พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 260 ค่ำคืนที่พายุฝนกระหน่ำ
พวกเขาไม่เพียงแค่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว แต่ในมือของทุกคนถือปืนไว้ เห็นพวกเขาทุกคนยกปืนในมือขึ้นและยิงใส่เนี่ยเฟิง!
“เสี่ยวเฟิง!”
โจวลี่ซือไม่เคยเจอกับเหตุการณ์แบบนี้?เธอตกใจหวาดกลัวมากๆ!
ที่นี่ไม่มีสิ่งกีดขวางเลย ดังนั้นจึงไม่มีที่ให้หลบซ่อน!เนี่ยเฟิงรีบวิ่งไปที่ประตูทางออก!
“อย่าให้เขาหนีไปได้ จัดการมันซะ ต้องฆ่ามันให้ได้!”
ซ่าวเจ๋มองเห็นเนี่ยเฟิงที่วิ่งไปทางประตู รีบตะโกนออกมาทันที!
เมื่อชายเสื้อแดงเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นพวกเขาก็รีบยิงปืนอีก แต่ไม่คาดคิดเลยว่าเวลานี้เนี่ยเฟิงจะเลือกกระโดดออกไปข้างนอกจากหน้าต่างที่ชำรุดของประภาคาร ทั้งๆที่รู้ว่าข้างนอกหน้าต่างเป็นมหาสมุทรอันกว้างใหญ่!
เขากระโดดออกไปจากที่นี่ งั้นเขาก็ต้องตกลงไปในทะเล?
ชายเสื้อแดงคนหนึ่งรีบวิ่งออกไป เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ แต่ไม่คาดคิดว่าจะได้ยินเสียงกรีดร้องมาจากด้านหลัง!
ซ่าวเจ๋ถูกเนี่ยเฟิงต่อยที่แผ่นหลัง!เสียงกระดูกหักดังขึ้นมาชัดเจน!
“เขาอยู่ที่นี่!”
“เขาทำแบบนี้ได้ยังไง?ด้านนอกไม่มีที่ให้ยืน ตามหลักเหตุผลแล้วเขาไม่น่าจะปืนขึ้นมาที่นี่ได้!
ในช่วงเวลาแค่ไม่กี่วินาที เขาทำแบบนี้ได้ยังไง?
แต่เนี่ยเฟิงทำได้!
ขณะที่เนี่ยเฟิงขึ้นมาเขาได้สังเกตบริเวณโดยรอบแล้ว ด้านนอกของประภาคารถูกลมทะเลกัดเซาะจนผนังเป็นหลุมเป็นบ่อ ดังนั้นเขาจึงกระโดดออกจากหน้าต่าง ใช้มือจับไปที่อิฐบนผนังประภาคาร ปืนไปยังหน้าต่างที่อยู่ข้างๆ ฉวยโอกาสตอนที่พวกเขามึนงงช่วงไม่กี่วินาที เขารีบอ้อมไปด้านหลัง!
ชายเสื้อแดงไม่สนใจอะไรอีกต่อไป เห็นพวกเขายกปืนขึ้นมาแล้วยิงอย่างดุเดือด!
เนี่ยเฟิงรีบคว้าตัวซ่าวเจ๋ แล้วบังอยู่ด้านหน้าของตัวเอง ซ่าวเจ๋ไม่สามารถขยับตัวได้ เพราะเมื่อสักครู่เขาถูกเนี่ยเฟิงหักกระดูกสันหลังแล้ว!
ซ่าวเจ๋โดนชายเสื้อแดงยิงจนเสียชีวิต ขณะใกล้เสียชีวิตเขาได้เบิกตากว้างๆไว้ ดูเหมือนไม่เข้าใจว่าตัวเองผิดพลาดตรงไหน ทั้งๆที่เป็นพวกเดียวกันแต่ทำไมพวกเขาถึงฆ่าตัวเองได้อย่างเลือดเย็น
ขณะเดียวกัน เนี่ยเฟิงก็อุ้มโจวลี่ซือแล้วกระโดดออกไปทางหน้าต่าง!
“ไล่ตามพวกมันเดียวนี้!”
ภารกิจที่ทีมนักฆ่าได้รับก็คือต้องฆ่าเนี่ยเฟิงให้ได้!
แต่ไม่คาดคิดเลยว่าเนี่ยเฟิงจะเป็นคนที่เจ้าเล่ห์ขนาดนี้ ใช้คนอื่นเป็นโล่กันบัง!บังตัวเองไว้แล้วหนีไป
“เสี่ยวเฟิง!”
