พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 29 เลื่อนตำแหน่งเพิ่มเงินเดือน
บทที่ 29 เลื่อนตำแหน่งเพิ่มเงินเดือน
ตอนนี้เมืองตงไห่มีอุตสาหกรรมที่เป็นของสำนักมังกรเท่าไหร่แล้ว เนี่ยเฟิงยังไม่ได้ไปตรวจสอบอย่างละเอียด เพราะไม่ว่าเขาไปถึงไหนก็มีการแจ้งให้ทราบอยู่ดี
การแบ่งส่วนในสำนักมังกร นอกจากมือซ้ายมือขวาของเขาแล้ว บุคลากรที่เหลือจะแบ่งเป็นระดับหนึ่งถึงสี่ตามลำดับ ระดับสี่เป็นระดับสุดท้าย ซึ่งสวัสดิการของพวกเขาเยอะไม่เท่าสามระดับก่อนหน้าอย่างแน่นอน
ถึงจะเป็นอย่างนี้ก็ตาม ก็ยังคงมีคนมากมายแข่งกันเพื่อเข้าทำงานที่สำนักมังกร เพราะสวัสดิการของสำนักมังกรดีเยี่ยมจริงๆ
แต่สำนักมังกรไม่รับคนไม่ทำงาน ถึงอยากเข้าทำงานก็ต้องเป็นคนมีความสามารถ
“วันนี้เจ้าทำได้ดีมาก ข้าจะเลื่อนเจ้ามาอยู่ในตำแหน่งระดับสาม”
เนี่ยเฟิงเป็นคนไม่ขี้เหนียวกับสวัสดิการของลูกน้องอยู่แล้ว
หลังจากเจียงหยางได้ยินเช่นนั้น นัยน์ตาของเขาก็มีแสงประกายออกมาและรีบกล่าวขอบคุณ “ขอบคุณราชามังกร กระหม่อมยอมบุกน้ำลุยไฟเพื่อราชา”
“ตั้งใจทำงาน เดี๋ยวก็ได้เลือนตำแหน่งเรื่อยๆ”
สิ่งสำคัญคือพี่ใหญ่เขาชอบร้านนี้ หลังจากนี้คงมีโอกาสเจอเจียงหยางอีกเยอะ
ในใจเจียงหยางมีความสุขเหลือเกิน เขาคิดอยู่ในใจว่าวันนี้โชคดีจัง เขาคิดมาตั้งนานว่าจะไปพัฒนาที่ต่างประเทศดีไหม แต่ตำแหน่งทหารระดับสี่ของร้านมังกรสาขานี้ในประเทศเขาก็ดิ้นรนนานมากถึงได้มา ถึงแม้จะอยู่เพียงในเมืองตงไห่ แต่สวัสดิการก็ถือว่าดีมากเช่นกัน
แต่เขาคิดไม่ถึงจริงๆว่าจะได้พบราชามังกรที่นี่ ขณะที่เขาได้รับข่าว เขารู้สึกว่าหัวเขาจะระเบิดออกมา
ถ้าเขาทำไม่ดี แล้วไม่ถูกใจราชามังกร งั้นก็หมายความว่าเขาจะโดนตัดหัว ค่าจ้างที่สูงมักจะมาคู่กับความเสี่ยงที่สูง คนที่รับใช้สำนักมังกรอย่างพวกเขา จะต้องเตรียมใจไม่รู้จะเสียชีวิตเมื่อใด เหมือนกับที่คนเขาว่ากันว่า ทำงานใกล้ชิดกับคนใหญ่คนโต ย่อมมีอันตรายเหมือนอยู่ใกล้เสือ ถ้าไม่ระวังแล้วกระทำผิดอาจจะทำให้ตัวเองเสียชีวิตได้
ดังนั้นเขาจึงรีบมาแล้วใช้กล้องวงจรในร้านตรวจดูสถานการณ์ทันที เมื่อเห็นผู้จัดการซุนพูดจาไร้มารยาทกับราชามังกร วินาทีนั้นเจียงหยางรู้สึกใจตัวเองหายไปแล้วครึ่ง
ราชามังกรไม่ถูกใจร้านของพวกเขาแน่เลย แล้วถ้ายื่นคำร้องเรียนขึ้นไป เขาก็คงไม่ได้อยู่ในตำแหน่งนี้อีกต่อไป และอาจจะไม่ใช่เพียงไม่ได้อยู่ในตำแหน่งนี้แค่นั้น ยังมีโอกาสที่จะกระตุ้นสัญญารักษาความลับ งั้นเขาคงไม่มีชีวิตอยู่ต่อแล้ว
