พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 33 การยับยั้งความคิดเห็นของประชาชน
บทที่ 33 การยับยั้งความคิดเห็นของประชาชน
ชิวมู่เฉิงถอนหายใจช้า ๆ “คนอื่นพูดอะไรก็คืออะไร พวกคุณหัดใช้สมองคิดเองไม่เป็นเหรอ? เรื่องพวกนี้มันสามารถใช้วิธีการทางกฎหมายได้ คนที่ติดหนี้พวกคุณไม่ใช่ฉัน เข้าใจหรือยัง?”
“พวกเราไม่เข้าใจ ยังไงก็เถอะใครจะมาทำการพัฒนาที่นี่ ก็ต้องจ่ายเงินให้พวกเรา ไม่จ่ายให้ก็ไม่ให้ทำการพัฒนา !”
อีกฝ่ายยังคงไม่ยอม พอเนี่ยเฟิงเห็นแบบนี้ ก็มีประโยคหนึ่งผ่านเข้ามาในหัว นั่นก็คือถิ่นทุรกันดารจะทำให้มีผู้ที่ลำบาก
คนที่อยู่ในตึกนี้มีคนหลากหลายประเภท พวกเขาได้รับค่าชดเชยเท่าไหร่ พวกเนี่ยเฟิงจะไปรู้ได้ไง?
จะว่ายังไงก็ขายต่อให้3เจ้าของโครงการแล้ว เจ้าแรกที่รับซื้อที่ดินนี้ก็ไม่ใช่พวกเขา
“ดูเหมือนพวกแกคิดว่าพี่ใหญ่ของผมเป็นผู้หญิง จะรังแกยังไงก็ได้งั้นเหรอ?”
เนี่ยเฟิงกำหมัด เสียงกระดูกดังกรอบแกรบ
ความอาฆาตแค้นที่อยู่ในตาของเนี่ยเฟิง สร้างความหวาดกลัวให้กับคนนำที่อยู่แถวหน้าจนถอยออกไปหลายก้าว พวกเขาเห็นเนี่ยเฟิงเหมือนกับเสือดาว โดยทั่วไปแล้วจะรู้สึกกลัว
“ไม่ว่ายังไง จ่ายเงินให้พวกเราแล้วก็จะไปเอง อย่างไรก็ตามพวกเจ้าของโครงการอย่างพวกแกไม่มีจิตสำนึกกันทั้งนั้น คิดแต่จะขูดเลือดขูดเนื้อประชาชนอย่างพวกเรา ! ไม่จ่ายเงินก็ได้ ถึงเวลาร้านค้าและบ้านที่พัฒนาแล้วก็ต้องยกให้พวกเรา !”
“ใครเป็นคนให้ความกล้ากับพวกแก ?เหลียงจิ้งหรูเหรอ?ยังจะเอาร้านค้ากับบ้านของพวกเรา พวกแกฝันไปเถอะ พวกแกซื้อขายที่ดินนี้กับใคร ใครจ่ายเงินให้พวกแกพวกแกก็ไปคุยกับคนนั้นซะ !”
เนี่ยเฟิงรู้ว่าถ้าจะจัดการกับคนพวกนี้ก็ต้องใช้วิธีนี้แหละ ไม่งั้นพวกเขาไม่ยอมแน่
“ไม่ ถ้าพวกแกไม่จ่ายเงินให้พวกเรา วันนี้ก็อย่าคิดว่าจะออกจากที่นี่ได้ !”
ในขณะที่ทุกคนไม่ยอมกัน จู่ๆหญิงชราคนหนึ่งก็ล้มลงกับพื้น จับขาเนี่ยเฟิงไว้ ร้องร่ำไห้ว่า :”โอ้วพระเจ้า คนพวกนี้ไม่จ่ายเงินก็ช่าง ยังจะตีอีก ตีฉันให้ตายเลย ! ฉันจะตายแล้ว !”
