมเอาเงินก้อนนี้ออกมา!อีกไม่นาน ก็จะถึงวันเกิดของเย่หรูเสว่แล้ว หลังจากที่เย่หรูเสว่แต่งงานกับผม พวกเราก็จะได้แบ่งเงินสองก้อนนี้กัน พวกคุณพูดเอาไว้แบบนี้ไม่ใช่หรือไง!”
แม้ว่าท่าทีของพวกเขาเมื่อตะกี้จะเป็นแบบนี้ก็จริง แต่ก็ไม่ได้เอาเรื่องนี้มาพูดกันแบบซึ่งหน้าๆอย่างโจ่งแจ้งแบบนี้
พอจ้าวต้าถงพูดแบบนี้ออกมา พวกเย่ฉงหยางกับจางลี่ถิงก็รู้สึกอึดอัดไม่น้อย
“นี่นายพูดไร้สาระอะไรอยู่? พวกเราไม่เคยพูดอะไรแบบนี้สักหน่อย นายอย่ามาพูดใส่ร้ายพวกเรามั่วซั่วแบบนี้นะ!”
“ใช่!พี่ จะมาพูดอะไรมั่วๆแบบนี้ไม่ได้นะ!”
พวกเขาตื่นตระหนกขึ้นมาทันที
“หรูเสว่ ลูกอย่าไปเชื่อเลยนะ พี่ของลูกพูดพล่ามไปเรื่อย พี่ของลูกเป็นคนที่มีความคิดชั่วร้าย เจตนาไม่ดี พวกเราจะไล่เขาออกไปเดี๋ยวนี้แหละ!”
เย่ฉงหยางกับเย่เล่อเตะจ้าวต้าถงออกไปจากประตูทันที จ้าวต้าถงคิดไม่ถึงว่าเขาที่มีคนเข้าข้างอยู่เมื่อตะกี้ ตอนนี้จะตกต่ำลงมาได้ถึงระดับนี้เลยเหรอ
“คุณลุงคุณป้า คุณเตะเขาออกไปเพื่ออะไร? ผมยังไม่เห็นว่าเขาจะทำอะไรเลยนะ!”
เนี่ยเฟิงมองเย่ฉงหยางกับจางลี่ถิงด้วยความรู้สึกเสียดาย สีหน้าพวกเขาทั้งสองคนชะงักเล็กน้อย แต่ไม่นาน พวกเขาทั้งสองคนก็กลับมายิ้มตามเดิม
“มีอะไรที่มันน่าดูเหรอ ไม่ต้องไปรู้จักคนแบบนี้หรอก ใช่แล้ว ลูกเขยพวกเราคุยกันถึงตรงไหนแล้วนะ? ใช่ๆๆ คุณอยากจะแต่งงานกับลูกสาวของพวกเราใช่ไหม ไม่มีปัญหา!คุณอยากแต่งงานก็แต่งซะเลยสิ พวกเราไม่ขัดขวางความสุขของลูกสาวอยู่แล้ว!”
พวกเขาทั้งสองคนดูเหมือนจะเป็นคนมีเหตุมีผล แต่ในความเป็นจริงแล้วคนที่ต่อต้านหัวชนฝาก็คือพวกเขาทั้งสองคนนั่นแหละ เพราะว่าพวกเขากลัวว่าจะไม่ได้เงินก้อนนั้น
สายตาของเย่ฉงหยางกับภรรยาของเขาหันไปจับจ้องที่เครื่องสแกนบัตรอย่างรวดเร็ว
“ผมคิดที่จะแต่งงานกับเสี่ยวเสว่ แต่เมื่อตะกี้เสี่ยวเสว่ก็บอกไปแล้วไม่ใช่หรือครับ ว่าเธออยากจะย้ายทะเบียนบ้านออกไปอยู่ที่บ้านของผม”
เนี่ยเฟิงฉีกยิ้มกว้าง“ไม่ทราบว่าพวกคุณคิดยังไงบ้างครับ?”
“ดีแน่นอนสิ ในเมื่อเสี่ยวเสว่ก็คิดแบบนี้แล้ว พวกเราก็ทำตามที่เสี่ยวเสว่ต้องการก็แล้วกัน!เสี่ยวเสว่อยากจะย้ายทะเบียนบ้านไม่ใช่เหรอ?”
