พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 300 โรงบ่มไวน์ที่ทำให้คนตะลึงตกใจ
ฝานหลินคนคนนี้แม้ว่าเป็นคนรวยรุ่นที่ 2 แต่เขาเหมือนดั่งบุคคลที่รวยชั่วข้ามคืนมากมาย ไม่ได้พบเห็นรู้จักมากเท่าไหร่
ก่อนหน้านั้นเขาล้วนใช้เงินมาคบคนอื่นเป็นเพื่อน ยังไงขอเพียงแค่มีเงินนั่นก็พอแล้ว
ดังนั้นฝานหลินตอนนี้เห็นโรงบ่มไวน์นี้ตกกะใจในทันที เพราะว่าโรงบ่มไวน์แห่งนี้กับโรงบ่มไวน์ที่จิ๊บจ๊อยมากมายที่ฝานหลินเคยเห็นมาก่อนล้วนไม่เหมือนกันเลย
โรงบ่มไวน์แห่งนี้ใหญ่มาก พื้นที่ก็กว้างขวางมาก ข้างในก็เหมือนดั่งเขาวงกต การตกแต่งก็เป็นลักษณะโบราณ
ชิวมู่เฉิงตนเคยเป็นผู้ที่มีสิทธิ์ครอบครองของตระกูลชิว สิ่งที่ต้องเรียนรู้มากมาย
ดังนั้นชิวมู่เฉิงมีประสบการณ์และความรู้ที่กว้างขวาง เพียงแค่ชิวมู่เฉิงก็เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นโรงบ่มไวน์ที่โออ่าหรูหราขนาดนั้นเช่นกัน
สำหรับโรงบ่มไวน์ที่อยู่นอกเมืองแห่งนี้ ชิวมู่เฉิงเคยได้ยินมาก่อน เพียงแค่ไม่เคยมาโดยตลอด ถึงยังไงนี่ก็เป็นโรงบ่มไวน์ส่วนตัว เธอไม่ได้รับการเชิญใดๆ จะไปที่นั่นทำอะไรเหรอ?
ชิวมู่เฉิงก็ไม่รู้ว่าเนี่ยเฟิงเอาฝีมือมาจากไหน ถึงขนาดสามารถทำให้คนเปิดประตูของโรงบ่มไวน์นี้ได้
ประตูใหญ่ของโรงบ่มไวน์เปิดออก ข้างในนี้เหมือนดั่งไร่ใหญ่ เนี่ยเฟิงพาพวกเขาผ่านทางเดินยาวมาถึงห้องรับแขก
ห้องรับแขกนี้ล้วนมีหนึ่งร้อยกว่าตารางวาแล้ว เพราะว่าเพียงแค่วางตู้กับโซฟาบ้าง ดังนั้นดูแล้วกลวงว่างใหญ่มาก
“นั่งตามสบายเถอะ” เนี่ยเฟิงพูดอยู่ นั่งอยู่บนโซฟาอย่างไม่เกรงใจสักนิด ลักษณะเหมือนดั่งแบบที่นี่ก็คืออุตสาหกรรมการผลิตของผม
ฝานหลินเบ้ปากแล้วเบ้ปากอีก ถึงแม้ว่าเขารู้สึกตื่นตะลึงมากกับพื้นที่ของโรงบ่มไวน์แห่งนี้ เพียงแต่เขารู้สึกว่าที่นี่จะไม่ใช่อุตสาหกรรมการผลิตของเนี่ยเฟิง ฝานหลินยิ่งรู้สึกว่านี่คือเนี่ยเฟิงผักชีโรยหน้าเท่านั้น
เดิมทีชิวมู่เฉิงยังคิดว่าเนี่ยเฟิงจะพลิกคว่ำแล้ว ใครจะรู้ว่าเนี่ยเฟิงยังหาสถานที่อย่างนี้ได้จริงๆ เก่งมากๆจริงๆ
“มู่เฉิง พวกเราขับรถมา คุณมีเหล้าอะไรที่อยากดื่มไหม?”
