พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 266 พูดตรงๆ
ทันทีที่เย่หรูเสว่ได้ยินเนี่ยเฟิงพูดอย่างนี้ อดไม่ไหวที่จะพุ่งหัวเราะออกมา
“ไอ้หนูแกก็อย่าตีฝีปากกับฉันอีกเลย พูดได้อีกว่า ก็เป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะให้แกไปบุกน้ำลุยไฟล่ะ เอาล่ะ แกพักผ่อนให้ดีๆเถอะ หลังจากฉันกลับไปแล้วค่อยสืบดูให้ดีๆสักหน่อย ถ้าหากว่ามีเหตุการณ์อะไรรีบโทรหาฉันรู้ไหม?”
เนี่ยเฟิงพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก “ผมรู้ คุณรีบไปเถอะ”
ทั้งวันนี้ห้องผู้ป่วยของเนี่ยเฟิงล้วนคึกคักมาก พี่ๆหลายคนเข้าๆออกๆเอาใจใส่อาการของเนี่ยเฟิงเหลือเกิน ในที่สุดตอนนี้ก็หยุดลงมากแล้ว
ก็อยู่ในตอนที่เนี่ยเฟิงเตรียมตัวจะพิงอยู่บนเตียงพักผ่อนให้ดีๆ นอกห้องผู้ป่วยมีคนเดินเข้ามาอีกแล้ว นี่ไม่ใช่คนอื่น ก็เป็นหมิงอี๋หานพี่สี่ของเขานั่นเอง
บาดแผลที่อยู่บนกายของเนี่ยเฟิงเป็นหมิงอี๋หานเย็บด้วยมือของตัวเอง มือของหมิงอี๋หานสอดอยู่ในกระเป๋าเสื้อกาวน์ ผมของเธอมัดเป็นหางม้าตามสบาย เธอที่ใส่แว่นตาขอบสีเงิน ปกปิด ตาหงส์ที่ใช้อำนาจบาตรใหญ่คู่นั้นของเธอ
“ตอนนี้รู้สึกเป็นยังไงบ้างแล้ว? บาดแผลที่อยู่บนแขนยังเจ็บไหม?”
เนี่ยเฟิงส่ายหัวแล้วส่ายหัวอีก “บาดแผลที่อยู่บนแขนผมดีขึ้นไปเยอะแล้ว แท้ที่จริงผมล้วนไม่จำเป็นต้องอยู่ในโรงพยาบาล”
“ฉันรู้ แต่ว่าแกไม่อยู่ในโรงพยาบาล พี่ๆคนอื่นๆย่อมจะต่อว่าแกอีกแน่นอน ดังนั้นในสองวันนี้แกยังคงต้องวางใจพักอยู่ที่นี่ ถึงเวลานั้นฉันจะบอกว่าแกสามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้วแกค่อยออกไป”
หมิงอี๋หานทั้งพูดอยู่ทั้งเดินเข้ามา หยิบกล่องมือถือออกมาจากกระเป๋า “มือถือเครื่องนี้ทำงานได้ดี น่าจะสอดคล้องกับความต้องการของแก”
เนี่ยเฟิงแสยะปากยิ้มหนึ่งที รีบยื่นมือไปรับกล่อง “ขอบคุณพี่สี่!”
“ไม่ต้องขอบคุณฉัน ตอนนี้ถึงเวลาที่แกต้องบอกกับฉันว่าช่วงเวลานี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ยังมีสถานะของแกด้วยล่ะ?”
เนี่ยเฟิงกะพริบตาแล้วกะพริบตาอีก “ผมกลัวว่าผมพูดออกมาแล้วคุณจะรู้สึกตื่นกลัว”
หมิงอี๋หานส่ายหัวแล้วส่ายหัวอีก “ฉันรู้ว่าสถานะของแกย่อมไม่ธรรมดาแน่นอน แกเพียงแต่บอกกับฉันก็พอแล้ว”
“งั้นก็ได้ เรื่องนี้ผมเพียงแค่บอกกับพี่สี่คนเดียว พวกพี่ๆคนอื่นๆความสามารถในการรองรับไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนอย่างพี่สี่ขนาดนั้น ถ้าหากว่าบอกกับพวกเธอแล้ว ผมกังวลว่าพวกเธอจะรู้สึกหวาดกลัว”
เนี่ยเฟิงคิดแล้วคิดอีก ก็ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มพูดจากตรงไหน “งั้นผมก็เริ่มพูดจากคดีร้ายแรงบนทะเลกับคุณสักหน่อยเถอะ!”
