พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 337 แฟนคลับ
“เพราะฉะนั้น ถ้าฉันไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ก็ไม่เหมาะสมที่จะมาพูดเรื่องมารยาทกับพวกนายงั้นเหรอ?”
เนี่ยเฟิงมองดูเหลยจ้านที่คิดว่าตัวเองสูงส่ง แล้วรู้สึกขำมาก
“แน่นอนอยู่แล้ว นายไม่รู้หลักการที่ว่า‘ไม่ได้อยู่แวดวงเดียวกันก็ไม่ควรสะเออะเข้าร่วม’รึไง?นายอย่าพูดดีกว่า!”
เหลยจ้านไม่พอใจเนี่ยเฟิงมาก ประเด็นเป็นเพราะว่าเนี่ยเฟิงกับพวกเขาอายุพอๆกัน แต่แต่งตัวไม่เข้ากับพวกเขาเลย!
“ก็ได้”
เนี่ยเฟิงพูดจบ ก็ขึ้นไปหยิบสเกตบอร์ดมา“ฉันจะทำให้นายเห็นว่าฉันสามารถพูดกับนายได้”
“โอ้โห!ดูสิ!ไอ้เด็กเนิร์ดนี่ยากเล่นสเกตบอร์ดว่ะ?นี่ นายคิดว่าสเกตบอร์ดจะเล่นได้ง่ายๆอย่างงั้นเหรอ?”
คนอื่นๆก็คิดว่าเนี่ยเฟิงไม่เจียมตัวเช่นกัน
แต่เนี่ยเฟิงได้ก๊อบปี้ท่าสเกตบอร์ดของคนพวกนั้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ
อีกทั้งยังเพิ่มดีกรีท่าที่มีความยากขึ้นมาอีกด้วย
สิ่งนี้ทำให้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างพากันตกตะลึง!
“นะ นายเล่นไม่เป็นไม่ใช่เหรอ?”
ฝูยานหรงที่ได้เห็นทักษะฝีมือของเนี่ยเฟิงแล้ว คิดไม่ถึงว่าเนี่ยเฟิงจะเล่นสเกตบอร์ดได้เก่งถึงเพียงนี้!
แม้แต่การหายใจเนี่ยเฟิงยังเรียบนิ่ง ท่าแค่นี้ เนี่ยเฟิงมองปราดเดียวก็มองออกแล้ว
“ก็งั้นๆแหละ”
เนี่ยเฟิงหัวเราะ แล้วยื่นสเกตบอร์ดไปให้เหลยจ้าน“ยอมไหม?”
เหลยจ้านพบเข้ากับคู่ต่อสู้แล้ว เนี่ยเฟิงคนนี้สุดยอดจริงๆ ไม่รู้ว่าเป็นการตั้งใจแต่งเป็นหมูหลอกกินเสือรึเปล่า!
“แล้วยังไงล่ะ?เก่งแล้วงั้นหรือ!”
“ฉันก็ไม่ได้พูดว่าฉันเก่ง แต่เมื่อเทียบกับร่มร่อน โดดร่ม สเกตบอร์ดนี่ไม่ได้มีความยากอะไรเลย”
“ว้าว นายเล่นร่มร่อนกับโดดร่มเป็นด้วยเหรอ?”
ผู้หญิงหลายคนต่างส่งสายตาชื่นชมไปให้เนี่ยเฟิง
ฝูยานหรงเองก็มองเนี่ยเฟิงเปลี่ยนไป
ไอ้หมอนี่ มีกึ๋นจริงๆด้วยแฮะ!
“อย่าเย่อหยิ่งนักเลย!ความแข็งแกร่งของฉันไม่ได้มีแค่พวกนี้!ถ้าแน่จริงก็ดวลกับฉันได้เลย!”
เหลยจ้านพูดจบ ก็กวักมือให้เนี่ยเฟิง เนี่ยเฟิงมองฝูยานหรงแวบเดียว จากนั้นฝูยานหรงก็กระแอมไอหนึ่งครั้ง“ไปสิ!”
เนี่ยเฟิงจึงเดินตามหลังของเหลยจ้านไป เดินเข้าไปยังพื้นที่ของคลับ
พอเดินเข้ามา เนี่ยเฟิงก็เลิกคิ้วขึ้น“ทำได้ไม่เลวเลยแฮะ”
เหลยจ้านขึ้นไปบนสังเวียนแล้ว
พวกเขามีอุปกรณ์ออกกำลังกายทุกประเภท และมีสนามแข่งขัน “นายเคยชก มวยไทยไหม?”
