พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 230 พนันมีแต่เสียกับเสีย
บทที่ 230 พนันมีแต่เสียกับเสีย
“ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาพูดเรื่องพวกนี้ พรุ่งนี้คนพวกนั้นต้องกลับมาอีกแน่ๆ ถึงตอนนั้นพวกเราไม่มีเงินนั่นให้พวกมัน พวกมันจะต้องรุมทุบตีพวกเราอย่างทารุณแน่นอน!”
เมื่อตะกี้ที่เย่เล่อถูกเตะ เจ็บจนร้องอ้าปากค้าง เย่เล่อที่พอนึกถึงความเหี้ยมโหดของคนพวกนั้นแล้ว ก็รู้สึกถึงความหวาดกลัวทันที
“แล้วจะรออะไรอยู่ล่ะ รีบโทรศัพท์ไปหาเย่หรูเสว่เร็วๆเข้าสิ ให้เย่หรูเสว่มาจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง หรือจะให้พวกเราคอยเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้มันหรือไง?!”จางลี่ถิงรีบหันไปพูดกับลูกสาวของตัวเอง
จริงๆแล้วเย่เหม่ยย่าก็โทรศัพท์ออกไปเรียบร้อยแล้ว แต่ว่าในสายกลับไม่มีคนรับแต่อย่างใด เหมือนกับว่าจงใจ
“ยัยเด็กนี่จะต้องรู้เรื่องนี้แล้วแน่ๆ ตอนนี้เลยกำลังหดหัวอยู่ในกระดอง!ดูท่ายัยเด็กนี่น่าจะคิดไว้ดีแล้วแน่ๆว่าจะโยนภาระนี้มาให้พวกเรา!พ่อแม่จะทำยังไงดี!หนูไม่อยากถูกคนพวกนั้นทำร้าย!”
เย่เหม่ยย่าพูดพลางร้องไห้ออกมา ทุกคนต่างเศร้าหมองและหดหู่ เมื่อตะกี้เพิ่งจะได้เงินสิบล้าน ตอนนี้ดันต้องมาใช้หนี้จนหมดเกลี้ยงถึงขนาดที่ยังไม่ได้เอาไปใช้เองเลยสักแดงเดียว
“แต่พรุ่งนี้มันเร็วไปเกินไป พวกเราไปหายัยเด็กเด็กนั่นที่เมืองจินไห่ไม่ทันแน่ๆ อีกอย่างยัยเด็กนั่นกลับไปแล้วหรือยังพวกเราก็ยังไม่รู้”
“พวกเราก็ไปทำหนังสือแถลงการณ์ตัดขาดความสัมพันธ์ซะเลยสิ ถึงยังไงยัยเด็กนั่นก็ย้ายทะเบียนออกไปแล้วด้วย!ถ้าหนังสือแถลงการณ์ตัดขาดความสัมพันธ์ออกมาล่ะก็ คนพวกนั้นก็จะทำอะไรพวกเราไม่ได้!”
เย่ฉงหยางเหมือนกับนึกอะไรขึ้นมาได้ เขาตัดสินใจได้แล้ว
“ใช่ๆๆ!”
เช้าวันต่อมา พวกเขาทั้งครอบครัวก็ไปจัดการทำเรื่องหนังสือแถลงการณ์ตัดขาดความสัมพันธ์ทันที
พอพวกเขาจัดการเสร็จ ก็ไม่คิดว่าตอนที่กลับมาจะเจอเข้ากับคนพวกนั้นพอดี
ในเวลานี้เองเย่ฉงหยางเริ่มรู้สึกโมโหแล้ว“พวกแกไม่ต้องมาก่อกวนครอบครัวพวกเราอีกต่อไปแล้ว ผู้หญิงคนนั้นก็แค่ลูกบุญธรรมของพวกเรา!เธอไปติดหนี้ใครเท่าไรก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเรา แกดูซะนี่เป็นหนังสือแถลงการณ์ตัดขาดความสัมพันธ์!”
“ให้ตายเถอะ!ถือซะว่าพวกแกโชคดีหรอกนะ!”
คนพวกนั้นจ้องมองพวกเย่ฉงหยางด้วยความไม่สบอารมณ์ จากนั้นก็พูดด่าทอก่อนจะจากไป
หลังจากที่พวกเขาจากไปแล้ว พวกเย่ฉงหยางก็ถอนหายใจออกมา
“นี่มันโชคร้ายจริงๆ!ไม่ได้เงินมาสักแดง แถมยังถูกคนรุมตีไปอย่างแรงอีก!”
จางลี่ถิงร้องห่มร้องไห้กระวนกะวายอยู่ที่พื้น
“หยุดร้องได้แล้ว หยุดร้อง ร้องจนน่าหงุดหงิดไปหมดแล้ว!ไม่มีก็ไม่มี ถึงยังไงเงินก้อนนั้นก็ไม่ใช่ของพวกเราตั้งแต่แรกอยู่แล้ว!ถือซะว่าจ่ายฟาดเคราะห์ไปไม่ดีหรือไง? จะเอาอะไรอีกล่ะ?”