ชายชราและหญิงชราหลายคนเห็น ก็ส่งซิกให้กัน จึงล้มลงพื้นแล้วกลิ้งไปกลิ้งมา ฝุ่นเต็มไปหมด เพราะว่าที่นี่เคยทำการรื้อถอนมาก่อน ก็เลยพังเละเทะไปหมด
ชิวมู่เฉิงรู้สึกปวดหัวมากทันที เธอนวดขมับตัวเอง อย่างที่ว่าตอนนั้นที่ไปคุยเรื่องการร่วมมือทางธุรกิจเธอก็เคยเจอคนขี้โกง แต่ว่าคนเหล่านั้นไม่ได้ไม่มีเหตุผลแล้วกลิ้งไปกลิ้งมาแบบนี้
เนี่ยเฟิงก็รู้สึกตะลึงมาก คนพวกนี้ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องเหรอ? พวกเขาไม่มีทางจ่ายเงินหรอก เพราะว่าพวกเขาจ่ายเงินนี้ไปแล้ว ถ้าจ่ายอีกรอบ งั้นก็เท่ากับว่ากำไรของตัวเองน้อยลงสองเท่าไม่ใช่เหรอ?
อีกอย่างนะ ความผิดพลาดที่คนก่อนหน้านี้เป็นคนสร้างมันเกี่ยวอะไรกับพวกเขาล่ะ?ทำไมพวกเขาถึงต้องตามเก็บกวาดแทนคนพวกนั้นด้วยล่ะ ?
แต่นึกไม่ถึงเลยว่าคนพวกนี้จะหาจังหวะมาทำแบบนี้ได้
เดิมทีเวลานี้เป็นชั่วโมงเร่งด่วนพอดี เด็กนักเรียนรวมถึงมนุษย์เงินเดือนจะต้องผ่านทางนี้ พวกเขามองไกลๆก็เห็นกลุ่มคนมารวมตัวกัน และยังมีคนชราหลายคนนอนกลิ้งไปกลิ้งมา ทุกคนหยุดกันหมดด้วยความอยากรู้อยากเห็น
พวกเขาตะโกนร้องอยู่ตรงนั้น ทุกคนต่างก็พูดคุยกัน
ถึงขนาดมีคนหยิบมือถือออกมาถ่ายวิดีโอ ชิวมู่เฉิงขมวดคิ้ว แม้ว่าเธอจะไม่เป็นที่รู้จักในเมืองตงไห่
แต่ว่าในสังคมชั้นสูงมีคนที่รู้จักเธอไม่น้อย
เรื่องครั้งก่อนที่ถอนหมั้นฝ่ายเดียวมันทำให้เธอเด่นมากพอแล้ว ตอนนี้เธอยังต้องหาผู้สนับสนุน ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรอีก ก็คงจะยากแล้ว
เนี่ยเฟิงก็เห็นชัดแล้วว่าคนเหล่านี้คิดอะไรอยู่ ก็รู้สึกโกรธมาก เขาไม่เคยเห็นพวกขี้โกงขนาดนี้มาก่อน
ทุกคนเห็นว่าคนยิ่งอยู่ยิ่งเยอะ ก็เลยทำอย่างไม่เกรงกลัวใครมากขึ้น และคนนำที่เป็นวัยรุ่นพวกนั้น บรรยายว่าพวกเขาเป็นร้านค้าที่ไม่ดี
ทุกคนไม่รู้เรื่อง ก็ถูกปั่นหัวให้โกรธเคือง ก็เลยเข้าไปร่วมการประณามด้วย พวกเนี่ยเฟิงอยากหนีไปก็หนีไม่ได้ เจอคนมากขนาดนี้เนี่ยเฟิงอยากจะสู้ แต่ว่าชิวมู่เฉิงกลับจับข้อมือของเขาแน่น
“ถึงเรื่องนี้จะไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเรา แต่ว่าในเมื่อพวกคุณได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม งั้นเมื่อถึงเวลาพวกเราจะพัฒนาอีกก็จะเจอกับปัญหามากมาย แบบนี้แล้วกัน ฉันจะไปคุยกับบริษัทก่อนหน้านั้นให้ พวกคุณคิดว่าไง?”
ได้ยินพี่ใหญ่ของตัวเองยอมอ่อนข้อให้ เนี่ยเฟิงโมโหมาก เจ้าพวกนี้มันน่ารังเกียจที่สุด มากันทั้งบ้าน ทั้งคนชราคนพิการมาหมด
ใช้จิตใจของผู้คนมาปกป้องคนอ่อนแอเพื่อเอาชนะ และชดใช้พฤติกรรมที่น่ารังเกียจของพวกเขา
ถ้าอยู่เมืองนอก เนี่ยเฟิงอาจจะกำจัดพวกเขาทั้งหมดแล้ว แต่ว่า ตอนนี้เขาทำอย่างนั้นไม่ได้
“ได้ แกพูดเองนะ ทุกคนเป็นพยาน พวกเราถ่ายไว้แล้ว ถ้าแกผิดสัญญา งั้นฉันจะทำให้ที่ดินผืนนั้นทำการพัฒนาไม่ได้อีก !”
