พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 30 ถ้าหาภรรยาไม่ได้ทำไงดี
บทที่ 30 ถ้าหาภรรยาไม่ได้ทำยังไงดี
ถึงแม้สิ่งที่เขาพูดดูน่าเชื่อถือมาก แต่ชิวมู่เฉิงก็ยังทานอาหารมื้อนี้อย่างใจลอยอยู่ดี
ฉลาดอย่างเนี่ยเฟิงจะดูไม่ออกได้อย่างไร
แต่ถึงแม้เขาจะดูออก เขาก็ไม่หาเรื่องใส่ตัวหรอก
ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม ถ้าตอนนี้บอกพี่ใหญ่เรื่องที่เกิดขึ้นในปีนั้นและสถานภาพตอนนี้ พี่ใหญ่คงเป็นห่วงอย่างมากและโทษตัวเองหนักแน่เลย นี่ไม่ใช่สิ่งที่เนี่ยเฟิงอยากเห็น
หลังจากกินอิ่มเนี่ยเฟิงจับท้องตัวเอง ยิ้มแล้วพูดอย่างอิ่มอกอิ่มใจว่า
“ร้านอาหารที่พี่ใหญ่แนะนำนี่ดีสมชื่อจริงๆ อาหารในร้านก็อร่อยจริงๆ ครั้งหน้าเรามาที่นี่อีกเถอะ ยังไงเราก็ถูกรางวัลแล้วนี่ มียอดตั้งร้อยล้าน ถึงแม้จะถอนออกมาไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็สามารถสั่งอาหารตามใจชอบได้นี่ ครั้งหน้าเรียกพี่ๆคนอื่นมาด้วย ถ้าให้ดีเราทั้งหมดก็นัดกินข้าวกันในเสาร์อาทิตย์ พี่ใหญ่รู้สึกเป็นไง”
ชิวมู่เฉิงคิดบางสิ่งอยู่ในใจ จึงดูท่าใจลอยๆ เนี่ยเฟิงพูดอะไร เธอก็ไม่ค่อยได้สนใจ
“พี่ใหญ่”
เนี่ยเฟิงตั้งใจขัดชิวมู่เฉิงที่กำลังคิดอยู่ ชิวมู่เฉิงกระพริบตาแล้วดึงสติกลับมา ปากเธอค่อยๆยิ้มขึ้นมา จึงดูไม่เย็นชาเหมือนเมื่อสักครู่แล้ว
“ได้สิ ในเมื่อที่เสี่ยวเฟิงชอบร้านอาหารร้านนี้ งั้นเราก็มาบ่อยๆละกัน พี่ได้เซ็นสัญญาที่ดินตรงPeople & Springกับหวางซื่อกรุ๊ปแล้ว ตอนนี้พี่จะไปดูที่หน้างาน งั้นพี่ส่งผมกลับไปก่อนไหม”
“พี่ใหญ่พูดอะไรของพี่เนี่ย ถึงตอนนี้จะเป็นเที่ยงวันแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพี่จะหายเมาแล้ว ผมบอกแล้วใช่ไหมว่าวันนี้ผมจะเป็นคนขับรถของพี่เอง ผมไม่ไปไหนหรอก ผมจะขับรถให้พี่”
ชิวมู่เฉิงมองเนี่ยเฟิงที่ยิ้มจนมีลักยิ้มออกมาสองข้าง หน้าตานั้นดูเหมือนเด็กชายที่ยังไม่โตเลย มองยังไงก็ไม่เหมือนคนที่วางแผนเป็น
ชิวมู่เฉิงคิดไปสักพัก น้องชายตัวเองคงไม่มีปิดบังอะไรกับเธอหรอก
ชิวมู่เฉิงถอนหายใจออกเบาๆแล้วพูดว่า “อย่างนั้นก็ได้ งั้นอย่างนี้ละกัน นายก็บอกพี่ๆคนอื่นด้วย อาทิตย์นี้นายก็อยู่กับฉันเลย”
“ครับผม”
เนี่ยเฟิงยกยิ้มกว้าง แล้วล้วงหยิบโทรศัพท์ออกมา กดเข้าไปที่กลุ่มแชท แล้วส่งข้อความเข้าไปในกลุ่ม
