พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 232 ฮาร์ลีย์
บทที่ 232 ฮาร์ลีย์
ภายใต้การถูกบังคับถามเขาจึงทำได้แค่บอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดของวันนี้กับพ่อแม่อย่างถี่ถ้วน
เมื่อจางลี่ถิงได้ยินเย่เล่อพูดแบบนั้น หล่อนก็ล้มลงกับพื้นทันที พร้อมกับแสดงสีหน้าอย่างไม่น่าเชื่อ
“แก! แกมันไอ้เด็กสารเลวกล้าทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไงกัน! ฉันพูดไปกี่ครั้งแล้วว่า อย่าเล่นการพนัน แกก็ยังไม่เชื่ออย่างที่เรียกกันว่าเล่นการพนันสิบครั้งต้องเสียไปเก้าครั้ง แกคิดดูดีๆ แม้แต่ทรัพย์สินของครอบครัวยังต้องชดใช้เข้าไปด้วย!”
เย่ฉงหยางก็โกรธมากเช่นกัน เขาจึงรีบหยิบไม้กวาดที่อยู่ด้านข้างพร้อมกับฟาดไปที่ตัวของเย่เล่อ
เย่เล่อโดนฟาดจนร้องไห้หาพ่อเรียกแม่แต่เย่ฉงหยางก็ไม่ได้หยุดมือลงเลย และเย่เหม่ยย่าก็มองไปที่เย่เล่อด้วยสีหน้าที่น่ารังเกียจ
เย่เหม่ยย่าคิดว่าทั้งบ้านและร้านค้าแห่งนี้ควรมีส่วนแบ่งเป็นของตัวเองถึงจะถูก ในฐานะที่หล่อนก็เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเช่นกัน แต่ในตอนนี้น้องชายกลับพ่ายแพ้และเสียเงินทั้งหมดไป ซึ่งนั่นก็หมายความว่าต่อให้เย่เหม่ยย่าอยากได้มันมาเป็นของตัวเองมันก็คงเป็นไปไม่ได้แล้ว
“พวกเธอหยุดทุบตีผมได้แล้ว พวกเธอก็เคยแพ้การเล่นไพ่นกกระจอกมาตั้งกี่ครั้งแล้วไม่ใช่เหรอ?! ตอนที่ผมไปเล่นการพนัน พวกเธอก็ไม่ได้ห้ามผมนิ! อย่างที่เรียกว่าเลี้ยงดูแต่ไม่สั่งสอน คือความผิดของพ่อแม่ ผมเลยกลายเป็นแบบนี้ไง หรือว่าพวกเธอไม่มีความรับผิดชอบเลยสักนิด!”
เย่เล่อในวัยนี้ค่อนข้างจะดื้อรั้นมากแล้วเขาจะรับภาระหน้าที่นี้ไว้กับตัวเองได้อย่างไร?
เมื่อเห็นว่าพ่อแม่ไม่เต็มใจที่จะเก็บบิลที่ตัวเองทำผิดไว้แล้ว เย่เล่อก็ไม่ได้รู้สึกผิดหรือละอายใจแต่อย่างใด แต่เขากลับรู้สึกว่าที่พ่อแม่ทำแบบนี้เพราะไม่อยากให้ตัวเองได้ดี!
เย่ฉงหยางและจางลี่ถิงคิดไม่ถึงเลยว่าลูกชายที่พวกเขาคอยพร่ำสอนนั้นจะล้มเหลวได้ขนาดนี้
“ถ้าพวกเธอยังไม่ช่วยผมเงินคืน งั้นผมก็จะไม่รับผิดชอบ! และเมื่อถึงตอนนั้นถ้าพี่เจี้ยนหาผมไม่เจอ เขาก็จะมาเอาจากพวกเธอถึงที่ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม พวกเธอก็จะต้องคืนเงินก้อนนั้น และคนกลุ่มนั้นของพี่เจี้ยนก็ไม่เหมือนกับกลุ่มคนที่มาทวงหนี้เมื่อวานแล้วด้วย เพราะเมื่อพวกเขาได้เงินแล้วและเห็นใบรับรองพวกเขาก็จะตัดขาดและจากไป!”
เย่ฉงหยางไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า ลูกชายของเขาจะโตมาเลวได้ขนาดนี้ คำพูดที่พูดออกมานั้น มันจะน่าเกลียดอะไรขนาดนี้!