เหลยจ้านเชิดปลายคางขึ้น หลังจากนั้นก็โยนนวมที่อยู่ในมือให้กับเนี่ยเฟิงไป
เนี่ยเฟิงพยักหน้า“รู้ เคยเห็นมาแล้วด้วย”
เนี่ยเฟิงอดไม่ได้ที่จะนึกถึงยอดฝีมือมวยไทยที่เขาเคยพบในต่างประเทศมาก่อน แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ให้กับเนี่ยเฟิงอยู่ดี
ฝ่ายตรงข้ามเก่งมาก แต่ศิลปะการต่อสู้ของเนี่ยเฟิงสูงกว่าเป็นโยชน์
“ชกเป็นไหม?”
เหลยจ้านมัดนวมของเขา กล้ามเนื้อที่เป็นหมัดๆของเขาแข็งแรงมาก ดูๆไปแล้วเป็นคนที่เคยฝึกฝนมาก่อนเหมือนกัน
“เป็นน่ะเป็นอยู่แล้ว แต่ที่ฉันเรียนมาไม่ใช่มวยไทยนะ นายจะประลองกับเหรอ?ฉันจะลองดูหน่อยก็ได้”
“ไม่จำเป็น!เราจะต่อสู้กันอย่างอิสระ!ใครลุกไม่ขึ้นคนนั้นแพ้!เป็นไง!”
เหลยจ้านเป็นนักสู้เช่นกัน อีกอย่าง เหลยจ้านยังชอบฝูยานหรงมาก แน่นอนว่าก็อยากทำให้ไอ้หมอนี่พ่ายแพ้ต่อหน้าฝูยานหรงเช่นกัน
เมื่อกี้พวกของเหลยจ้านถูกเนี่ยเฟิงหยามหน้ามาแล้วหนึ่งครั้ง
เหลยจ้านจะต้องลบล้างความอับอายครั้งนี้ให้ได้
“นายแน่ใจเหรอ?”
เนี่ยเฟิงก้มหน้ามองดูนวมที่อยู่ในมือแวบหนึ่ง แล้วเอ่ยถาม
“แน่นอนสิ!มาเลย!”
เนี่ยเฟิงยิ้มพลางสวมนวมเข้าไป เขาไม่ได้ถอดเสื้อ เหลยจ้านจึงคิดว่าเนี่ยเฟิงต้องเป็นผู้ชายที่รูปร่างผอมแห้งเป็นแน่ เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่กล้าให้เห็นรูปร่างของตัวเอง
เหลยจ้านมั่นใจในฝีมือมวยไทยของตัวเองมาก จึงไม่กลัวเนี่ยเฟิงแม้แต่น้อย!
หลังจากที่เนี่ยเฟิงขึ้นสังเวียนไปแล้ว ฝูยานหรงก็เกิดสนใจขึ้นมาเล็กน้อย เธอไม่รู้ว่าเหลยจ้านจะเป็นคู่ต่อสู้ของเนี่ยเฟิงได้รึเปล่า เหลยจ้านเก่งกว่าตัวเองจริงๆนั่นแหละ!
“เนี่ยเฟิง!นายจะมัวหลบซ้ายหลบขวาไม่ได้นะ!ต้องต่อสู้อย่างตรงไปตรงมา!”
ฝูยานหรงหลีกเลี่ยงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ แล้วจึงตะโกนโห่ร้องอยู่ด้านล่าง
เหลยจ้านที่ได้ยินฝูยานหรงพูดแบบนั้น เขายิ่งมั่นใจว่าเนี่ยเฟิงไม่มีความสามารถนั้น และเป็นคนที่ไม่เก่งอะไรเลย
“มาเถอะ!ฉันไม่ออมมือให้นายแน่!”
เหลยจ้านพูดจบ ก็รุดออกหมัดก่อน!
แต่เหลยจ้านยังไม่ได้แตะชายเสื้อของเนี่ยเฟิง ก็ถูกเนี่ยเฟิงวาดหมัดชกจนล้ม!
เหลยจ้านรู้สึกได้ถึงความปวดแสบปวดร้อนที่แก้มเป็น เขาล้มลงกับพื้น เสียงดัง“ตุ๊บ”!
เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเกิดอะไรขึ้น สมองของเขาเสียงดัง“วิ้งๆ”!นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย?ทำไมเขาถึงล้มได้?
สายตาของคนอื่นๆมองไม่ทัน เนี่ยเฟิงดูเหมือนจะยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่ได้ขยับไปไหน เหตุใดเหลยจ้านถึงได้ล้มลง?นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
เหลยจ้านพยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้น“คอยดูตาฉันนะ!”
ระหว่างนั้นเขาก็ชกออกไปหนึ่งชุด!
แต่ทักษะการชกของเหลยจ้านในสายตาของเนี่ยเฟิง มันเป็นเพียงแค่เรื่องเด็กๆเล่นกัน หลังจากที่เนี่ยเฟิงดูจนพอแล้ว จึงสวนออกไปอีกหนึ่งหมัด!
คราวนี้บริเวณที่เหลยจ้านถูกชกคือใบหน้าข้างขวาของตัวเอง!
