พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 302 อานุภาพของหนึ่งสายโทรศัพท์
ดังคำกล่าวที่ว่าลูกสานต่อกิจการของพ่อ เขาพูดอย่างมีเหตุผลมีหลักฐานจริงสุดๆ นี่เป็นโรงบ่มไวน์ของพ่อเขา วันหลังก็เป็นของเขาจริงๆ
แต่ว่าโรงบ่มไวน์นี้จริงๆแท้ๆเป็นอุตสาหกรรมการผลิตของเนี่ยเฟิง แม้แต่ชื่อก็เป็นเนี่ยเฟิงตั้งเอง มิฉะนั้นจะเรียกว่าเป็นโรงบ่มไวน์เหลียงเฟิงได้ยังไงล่ะ?
“กล่าวโดยสรุปว่าพวกคุณไม่ได้ผ่านการเห็นด้วยจากผม เปิดไวน์ในโรงบ่มไวน์ของผม งั้นก็ถือว่าเป็นขโมย! ถึงแม้ว่าตอนนี้คุณจะให้เงินผมแล้ว ผมก็ไม่ยินยอมที่จะรับเช่นกัน เรื่องนี้ก็ให้ตำรวจมาจัดการเถอะ!”
เจี่ยงจื้อเหิง ฮึ เย็นชาเสียงหนึ่ง ในเวลานี้ชิวมู่เฉิงมีความสับสนวุ่นวายเล็กน้อยแล้ว เพราะว่าเธอไม่อยากให้เนี่ยเฟิงมีคดีติดตัว
“คุณเจี่ยง เรื่องนี้ก็ไม่มีทางหนีที่ไล่แล้วหรือ?” ชิวมู่เฉิงก็เข้าใจว่าเนี่ยเฟิงหวังดีกับเธอ ดังนั้นจึงตั้งใจทำอย่างนี้ เพียงแค่จุดเริ่มต้นดี แต่ว่ากระบวนการไม่สวยงามเลย
“มู่เฉิง เขาล้วนเป็นอย่างนี้แล้ว คุณถึงขนาดยังคิดว่าจะช่วยเขาอยู่หรือ? เหมือนคนแบบนี้โกหกไปทั่ว ถึงแม้ว่าวันหลังคุณดีต่อเขายังไง เขาล้วนจะไม่ขอบคุณในบุญคุณล่ะ คุณจะเฝ้าคนอย่างนี้ทั้งชีวิตเชียวหรือ? ทั้งๆที่คุณยังมีทางเลือกที่มากกว่านี้อีก!”
ฝานหลินไม่สามารถหลอมเหล็กให้กลายเป็นเหล็กกล้าได้เลยสักนิด เขาล้วนเปิดโปงเนี่ยเฟิงแล้ว ใครจะรู้ว่าชิวมู่เฉิงถึงขนาดยังยืนอยู่ข้างเนี่ยเฟิง ก็ไม่รู้ว่าผู้หญิงที่คบรักกับใครตกลงว่าคิดอะไรกันแน่!
“ก็ใช่สิ ไอ้คนนี้วันนี้กล้าหลอกลวงคุณ งั้นพรุ่งนี้ก็กล้าไปรื้อกระเบื้องหลังคา ผู้ชายเหมือนผมอย่างนี้มีไม่เยอะแล้ว! ถ้าไม่คุณอยู่กับผมเถอะ เลิกกันกับผู้ชายคนนี้อยู่ด้วยกันกับผม งั้นผมก็จะสามารถทำให้เรื่องนี้เป็นโมฆะไป!”
เจี่ยงจื้อเหิงอยากได้ชิวมู่เฉิงจนน้ำลายไหลอยู่แล้ว ผู้หญิงที่หน้าตาสวยอย่างชิวมู่เฉิงนี้ ไม่ว่าใครเห็นแล้วล้วนจะรู้สึกใจหวั่นไหว เจี่ยงจื้อเหิงก็ถือได้ว่าพบเห็นรู้จักผู้หญิงที่หน้าตาสวยดั่งดอกไม้มากมายมาก่อน แต่ไม่มีสักคนสวยดั่งชิวมู่เฉิงที่อยู่ต่อหน้ามาก่อน! ในเวลานี้เนี่ยเฟิงลุกขึ้นมาแล้วเดินไปยังข้างหน้าชิวมู่เฉิง “ผู้หญิงของผมคุณยังกล้าอยากจะได้หรือ?”