“บูม!”
พวกเขายิงลงจากประภาคาร เนี่ยเฟิงรู้สึกเจ็บปวดที่แขน เขากัดฟันและไม่สนใจอะไร เห็นเพียงเขาว่ายน้ำไปทางที่เรือจอดอยู่ เขารีบขับเรือยอชต์หนีไป!
หลังจากเรือยอชต์แล่นไปได้สักพักและในที่สุดก็หนีออกมาได้
“เสี่ยวเฟิง!คุณได้รับบาดเจ็บใช่ไหม!”
โจวลี่ซือเปียกโชกไปทั้งตัว เธอเดินโซซัดโซเซเข้ามา ขณะนี้เนี่ยเฟิงไม่สนใจอาการบาดเจ็บของตัวเอง เห็นเพียงเขาเช็ดคราบเลือดบนไหล่ของตัวเอง“ไม่เป็นไร ตอนนี้พวกเราต้องหนีจากพวกเขาให้ได้ก่อน!”
เนี่ยเฟิงไม่มีอาวุธติดตัว อีกฝ่ายก็เป็นพวกมีทักษะศิลปะป้องกันตัว สมมุติมีเขาเพียงคนเดียว เขาสามารถหนีรอดได้อย่างง่ายดาย แต่ตอนนี้ไม่ได้มีแค่เขาเพียงคนเดียวแต่มีโจวลี่ซือมาด้วย
เขาต้องคิดถึงความปลอดภัยของโจวลี่ซือด้วย
หลังจากแล่นเรือมาได้สักพัก ก็ไม่เห็นมีใครตามมา แต่ตอนนี้น้ำมันบนเรือยอชต์ก็หมดเช่นกัน!
ที่แย่ที่สุดคือตอนนี้ฝนตกหนักด้วย บนมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ เขาไม่สามารถรู้ทิศทางและละติจูดได้ ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหน
เนี่ยเฟิงเลียริมฝีปากที่แห้งของตัวเอง เขาหยิบไม้พายขึ้นมาแล้วพายเรือ
“เสี่ยวเฟิง ตอนนี้พวกเราจะไปที่ไหน?”
“หาที่ซ่อนตัวก่อน!คนพวกนั้นไม่มีทางปล่อยพวกเราไปแน่นอน!”
ขณะพูดเนี่ยเฟิงก็ล้วงกระเป๋ากางเกง เมื่อสักครู่ที่เขากระโดดหนีลงน้ำ ทำให้อุปกรณ์สื่อสารที่อยู่บนตัวเปียกน้ำ และตอนนี้เขาไม่สามารถเปิดเครื่องได้เลย
“พี่ห้า โทรศัพท์มือถือของคุณสามารถเปิดเครื่องได้ไหม?”
“หลังจากที่ฉันโดนพวกเขาลักพาตัว ของใช้ที่ฉันมีอยู่โดนยึดไปหมด ดังนั้นฉันจึงไม่มีโทรศัพท์มือถือ”
เนี่ยเฟิงปลดเชือกที่อยู่บนตัวของโจวลี่ซือออก โจวลี่ซือรีบวิ่งเข้ามาหาเขาทันที เมื่อเห็นบาดแผลบนแขนของเนี่ยเฟิง เธอรู้สึกหวาดกลัวมากๆ!
“อย่าพึ่งพูดอะไรมาก ฉันจะห้ามเลือดให้คุณก่อน!”
โจวลี่ซือฉีกเสื้อผ้าของตัวเอง เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว หลังจากฉีกชายเสื้อออกก็เผยให้เห็นหน้าท้องที่ขาวและแบนราบ
เนี่ยเฟิงมองเห็นลักษณะที่อ่อนแอน่าสงสารของโจวลี่ซือ ทำให้เขาจิตใจฟุ้งซ่าน
โจวลี่ซือรีบเข้ามา ใช้แถบผ้ามัดแขนของเนี่ยเฟิงไว้ และเลือดก็หยุดไหล
“คุณน่าจะโดนกระสุนแฉลบ บาดแผลค่อนข้างใหญ่ ตอนนี้คุณห้ามขยับ”
“ถ้าฉันไม่ขยับแล้วจะพายเรือยอชต์ได้ยังไง”
เนี่ยเฟิงหยิบไม้พายออกมาแล้วพายเรือต่อ“ตอนนี้ไม่ใช่เวลาพูดเรื่องพวกนี้ พวกเราต้องหาที่หลบภัยก่อน”
ท้องฟ้าเริ่มมืดสนิทและฝนก็ตกหนักตั้งแต่เมื่อกี้ คลื่นลมทะเลสูงมาก เรือยอชต์ของพวกเขาดูเปราะบางมากเมื่ออยู่กลางทะเล
เนี่ยเฟิงมองไม่เห็นดาวเหนือบนท้องฟ้า ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าตอนนี้อยู่ทิศทางไหน
เสื้อผ้าบนตัวโจวลี่ซือเปียกโชกตลอด และลมพายุในตอนกลางคืนก็ทำให้เธอรู้สึกหนาวสั่น
“เสี่ยวเฟิง……ฉันหนาวมาก!”