“ฉันคิดว่าเสี่ยวเฟิงจะไปกับฉันก่อนซะอีก ฉันวางแผนไว้หมดแล้ว “โจวลี่ซือถอนหายใจแล้วกล่าวเช่นนี้
เธอคิดจะพาเนี่ยเฟิงบินไปหลายที่อย่างตื่นเต้น แล้วจะพาไปเที่ยวอย่างสนุกสนาน เพราะว่าในระหว่างนี้ไม่รู้ว่าเนี่ยเฟิงลำบากขนาดไหน
“ในเมื่อที่เรียงตามลำดับ งั้นเราก็เริ่มจากพี่ใหญ่ก่อนเลย หลังจากนั้นค่อยตามด้วยลำดับของพวกเรา” หลินซูอินเสนอเช่นนี้
“อ้าว งั้นฉันก็ได้เป็นคนสุดท้ายอีกแล้วสิ”
คางเมิ่งรู้ว่าตัวเองเป็นคนสุดท้าย จึงรู้สึกเศร้าทันที
“ไม่ใช่ไม่ให้เธอเจอเสี่ยวเฟิงสักหน่อย เป็นคนสุดท้ายก็ไม่เห็นเป็นไรเลย ปัจจัยหลักของพวกเราคือให้เสี่ยวเฟิงรู้ว่าตัวเองเหมาะกับงานแบบไหน และให้เขารู้ว่าตัวเองชอบงานอะไร”
เย่หรูเสว่พูดกับคางเมิ่งเช่นนี้ คางเมิ่งจึงพยักหน้าอย่างหงอยๆ
“ในเมื่อทีตกลงกันแล้ว งั้นก็เริ่มตั้งแต่วันนี้เลย ประมาณหนึ่งอาทิตย์ก็น่าจะรู้แล้วว่าตัวเองชอบงานนี้ไหม”
ในขณะนี้หมิงอี๋หานก็ตอบไปคำหนึ่ง
“แต่ถ้าเสี่ยวเฟิงนายเจองานที่ไม่ชอบ ก็สามารถจบงานล่วงหน้าได้ ไม่ต้องทนไปเรื่อยๆ ถึงแม้นายจะไม่ชอบทุกงานก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ๆเลี้ยงนายเอง”
“คนสี่ เธอพูดอะไรบ้าบออีกแล้ว เธอทำแบบนี้เดี๋ยวก็ตามใจจนนิสัยเสียหรอก เสี่ยวเฟิง อย่าไปฟังที่พี่สี่นายพูด เราเป็นลูกผู้ชายต้องมีงานการของตัวเองสิ ถ้าไม่ทำงานดีๆ วันหลังอาจจะหาภรรยาไม่ได้นะ”
หลินซูอินส่งคำพูดนี้มาพร้อมกับอิโมจิยิ้มที่น่ารัก พอเนี่ยเฟิงเห็นอิโมจินี้ก็อั้นขำไม่ได้ จึงหัวเราะออกมา
“เรื่องอะไรตลกขนาดนั้น”
พวกเขามาถึงโรงจอดรถ พอชิวมู่เฉิงขึ้นรถแล้วคาดเข็มขัดนิรภัย ก็เห็นเนี่ยเฟิงที่หยุดขำไม่ได้ เธอจึงถามด้วยความอยากรู้
“พี่บอกให้ผมตั้งใจทำงาน ไม่งั้นอนาคตจะหาภรรยาไม่ได้”
เนี่ยเฟิงแค่รู้สึกว่าตอนที่พี่สามพูดประโยคนี้น่ารักเหลือเกิน คิดไม่ถึงว่าคนคลาสสิคัลอย่างพี่สามจะใช้อิโมจิน่ารักขนาดนี้
“จะหาภรรยาไม่ได้ยังไง เสี่ยวเฟิงของเราดีที่สุดแล้ว เธอดูเสี่ยวเฟิงสิ ทั้งสูงทั้งหล่อ ไม่แพ้ดาราชายเหล่านั้นเลย อย่างเสี่ยวเฟิงบ้านเราก็ควรมีแฟนคลับติดตามสักล้านคน”
ถึงแม้ครั้งที่แล้วคางเมิ่งกับเนี่ยเฟิงเพิ่งเจอกันก็มีความเข้าใจผิดเล็กน้อย ทำให้ไม่ค่อยสบายใจ คางเมิ่งยังวิ่งตามเขาแล้วตะโกนว่าจับคนลามก แต่คางเมิ่งก็ปกป้องเนี่ยเฟิงมากอยู่ดี