“เหอะ! ไอ้หนุ่ม คุณแยกความสูงส่งต่ำต้อยไม่ออกแล้วใช่หรือไม่? ไอ้คนแบบคุณนี้ ที่เพียงแต่หลอกลวงคนอื่นเป็น คุณมีความสามารถอะไรพูดเรื่องเหล่านี้กับผมล่ะ? พาแฟนสาวมาดื่มไวน์ ถึงขนาดยังคงขโมยไวน์ของคนอื่น!”
“คุณรู้สึกว่าโรงบ่มไวน์นี้เป็นของคุณ เพราะว่าโรงบ่มไวน์นี้เป็นบิดาของคุณที่ดูแลอยู่ แต่ว่าคุณไม่เคยคิดมาก่อนว่าบิดาที่เลื่องชื่อลือนามว่าเป็นผู้มีอิทธิพลทางไวน์ของคุณ เป็นไปได้ว่าอาจเป็นคนงานของผม”
ทันทีที่เนี่ยเฟิงพูดคำพูดนี้ออกมา ทำให้ฝานหลินกับเจี่ยงจื้อเหิงทั้งสองคนหัวเราะเสียงดัง ฮ่าฮ่า ออกมา “โอ้พระเจ้า บนโลกนี้ยังมีคนที่หน้าด้านไร้ยางอายแบบนี้อยู่จริงๆ คุณพูดอะไรอยู่หรือ? บิดาของผมจะเป็นคนงานของคุณได้ยังไงล่ะ!”
“ไอ้โย มู่เฉิง แฟนของคุณนี้พูดโกหกจนยิ่งพูดยิ่งเหลวไหลแล้วนะ อยู่ในบนโลกนี้ถึงขนาดยังมีคนแบบนี้อยู่ ผมก็ถือว่าเปิดหูเปิดตาแล้ว!”
ชิวมู่เฉิงขมวดคิ้วดึงชายเสื้อของเนี่ยเฟิงดึงแล้วดึงอีก “เสี่ยวเฟิง……”
“ไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะพูดอย่างนี้ ผมย่อมมีความมั่นใจ”
เนี่ยเฟิงจ้องมองไปยังเจี่ยงจื้อเหิงอย่างเย็นชา “คุณเชื่อหรือไม่ ผมเพียงแค่โทรไปสายเดียว ก็สามารถทำให้คุณยืนอยู่ข้างๆประจบประแจงอย่างไม่รู้สึกละอายdecantไวน์ให้กับพวกเรา”
เจี่ยงจื้อเหิงหัวเราะจนน้ำตาล้วนจะพุ่งออกมาแล้ว เนี่ยเฟิงจะมาหยอกเล่นให้เขามีความสุขจริงๆ เลย!
“ได้สิ ไอ้หนุ่มงั้นคุณก็โทรสิ! ถ้าสายนี้สามารถเรียกมาได้ อย่าพูดเลยว่าจะให้ผมประจบประแจงอย่างไม่รู้สึกละอายdecantไวน์ให้กับพวกคุณ ถึงแม้ว่าคุกเข่าอยู่ที่นั่นdecantไวน์ให้พวกคุณ ผมล้วนไม่มีคำตัดพ้อใดๆ!”
เจี่ยงจื้อเหิงไม่เชื่อว่าจะมีใครสามารถสั่งการที่เขาได้นะ!
คนอื่นรับรู้ว่าเขาเป็นลูกชายของผู้มีอิทธิพลทางไวน์ จะประจบยังไม่ทันล่ะ จะมีคนกล้ามาสั่งการที่เขาได้ยังไงหรือ? คนที่จะมาสั่งการที่เขาล้วนไม่อยากมีชีวิตแล้วล่ะ?