เนี่ยเฟิงค่อยๆพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นจากคดีร้ายแรงบนทะเล
ตอนที่เขาพูดถึงว่าตนเองเข้าร่วมสำนักมังกรได้ยังไง มือของหมิงอี๋หานค่อยๆจับเสื้อกาวน์ที่สวมใส่อยู่บนกายแน่นขึ้น
แม้ว่าเธอดูแล้วเป็นคนที่สงบมั่นคงคนหนึ่ง แต่ว่าในใจเธอคือคิดถึงและเป็นห่วงเนี่ยเฟิงอย่างมาก ได้รู้ว่าทั้งครอบครัวของเนี่ยเฟิง เกิดการตายอยู่บนชายหาดทะเล เวลานั้นเธอไม่เชื่อ
ตอนนี้การเล่าเรื่องของเนี่ยเฟิงพูดได้ว่าไม่หนักหนาอะไร แต่ว่าหมิงอี๋หานกลับฟังจนกลัวตัวสั่น
บนกายของเนี่ยเฟิงมีบาดแผลที่ทั้งใหญ่ทั้งเล็กมากมาย บาดแผลเหล่านี้มีมากมายล้วนเป็นบาดแผลเดิมมานานแล้ว
หมิงอี๋หานเคยตั้งใจไปค้นคว้าวิจัยบาดแผลที่อยู่บนกายเนี่ยเฟิงที่เหลือว่ามาจากอาวุธแบบไหน
เพียงแค่ดูบาดแผลเหล่านี้ ก็รู้ว่าเนี่ยเฟิงตกลงว่าได้รับการปฏิบัติที่ไม่ใช่คนมากมายขนาดไหน
“ดังนั้นพูดได้ว่าสถานะของแกในตอนนี้คือราชามังกรของสำนักมังกรหรือ?”
“ใช่ พวกคุณอาจจะไม่ค่อยเข้าใจสำนักมังกรเท่าไหร่……”
เนี่ยเฟิงเพิ่งอยากจะอธิบายสักหน่อย สำนักมังกรเป็นการคงอยู่แบบไหนแห่งหนึ่ง ในเวลานี้หมิงอี๋หานกลับโบกมือแล้วโบกมืออีก “แกไม่จำเป็นต้องอธิบายกับฉัน เพราะว่าฉันรู้จักองค์กรนี้”
“พี่สี่รู้หรือ?” เนี่ยเฟิงประหลาดใจมาก
“อืม” หมิงอี๋หานพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก “ในตอนต้นหลังจากรู้เรื่องคดีร้ายแรงบนทะเลแล้ว ฉันคิดหลายวิธี อยากจะหาเบาะแสของพวกคุณให้เจอ แต่ว่าการตายของพวกคุณดูเหมือนเป็นเรื่องที่อ่อนไหวมากเรื่องหนึ่ง ดังนั้นใช้วิธีการที่ทำกันเป็นปกติ ฉันไม่สามารถที่จะหาเบาะแสเจอ ดังนั้นฉันก็เลยฟาดเงิน กลุ่มทหารรับจ้าง”
นี่เป็นเรื่องที่หมิงอี๋หานทำไปได้จริงๆ
เนี่ยเฟิงมีความตื่นตะลึงเพราะได้รับความโปรดปรานอย่างคาดคิดไม่ถึงเล็กน้อย “พี่สี่ แท้ที่จริงคุณไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้”
“อย่างที่พูดไว้ว่า อยู่ต้องเจอคน ตายต้องเจอศพ ถ้าวันหนึ่งไม่เจอศพของแก งั้นฉันก็จะไม่เชื่อว่าแกตายอยู่ในทะเลแล้ว”
เนี่ยเฟิงรู้ว่าหมิงอี๋หานดื้อรั้น แต่แค่นึกไม่ถึงว่าหมิงอี๋หานจะเอาจริงเอาจังขนาดนี้
“แกได้รับความทุกข์ทรมานมากมายจริงๆ ล้วนเป็นพวกพี่ๆไร้ความสามารถจึงปล่อยให้แกเติบโตด้วยตัวคนเดียว ตอนนี้กระชั้นชิดจวนตัวก็คือหามือดำที่อยู่เบื้องหลังคนนั้นให้เจอ ฟังแกพูดอย่างนี้ มือดำที่อยู่เบื้องหลังคนนั้นน่าจะเป็นคุณนายหลัน”
“เพียงแต่ผมส่งคนไปสืบข้อมูลทั้งหมดของคุณนายหลันคนนี้มาก่อนแล้ว ทำให้ผมรู้สึกแปลกประหลาดมากก็คือคุณนายหลันไม่มีการสื่อสารใดๆกับบ้านพวกเรามาก่อน ทำไมเธอต้องฆ่าพวกเราอย่างโหดร้ายล่ะ? ถ้าเพียงแค่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์เจตจำนงนี้ไม่เพียงพอจริงๆ”
เนี่ยเฟิงก็เนื่องเพราะจุดนี้ ดังนั้นเนิ่นช้าไม่ได้ลงมือกับคุณนายหลัน อีกทั้งหลักฐานของเขาก็ไม่เพียงพอด้วยเช่นกัน
แต่ถ้าหากว่าเรื่องนี้คือโหวฟู่กุ้ยกับหลันหยิงทั้งสองคนยั่วยุออกมา งั้นกลับมีความน่าเชื่อถือกว่า
ถึงยังไงในตอนต้นทรัพยากรที่ยึดกุมอยู่ในมือของตระกูลเนี่ยมีมากมายจริงๆ
“เรื่องนี้ยังจำเป็นต้องสืบสักหน่อย หลีกเลี่ยงที่จะแหวกหญ้าให้งูตื่น ยิ่งกว่านั้นพวกเรายังไม่มีหลักฐานที่แน่ใจ ถ้าหากว่าไม่ใช่ผู้หญิงคนนี้ทำแต่เบื้องหลังของผู้หญิงคนนี้มีมือดำ งั้นควรจะทำยังไงล่ะ?”