“เย่เล่อ! ถึงขั้นที่แกกล้าคุกคามพ่อแม่เลยเหรอ?” เย่เหม่ยย่าไม่อยากจะเชื่อ
“ครั้งที่แล้วที่พี่กู้เงินจากธนาคารทางอินเทอร์เน็ตนั้นไม่ใช่พ่อกับแม่ที่ใช้คืนให้พี่เหรอ? แล้วครั้งนี้ที่ผมพนันแพ้ พ่อกับแม่ใช้คืนแทนผมบ้างมันจะเป็นไรไป”
เย่เล่อยึดคอตะโกนร้องอย่างโมโห และเขาเองก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองทำผิดอะไรเพียงแต่ว่าตอนที่เขาพนันนั้นโชคร้ายไปหน่อยถ้าโชคเขาดีหน่อยเช่นนั้นก็คงได้รับเงินก้อนนี้มาในไม่กี่นาทีแล้ว!
และเขาในตอนนี้ยังคงไม่ได้รู้สึกผิดอะไร
แม้ว่าเย่ฉงหยางและจางลี่ถิงพวกเขาทั้ง 2 เห็นว่าเงินเป็นชีวิตแต่นี่เป็นเลือดเนื้อของพวกเขาแท้ๆ แล้วพวกเขาจะเบิกตาโพลงมองลูกชายตัวเองไปตายได้งั้นเหรอ?
ทั้งครอบครัวตกอยู่ในภาวะตกต่ำในชั่วครู่ ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ พวกเขาสามารถเปิดปากขอจากเย่หรูเสว่ได้
แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมแล้วเพราะในตอนนี้เย่หรูเสว่เองก็ติดหนี้นับไม่ถ้วนเช่นกัน ดังนั้นเย่ฉงหยางและจางลี่ถิงจึงทำได้แค่เงียบลงและถามเย่เล่อว่าไปติดหนี้ข้างนอกมาเท่าไหร่
เย่เล่อเลียริมฝีปากที่แห้งผากตัวเอง พร้อมกับยื่นมือออกมา
” 5 หมื่นหยวนหรือเปล่า? ถ้า 5 หมื่นหยวน เดี๋ยวพ่อจะคิดหาวิธี…”
” 5 แสนหยวน! ไอ้เด็กเวรเอ๊ยที่บ้านตอนนี้จะมีเงินมากมายขนาดนั้นจากไหน?”
จางลี่ถิงจ้องไปที่เย่เล่ออย่างดุร้าย
“มันเป็น 5 ล้านหยวนครับ…”
เย่เล่อส่งเสียงไอ และตอบอย่างเสียงเบา
เย่ฉงหยางและจางลี่ถิงพวกเขาทั้ง 2 เบิกตากว้าง
” 5 ล้านหยวน!”
เย่ฉงหยางไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้อีกต่อไป เขาก้าวไปข้างหน้าและฟาดเย่เล่ออย่างดุร้ายไปทีหนึ่ง เย่เล่อก็ไม่ใช่คนที่จะรับมือได้ง่ายๆ และแน่นอนว่าเขาจะไม่โดนพ่อตัวเองตีอย่างเงียบๆ แน่นอน
ทั้งครอบครัวก็ตบตีกันขึ้นมาและพวกเขาเองก็ตบตีกันจนสะบักสะบอม แต่หลังจากที่ตบตีกันแล้ว ยังต้องแก้ปัญหานี้ด้วยเช่นกัน
“ในตอนนี้เราควรรีบขายบ้านและร้านค้าทิ้งไป เมื่อขายเสร็จแล้วก็นำเงินก้อนนี้ไปโดยตรงเลย ไม่ต้องอยู่ในเมืองหนานหูแล้วเช่นนั้นพวกเขาก็จะหาเราไม่เจอ และเราก็ไม่ต้องคืนเงินก้อนนี้แล้ว!”
หลังจากที่เย่ฉงหยางคิดอยู่นานก็คิดวิธีนี้ขึ้นมาได้
“แต่ชั่วครู่นี้ พวกเราจะหาซื้อบ้านจากที่ไหนกันล่ะ?”
นอกจากนี้ ในตอนที่พวกเขาซื้อบ้านซื้อร้านค้านั้น พวกเขาก็ไม่ได้ทำการบ้านอีก ดังนั้นทำเลที่พวกเขาซื้อจึงไม่ได้ดีมาก และในตอนนี้พวกเขาวางแผนไม่ทันแล้ว เพราะทั้งร้านค้าและบ้านเหล่านี้ก็เก่ามากแล้ว การที่อยากขายในราคาที่ดี มันจึงค่อนข้างยาก
“ถ้าอย่างนั้นก็คิดหาวิธีดูสิ เพราะถ้าเราไม่ขายบ้านหลังนี้ภายในวันนี้ เราก็จบเห่กัน!”