เนี่ยเฟิงยิ้มอยู่สอบถามมู่เฉิง ชิวมู่เฉิงส่ายหัวแล้วส่ายหัวอีก ในใจคิดอยู่ว่าเนี่ยเฟิงแม้ว่าหาคนยืมโรงบ่มไวน์นี้มาได้ แต่ว่าดื่มเหล้าของคนอื่นยังต้องจ่ายเงินล่ะ?
โรงบ่มไวน์แห่งนี้ใหญ่ขนาดนั้น เหล้าทิเบตข้างในย่อมมากมายเช่นกัน ปีไหนล้วนมีราคาของเหล้าเหล่านี้ล้วนไม่ถูก ชิวมู่เฉิงดื่มไม่ได้
“ดื่มได้ ทำไมจะดื่มไม่ได้เหรอ? ในเมื่อคุณพูดว่าที่นี่เป็นโรงบ่มไวน์ของคุณ งั้นก็พาพวกเราไปเดินชมดู ค่อยไปเลือกเหล้าขวดหนึ่งที่คู่ควรกับมู่เฉิง เป็นยังไงล่ะ?”
ฝานหลินหัวเราะเย็นชาอยู่ในใจ:คุณไม่ใช่แกล้งทำอยู่เหรอ? งั้นผมก็ทำให้คุณพอใจ ให้คุณหาที่ลงไม่ได้! ทำให้คุณลำบากใจ!
ชิวมู่เฉิงก็คือเป็นห่วงเรื่องนี้ ดังนั้นจึงปฏิเสธในการดื่ม “เหล้าก็ไม่ได้เป็นของดีอะไร ดื่มมากเกินไปร่างกายจะไม่สบายล่ะ”
“ไอ้ มู่เฉิง คำพูดนี้ของคุณก็พูดไม่ถูกแล้ว พวกเรารู้จักกัน เป็นเรื่องดีนะ เป็นเรื่องที่ดีใจขนาดนั้น ผมจะไม่ดื่มสักหน่อยได้ยังไงล่ะ? มากกว่านั้นอีกสักครู่แค่เรียกบริการคนขับรถก็ได้แล้วล่ะ?”
ในเมื่อเนี่ยเฟิงล้วนถามจะดื่มเหล้าหรือไม่ด้วยตนเองแล้ว งั้นฝานหลินก็เป็นไปไม่ได้ที่จะพลาดโอกาสทำให้เนี่ยเฟิงหดตัว! เขาก็คือจะทำให้เนี่ยเฟิงขายหน้า!
คุณนายใหญ่ชิวตอนนี้ยังส่งคนสืบโรงบ่มไวน์แห่งหนึ่งอยู่ ตอนนี้คุณนายใหญ่ชิวสืบเจ้าของของโรงบ่มไวน์ได้แล้ว
“เนี่ยเฟิง ฉันก็รู้ว่าพวกคนจนอย่างคุณเป็นไปไม่ได้ที่จะมีโรงบ่มไวน์ดูสิฉันหาเจอใครแล้ว! ฮึ! ฉันจะทำให้คุณหาที่ลงไม่ได้!”
คุณนายใหญ่ชิวหัวเราะเย็นชาอยู่ในใจ อีกทั้งโทรหาฝั่งตรงข้ามเลย
และในเวลานี้ เนี่ยเฟิงไม่ลังเลแม้แต่น้อยพูดว่า “ได้ล่ะ ผมก็มีความคิดแบบนี้เช่นกัน มู่เฉิงคุณมากับผมเถอะ ผมอยากจะพาพวกคุณไปดูเหล้าทิเบตที่อยู่ข้างในห้องเก็บไวน์มีมากมายที่ผมล้วนสะสมมา”
เนี่ยเฟิงพูดอยู่ ลุกขึ้นมาแล้ว เห็นลักษณะท่าทีล้วนถือว่าที่นี่เป็นของตัวเองไปหมดแล้ว
ฝานหลินแอบลืมตาขาวหนึ่งที ในใจคิดอยู่ว่าเนี่ยเฟิงไอ้คนนี้ช่างแสดงละครเก่งจริงๆนะ! ในเวลานี้มือถือของฝานหลินดังขึ้นมาแล้ว ข้างบนแสดงให้เห็นว่าเจ้าของโรงบ่มไวน์ที่แท้จริงตอนนี้รีบเร่งเข้าไปแล้ว
ได้รับข่าวนี้ฝานหลินดีใจเหลือเกินเขากลับอยากดูว่าอีกสักครู่เนี่ยเฟิงจะจัดการยังไง!