“นี่คุณพูดเองนะ อีกสักครู่อย่าร้องไห้ขี้มูกโป่งเสียใจในภายหลังล่ะ”
“คุณสั่งผมได้จึงน่าแปลกใจล่ะ ถ้าหากว่าการโทรสายนั้นของคุณไม่สามารถทำให้ผมสมัครใจdecantไวน์ให้กับพวกคุณ งั้นคุณก็จำเป็นต้องเลิกกันกับแฟนสาวของคุณคนนี้ อีกทั้งแฟนสาวของคุณยังต้องกลายเป็นผู้หญิงของผม!”
เจี่ยงจื้อเหิงหัวเราะ ฮ่าฮ่า เสียงดังออกมา
ส่วนเนี่ยเฟิงหัวเราะเย็นชาเสียงหนึ่ง จากนั้นกดสายออก โทรศัพท์ฝั่งโน้นไม่นานก็รับสายแล้ว “อุตสาหกรรมการผลิตของผมกลายเป็นของคุณตั้งแต่เมื่อไหร่แล้ว คุณรู้หรือไม่ว่าลูกชายของคุณตอนนี้คุยโวโอ้อวดอยู่ต่อหน้าผมอยู่ล่ะ? เขายังอยากจะได้ผู้หญิงของผม ผมให้เวลาคุณเล็กน้อย ให้ลูกชายของคุณปรนนิบัติพวกเราก่อน ให้เขาdecantไวน์ คุณค่อยเข้ามารับผิดขอประทานโทษอีกเถอะ”
เนี่ยเฟิงยังไม่รอฝั่งตรงข้ามเอ่ยปากก็วางสายแล้ว การกระทำแบบนี้ของเขาทำให้เจี่ยงจื้อเหิงกับฝานหลินทั้งสองคนหัวเราะเยาะอย่างไร้น้ำใจออกมา
“นี่ช่างน่าขำเหลือเกินจริงๆนะ นี่เป็นเรื่องที่น่าขำที่สุดที่ผมพบเจอในปีนี้ ก็ไม่รู้ว่าคุณกินดีหมีหัวใจเสือแล้วใช่หรือไม่ ถึงขนาดกล้าพูดอย่างนี้อยู่ต่อหน้าผม คุณโทรหาใครล่ะ! โทรหา10086แล้วใช่หรือไม่? นี่แกล้งทำเหมือนจริงๆนะ?!”
เจี่ยงจื้อเหิงยังไม่ได้หัวเราะออกมาล่ะ มือถือของเขาก็ดังขึ้นแล้ว เจี่ยงจื้อเหิงมีความสงสัยงงงวยเล็กน้อยครุ่นคิดอยู่ว่าเนี่ยเฟิงเล่นละครโกหกลอกหลวงผู้คนอยู่ใช่หรือไม่ ดังนั้นเขาหยิบมือถือออกมา ถึงขนาดเป็นบิดาของตนเองโทรมา
เจี่ยงจื้อเหิงเหลือบมองเนี่ยเฟิงหนึ่งทีอย่างโหดร้าย จากนั้นก็รับสายเลย แต่ยังไม่ได้รอให้เจี่ยงจื้อเหิงเอ่ยปากล่ะ ฝั่งตรงข้ามก็ใส่หัวและใส่หน้าโครมๆด่าว่า “แม่มึงเอ่ย แกอยู่โรงบ่มไวน์หรือ? !ผมไม่ใช่เคยบอกกับแกแล้วหรือ? ไม่มีอะไรอย่าไปที่นั่น! แกล้วนใกล้จะทำให้ผมเกือบตายแล้ว รีบdecantไวน์ให้กับคุณผู้ชายคนนั้นเดี๋ยวนี้! รอผมเข้าไป!”
“พ่อ! นี่ท่านหมายความว่าอะไรหรือ?”