เย่ฉงหยางจ้องพวกเขาอย่างดุร้าย และทั้งครอบครัวก็ช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรดีอีกครั้ง
“เดี๋ยวหนูจะไปถามพวกเพื่อนร่วมชั้นเหล่านั้นว่าอยากจะซื้อบ้านไหม…ถ้าราคาไม่ได้สูงมาก พวกเขาก็อาจจะซื้อจากเราก็เป็นได้ พ่อแม่และน้องชายคะ พวกเธอก็โทรไปถามบ้าง ว่าญาติคนอื่นๆ มีใครจะซื้อบ้านบ้างไหม”
นอกจากความคิดนี้แล้วพวกเขาก็คิดหาวิธีอื่นไม่ได้อีก
ทั้งครอบครัวก็ตกอยู่ในสภาวะกลัดกลุ้มเป็นทุกข์อีกครั้ง
พวกเขาผ่านพ้นวันนี้ไปอย่างตื่นตระหนกตกใจจนทำอะไรไม่ถูก
ในตอนกลางคืน เย่หรูเสว่ก็เปลี่ยนชุดอย่างสบายๆ ซึ่งเดิมทีหล่อนไม่ได้ตั้งใจจะแต่งตัวด้วยซ้ำ ดังนั้นจึงเลือกแต่งตัวสบายๆ และตามใจตัวเอง
แต่เย่หรูเสว่เป็นคนหน้าตาดีต่อให้หล่อนจะใส่กระสอบก็ไม่มีทางบังความงามของหล่อนได้
วันนี้เย่หรูเสว่สวมเสื้อยืดสีขาวและกางเกงยีนธรรมดาๆ พร้อมกับสวมรองเท้าผ้าใบผมของหล่อนมัดเป็นหางม้า เมื่อดูแล้วเป็นเหมือนสาวสวยคนหนึ่งเลย
เมื่อลงตึกไปเย่หรูเสว่ก็เห็นเนี่ยเฟิงที่ยืนรอเขาอยู่ชั้นล่าง
“เสี่ยวเฟิงทำไมน้องลงมาก่อนโดยไม่รอพี่เลย?”
“พี่หกพี่ดูสิ!”
หลังจากที่เนี่ยเฟิงพูดจบก็เว้นที่ให้หล่อน เย่หรูเสว่หรี่ตาลงดูไปแวบหนึ่งก็ตกใจ น้องที่เชื่อฟังของพี่! น้องได้มาจากไหนกัน?”
นี่เป็นมอเตอร์ไซค์ Harley Davidson Cosmic Starship นิ
เย่หรูเสว่คนนี้ไม่ได้มีความชอบอะไรมากมาย แต่สิ่งที่หล่อนชอบมากที่สุดก็คือมอเตอร์ไซค์เหล่านี้ และหล่อนเองก็มีมอเตอร์ไซค์เป็นของตัวเองด้วยแต่มันก็เป็นแค่มอเตอร์ไซค์ที่แสนจะธรรมดา
เช่นเดียวกับคนที่ชื่นชอบมอเตอร์ไซค์ สำหรับประเภทมอเตอร์ไซค์ที่มากมายนั้น เย่หรูเสว่รู้จักเป็นอย่างดี
ถ้ามอเตอร์ไซค์ Harley Davidson Cosmic Starship ตรงหน้าหล่อนเป็นของจริง เช่นนั้นมอเตอร์ไซค์คันนี้ก็ต้องมีมูลค่าถึง 1 ล้านดอลลาร์เลย
เย่หรูเสว่ก็คงดูเหมือนกับเด็กที่เห็นของขวัญคริสต์มาส หล่อนรีบเอื้อมมือไปลูบมอเตอร์ไซค์คันนี้ทันทีและดวงตาของหล่อนก็เป็นประกาย
“นี่มันของจริงหรือของปลอม? ดูเหมือนจะเป็นของปลอมเลย!”
เย่หรูเสว่ไม่อยากจะเชื่อเลย เพราะหล่อนไม่เคยได้เห็นมอเตอร์ไซค์ Harley Davidson Cosmic Starship ใกล้ขนาดนี้
เย่หรูเสว่เคยมอเตอร์ไซค์คันนี้จากงานนิทรรศการแค่ครั้งเดียว เพราะสามารถมองเห็นได้จากระยะไกลเท่านั้น และไม่สามารถเข้าใกล้ได้ดังนั้นเย่หรูเสว่จึงไม่ค่อยแน่ใจ
“นี่คือกุญแจครับพี่หกพี่ลองดูสิ?”
เนี่ยเฟิงพูดพร้อมกับยื่นกุญแจไปเย่หรูเสว่พยักหน้า หล่อนรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย
นาทีที่หล่อนเริ่มลองมอเตอร์ไซค์ Harley Davidson Cosmic Starship นั้น หล่อนก็มั่นใจได้ว่ารถคันนี้เป็นของจริง!
หลังจากที่หล่อนขับรถวนไปรอบหนึ่ง ใบหน้าที่ตื่นเต้นดีใจของหล่อนก็แดงฉานขึ้น “นี่มันของจริงนิเยี่ยมมากเลย น้องได้ยินไหม?
เสียงนี้มันเจ๋งมากเลย!”