พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 251 สมควรได้รับกรรมที่เคยทำไว้
เนี่ยเฟิงไม่ได้ล้อเล่นเลย ลูกน้องของเขายกมือขึ้นมาและกระแทกขาของโจวเหวินซูอย่างรุนแรง โจวเหวินซูร้องเสียงดังขึ้นมา
ทุกคนได้ยินเสียงกระดูกหักจากขาของโจวเหวินซู สีหน้าของเฝิงซิ่วเจียน โจวจื่อเหาและเสี่ยวเหม่ยทั้งสามคนเปลี่ยนไป!
“พวกเจ้ากล้าลงมือจริงๆ!”
“เธอคิดว่าฉันล้อเล่นกับพวกคุณหรือไง?”
เนี่ยเฟิงหัวเราะเยาะอย่างเย็นชา“พี่สาวของฉันใจดี เธอเป็นคนใจดีเลยถูกพวกคุณหลอกลวง ฉันคิดว่าจำเป็นต้องทวงความยุติธรรมจากพวกคุณ ในเมื่อทุกคนคิดว่าสามีของคุณเป็นคนพิการ ตอนนี้เขาก็กลายเป็นคนพิการจริงๆแล้ว มันก็สมชื่อแล้วไง ?”
เนี่ยเฟิงเงยหน้า“ทำร้ายเขาต่อไป หักขาอีกครั้งของเขาด้วย“
“หยุดนะ!หยุดนะ!ฉันจะคืนเงินก้อนนั้นให้โจวลี่ซือเอง ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะ อย่าหักขาอีกข้างของฉันเลย!”
โจวเหวินซูเปิดปากพูดออกมาภายใต้ความเจ็บปวด
เนี่ยเฟิงยกมือขึ้นอย่างช้าๆ “ถ้าอย่างงั้นฉันจะไม่หักขาอีกข้างของคุณ แต่คุณต้องรีบโอนเงินคืนเดียวนี้”
โจวเหวินซูเหงื่อไหลเต็มหน้าเพราะความเจ็บปวด เขาตัวสั่นและปืนลงมาจากโต๊ะ ขาข้างหนึ่งของเขาหักจนผิดรูปไปแล้ว
“ยังตะลึงอะไรอยู่?อยากเห็นฉันโดนหักขาอีกข้างหรือไง รีบโอนเงินคืนโจวลี่ซือเดียวนี้!”
เห็นได้ชัดว่าเฝิงซิ่วเจียนกับโจวจื่อเหาตกตะลึงกับการกระทำของเนี่ยเฟิงมาก พวกเขาสองคนไม่เคยคาดคิดเลยว่าเนี่ยเฟิงจะน่ากลัวขนาดนี้
โจวจื่อเหามองไปยังขาที่หักของพ่อตัวเอง อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายลงคอ เขาไม่กล้าที่จะเป็นศัตรูกับเนี่ยเฟิงอีกแล้ว?
ภายใต้การจ้องมองของเนี่ยเฟิง เฝิงซิ่วเจียนหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมา เธอมองไปที่ยอดเงินคงเหลือในบัญชี ขณะกำลังลังเลอยู่ เนี่ยเฟิงก็เปิดปากพูด
“หนึ่งล้าน คือเงินที่คุณตาให้พวกคุณตั้งแต่แรก เพื่อเลี้ยงดูพี่สาวของฉันให้ดี ฉันไม่คาดคิดเลยว่าพวกคุณจะเป็นคนเห็นแก่เงินขนาดนี้ ค่าใช้จ่ายสำหรับเก้าปีของการศึกษาภาคบังคับบวกกับค่าใช้จ่ายมัธยมศึกษาและมหาวิทยาลัย ฉันได้ลบมันออกไปแล้ว นอกจากนั้นยังมีเงินที่ให้ไปอีกจำนวนหนึ่ง ฉันก็ได้ลบมันออกไปแล้ว จากนั้นก็คือเงินที่พี่ห้าให้พวกคุณตลอดหลายปีที่ผ่านมา ฉันได้คำนวณทั้งหมดแล้ว รวมเป็นเงิน 3.5ล้าน”
“ทำไมเยอะขนาดนี้?!”