จริงๆตอนนั้นเขากำลังจะพุ่งเข้าไป แต่ในขณะเดียวกันราชามังกรส่งข้อความมาว่า ให้เลื่อนชิวมู่เฉิงเป็นVIPขั้นสูงสุด เป็นผู้ที่ไม่มีใครเอาชนะได้
เจียงหยางรู้ว่าโอกาสของตัวเองมาถึงแล้ว เขาจึงรีบเติมเงินในบัตรไปร้อยล้าน ร้อยล้านนี้เป็นเงินที่ตัดจากยอดในร้าน เขาก็ไม่รู้เช่นกัน ว่าสิ่งที่เขาทำอยู่ถูกหรือผิด แต่ในเมื่อที่ราชามังกรพูดว่าต้องเป็นผู้ที่ไม่มีใครเอาชนะได้ ร้อยล้านนี้สามารถเอาชนะสมาชิกทุกคนในร้านได้
เหมือนอย่างที่เห็น เจียงหยางทำได้ถูกมาก เจียงหยางรู้สึกดีใจมากที่ตัวเองตัดสินใจทำเรื่องนี้ไป
ก็คือการตัดสินใจครั้งนี้เอง ที่ทำให้เจียงหยางได้เลื่อนตำแหน่งเป็นทหารระดับสาม
เจียงหยางรู้สึกว่าตัวเองตื่นเต้นจนใจจะทะลุออกมา อยากจะออกไปวิ่งซักกี่สิบกิโลเมตร
“เงินที่อยู่ในบัตรข้าให้บัญชีโอนคืนให้แล้ว เจ้าหัวไวมาก ไม่เลวเลยจริงๆ”
เนี่ยเฟิงตบไหล่เจียงหยางแล้วพูดว่า “ พี่ใหญ่ข้าชอบร้านนี้ เจ้าบอกพนักงานให้จำหน้าตาของพี่ข้าไว้ ถ้าวันหลังเธอมาที่นี่แล้วเกิดเหตุการณ์อย่างผู้จัดการซุนอีก เจ้าควรรู้ว่าต้องทำยังไง”
“ครับ ราชามังกร”
เนี่ยเฟิงยิ้มแล้วพยักหน้า “กระทำผิดต่อข้าไม่เป็นไร แต่ถ้ากระทำผิดต่อพี่ข้า ข้าจะไม่ไว้หน้าแน่ ตั้งใจทำงานละกัน”
หลังจากพูดจบเนี่ยเฟิงก็หันหลังเดินออกจากห้องส่วนตัว เจียงหยางถึงได้ถอนหายใจออกมาอย่างช้าๆ เมื่อกี้เขาตื่นเต้นมากจริงๆจนขาสั่นเลย
จำเป็นต้องพูดว่า ความน่าเกรงขาม ที่มาจากราชามังกรทำให้รู้สึกกดดัดเหลือเกิน
หลังจากเนี่ยเฟิงออกจากห้องส่วนตัวก็เปลี่ยนหน้าโดยทันที บนหน้านั้นได้เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มไร้เดียงสาอีกครั้ง เขาเดินเข้าไปที่โต๊ะ แล้วบนโต๊ะนั้นก็มีสเต๊กที่เสิร์ฟไว้แล้ว
ชิวมู่เฉิงกำลังมองบัตรที่ตัวเองถืออยู่ในมือ
“พี่ใหญ่ พี่รอผมนานแล้วสินะ รีบทานเถอะ ไม่ใช่พี่บอกว่าอาหารที่นี่อร่อยมากหรอ ผมขอชิมก่อนนะ”
เนี่ยเฟิงรีบตัดสเต๊กเนื้อหินอ่อนชิ้นหนึ่ง คาดว่าเจียงหยางน่าจะสั่งกับห้องครัวแล้ว ครั้งนี้จึงเป็นเนื้อหินอ่อนคุณภาพสูงสุด
“รสชาติดีจังเลย เป็นอย่างที่พี่ใหญ่พูดจริงด้วย ครั้งหน้าเรามาร้านนี้อีกนะ”
“ก่อนหน้านี้ นายควรอธิบายกับพี่ก่อนหรือเปล่า เสี่ยวเฟิง”
ชิวมู่เฉิงถือบัตรในมือขึ้นมา ตาที่หรี่อยู่นั้นมีสายตาอย่างแหลมคมอยู่ “บัตรใบนี้มีมูลค่าร้อยล้านเลยนะ ผู้จัดการร้านคนนั้นมีอำนาจใหญ่ขนาดนั้น นายจะรู้ล่วงหน้าได้อย่างไร หึ”
