พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 237 ไม่ทำก็ปลดออก
บทที่ 237 ไม่ทำก็ปลดออก
เจี่ยงเทาและซุนลี่ลี่มองหน้ากันไปแวบหนึ่ง แล้วซุนลิลี่จะทนให้แฟนตัวเองได้รับความเจ็บปวดอย่างนี้ได้ยังไงกันล่ะ ดังนั้นซุนลิลี่จึงก้าวไปข้างหน้าและพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “เมื่อครู่คุณจงใจใช่ไหม?”
“แม้ว่าจะเป็นการจงใจแล้วจะทำไมล่ะ เมื่อครู่คุณก็ก้าวร้าวไม่ใช่เหรอ แล้วคุณไม่ได้ทำท่าทีโอ้อวดตัวเองและคอยหลอกคนอื่นเหรอ? และยังทำจนคนอื่นมองไม่ออกอีกนะ?”
เนี่ยเฟิงไม่กลัวที่จะฉีกหน้าพวกเขา ซึ่งการรังแกพี่หกของเขาแบบนี้ แน่นอนว่าเขาจะไม่มีทางยินยอม
“สรุปคือฉันก็ต้องดูการยืนกลับหัวดื่มเหล้า”
“เฮ้ย! แล้วแต่คุณจะเชื่อ!”
ซุนลี่ลี่ก็พาลขึ้นมา “ถ้าอยากเห็นคุณก็แสดงต่อไปเองเถอะ ยังไงแฟนของฉันก็จะไม่ทำมันอยู่แล้ว!”
เนี่ยเฟิงหรี่ตาลงและพูดว่า”เจี่ยงเทา คุณก็หมายถึงอย่างนี้ด้วยเหรอ?”
ถือได้ว่าเจี่ยงเทาก็เป็นคนที่มีหน้ามีตาคนหนึ่ง แม้ว่าเขาจะผิดสัญญาแต่เขาก็ยังทำใจทำการแสดงดื่มกลับหัวต่อหน้าสาธารณชน
“ไอ้โง่จะไปจริงจังกับเรื่องล้อเล่นทำไม! ต่อให้มอเตอร์ไซค์คันนี้เป็นของแกแล้วจะยังไง? แกยังอยากบังคับให้ฉันล้มเหลวทำไม?”
“ดูเหมือนว่าพวกแกกำลังพยายามกลับกลอก?”
เนี่ยเฟิงหัวเราะเยาะพร้อมกับส่ายหัว ไอ้พวกประจบสอพลอไอ้พวกนกสองหัวมันช่างน่าเกลียดจริงๆ
“แล้วไงล่ะ? แกจะทำยังไงกับฉันล่ะ?”
เจี่ยงเทามองบนอย่างอดไม่ได้ และทุกคนก็มองไปที่ฉากนี้พร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ ดังคำที่ว่า คนที่ไม่มีอะไรอยู่แล้วก็ไม่จะไม่กลัวการสูญเสีย ที่ฉันพูดถึงก็คือคนอย่างเจี่ยงเทานั่นแหละ
ตราบใดที่เจี่ยงเทาทำตัวไร้ยางอายเนี่ยเฟิงก็จะไม่สามารถทำอะไรกับเจี่ยงเทาได้
“ดังที่พูดว่าคำพูดต้องเชื่อถือได้ การกระทำต้องมีผลของมัน แต่แกกลับทำไม่ได้ แต่มันก็ไม่เป็นไร หรอก เพราะฉันมีความสามารถพอที่จะทำให้แกเก็บสิ่งที่เมื่อกี้แกได้พูดนั้นกลับไปภายใน 1 นาที”
เมื่อเนี่ยเฟิงพูดออกไป ก็ทำให้เจี่ยงเทาหัวเราะอย่างเสียงดัง “โธ่เอ๊ย! ใครกันที่ทำให้แกกล้าคุยโวโอ้อวดอย่างไร้ยางอายขนาดนี้? ขนาดกล้าพูดว่าจะให้ฉันคืนคำพูดในอีก 1 นาที? หรือว่าแกเป็นคนมีความสามารถอย่างมหัศจรรย์งั้นเหรอ?”
“ฉันคือคนที่มีความสามารถอย่างมหัศจรรย์หรอกแต่ฉันมีความสามารถนี้จริงๆ”
หลังจากที่เนี่ยเฟิงพูดจบก็ยกมือถือขึ้นมาพร้อมกับโทรออก “ปลดเจี่ยงเทาของโรงแรมเซิ่งหยวนออก”
“ฮ่าฮ่า! ช่างน่าขำจนฟันร่วงเลยจริงๆ แกคิดว่าแกเป็นใครกัน? แกคิดว่าแกเป็นประธานกรรมการโรงแรมเซิ่งหยวนเหรอ?”