ดวงตาของเฝิงซิ่วเจียนเบิกกว้างด้วยความตกใจ เธอชำเลืองดูยอดเงินคงเหลือในบัญชี เงินที่อยู่ในบัญชีไม่ได้เหลือเยอะขนาดนั้น หลายปีมานี้พวกเขาก็ใช้เงินจำนวนมากไปกับการช็อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมและท่องเที่ยวอย่างหรูหรา
ตอนนี้เงินในบัญชีเหลือไม่มากแล้ว
“พวกคุณมีเงินเท่าไหร่?ไม่เกี่ยวกับฉัน ไม่ใช่เรื่องที่ฉันควรยุ่ง?”เนี่ยเฟิงยิ้มอย่างเย็นชา“พวกคุณน่าจะเข้าใจ รีบนำเงินก้อนนี้มาคืนซะ ฉันยังจะไว้ชีวิตพวกคุณอีกครั้ง แต่ถ้าพวกคุณไม่คืนหรือคิดไม่ซื่อ ฉันจะไม่เกรงใจอีกต่อไป”
เฝิงซิ่วเจียนเลียริมฝีปากที่แห้งของตัวเอง มองไปยังบัญชีที่มีเงินเหลือเพียง1.5ล้าน เธอไม่รู้จะทำยังไงดี
“ดูเหมือนว่าพวกคุณจะมีเงินไม่พอสำหรับคืนพี่สาวของฉัน งั้นฉันจะให้เวลาพวกคุณสามวัน ภายในสามวันนี้พวกคุณต้องหาเงินให้ครบ3.5ล้าน ไม่เพียงต้องโอนเงินคืนพี่สาวของฉัน แต่พวกคุณต้องไปขอโทษพี่สาวฉันด้วย จงจำไว้ อย่าคิดเล่นตุกติก เพราะความอดทนของฉันมีจำกัด”
ขณะพูดเนี่ยเฟิงก็ยืนขึ้นมา แล้วหันหน้ากลับมา มองไปที่พวกเขา“อย่าคิดที่จะหนีออกจากที่นี่ ไม่ว่าพวกคุณจะหนีไปที่ไหนฉันก็สามารถหาพวกคุณจนเจอ”
เนี่ยเฟิงมาอย่างรวดเร็วและจากไปอย่างรวดเร็วเหมือนกัน หลังจากที่พวกเขาจากไป โจวเหวินซูตะโกนออกมาว่า“ยังรออะไรอยู่ รีบเรียกรถพยาบาลมารับฉันหน่อย ฉันเจ็บจะตายอยู่แล้ว!”
โจวเหวินซูถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาขา และขาของเขาข้างนี้ได้หักไปแล้ว
หลังจากรักษาเสร็จแล้ว โจวเหวินซูก็รีบปรึกษากับสมาชิกในครอบครัว“พวกคุณคิดยังไงกับเรื่องนี้?”
“คนที่ชื่อเนี่ยเฟิงมีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดา ดูเหมือนเขาน่าจะอยู่ในวงการนักเลงด้วย พวกเราหาทางหลบหนีกันเถอะ?”
เฝิงซิ่วเจียนรีบพูดกับสามีตัวเอง
“ฉันรู้ว่าเขามีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดา แต่เมื่อกี้เขาก็พูดแล้วไม่ใช่เหรอ?ถ้าพวกเราหลบหนีไปแบบนี้ เขาจะไม่มีวันปล่อยพวกเราไว้แน่นอน!”
“พวกเราควรโทรแจ้งตำรวจดีไหม ให้ตำรวจมาจัดการเรื่องนี้?”
จู่ๆเสี่ยวเหม่ยก็คิดได้ แต่โดนโจวจื่อเหาปฏิเสธอย่างรวดเร็ว
“เมื่อก่อนพ่อแสร้งเป็นคนพิการ หลอกเอาเงินจากโจวลี่ซือมาเยอะ ถ้าตอนนี้เราแจ้งตำรวจ ฝ่ายตรงข้ามแจ้งกลับว่าพวกเราฉ้อโกง งั้นพวกเราทั้งหมดคงต้องเข้าคุกแน่นอน!วิธีนี้ใช้ไม่ได้!”
“โอ๊ย วิธีนี้ก็ใช้ไม่ได้ วิธีนั้นก็ใช้ไม่ได้ พวกเราจะไปหาเงินเยอะขนาดนี้ได้ที่ไหน?”