เมื่อเนี่ยเฟิงเห็นลักษณะอันน่าสงสารของโจวลี่ซือ หัวใจของเขาสั่นไหว เขารีบเดินเข้าไปข้างหน้าแล้วกอดโจวลี่ซือทันที“ฉันกอดเธอไว้เธอจะได้รู้สึกอุ่นขึ้นมาหน่อย?”
เนี่ยเฟิงเคยเจอเหตุการณ์ที่เลวร้ายมากกว่านี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้สำหรับเขามันเป็นแค่เรื่องธรรมดา แต่โจวลี่ซือเธอเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาทั่วไป เธอไม่เคยเจอเหตุการณ์เลวร้ายแบบนี้มาก่อน?
โจวลี่ซืออยู่ในอ้อมกอดของเนี่ยเฟิง เธอรู้สึกสบายใจขึ้นมาเยอะ เนี่ยเฟิงเป็นเหมือนเตาไฟขนาดเล็ก ทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจ
“เสี่ยวเฟิง พวกเราจะเสียชีวิตกลางทะเลไหม?ตอนนี้ฉันเสียใจมากๆ ถ้าฉันไม่รู้จักซ่าวเจ๋ ก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ ฉันทำให้คุณต้องเดือดร้อน!”
เนี่ยเฟิงกอดโจวลี่ซือไว้แน่น ฝนตกหนักลงมาที่ศีรษะของพวกเขา และมีสายฟ้าแลบผ่านท้องฟ้าเป็นครั้งคราว
เรือยอชต์ของพวกเขาขึ้นๆลงๆตามกระแสคลื่นกลางทะเล และไม่รู้ลอยลำแบบนี้ได้อีกนานแค่ไหน
“อย่าพูดเหลวไหล เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอ เธออย่าโทษตัวเองเลย พวกเราต้องมีชีวิตรอดแน่นอน เพราะคนดีฟ้าคุ้มครองและพวกเราก็เป็นคนดี ไม่เหมือนคนเลวพวกนั้น”
“เสี่ยวเฟิง ฉันรู้สึกทั้งหนาวทั้งหิวทั้งง่วงด้วย ฉันนอนสักครู่ได้ไหม……”
เนี่ยเฟิงรู้สึกร่างกายของโจวลี่ซือร้อนขึ้น ร่างกายของเธอน่าจะทนกับสภาพอากาศแบบนี้ไม่ไหว และเธอน่าจะมีไข้
เนี่ยเฟิงไม่สนใจอะไรแล้ว เขาถอดเสื้อผ้าออกมา แล้วบังศีรษะของโจวลี่ซือไว้
โจวลี่ซือสะลึมสะลือแล้วนอนหลับไป
วันรุ่งขึ้น เมื่อเธอตื่นขึ้นมา เธอรู้สึกดวงตาของตัวเองไม่สามารถเปิดได้ และลมหายใจที่เธอหายใจออกมาก็ร้อนแผดเผา
“เสี่ยวเฟิง……”
เธอเรียกชื่อออกมาในขณะที่คอของเธอแหบแห้งมาก เมื่อคืนฝนตกหนักมาก เนี่ยเฟิงต้องวักน้ำฝนออกจากเรือในเวลากลางคืน เหลือน้ำฝนบางส่วนไว้ใช้ยามฉุกเฉิน
เนี่ยเฟิงได้ยินเสียงพูดของโจวลี่ซือ รีบป้อนน้ำให้เธอทันที“พี่ห้า เธอรู้สึกยังไงบ้าง ตอนนี้รู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”
โจวลี่ซือรู้สึกร่างกายตัวเองหนักอึ้ง ไม่สามารถลุกขึ้นได้