ไม่ให้พวกเขาได้ทำสำเร็จ มันก็ดีมากแล้ว
“น่าเสียดายเงินสิบล้านนั่น ถ้าเอาเงินนั่นไปใช้ตั้งแต่เมื่อวาน วันนี้ก็คงไม่เกิดเรื่องมากขนาดนี้!”
เย่เหม่ยย่าพูดจบก็หันไปจ้องจางลี่ถิงเชิงตำหนิติเตียน
จางลี่ถิงก็คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เธอถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้
ส่วนในตอนนี้เองเย่หรูเสว่ตื่นขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว ตอนที่เนี่ยเฟิงยื่นหนังสือแถลงการณ์ตัดขาดความสัมพันธ์ฉบับนั้นมา เย่หรูเสว่ก็รู้สึกตกใจอย่างช่วยไม่ได้
“เอามาได้ยังไง?”
พอเย่หรูเสว่เห็นหนังสือแถลงการณ์ตัดขาดความสัมพันธ์ ก็รู้สึกว่าเหนือความคาดหมายมาก ว่ากันตามหลักแล้วพ่อแม่บุญธรรมของเธอไม่มีทางปล่อยเธอไปง่ายๆขนาดนี้
“ใช้แผนการนิดหน่อยน่ะ”เนี่ยเฟิงฉีกยิ้มกว้าง
“นี่นายแอบฉันไปทำเรื่องไม่ดีอย่างที่คิดไว้จริงๆด้วย?!”เย่หรูเสว่ถามขึ้นด้วยความรู้สึกโมโหทันที
“เปล่านะ ผมไม่ได้ทำเรื่องไม่ดีเลยนะ ผมก็แค่ใช้แผนการเล็กน้อยเท่านั้นเอง”
เนี่ยเฟิงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานให้กับเย่หรูเสว่ฟัง แต่ว่าแอบปิดบังในส่วนของแผนการที่ข่มขู่ให้พวกเขากลัว
หลังจากที่เย่หรูเสว่ฟังจบแล้วก็ถลึงตาโตอย่างช่วยไม่ได้“นายนี่มันฉลาดเฉลียวจริงๆนะ!”
“พวกเขาชอบเงินมากไม่ใช่เหรอ? คิดจะให้พวกเขาใช้หนี้แทนพวกเรา มันเป็นเรื่องที่ยากซะยิ่งกว่ายาก ดังนั้นพวกเขาจะต้องรีบไปออกหนังสือแถลงการณ์มาอย่างลุกลี้ลุกลนแน่นอน ตอนนี้มีหนังสือแถลงการณ์ฉบับนี้ คุณกับพวกเขาก็ไม่ใช่คนในครอบครัวเดียวกันอีกต่อไปแล้วนะ”
เนี่ยเฟิงเดินเข้าไปอย่างยิ้มแย้ม“พี่!ผมช่วยขนาดนี้แล้ว คุณก็ต้องให้รางวัลผมสักหน่อยใช่ไหมล่ะ?”
“ไอ้หนูคิดจะมาตักตวงผลประโยชน์จากฉันอีกแล้วนะ!”
เย่หรูเสว่มองหนังสือแถลงการณ์ตัดขาดความสัมพันธ์ฉบับนี้ ในใจก็รู้สึกดีใจสุดๆ แต่หลังจากนั้นเย่หรูเฟ่ยก็นึกถึงอาหารเมื่อคืนมื้อนั้น“แล้วอาหารมื้อเมื่อคืนล่ะจะทำยังไง? ใช้เงินนายจ่ายไม่ใช่เหรอ?”
“ไม่เป็นไร นั่นมันเงินเล็กๆน้อยๆเท่านั้นเอง”
เนี่ยเฟิงฉีกยิ้มกว้าง ความจริงแล้วเขาจะให้ครอบครัวของเย่ฉงหยางกินของดีขนาดนั้นไปฟรีๆได้ยังไงกันล่ะ?