“เธออย่าไปปลูกฝังความคิดแบบนี้ให้เขาล่ะ เดี๋ยวเขาก็รู้สึกตัวว่าเองหล่อเยี่ยมเทพพระบุตรหรอก”
เย่หรูเสว่ส่งอิโมจิมองบนมา
“เสี่ยวเฟิงไม่ได้หล่อเยี่ยมเทพพระบุตรตรงไหน เธอดูเสี่ยวเฟิงสิ หน้าตาหล่อขนาดไหน เดินอยู่บนท้องถนนสาวมองเต็มไปหมดเลย”
โจวลี่ซือพิมอย่างรวดเร็ว ในเวลาสั้นๆก็ตอบมาสองข้อความแล้ว “ไม่เป็นไรนะเสี่ยวเฟิง ถึงนายจะหางานไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่แนะนำแอร์ของสายการบินพี่ให้ แอร์แต่ละคนของสายการบินพี่สวยๆทั้งนั้นเลย”
“ไม่ได้สิ แอร์ของสายการบินพี่ห้าเป้าหมายสูงแต่ความสามารถน้อยทั้งนั้น พวกเธอสนใจแต่คนรวยๆ เดี๋ยวรังแกเสี่ยวเฟิงขึ้นมาทำไง เสี่ยวเฟิงบ้านเราใจดีจะตาย อนาคตต้องเป็นผู้ถูกภรรยาคุมเข้มแน่เลย”
คางเมิ่งบ่นอย่างเบาๆ
“ถ้าผมหาภรรยาไม่ได้จริงๆ งั้นผมก็โสดตลอดชีวิตละสิ”
เนี่ยเฟิงส่งข้อความนี้ออกไปอย่างน่าสงสาร พอพี่ๆเห็นก็รีบต่างคนต่างปลอบใจเขากันใหญ่
“โทษพี่สามแหละ พูดอะไรมั่วๆ เธอดูเธอทำเสี่ยวเฟิงตกใจขนาดไหน จะเป็นไปได้ไงที่เสี่ยวเฟิงจะหาแฟนไม่ได้ เธออย่าพูดมั่วล่ะ”
“นั้นนะสิ พี่สามนิสัยไม่ดี เมื่อก่อนตอนกลางคืนก่อนนอนก็เล่าเรื่องผีหลอกพวกเรา ทำเสี่ยวเฟิงไม่กล้านอน แล้วมาที่เตียงฉันแย่งผ้าห่มฉันบ่อยๆ”
เห็นพี่แต่ละคนต่างปกป้องเขามากขนาดนี้ เนี่ยเฟิงรู้สึกในใจอุ่นเหลือเกิน อยู่ๆเขาก็คิดบางอย่างได้ จึงส่งข้อความไปว่า
“เมื่อก่อนตอนเล่นพ่อแม่ลูก พี่ๆทุกคนบอกว่าจะแต่งงานกับผม ถ้าผมหาคู่ไม่ได้จริง งั้น…..”
คางเมิ่งที่อยู่หน้าโทรศัพท์พอเห็นข้อความนี้แล้วหน้าแดงเป็นมะเขือเทศทันที เธอกะพริบตา รู้สึกว่าตัวร้อนไปหมดทั้งตัว เจ้านี่พูดอะไรมั่วซั่วเนี่ย
“เสี่ยวเมิ่ง ทำไมคุณถึงหน้าแดงขนาดนี้”
เวลานี้คางเมิ่งกำลังเตรียมตัวถ่ายรูปที่บริษัท ช่างแต่งหน้าเพิ่งแต่งหน้าของเธอเสร็จ แต่ใบหน้าของเธอตอนนี้ทั้งแดงตั้งร้อน
“ตายละ แพ้รองพื้นตัวนี้หรือเปล่า ฉันจะรีบเช็ดออกเดี๋ยวนี้นะ”
ช่างแต่งหน้าพูดพร้อมกับรีบหยีบน้ำยาล้างเครื่องสำอางมา คางเมิ่งจึงรีบโบกมือปฏิเสธ
“ไม่มีไรๆ แค่รู้สึกร้อนหน่อยๆ พวกเธอเปิดแอร์ให้หน่อยสิ ตอนนี้ฉันร้อนจนหน้าแดงหมด”
คางเมิ่งใช้มือพัดให้ตัวเองเหมือนปกปิด ช่างแต่งหน้ารู้สึกแปลกใจ ทั้งๆที่อากาศวันนี้เย็นดีนะ