พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 240 ไวน์มีปัญหา
บทที่ 240 ไวน์มีปัญหา
“เธอจิตใจดีจังเลย! เมื่อพูดถึงงานรวมตัวเพื่อนร่วมชั้นเมื่อคืน เพื่อนๆ ทุกคนก็ไม่ได้มาครบดังนั้นวันนี้ฉันจึงสร้างสถานการณ์โดยพลการ…”
ซุนลี่ลี่พูด และทันใดนั้นก็เงยหน้าขึ้น พร้อมกับร้องเรียกด้วยดีใจและแปลกใจ “คุณชายเฉิน! ทางนี้ๆ !”
เย่หรูเสว่ขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้เมื่อหล่อนมองกลับไปก็เห็นเฉินไฉหัวที่ตามจีบหล่อนอย่างบ้าคลั่งในสมัยมัธยมปลายและเดินปล่อยอารมณ์มายังพวกหล่อน
เฉินไฉหัวเป็นผู้ใหญ่มากกว่าในสมัยมัธยมปลาย และเขาก็ไม่ได้มีรูปร่างที่อ้วนสมบูรณ์เหมือนอย่างเพื่อนๆ ผู้ชายคนอื่นๆ เขาแต่งตัวเหมือนคนชั้นสูงเลย
เฉินไฉหัวสวมชุดสูทสั่งทำพิเศษแม้ว่าเขาจะไม่หล่อมากแต่ก็มีรูปร่างที่ค่อนข้างสูง และเสื้อผ้าได้เข้ามาก
อย่างไรก็ตามนาฬิกาที่เฉินไฉหัวสวมอยู่ที่มือ และเครื่องประดับบนตัวแค่เห็นรู้ว่ามีค่ามาก
แต่ต่อให้เฉินไฉหัวจะรวยแค่ไหนแล้วมันจะเกี่ยวข้องอะไรกับเย่หรูเสว่ล่ะ? เย่หรูเสว่ไม่ใช่คนที่รังเกียจคนจนและชอบคนรวย
เย่หรูเสว่คิดว่าการชอบกันมันเป็นเรื่องของคน 2 คน และมันก็ไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่ธรรมดาๆ ด้วย ถ้าต้องการหาคนรวยจริงๆ ไม่ว่ายังไงเย่หรูเสว่ก็สามารถหาได้อยู่แล้ว
เย่หรูเสว่รู้อยู่ว่าการที่ซุนลี่ลี่ชวนหล่อนมาทานข้าวนั้น ต้องมีแผนแน่นอน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะไม่เป็นแบบนั้น
หลังจากเรียนจบเฉินไฉหัวตามหาตัวเย่หรูเสว่นานมาก แต่เขาก็ไม่เคยหาเจอเลย และเพื่อนอื่นๆ ก็ไม่รู้ที่อยู่ของเย่หรูเสว่ด้วยเช่นกัน
เฉินไฉหัวรู้สึกสิ้นหวังมาก เย่หรูเสว่ปฏิเสธตัวเองไปตั้งหลายครั้งจึงทำให้เกิดความเจ็บปวดอย่างไม่อาจลบล้างออกจากศักดิ์ศรีของตนเองได้
หลังจากเฉินไฉหัวเรียนจบเขาก็แอบสาบานกับตัวเองว่าเขาจะต้องหาเย่หรูเสว่ให้เจอ และชะล้างความอับอายของตัวเอง
ความชื่นชมและความรักของเฉินไฉหัวที่มีต่อเย่หรูเสว่ ค่อยๆเปลี่ยนไป
เขาคนเดิมทีก็ไม่ใช่คนดีอะไร ตั้งแต่เด็กจนโตเขาก็เป็นคนที่เข้มแข็งอยู่แล้ว
สาเหตุที่เฉินไฉหัวต้องย้ายจากเมืองเยี่ยนตูไปยังเมืองหนานหูในตอนนั้น เป็นเพราะเฉินไฉหัวเป็นคนที่ไม่เคารพกฏของโรงเรียน
เขาคบกับแฟนคนหนึ่งก็ทิ้งเค้าไปและผลสุดท้ายคือผู้หญิงคนนั้นฆ่าตัวตาย
พ่อแม่ของผู้หญิงคนนั้นไปหาเฉินไฉหัวเพื่อขอ ความยุติธรรม
แต่ครอบครัวเฉินไฉหัวรวยพวกเขาจึงใช้เงินเพื่อปิดปากครอบครัวของเพื่อนผู้หญิงคนนั้น
อย่างไรก็ตามสิ่งที่เฉินไฉหัวกระทำนั้นทำให้ผู้คนจำนวนมากโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ และในตอนนั้นพ่อของเฉินไฉหัวก็ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงทำได้แค่ส่งตัวเฉินไฉหัวออกไปที่อื่น