เจี่ยงเทากุมท้องตัวเองราวกับว่าได้ยินเรื่องตลกยังไงอย่างนั้น เขาหัวเราะคุยโวโอ้อวด และซุนลี่ลี่เองก็หัวเราะอย่างสั่นๆ อยู่ด้านข้างเจี่ยงเทา และคนอื่นๆ ก็อดหัวเราะอย่างยั่วเย้าและเหน็บแนมไม่ได้
ที่แท้คนพวกนี้ก็เป็นพวกประจบสอพลอนายจ้างนี่เอง แค่ดูก็รู้แล้ว
แต่พวกเขายังไม่ทันได้หัวเราะนาน มือถือของเจี่ยงเทาก็ดังขึ้นทันที เขาตะลึงไปครู่หนึ่ง จึงรีบหยิบมือถือออกมาดู จากนั้นก็รีบเชื่อมต่อสาย พร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มแย้มและพูดว่า “สวัสดีครับท่านประธาน! ใช่ครับๆ !
อะไร? มันไม่ใช่มันไม่ช่อย่างนั้น คุณฟังผมอธิบายก่อน!”
ซุนลี่ลี่ขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้เพราะเมื่อครู่เจี่ยงเทากระฉับกระเฉงและมีชีวิตชีวาแล้วทำไมตอนนี้ถึงประหม่าขนาดนี้ล่ะ?
หลังจากที่เจี่ยงเทาโดนอีกฝ่ายวางสายไป ใบหน้าก็ซีดเซียว ซุนลี่ลี่จึงรีบก้าวไปข้างหน้าและถามว่า “ที่รักคะ ที่รักเป็นอะไรไป? มีปัญหาอะไรหรือเปล่า ? ทำไมสีหน้าของที่รักมันดูไม่ได้เลย?”
เสียงกึ๊กดังขึ้นเจี่ยงเทากลืนน้ำลายลงคอจากนั้นก็มองไปที่เนี่ยเฟิงอย่างระมัดระวัง
เนี่ยเฟิงยิ้มพร้อมกับยกคางขึ้น “ฉันว่าคงมีคนโทรหาแกแล้วนะ? เริ่มการแสดงของแกได้เลย ถ้าสามารถทำให้ฉันดีใจได้ฉันจะพิจารณาไม่ปลดแกออกจากตำแหน่งนะ”
“แกพูดสุ่มสี่สุ่มห้าอะไรน่ะ? ที่รักของฉัน เป็นถึงผู้อำนวยการของโรงแรมเซิ่งหยวนเลยนะ! แกรู้หรือเปล่าว่าผู้อำนวยการของโรงแรมเซิ่งหยวนเป็นตัวแทนที่ใหญ่ที่สุดรองลงมาจากประธานกรรมการ! แกเป็นคนแบบไหนกันถึงขั้นกล้าบอกว่าจะปลดที่รักของฉันออกจากตำแหน่ง!”
ซุนลี่ลี่จ้องไปถึงเนี่ยเฟิงอย่างดุร้าย แต่ก่อนที่ซุนลี่ลี่จะพูดจบ เจี่ยงเทาก็ตบหน้าซุนลี่ลี่ทีหนึ่ง
ซุนลี่ลี่มองไปที่เจี่ยงเทาอย่างไม่อยากจะไม่เชื่อ “ที่รัก! ที่รักตบเค้า?”
“ก็ใช่ไง! คุณพูดกับคุณเนี่ยอย่างนั้นได้ยัง? ใครอนุญาตให้คุณพูดแบบนี้ หุบปากของคุณสะ ถ้าพูดไม่เป็นก็ไปยืนที่โน่นสะ! ”
ดูเหมือนเจี่ยงเทาจะเป็นคนละคนเลยเขารีบก้าวไปข้างหน้าด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม “คุณเนี่ยครับ เมื่อครู่เป็นเพราะผมมีตาหามีแววไม่จึงได้ล่วงเกินคุณ ต้องขอโทษด้วยนะครับ! จะต้องทำยังไงคุณถึงจะหายโกรธ?”
เย่หรูเสว่รู้สึกแปลกใจ ท่าทีเมื่อครู่ของเจี่ยงเทาเลวร้ายมาก ทำไมตอนนี้ถึงได้เคารพนับถือขนาดนี้ล่ะ? มันเกิดอะไรขึ้นกับสายเมื่อครู่นี้กันเหรอ?
เย่หรูเสว่มองไปที่เนี่ยเฟิงด้วยสายตาที่สงสัย แต่ตอนนี้เนี่ยเฟิงกลับ มองไปที่เจี่ยงเทา
“ฉันคนนี้เป็นคนที่ง้อง่ายมากเมื่อกี้แกพูดแล้วไม่ใช่เหรอ? ว่าแกจะยืนกลับหัวดื่มเหล้า ก็ทำตามที่แกพูดตอนนี้สิ”
“ยืนกลับหัวดื่มเหล้าไม่ใช่เหรอ? ผมน่ะเก่งที่สุดแล้ว เฮ้ยน้อง! หยิบเบียร์มาขวดหนึ่งสิ!”