พวกเขาทั้งครอบครัวร้อนใจเหมือนมดที่อยู่บนกระทะร้อน มีสิ่งหนึ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือเรื่องที่พวกเขาปรึกษากันอยู่ เนี่ยเฟิงรู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขาคุยกันอย่างละเอียด
พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพยายามหลบหนี แต่โจวเหวินซูขาหักไปข้างหนึ่ง จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล มิฉะนั้นมีโอกาสมากที่ขาข้างนี้จะพิการ
โจวเหวินซูแค่คิดว่าในอนาคตเขาต้องใช้ไม้ค้ำในการดำรงชีวิต เขาก็รับไม่ได้ รีบส่ายหน้าทันที
สุดท้ายพวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องไปยืมเงิน ยืมเงินจากญาติพี่น้องและเพื่อนสนิททั้งหมด แล้วขายทองคำ เครื่องเงิน เครื่องประดับและของแบรนด์เนมทั้งหมดที่มีอยู่ รวมกับเงินในบัญชีก็มีแค่2ล้านเอง
โจวลี่ซืออยู่แต่ในบ้านเป็นเวลาสองสามวัน ตอนนี้เธอรู้สึกสับสนเล็กน้อย จิตใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว
ภาพในอดีตยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของโจวลี่ซือ
โจวลี่ซือรู้สึกเสียใจมากๆเมื่อรู้ว่าพ่อแม่บุญธรรมของเธอโกหกเธอมาโดยตลอด
ขณะเดียวกัน จู่ๆโจวลี่ซือได้รับข้อความทางโทรศัพท์มือถือ เธอก้มลงมองด้วยความสงสัย และพบว่าข้อความนั้นถูกส่งมาจากธนาคาร มีคนโอนเงินเข้ามาในบัญชีของเธอ เงินที่โอนเข้ามาทั้งหมดสองล้าน
โจวลี่ซือรู้สึกงุนงง จากนั้นเธอก็ได้รับข้อความวิดีโอ
“เสี่ยวซือ พวกเราขอโทษ พวกเราไม่มีคุณธรรมในจิตใจและหาทุกวิถีทางเพื่อหลอกลวงเธอ พวกเราโกหกเธอมาหลายปี ทำให้เธอรู้สึกผิด ทั้งหมดเป็นความผิดของพวกเราเอง พวกเราจะไม่ปรากฏตัวต่อหน้าคุณอีก ได้โปรดยกโทษให้พวกเราด้วย!”
“ใช่แล้ว!เธอก็นึกซะว่าหลายปีมานี้พวกเราไม่ได้รู้จักกัน!พวกเราผิดไปแล้ว!”
เมื่อโจวลี่ซือเห็นข้อความขอโทษนี้ ทำให้เธอรู้สึกสับสนและอธิบายไม่ถูก
ในขณะเดียวกันเนี่ยเฟิงเดินเข้ามาพร้อมกับผลไม้ในจาน “พี่ห้า พี่กำลังดูอะไรอยู่?”
“เรื่องพ่อแม่บุญธรรมของฉัน……”
“อะไรนะ!พวกเขาจะทำอะไรอีก?พวกเขามาขอเงินพี่อีกแล้วใช่ไหม พี่ให้พวกเขาไม่ได้นะ คนพวกนี้โลภมากและไม่รู้จักพอ!”
เนี่ยเฟิงแสร้งทำเป็นโกรธมากและไม่พอใจ
“พวกเขาส่งข้อความมาขอโทษฉันและโอนเงินคืนให้ฉันสองล้าน……แต่ฉันไม่ได้รู้สึกมีความสุขเมื่อได้เห็นข้อความนี้ แต่กลับรู้สึกว่าตัวเองกำลังโดนโกหกอยู่ ความรู้สึกนี้มันแย่มากๆ”
เนี่ยเฟิงนำจานผลไม้วางอยู่ข้างๆโต๊ะ พูดปลอบใจว่า “ไม่เป็นไร พี่ยังมีฉันอยู่?อนาคตไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นฉันก็จะอยู่ข้างพี่เสมอ!”
เมื่อโจวลี่ซือได้ยินคำพูดของเนี่ยเฟิง รู้สึกสบายใจมากขึ้น เธอพยักหน้า“อืม!ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ต้องมองไปข้างหน้า!”