“ผมก็คิดอย่างนี้เช่นกัน แต่ว่า คนที่รับใช้คนของของเมืองเยี่ยนตู ถูกผมจัดการไปพอสมควรแล้ว”
ในใจเนี่ยเฟิงคิดว่าฝั่งตรงข้ามเป็นไปได้มากที่อาจจะอยู่เฉยไม่เคลื่อนไหว เพียงแค่ถึงปัจจุบันนี้ที่ส่งมาก็คือกลุ่มทหารรับจ้างฟรังโคลิน
“แกส่งคนไปจับตาพวกเขาฝั่งโน้นไว้ก่อน ถ้าพวกเขาร้อนใจแล้วย่อมจะคิดวิธีแน่นอน ยิ่งกว่านั้นสามารถสะบัดคนขององค์กรข่าวกรองที่แกสะกดรอยทิ้งไปได้ ย่อมไม่ได้เป็นบุคคลง่ายๆอะไรแน่นอน หัวหน้าครอบครัวตระกูลเฉินชี้จุดพูดว่า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคุณนายหลัน อาจเป็นไปได้ว่าเป็นหลุมพรางอย่างหนึ่ง”
หมิงอี๋หานลูบคางของตนเองลูบแล้วลูบอีก พูดอย่างวิเคราะห์
“ไม่ว่าจะเป็นยังไง ผมจะต้องสืบหาฆาตกรที่ฆ่าทั้งครอบครัวของผมในปีนั้น พวกเขาทำไมต้องทำเช่นนี้ ผมจะต้องให้ความเป็นธรรมแก่พ่อแม่ของผม”
“วางใจเถอะ ฉันก็จะช่วยแกอย่างแน่นอน”
เนี่ยเฟิงพูดถึงตรงนี้ จ้องมองไปยังหมิงอี๋หาน “พี่สี่ ผมล้วนพูดเรื่องของผมให้คุณรู้หมดแล้ว เรื่องนี้คุณก็ปิดเป็นความลับชั่วคราวเถอะ ผมไม่รู้ว่าควรจะพูดกับพี่ๆคนอื่นๆได้ยังไง ผมคิดว่าหลังจากพี่ใหญ่พวกเธอรู้เรื่องนี้แล้วย่อมจะร้อนใจมากอย่างแน่นอน”
“อืม แกไม่ต้องพูดฉันก็รู้ เพียงแต่ตอนนี้จัดการยากกว่าก็คือทีมนักฆ่าที่เรียกว่าฟรังโคลินกลุ่มนั้น แกก็ฆ่าน้องชายของคนอื่นไปอย่างนี้ เขาจะไม่ปล่อยแกไปอย่างเด็ดขาด จะให้ฉันไปช่วยหาอาวุธให้แกสักหน่อยไหม?”
เนี่ยเฟิงแอบตกกะใจหนึ่งที “พี่สี่ คุณทำไมเหมือนทำมาหาเลี้ยงชีพให้รอดไปวันๆกับมาเฟียมากกว่าผมล่ะ? คุณไปหาอาวุธมาจากไหนล่ะ?”
“ฉันมีวิธีของฉันเอง ถ้าหากว่าแกต้องการล่ะก็เพียงแค่บอกมาก็พอแล้ว”
เนี่ยเฟิงกะพริบตาแล้วกะพริบตาอีก จากนั้นส่ายหัวแล้วส่ายหัวอีก เพียงเห็นเขายกกำปั้นของตนเองขึ้นมา “อะไรผมล้วนไม่ต้องการ เพราะว่ากำปั้นของผมแข็งพอ”
“ในเมื่อแกมั่นใจในตนเองขนาดนั้น งั้นฉันก็ไม่ต้องเป็นห่วงแกแล้ว แต่ว่าถ้ามีอะไรจำไว้ต้องปรึกษาหารือกับฉันสักหน่อย บาดแผลที่อยู่บนกายแกไม่เป็นอะไรมากแล้ว พรุ่งนี้ก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว”
หมิงอี๋หานค่อยๆผ่อนคลายลมหายใจออกหนึ่งที เธอเป็นห่วงเนี่ยเฟิงจริงๆ ไม่ว่าอะไรล้วนแบกอยู่บนกายของตนเอง
หลังจากเธอออกไป ในใจเนี่ยเฟิงก็รู้สึกสบายขึ้นมาก ในที่สุดก็มีพี่คนหนึ่งที่รู้ถึงสถานะของเขาแล้ว