เขาล้มลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้!
“เร็วมาก!”
ฝูยานหรงตกใจมาก เหตุใดถึงมีคนทำได้เร็วขนาดนี้?ความเร็วนี้สุดยอดไปเลย!
เหลยจ้านขายหน้ามาก เขาพยายามลุกขึ้นอีกครั้ง สะบัดหัวมึนงงของตัวเองไปมา ไม่เข้าใจว่าตัวเองล้มลงไปได้อย่างไร!
เหลยจ้านสูดลมหายใจเข้าลึกๆ“ครั้งนี้ไม่นับ!เอาอีกครั้ง!”
เนี่ยเฟิงพยักหน้า“มาต่อกันเถอะ”
คราวนี้เหลยจ้านฉลาดขึ้นมาแล้ว เขาลองเชิงเนี่ยเฟิงครู่หนึ่ง เนี่ยเฟิงไม่ได้คิดอยากจะออกหมัดเลย แต่กำลังจ้องมองเขา
เวลานี้เองเหลยจ้าน อาศัยจังหวะที่ฝ่ายตรงข้ามไม่ได้เตรียมตัว พุ่งตัวเข้าไปจู่โจมแขนของเนี่ยเฟิง
แต่เขายังคงทำไม่สำเร็จ แล้วก็ถูกเนี่ยเฟิงใช้หมัดชกล้มลงไป!
เขาถูกหมัด ทั้งแก้มฝั่งซ้าย ฝั่งขวา และด้านหน้า
“เนี่ยเฟิง!นี่เป็นเพียงแค่การแลกเปลี่ยนความรู้กันเท่านั้น ต้องลงแรงขนาดนี้เลยหรือ!”
ฝูยานหรงมองเห็นจมูกของเหลยจ้านถูกชกจนเลือดออก จึงรู้สึกร้อนใจมาก ขืนยังเป็นแบบนี้ต่อไป เหลยจ้านอาจจะตายได้
ฝูยานหรงเข้าใจดี ที่ตัวเองสามารถออกกระบวนท่าต่อหน้าเนี่ยเฟิงได้มากขนาดนี้ เป็นเพราะเนี่ยเฟิงอ่อนข้อให้!
เนี่ยเฟิงคนนี้ตกลงมีความเป็นมาอย่างไรกันแน่ ทำไมถึงได้เก่งแบบนี้?จัดการกับเหลยจ้านอย่างรวดเร็วแล้วง่ายขนาดนี้เชียวหรือ!
“ผมควบคุมแรงของผมแล้วนะ”
เนี่ยเฟิงส่ายหัว แล้วตอบกลับอย่างใสซื่อ
“นายควบคุมแรงของนายประสาอะไรกัน!ล้อเล่นอะไรห้ะ!ถ้านายควบคุมแรงจะชกคนอื่นจนมีสภาพแบบนี้หรือห้ะ?”
ฝูยานหรงถลึงตาใส่เนี่ยเฟิงอย่างไม่พอใจ
เหลยจ้านใช้เวลานานมากกว่าจะลุกขึ้นจากสังเวียนได้
เนี่ยเฟิงหัวเราะ“ยังจะเอาอีกไหม?”
เหลยจ้านรู้สึกกลับเล็กน้อย เขาส่ายหัว“ไม่เอาแล้ว ไม่เอาแล้ว!”
“ไม่เป็นไร มวยไทยของนายเมื่อเทียบกับคนทั่วไป ถือว่าเก่งมากแล้ว เพียงแต่เมื่อเทียบกับฉัน มันยังห่างกันอีกเยอะ”
คนอื่นๆเองก็เห็นแล้วเนี่ยเฟิงเก่งแค่ไหน รู้ดีว่าเนี่ยเฟิงที่ฝ่ายที่จะแหย็มไม่ได้ง่ายๆ พวกเขาต่างพากันถอยออกห่าง
“ผมคิดว่าคลับของคุณสร้างได้ไม่เลวเลยนะ แต่ยังคงต้องยกระดับคุณภาพของสมาชิกให้สูงขึ้นอีกหน่อย ล้วนเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดีกันทั้งนั้น ”
คำพูดของเนี่ยเฟิงล้าสมัยจริงๆ อันที่จริง อายุจิตใจของเนี่ยเฟิงแก่กว่าพวกเขามาก
“เนี่ยเฟิง!นายมีความเร็วมากเลยนะ!สอนฉันหน่อยได้ไหม?”
ผ่านไปนานมาก จู่ๆๆเหลยจ้านก็เอ่ยปากพูดออกมา
เนี่ยเฟิงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย“นายจะเรียน?”
“อืม!ฉันอยากเรียน!นายสอนฉันได้ไหม?”เหลยจ้านพูดอย่างตรงไปตรงมา