“อย่าพูดจาไร้สาระ ทำตามสิ่งที่ผมบอก ถ้าแกทำให้ผมตกกระไดพลอยโจนแล้ว ผมจะฆ่าแกตายด้วยมือของตนเองโดยตรง!”
ไม่นานบิดาของเจี่ยงจื้อเหิงก็วางสายแล้ว เจี่ยงจื้อเหิงยังมึนงงไปหมด เขาเงยหน้าจ้องมองเนี่ยเฟิงหนึ่งที กลืนน้ำลายอย่างลำบากหนึ่งที ไอ้คนนี้ตกลงเป็นอะไรกันแน่ ถึงขนาดเรียกบิดาของตัวผมเองมาได้ล่ะ?
แต่ไม่ว่าดูยังไงก็ยังเป็นวัยรุ่นคนหนึ่งล่ะ!
“ความอดทนของผมมีขีดจำกัดนะ คุณอย่ามากวนประสาทผมดีที่สุด”
เนี่ยเฟิงเย็นชาจ้องมองเจี่ยงจื้อเหิงหนึ่งที เจี่ยงจื้อเหิงนึกถึงการตักเตือนของบิดาในโทรศัพท์ขึ้นมา ในใจเขามีความหงุดหงิดใจเล็กน้อย แต่ในตอนนี้โทรไปแล้ว มือถือของบิดาเจี่ยงจื้อเหิงกลับโทรไม่ติดเลย
เจี่ยงจื้อเหิงเลียริมฝีปากที่แห้งๆเลียแล้วเลียอีก ในใจใคร่ครวญคิดการวางแผนอยู่ว่าคงยังทำตามที่บิดาของตนเองพูดไว้ มิฉะนั้นบิดาของเขาเป็นไปได้ที่อาจจะตีขาของเขาขาดจริงๆ!
เจี่ยงจื้อเหิงหดหู่ อึดอัดเป็นทุกข์เต็มใบหน้าเดินไปยังข้างคนงาน หยิบDecanterมา กำลังคิดจะdecantไวน์ แต่ในเวลานี้เนี่ยเฟิงกลับชี้ที่พื้นชี้แล้วชี้อีก “เมื่อกี้คุณไม่ใช่บอกว่าจะคุกเข่าdecant ไวน์หรือ?”
“คุณ! คุณอย่ารังแกคนจนเกินไป!”
“คำพูดที่ตนเองพูดออกมา ตนเองก็ต้องปฏิบัติ ที่นี่ผมรังแกคนอย่างนี้เกินไปแล้วหรือ? ทั้งๆก็เป็นสิ่งที่คุณพูด จะคุกเข่าdecantไวน์ ก็ไม่ใช่ผมบีบบังคับคุณล่ะ”
เนี่ยเฟิงยิ้มเย็นชาหนึ่งที เจี่ยงจื้อเหิงโมโหเหลือเกิน เขาอยากจะโยนDecanterที่อยู่ในมือลงกับพื้น!
ในเวลานี้ฝานหลินก็รู้สึกแปลกใจเช่นกัน ทั้งๆที่นี่ก็เป็นโรงบ่มไวน์ของเจี่ยงจื้อเหิง ทำไมเจี่ยงจื้อเหิงต้องพลิกกลับมาบริการเนี่ยเฟิงล่ะ?
สายเมื่อกี้นั้นโทรหาใครหรือ? ทำไมท่าทีของเจี่ยงจื้อเหิงเปลี่ยนไปทันที ตกลงว่านี่เป็นเรื่องอะไรกันแน่?
เจี่ยงจื้อเหิงกำกำปั้นอย่างแน่น “ผมไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร ผมก็ไม่รู้ว่าคุณใช้ฝีมือแบบไหนโทรหาพ่อผม แต่ว่าคุณอยากจะรังแกผมหรือ? ฮึ! ฝันไปเถอะ! พวกคุณหลายคนยังอึ้งอยู่ทำไม! ไม่เห็นว่าผมถูกรังแกอยู่หรือ! ต่อยเขาสิ!”