จางลี่ถิงสีหน้าเผยให้เห็นถึงรอยยิ้ม พูดถามเย่หรูเสว่
สิ่งที่เย่หรูเสว่อยากทำที่สุดก็คือย้ายทะเบียนบ้าน เพราะว่าเธอไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวอะไรกับครอบครัวนี้อีกต่อไปแล้ว
“ถ้าพวกคุณตอบรับแล้วว่าจะให้เสี่ยวเสว่ย้ายทะเบียนบ้าน ถ้าอย่างนั้นสินสอดพวกนี้ก็จะเป็นของพวกคุณทั้งหมด”
เย่ฉงหยางรีบพยักหน้าทันที จากนั้นก็ยื่นมือออกมาคิดที่จะหยิบบัตรใบนั้น แต่ไม่คิดว่าเนี่ยเฟิงกลับชักบัตรใบนั้นออกมาก่อน
“ลูกเขย……นี่คือ?”
“ผมเป็นคนที่ค่อนข้างชัดเจน!หลังจากที่พวกคุณย้ายทะเบียนบ้านให้แล้ว ผมก็ค่อยให้บัตรใบนี้กับพวกคุณ”
รอยยิ้มของเย่ฉงหยางกับจางลี่ถิงค่อยๆหายไป พวกเขาก็ไม่ใช่คนโง่เหมือนกัน พวกเขากำลังคิดว่านี่มันเป็นแผนการของสองคนนี้หรือเปล่า จริงๆแล้วไม่ได้คิดจะให้เงินสิบล้านกับพวกเขาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
ถ้าเกิดให้เย่หรูเสว่ย้ายทะเบียนออกไป ถึงตอนนั้นพวกเขาก็จะยิ่งควบคุมเย่หรูเสว่ไม่ได้อีกต่อไป
“ครอบครัวของพวกเราก็เป็นคนที่ค่อนข้างชัดเจนเหมือนกัน ถึงยังไงน้องสาวของฉันคนนี้ก็เป็นคนที่ซื่อตรง ฉันเป็นห่วงว่าคุณจะรังแกเธอ คุณบอกว่าคุณเป็นทายาทมหาเศรษฐี แต่ครอบครัวที่แสนธรรมดาแบบพวกเรา ถ้าเกิดแต่งเข้าไปในตระกูลของพวกคุณแล้วคุณทำตัวไม่ดีกับเธอขึ้นมา มันก็ไม่ยุติธรรมกับพวกเราน่ะสิ”
ถ้าไม่รู้มาก่อนก็จะนึกว่าเย่เหม่ยย่าเป็นห่วงเย่หรูเสว่จริงๆ
ตอนนี้ครอบครัวของพวกเขายังไม่ได้เงิน จะเผลอพลั้งปากพูดอะไรตามใจออกไปไม่ได้
“พวกคุณพูดได้อย่างมีเหตุมีผลมากเลย ถึงยังไงผมก็ชอบเสี่ยวเสว่จากใจจริง ถ้าอย่างนั้นก็เอาเถอะ พวกคุณเอาบัตรใบนี้ไปก็แล้วกัน!”
เนี่ยเฟิงฉีกยิ้มกว้าง ในเวลานี้เย่หรูเสว่กระวนกระวายไม่น้อย เธอจึงคว้ามือของเนี่ยเฟิงเอาไว้ พร้อมกับจ้องเขม็งเนี่ยเฟิง
เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเนี่ยเฟิงถึงต้องทำแบบนี้ นี่มันเป็นเงินจำนวนไม่ใช่น้อยๆเลยนะ เนี่ยเฟิงไปเอามาจากไหนกันแน่?
พวกเขารีบแย่งบัตรใบนี้ไปด้วยความตื่นเต้น พอเย่ฉงหยางเห็นบัตรใบนี้ ในใจก็รู้สึกดีใจสุดๆ
“ไหนๆก็มาแล้ว เอาแบบนี้สิ พวกเราไปทานอาหารดีๆสักมื้อกันดีไหม!”