การที่เฉินไฉหัวมาที่เมืองหนานหูนั้น ก็ยังคงสนไม่เล่าเรียนอ่านหนังสือเลย และเขาเองก็ถูกใจเยหรูเสว่
เย่หรูเสว่เป็นคนที่ดูดีมากจนใครๆ ก็อดไม่ได้ที่จะเข้าใกล้
แต่เย่หรูเสว่เป็นเหมือนภูเขาน้ำแข็งลูกหนึ่ง ที่นอกจากการเรียนแล้วไม่สนใจสิ่งอื่นใดเลย
ไม่ว่าเฉินไฉหัวจะส่งของอะไรให้เย่หรูเสว่ เย่หรูเสว่ก็ปฏิเสธเสมอและสำหรับท่าทางที่มีต่อเฉินไฉหัวนั้น เย่หรูเสว่มักจะเฉยชาอยู่ตลอด
เฉินไฉหัวก็เป็นดวงดาวที่เฉิดฉายในโรงเรียนอีกด้วย ดังนั้นเฉินไฉหัวจึงไม่สามารถยอมรับการถูกมองข้ามอย่างนี้ได้
กระทั่งเฉินไฉหัวยังคิดหาวิธีอื่นๆเช่นวีรบุรุษช่วยสาวงามอะไรพวกนี้ แต่พวกอันธพาลที่เขาหามานั้น ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเย่หรูเสว่เลย
เย่หรูเสว่ทุบตีจนพวกอันธพานนั้นถูกส่งไปที่สถานีตำรวจและเกือบจะสารภาพว่าเป็นเฉินไฉหัวออกมาแล้ว
กระทั่งเฉินไฉหัวเคยคิดเรื่องการวางยา แต่เย่หรูเสว่ไม่ยอมรับอะไรจากเฉินไฉหัวและพวกเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ เลย กระทั่งไม่ยอมรับงานของเพื่อนร่วมชั้นใดๆ เช่นงานวันเกิดของเพื่อนร่วมชั้นหรือการรวมตัวของเพื่อนๆ ร่วมชั้นเป็นต้น
ดังนั้นเฉินไฉหัวจึงไม่มีโอกาสเลย
สำหรับตัวเฉินไฉหัวผู้ทรงพลังแล้วมันเป็นการโจมตีที่ถึงแก่ชีวิตเลย
แล้วเฉินไฉหัวจะยอมได้อย่างไรกันล่ะ เพราะไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะต้องได้ตัวเย่หรูเสว่ให้ได้
กระทั่งเรียนจบมัธยมปลาย เขาไม่มีโอกาสนี้เลย หลังจากที่เรียนจบมัธยมปลาย เย่หรูเสว่ก็ไม่ได้อยู่ที่เมืองหนานหูแล้ว
เฉินไฉหัวตามหามานานก็ไม่เคยเจอตัวเย่หรูเสว่เลย แต่คิดไม่ถึงเลยว่างานรวมตัวเพื่อนร่วมชั้นในครั้งนี้ ซุนลี่ลี่จะบอกว่าเย่หรุเสว่ก็มาด้วย
เมื่อเย่หรูเสว่ได้รู้ข่าวนี้เขาก็ดีใจมาก!
ความร้อนรนและความชั่วร้ายที่เขาเก็บกดไว้ในใจมานานก็ออกมาอีกครั้ง
เฉินไฉหัวมองไปที่เย่หรูเสว่ที่มีเสน่ห์ และสวยกว่าตอนเรียนมัธยมปลายแล้ว หัวใจก็ระส่ำระสาย
เฉินไฉหัวในสมัยมัธยมปลายนั้นแย่มาก และเขาก็ไม่มีความเห็นอกเห็นใจใดๆ เลย และเขาก็ถูกตามใจจนเหลิงไป เขาเป็นคนพาล และหยิ่งผยองอย่างยิ่ง
เฉินไฉหัวในตอนนี้เป็นคนจอมปลอมมาก และเนื่องจากเขาได้รับมรดกและสมบัติของตระกูลเฉินแล้วด้วยดังนั้นเขาจึงมีเงินและเวลาพร้อมกับอำนาจในการไปกลั่นแกล้งคนอื่นมากขึ้น
เย่หรูเสว่โดนมองด้วยสายตาแบบนั้นของเฉินไฉหัวแล้วก็รู้สึกไม่อิสระ หล่อนยกแก้วขึ้นมาและจิบน้ำไปคำหนึ่ง
“โอ้โฮเย่หรูเสว่ใช่มั้ยเห็นเพื่อนเก่าทั้งทีไม่คิดจะทักทายหน่อยเลยเหรอ?”