เรื่องก็จบแค่นี้ หลังจากที่คนพวกนั้นออกไป ชิวมู่เฉิงถึงได้ไปดูรถของตัวเอง ก็รู้สึกปวดหัวจนต้องนวดขมับ
“พี่ใหญ่ พวกเราไม่จำเป็นต้องให้สัญญาแบบนั้นกับพวกเขาเลย ผมเข้าใจแล้ว ทำไมบริษัทของหวางต้าจาวถึงรีบโยนที่ดินนี้ออกไป ที่แท้ก็เจอกับกลุ่มคนพวกนี้นี่เอง ทำให้พวกเขาไม่สามารถทำการพัฒนาได้ ปัญหาที่บริษัทก่อนหน้านั้นทิ้งไว้ ทำไมพวกเราต้องไปจัดการด้วยล่ะ !”
เนี่ยเฟิงโมโหกับหลาย ๆ เรื่องมาก เจอเรื่องแย่ๆแบบนี้ แต่ว่าก็เซ็นสัญญาไปแล้ว เงินก็จ่ายไปแล้ว
“ไม่เป็นไรหรอก ตอนที่ที่ดินทุกแปลงทำการพัฒนาก็จะมีปัญหาอย่างนู้นอย่างนั้น ก็ต้องมีคนที่ไม่ยอมย้ายออก แต่ว่านายดูตึกนี้เห็นได้ชัดว่าสะอาดขนาดนั้น ไม่มีคนที่ไม่ยอมย้ายออก ก็หมายความว่าสัญญาที่พวกเขาคุยกันก่อนหน้านี้มันสมเหตุสมผล”
ชิวมู่เฉิงพูดไปแล้วเลื่อนสายตาจากรถไปยังที่ดินอันกว้างใหญ่นั้น
“ถึงจะเป็นอย่างนั้น พวกเราก็ไม่สามารถทำตามที่พวกเขาต้องการได้ ถ้าพวกเขาได้รับเงินก้อนนั้นแล้วจริงๆ แต่ว่าเพื่อที่จะสามารถได้รับเงินมากขึ้นเลยทำการขู่เจ้าของโครงการ ทำให้เจ้าของโครงการทั้งหลายไม่สามารถทำงานได้อย่างราบรื่นล่ะ?”
ไม่มีการยกเว้นความเป็นไปได้นี้
“เสี่ยวเฟิง นายพูดถูก พี่ว่าพวกเราจำเป็นต้องไปสืบที่ไปที่มาของเรื่องนี้ ไม่ว่ายังไงถ้าอยากทำการพัฒนาอย่างราบรื่นก็ต้องผ่านด่านนี้ไปให้ได้”
“พี่ใหญ่รถพี่พังขนาดนี้แล้ว พวกเราโทรหาตำรวจจราจรมาก่อนเถอะ แล้วค่อยโทรหาบริษัทประกันมา”
“จ้ะ พี่รู้แล้ว”
พวกเขารออยู่ที่เดิมสักพัก คนของบริษัทประกันยังไม่มา กองตำรวจจราจรมาซะก่อน ไม่คิดเลยว่าหนึ่งในนั้นจะมีคนที่คุ้นเคย ไม่ใช่ใครอื่นคือพี่หกของเขาเอง
“พี่หก พี่มาได้ไงเนี่ย? เสื้อที่พี่ใส่อยู่มันคืออะไรเนี่ย?
เนี่ยเฟิงตะลึงเล็กน้อย
เย่หรูเสว่มองชุดตำรวจจราจรที่สวมอยู่ แล้วยิ้มแห้ง”ไม่มีอะไรหรอก กองตำรวจอาชญากรรมเหนื่อยเกินไป เพราะฉะนั้นพี่เลยเปลี่ยนนะ เป็นตำรวจจราจรก็ดี !”
ความจริงไม่ใช่อย่างนั้น เย่หรูเสว่ถูกเจ้านายรังแก ผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการปรึกษากัน เลยตัดสินใจให้เย่หรูเสว่ย้ายมากองตำรวจจราจร