เจี่ยงเทาเดินไปที่กำแพงด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม จากนั้นก็เห็นแค่เขาคว่ำตัวไปหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถคว่ำตัวบนกำแพงได้ เพราะเขาอ้วนเกินไปและไม่เคยออกกำลังกายเลยสักนิด สำหรับเจี่ยงเทาแล้วการยืนกลับหัว มันยากเกินไป!
และในขณะนั้นเองพนักงานของโรงแรมก็นำเบียร์มาขวดหนึ่ง และในที่สุดเจี่ยงเทาก็ยืนกลับหัวได้ด้วยความช่วยเหลือจากคนอื่น
เขากลั้นจนใบหน้าที่อ้วนท้วมนั้นแดงฉาน และอีกฝ่ายก็รินเบียร์ใส่ปากเจี่ยงเทา การดื่มกลับหัวนั้นเป็นเรื่องยากมากและเจี่ยงเทาก็สั่นไปทั้งตัว
เพราะมันเป็นการยืนกลับหัว ดังนั้นเสื้อผ้าของเจี่ยงเทาจึงร่วงหล่นลงตามแรงโน้มถ่วง จึงเผยให้เห็นหนังท้องที่กลมดิ๊กของเขา และมันก็ดูตลกดี
หลังจากที่เจี่ยงเทาดื่มเบียร์ไปสองสามคำเขาก็กลืนไม่ได้ จากนั้นเขาก็พ่นเบียร์ออกจากปากและจมูก!
เจี่ยงเทารู้สึกอึดอัดมากจนไม่สามารถพยุงตัวได้จากนั้นเขาจึงล้มลงกับพื้นโดยตรง
เมื่อเนี่ยเห็นฉากนี้ก็รู้สึกขำ
ซุนลี่ลี่โดนตบเจี่ยงเทาตบไปทีหนึ่ง ซึ่งในตอนนี้หล่อนยังคงเห็นเจี่ยงเท่าอย่างงุนงง และหล่อนเองก็เหมือนตัวตลกที่คอยประจบเนี่ยเฟิง ซุนลี่ลี่รู้สึกเพียงว่ามันขายหน้ามาก
เมื่อครู่หล่อนยังเป็นเป้าหมายที่เฉิดฉายอยู่เลย ทำไมตอนนี้กลับตกอับและกลายเป็นจุดอ่อนที่น่าขบขัน
เจี่ยงเทารีบลุกขึ้นจากพื้น และเดินโซเซไปที่เนี่ยเฟิง ใบหน้าของเขาอ้วนจนไม่สามารถมองเห็นอวัยวะบนใบหน้าได้ ซึ่งถ้าเขายิ้ม ก็แทบจะมองไม่เห็นดวงตาแล้ว “คุณเนี่ยครับสำหรับการแสดงดื่มกับหัวเมื่อครู่นั้นคุณพอใจแล้วหรือยังครับ? ถ้ายังไม่พอใจเดี๋ยวผมจะไปทำอีกครั้ง!”
“ช่างมันเถอะ แกอ้วนขนาดนั้นถ้ายังให้แกไปดื่มกลับหัวอีก มันคงเป็นเรื่องยากสำหรับแก แต่ต่อไปนี้แกควรรู้ว่าอาหารบางอย่างมันกินได้ และคำพูดบางอย่างมันก็ไม่ควรพูดพล่อยๆ”
เนี่ยเฟิงมองไปที่ใบหน้าของคนพวกนั้นอย่างเย็นชา จากนั้นก็หันหัวกลับมา และพูดกับเย่หรูเสว่ว่า “เสี่ยวเสว่งานรวมตัวเพื่อนร่วมชั้นของพวกคุณมันไม่สนุกเลย ทำไมเราไม่กลับกันก่อนล่ะ?”
เย่หรูเสว่พยักหน้า และหล่อนก็ไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อแล้ว เพราะเมื่อเห็นท่าทางของพวกเพื่อนร่วมชั้นพวกนั้น มันก็รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก
ทั้ง 2 ขึ้นมอเตอร์ไซค์ฮาร์ลีย์ไปจากนั้นก็เหลือเพียงพวกเพื่อนร่วมชั้นที่ยังงุนงงอยู่อย่างนั้น
และในเวลานั้นเองซุนลี่ลี่ก็ก้าวไปข้างหน้าอย่างโกรธเกรี้ยว “เจี่ยงเทา เมื่อกี้นี้มันเกิดอะไรขึ้นกับคุณกันแน่ ? คุณรู้หรือเปล่าว่าคุณทำให้เราต้องขายหน้า!”
“ศักดิ์ศรีของคุณมีค่าแค่ไหน? คุณรู้หรือเปล่าว่าคนเมื่อกี้นั้นเป็นใคร? เขาเป็นเจ้านายที่มีชั้นสูงกว่าประธานกรรมการของโรงแรมเซิ่งหยวนสะอีก! หรือว่าคุณอยากทำให้ผมตกงาน!”
เจี่ยงเทาตะโกนใส่ซุนลี่ลี่อย่างโกรธ