ซุนลี่ลี่ถามด้วยรอยยิ้มอยู่ข้างๆ ที่จริงแล้ว เย่หรูเสว่ไม่คิดว่าเฉินไฉหัวเป็นเพื่อนร่วมชั้นของหล่อนด้วยซ้ำ
“ไม่เจอกันนานเลยนะเย่หรูเสว่ สมัยมัธยมปลายผมคงทำให้คุณลำบากใจมากเลยสินะ ตอนนั้นอายุยังน้อยผมเลยไร้เดียงสามาก ตอนนี้คิดๆ ดูแล้วมันอ่อนต่อโลกมากเลย ผมต้องขอโทษด้วยนะ” เฉินไฉหัวพูดกับเย่หรูเสว่อย่างยิ้มจนตาหยี่
ความประทับใจที่เย่หรูเสว่มีต่อเฉินไฉหัวนั้นไม่เคยดีเลย เพียงแต่รู้ว่าเฉินไฉหัวย้ายมาเรียนที่นี่ และคอยก่อกวนตัวหล่อนตลอด
แต่เย่หรูเสว่ไม่รู้ว่าเฉินไฉหัวเคยทำอะไรในเมืองเยี่ยนตูมาบ้าง
“ไม่เป็นไร นั่นมันเป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว”
เย่หรูเสว่ส่ายหัว และคิดที่จะหวนนึกถึงอดีต
“แต่พอผมนึกถึงเรื่องพวกนี้ก็ยังคงรู้สึกผิดมาก ดังนั้นคุณพอจะให้โอกาสผมได้ชวนคุณดื่มสักแก้วได้ไหม?”
ร้านอาหารที่พวกเขาจองนั้นที่จริงแล้วเปิดให้บริการสำหรับครอบครัวเฉินไฉหัวเท่านั้น
ห้องวีไอพีเหล่านี้ยังค่อนข้างซ่อนเร้น
เดิมทีเย่หรูเสว่กำลังคิดจะปฏิเสธ แต่ซุนลี่ลี่กลับยิ้มและพูดว่า “ดีเลยฉันถ้างั้นฉันดื่มด้วยสักแก้วนะและต้องขอโทษเมื่อคืนด้วยนะ การเหนือกว่านั้นคงทำให้เธอกลุ้มใจมากใช่มั้ย? ”
เย่หรูเสว่เห็นว่าพวกเขาทั้ง 2 คนร่วมมือกัน และหล่อนก็คิดว่าไม่น่าจะเป็นไรเพราะพวกเขาอยู่ในร้านอาหารและยังเป็นตอนกลางวันอีกด้วย ดังนั้นเย่หรูเสว่จึงพยักหน้า
เฉินไฉหัวรีบสั่งคนให้เสิร์ฟทันที โดยมีทั้งไวน์แดงและสเต๊กเนื้อวัว ซึ่งในขณะนั้น ทั้งซุนลี่ลี่และ เฉินไฉหัวก็กำลังคุยกันอยู่ที่นั่น และเย่หรูเสว่เองก็กำลังก้มหน้าทานอาหาร หลังจากนั้นไม่นานเย่หรูเสว่ก็รู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย หล่อนคิดในใจว่าคงเป็นเพราะตัวเองเมาไวน์หรือเปล่า?
เมื่อเห็นเย่หรูเสว่กดขมับตัวเอง บนใบหน้าเฉินไฉหัวก็เผยรอยยิ้มขึ้นมา
“เย่หรูเสว่เธอเป็นอะไรไป? ดื่มเยอะไปแล้วใช่ไหม?” ซุนลี่ลี่ก้าวไปข้างหน้าและถามด้วยความเป็นห่วง
เย่หรูเสว่ส่ายหัว จากนั้นหล่อนก็รู้สึกแค่ว่าซุนลี่ลี่ที่อยู่ตรงหน้าหล่อนกลายเป็นภาพทับซ้อนกันไปแล้ว หล่อนอ้าปากและอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็หมดสติไปและไม่สามารถนึกถึงเรื่องนี้ได้อีก
เย่หรูเสว่ล้มลงอย่างแรงบนโต๊ะอาหาร ซุนลี่ลี่ยิ้มอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟันและพูดว่า “อย่าลืมที่เรา 2 คนสัญญากันไว้ล่ะ!”