ไอ้หนุ่มนี้แสดงให้เห็นลักษณะท่าทีแบบคนมีเงินอยู่ต่อหน้าชิวมู่เฉิง ตามความจริงไม่มีเงินสักนิดเลย! ถึงแม้ว่าขนาดโรงบ่มไวน์ล้วนยังปลอม! รถน่าจะปลอมเช่นกัน! อารมณ์ฝานหลินดีมาก เดินอย่างเชิดหน้าชูคอ!
เนี่ยเฟิงเดินอยู่ข้างหน้าชมดูโรงบ่มไวน์ของเขาทั้งหมดมีห้องเก็บไวน์หกที่ เหล้าที่เก็บไว้ข้างในมากมายมหาศาล อีกทั้งล้วนไม่ใช่คุณภาพแบบทั่วไป
ตามความจริงโรงบ่มไวน์อย่างนี้ ทั่วโลกล้วนมี เนี่ยเฟิงเพียงคิดว่าเวลาอยากดื่มเหล้าไม่อยากให้ตนเองแม้แต่สถานที่พักพิงแห่งหนึ่งล้วนไม่มี
“อีกสักครู่อาจจะหนาวนิดหนึ่ง เพราะว่าการเก็บเหล้าทิเบต ดังนั้นอุณหภูมิในห้องเก็บไวน์จะต่ำกว่านอกห้อง มู่เฉิง ถ้าหากว่าคุณรู้สึกหนาวสามารถบอกกับผมได้”
เนี่ยเฟิงพูดอย่างเอาอกเอาใจมากแบบนี้กับชิวมู่เฉิง
ชิวมู่เฉิงส่ายหัวต่อๆกัน “ไม่เป็นไร ไปเถอะ”
ธนูล้วนอยู่บนคันธนูแล้วจำเป็นต้องปล่อยแล้ว ในเวลานี้ชิวมู่เฉิงบอกว่าอยากจะถอย ฝานหลินย่อมไม่ยินยอมอย่างแน่นอน ชิวมู่เฉิงจะไม่รู้ได้ยังไง ไอ้คนทั้งสองนี้สู้กันแล้ว
เพียงได้แต่เดินก้าวหนึ่งดูอีกก้าวหนึ่งแล้ว
หลังจากชิวมู่เฉิงเดินเข้าไป ก็ถูกภาพที่อยู่ข้างหน้าสั่นสะเทือนแล้ว เธอก็ถือว่าเป็นคนที่มีประสบการณ์และความรู้ที่กว้างขวาง แต่ว่าเหล้าทิเบตที่อยู่ในนี้ราคาไม่ธรรมดา!