ความสนุกมันเพิ่งจะมาถึงช่วงท้ายเอง
ขณะที่พวกเย่ฉงหยางกำลังสีหน้ากลัดกลุ้มใจกันอยู่นั้น เย่เล่อก็รู้สึกหดหู่ไม่สบายใจ เขาจึงรีบแอบออกมา
เย่เล่อเป็นคนเกียจคร้านไม่ชอบทำงานมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เมื่อก่อนสมัยที่มีเงินก็ถูกคนในโรงเรียนคอยตามติดตลอด
แต่ตอนนี้ เย่เล่อไม่อยากไปเรียน จึงมากินเหล้าที่ผับที่ชอบมากินเป็นประจำ
เมื่อก่อนคนในผับต่างก็เคารพเย่เล่อสุดๆ นั่นก็เพราะว่าเย่เล่อมีเงิน
แต่ตอนนี้เย่เล่อไม่มีเงินแล้ว แถมใช้มือถือรุ่นเก่า พอมาถึงผับก็ไม่มีใครทักทายเขาสักคน
“พี่เล่อ ทำไมถึงมาดื่มเหล้าย้อมใจที่นี่คนเดียวล่ะ? กินเหล้ากลางวันแบบนี้มันไม่ค่อยดีนะ”
ในเวลานี้เองเพื่อนที่นิสัยเกเรของเย่เล่อก็ตรงเข้ามา
“อย่ามายุ่งกับฉัน!”
เย่เล่อโบกๆมือในใจคิดว่าคนพวกนี้ไม่เข้าใจหรอกว่าตนเองกำลังปวดหัวอะไรอยู่
“โอ้!อารมณ์รุนแรงขนาดนี้เชียว?”
พวกเขามองหน้ากัน ก่อนจะพากันส่ายหัว
“ทำไมช่วงนี้ถึงไม่เห็นนายมาใช้จ่ายเงินเลยล่ะ? เหล้าที่กินก็เป็นเหล้าที่ถูกที่สุด หรือว่าบ้านนายล้มละลายแล้วเหรอ?”
ในตอนนี้เองก็มีคนแอบเปิดปากพูดขึ้น ส่วนคนอื่นๆก็พากันพูดซุบซิบกันถึงเรื่องเรื่องนี้ คิดดูแล้วก็มีความเป็นไปได้ที่จะล้มละลายจริงๆ ไม่อย่างนั้นเย่เล่อจะน่าสมเพชเวทนาขนาดนี้ได้ยังไง
“อย่ามาพูดมั่วซั่ว พวกเราไม่ได้ล้มละลายสักหน่อย!ฉันแค่ประหยัดมัธยัสถ์ก็เท่านั้น!”
เย่เล่อจ้องมองคนพวกนี้ตาเขม็ง
“ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าพี่เย่รู้จักประหยัดเป็นกับเขาด้วย ถ้านายไม่มีเงิน บอกกับเพื่อนพี่น้องมาตรงๆเลยก็ได้!เอ้อใช่ ฉันมีอะไรจะบอก ฉันรู้จักสถานที่หนึ่ง ที่นั่นดีเชียวล่ะ!”
อีกฝั่งมองเย่เล่ออย่างมีเลศนัย“ไปที่นั่นสามารถหาเงินได้ไม่น้อยเลยนะ พี่เย่อยากจะไปลองสักหน่อยไหมล่ะ?”
เย่เล่อที่ชินกับชีวิตที่หรูหราฟุ่มเฟือย พอได้ยินเพื่อนที่นิสัยเกเรพูดแบบนี้ ก็รู้สึกสนใจขึ้นมาทันที“ที่ไหน?”
“นายมากับพวกเราเดี๋ยวก็รู้แล้ว!”
สมัยก่อนตอนที่เย่เล่อมีเงินอยู่ก็เสพติดการพนันอยู่ไม่น้อย คิดไม่ถึงว่าที่ที่เพื่อนเกเรพวกนี้พาเขามาก็คือบ่อนพนัน
เย่เล่อก็เคยมาที่นี่แล้วเหมือนกัน แต่ตอนนี้เขาไม่มีเงิน“ฉันไม่ได้พกเงินมา……”
“ไม่เป็นไร พวกเราเลี้ยงเอง!”
เพื่อนพวกนั้นพูดพลางเอาเงินให้กับเย่เล่อจำนวนหนึ่ง เย่เล่อเห็นเงินพวกนี้ก็รู้สึกหักห้ามใจไม่ไหว พอได้คืบก็จะเอาศอก
ภายใต้แรงกระตุ้นยุยงส่งเสริมของเพื่อนตัวดีเหล่านี้ เย่เล่อจึงเข้าไป
ตอนเริ่มก็ราบรื่นดีอยู่หรอก แต่จากนั้นก็เริ่มไม่ค่อยเข้าท่า แถมเย่เล่อยิ่งพนันก็ยิ่งเสพติด ไปขอยืมเงินจากคนในบ่อน เขาเล่นพนันจนหน้ามืดตาลายไปหมดแล้ว……
“คุณชายเย่ คุณติดหนี้พนันพวกเราห้าแสนแล้วนะ จะคืนเมื่อไร?”
ในเวลานี้มีชายกำยำสักลายทั่วทั้งตัวเดินเข้ามา ในตอนนี้เย่เล่อไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น ยังคงพูดตะโกนโวยวายอยู่ที่โต๊ะพนัน
“เย่เล่อ!คืนเงิน!”
เสียงตะคอกของอีกฝั่ง ทำเอาเย่เล่อตื่นขึ้นมาทันที