เนี่ยเฟิงเลียซอสที่ติดริมฝีปากแล้วพูดว่า “ก็เพราะว่าเจ้าของร้านเป็นเพื่อนผมไง”
“เสี่ยวเฟิง นายอย่ามาโกหกกับพี่ พี่รู้จักนายดี ถึงจะเป็นเพื่อนสนิทของนาย แต่เขามีกำลังทรัพย์ที่ไหนมาเติมเงินร้อยล้าน บัตรนี้เชื่อมโยงกับธนาคารนะ”
“นั้นเป็นเพราะคุณถูกรางวัลครับ”
ในขณะนี้นี่เอง เจียงหยางนำพาพนักงานทั้งหมดเดินมาอย่างยิ้มแย้ม บนอกเสื้อของพวกเขาทุกคนต่างกลัดดอกไม้ไว้ดอกหนึ่ง
“สวัสดีคุณหนูชิว ทางร้านได้จัดกิจกรรมนี้ขึ้นมาตั้งแต่เมื่อวาน กิจกรรมนี้คือการสุ่มสมาชิกคนหนึ่งของเราให้เลื่อนเป็นสมาชิกVIPขั้นสูงสุด
สมาชิกท่านนี้ ไม่เพียงแต่ได้รับสิทธิ์ลด20% ยังจะได้รับบัตรจากสาขาใหญ่ ก็คือบัตรที่คุณถืออยู่นี่เอง คุณโชคดีจริงๆ เพราะรางวัลนี้เราสุ่มในสมาชิกทุกสาขาทั่วโลก”
ชิวมู่เฉิงขมวดคิ้วอย่างสงสัย เธอไม่เชื่อว่าตัวเองจะโชคดีขนาดนั้น
“ถ้าคุณหนูชิว ไม่เชื่อ สามารถเช็คที่เว็บทางการของร้านหมิงเตี่ยนเราได้ บนนั้นมีการบันทึกอย่างละเอียด”
ชิวมู่เฉิงนิ่งค้างไปสักพักแล้วพูดว่า “ทำไมฉันไม่เห็นได้รับข้อความเลย”
“หลักๆอาจจะเป็นเพราะพวกเราก็ไม่ใช่ผู้ดำเนินเรื่อง ข่าวของเราทั้งหมดเราได้ส่งให้กับผู้ให้บริการเครือข่าย แล้วให้พวกเขาส่งแทน อาจจะตกหล่นครับ แต่ถ้าคุณล็อกอินแล้วไปดูที่หน้าเว็บก็จะเห็นครับ”
ชิวมู่เฉิงเปิดโทรศัพท์แล้วกดเข้าไปดูที่ลิงค์ ถึงเห็นว่าบนนั้นได้ประกาศรายชื่อผู้ที่ถูกรางวัลแล้ว เลื่อนไปข้างล่างก็เห็นว่าจิตรกรรมนี้จัดขึ้นตั้งแต่เมื่อวานจริงด้วย เหตุผลที่จัดกิจกรรมนี้ขึ้นมา ไม่น่าเชื่อเลยเป็นเพราะเจ้าของร้านอารมณ์ดีแค่นั้น
“เจ้าของร้านพวกเธอนี่รวยจริงๆ”
ชิวมู่เฉิงอุทานอย่างนี้ขึ้นมา
เนี่ยเฟิงเคาะโต๊ะเบาๆ แสดงถึงความภูมิใจต่อการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของเจียงหยาง
ความจริงสุดท้ายเนี่ยเฟิงก็ต้องบอกเรื่องนี้ให้พี่ๆรู้อยู่ดี แต่ตอนนี้เขายังอยู่ในสถานะที่พิเศษ เขาอยากค่อยๆบอกพี่ๆทีละเรื่อง ไม่ใช่ให้พี่ๆรู้โดยสภาพตอนนี้
อีกอย่าง มีเรื่องหนึ่งที่ขาคิดมานาน นั้นก็คือพี่ๆทั้งเจ็ดคนมาจากไหน
เรื่องนี้ก็ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจมาก สมองเขาไวตั้งแต่เด็ก จึงยังมีความทรงจำตอนอายุสองสามขวบ ตอนนั้นเขาเห็นตาอุ้มเด็กกลับมาเจ็ดคน
เสื้อผ้าที่พวกเธอใส่อยู่นั้นแปลกมาก และบนนั้นก็มีหมายเลขกำกับอยู่ทุกตัว ตอนนี้คิดขึ้นมา รู้สึกเสื้อเหล่านั้นเหมือนชุดคนไข้หรือชุดที่ใส่เพียงในห้องแล็บ
ประวัติของพวกเธอว่างเปล่า ไร้ร่องรอย