“ก่อนกินช่วยจัดการธุระให้เสร็จก่อนได้ไหม ย้ายทะเบียนบ้านก่อนดีกว่าครับ”
พอเนี่ยเฟิงพูดแบบนี้ออกมา พวกเย่ฉงหยางก็หันมองหน้ากันก่อนจะพยักหน้า แม้ว่าพวกเขาจะอยากขูดรีดอีกหน่อย แต่ในใจก็กลัวว่าลาภจะลอยหายไปก่อนอยู่เหมือนกัน
ดังนั้นพวกเย่ฉงหยางจึงรีบจัดการธุระกับเนี่ยเฟิงให้เสร็จเรียบร้อยอย่างรวดเร็ว แต่ขณะที่กำลังเดินออกไปนั้น ก็หันไปเห็นรถหรูของเนี่ยเฟิงเข้าพอดี พวกเขาถลึงสองตาโตอย่างช่วยไม่ได้
เย่หรูเสว่เห็นภาพตรงหน้านี้ก็อึ้งตะลึงไปเหมือนกัน เพราะว่าตอนมาพวกเขาเรียกรถมา แล้วรถหรูคนนี้กับคนขับรถมาตั้งแต่เมื่อไรกัน?
เย่หรูเสว่ไม่รู้จริงๆว่าเนี่ยเฟิงจะมาไม้ไหนอีก?
แต่เย่หรูเสว่รู้ดีว่าเนี่ยเฟิงอยากจะช่วยตนเอง แต่แค่ไม่รู้ว่าเขาเอาเงินก้อนนั้นมาจากไหนกันแน่
ถ้าเงินก้อนนี้ไปตกไปอยู่ในกำมือของครอบครัวนั้นล่ะก็ จะต้องเอากลับมาไม่ได้แล้วแน่ๆ
หรือว่าเนี่ยเฟิงยืมมา?
เย่หรูเสว่ตาโตขึ้นมาทันที มองเนี่ยเฟิงด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เธออยากจะลากเนี่ยเฟิงมาถามให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย แต่อยู่ต่อหน้าพ่อแม่บุญธรรม เธอทำแบบนี้ไม่ได้ ทำได้แค่อดกลั้นเอาไว้
แต่ว่า พวกเขาก็ทำเรื่องย้ายทะเบียนบ้านไปได้อย่างราบรื่น
เย่เหม่ยย่าจ้องมองรถหรูของเนี่ยเฟิงอยู่ตลอดเวลา เธอยิ่งมองก็ยิ่งตาร้อน ทำไมเย่หรูเสว่ถึงโชคดีขนาดนี้ ส้มผลใหญ่หล่นใส่ขนาดนี้!เธอก็หน้าตาสวยอยู่ไม่น้อย!ทำไมเธอถึงไม่โชคดีแบบนี้บ้างล่ะ!
พอเย่หม่ยย่าคิดถึงตรงนี้ก็รู้สึกโกรธอยู่ไม่น้อย เธอหันไปมองเนี่ยเฟิงที่ยืนอยู่ใกล้กับเย่หรูเสว่ รู้สึกโกรธเนื่องจากความน้อยเนื้อต่ำใจอยู่ไม่น้อย
หลังจากย้ายทะเบียนบ้านเสร็จ เย่หรูเสว่ก็เหมือนยกภูเขาออกจากอก แต่ต่อให้ย้ายทะเบียนบ้านไปแล้ว พวกเขาก็ยังมีความสัมพันธ์กันอยู่
แต่ว่าเย่หรูเสว่ก็สามารถตัดสินใจเหตุการณ์ต่างๆในชีวิตด้วยตัวเองได้แล้ว แต่ก็แลกมาด้วยราคาที่สูงไม่ใช่น้อย ตั้งสิบกว่าล้าน!
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปดื่มกันสักหน่อยสิ!”
เย่ฉงหยางอยากที่จะรั้งลูกเขยในอุดมคติเอาไว้ก่อน ดังนั้นจึงวางแผนที่จะสานสัมพันธ์กับเนี่ยเฟิง
เนี่ยเฟิงคิดๆดูแล้ว ก็พยักหน้าพูดขึ้น“ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นก็กลับไปทานอาหารที่โรงแรมเมื่อตะกี้ก็แล้วกัน ถึงยังไงพวกคุณก็เลี้ยงดูเสี่ยวเสว่มานานขนาดนั้นแล้ว”
พวกเขารีบพยักหน้าทันที คิดประเมินเอาไว้ว่าที่ตัวจะต้องมีเงินแล้วแน่ๆ แล้วก็รู้สึกว่าข้าวมื้อนี้เนี่ยเฟิงน่าจะเป็นคนเลี้ยง ดังนั้นพวกเขาจึงพุ่งไปหาร้านแพงๆทันที