อีกทั้งตู้วางเหล้าแดงล้วนทำขึ้นมาจากไม้จันทน์ระดับสูง ส่งกลิ่นพิเศษเฉพาะตัวอย่างหนึ่ง
ฝานหลินก็ตกกะใจเช่นกัน ที่นี่เยี่ยมมากจริงๆ ทำให้คนมองจนย้ายสายตาออกไม่ได้
ฝานหลินเลียริมฝีปากแห้งเลียแล้วเลียอีก ในใจคิดอยู่ว่าเขาต้องรู้จักกับเถ้าแก่ของโรงบ่มไวน์ที่นี่สักหน่อยจึงจะได้
“ที่นี่เพียงแค่หนึ่งในห้องเก็บไวน์ทั้งหกนั้น แต่ว่าเหล้าที่นี่เป็นสิ่งที่ผมชอบที่สุด มู่เฉิง คุณดูสิว่าคุณมีสิ่งที่ชอบไหม”
เหล้าไม่ได้ติดราคา แต่เหล้าเหมือนดั่งRomani Contiอยู่ที่นี่ก็แค่ระดับต่ำที่สุดเท่านั้น
มีมากมายล้วนมีอายุมากแล้ว โดยพื้นฐานออกมาจากมือของผู้เชี่ยวชาญ เป็นการสะสมโดยส่วนตัว
เหมือนดั่งเหล้าที่อยู่ที่นี่ หยิบออกมาสะเปะสะปะขวดหนึ่ง ก็สามารถซื้อห้องชุดแห่งหนึ่งอยู่กลางเมืองที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในเมืองจินไห่ได้แล้ว แม้กระทั่งยังมีเงินเหลือ!
เดิมทีชิวมู่เฉิงคิดอยากจะหาข้ออ้างสักอย่างทำอย่างลวกๆไป เพียงแค่เห็นเหล้าเหล่านี้ ชิวมู่เฉิงล้วนไม่มีทางที่จะควบคุมตาของตนเองแล้ว
เศรษฐีแบบไหนที่จะสามารถได้ครอบครองห้องเก็บไวน์แบบนี้ล่ะ? นี่ทำให้คนตะลึงตกใจอย่างมากจริงๆเลย!
ฝานหลินสงบอารมณ์ของตนเองสักหน่อย ถึงแม้ว่าเห็นเหล้ามากมายขนาดนั้นทำให้เขารู้สึกจิตใจกระเพื่อมจริงๆ แต่ว่าฝานหลินยังต้องทำให้เนี่ยเฟิงหาที่ลงไม่ได้!
“ผมก็มีความรู้เล็กน้อยกับเหล้า ไม่งั้นให้ผมมาเลือกเถอะ?”
แท้ที่จริงฝานหลินก็ไม่รู้จักเหล้าเลยสักนิด เขาดื่มเหล้าก็เหมือนดั่งวัวดื่มน้ำ สั่งเหล้าแดงที่ราคาแพงคู่กับเนื้อสเต๊กก็เพียงแค่แกล้งทำท่าทำทางเท่านั้น
สาเหตุที่ฝานหลินพูดอย่างนี้ ก็เพื่อที่จะหาเจอเหล้าที่แพงที่สุด ทำให้เนี่ยเฟิงหาที่ลงไม่ได้!
ฝานหลินเดินไปหนึ่งรอบ มองเห็นขวดเหล้าแดงเหล้านี้ เขาก็ไม่รู้ว่าจะเลือกแบบไหน ตอนนี้ก็ไม่สามารถหยิบมือถือขึ้นมาเทียบดูสักหน่อย ฝานหลินได้เพียงแค่ฝืนใจชี้แล้วชี้อีก
“อันนี้เป็นยังไงล่ะ? อันนี้ดูแล้วไม่เลวนะ!”
เนี่ยเฟิงยักคิ้วหนึ่งที “ฝานหลิน คุณจะรู้สึกได้ยังไงว่าเหล้าขวดนี้ไม่เลวล่ะ?”
ดูเหมือนก็เหมือนแพงมากล่ะ! แต่ว่าฝานหลินพูดออกมาไม่ได้ เขาเงยหน้าแล้วเงยหน้าอีก มั่นคงยืนหยัดเหลือเกินพูดว่า “อันนี้ก็ดีมากล่ะ! ยังไงเหรอ? คุณลังเลแล้วเหรอ? ไม่ใช่บอกว่าจะเชิญพวกเราดื่มเหล้าเหรอ? ตอนนี้ยังตัดใจทิ้งไม่ลงแล้วเหรอ?”
เนี่ยเหล่าสี่อดไม่ไหวที่จะยิ้มแล้วยิ้มอีก เมื่อกี้เขาก็ติดตามอยู่ข้างหลังของหลายคนแล้ว