พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 339 ขอร้องคน
เนี่ยเฟิงอดที่จะถอนหายใจไม่ได้“อันที่จริงสิ่งที่ฉันไม่ชอบมากที่สุดคือการต่อสู้กับผู้หญิง เพราะฉันคิดว่าผู้ชายยังไงก็ต้องสู้กับผู้ชาย”
เนี่ยเฟิงไม่ไม่ได้ใช้แรงเลย แต่มันก็ทำให้พนักงานหญิงคนนั้นไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีก เขาเดินไปข้างหน้าเรื่อยๆ เวลานี้เองมีคนสองคนโผล่ออกมาจากปลายทางเดิน ทั้งสองคนหน้าตาเหมือนกัน น่าจะเป็นเป็นแฝดกันแน่ ส่วนสูงของทั้งสองคล้ายๆกัน
ไม่รู้ว่าใครเป็นพี่ชายหรือน้องชาย พวกเขาเงื้อมือขึ้นมา ในมือของพวกเขาสองคนล้วนมีดาบผีเสื้ออันเย็นเฉียบอยู่ในมือ
ที่นี่ไม่ใช่ร้านอาหารใหญ่อะไร เพราะฉะนั้นทางเดินจึงค่อนข้างเล็ก เมื่อพวกเขาสองคนยืนอยู่ตรงนั้นจึงทำให้ทั้งทางเดินดูแคบไปเลย แต่ทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวามีแต่ฝั่งขวามือเท่านั้นที่มีประตูหนึ่งบาน และประตูบานนี้ก็ไม่รู้ว่าใครอยู่ด้านใน
แต่ไม่มีไรหรอก ถึงคนในประตูบานนี้จะเป็นใครก็ตามสำหรับเนี่ยเฟิงแล้ว ไม่ก่อให้เกิดปัญหาอะไรเลย
“อย่าชักช้า เข้ามาได้เลย”
เนี่ยเฟิงพูดพลางกวักมือเรียกพวกเขา ทั้งสองไม่พูดอะไร แต่พุ่งเข้ามาดุจลูกธนูที่ถูกดีดออกมาจากคันศร ทันใดนั้นก็พุ่งตัวเข้ามาหาเนี่ยเฟิง!
ความเร็วของทั้งสองคนนี้เร็วมาก อีกทั้งข้อมือของพวกเขามีความคล่องแคล่วมาก!
พวกเขาทั้งสองคนจู่โจมเนี่ยเฟิงทั้งซ้ายขวาแล้วถอยหลังไปหนึ่งก้าว จากนั้นก็เห็นเขาออกหมัดอย่างรวดเร็ว เขาชกเหมือนดั่งลม!
สองพี่น้องไม่เพียงแต่มีความเร็วที่รวดเร็ว อีกทั้งร่างกายยังยืดหยุ่นกว่าคนปกติทั่วไป พวกเขาถอยหลังกลับทันทีหลังจากพบว่ามีบางอย่างผิดปกติ!
“พวกนายเร็วมากก็จริง แต่สำหรับฉันแล้วยังห่างชั้นอีกไกล!”
เดิมทีพวกเขาอยากจะหนีไป แต่กลับไม่สามารถหนีไปไหนได้ ถูกเนี่ยเฟิงจับข้อเท้าไว้ จากนั้นก็ลากอย่างแรง แล้วทุ่มลงกับพื้นทันที!
เนี่ยเฟิงจัดการเหยียบคอของหนึ่งหนึ่งนั้นจนหัก อีกคนที่เห็นแบบนี้คิดอยากจะหนี แต่เขาหนีไม่ทันแล้ว!
เนี่ยเฟิงจึงตรงเข้าจัดการเขาทันที!
จากนั้นเนี่ยเฟิงก็เดินไปยังประตูที่ถูกปิดอย่างแน่นหนาบานนั้น
เนี่ยเฟิงตรงเข้าถีบประตูออกไป มีคนสวมชุดดำจำนวนมากยืนอยู่ด้านใน พวกเขาต่างใช้สายตามองไปที่เนี่ยเฟิงอย่าน่ากลัว
“พวกหัวมังกุท้ายมังกร(พวกเสเพล)อย่างพวกแกเป็นคนที่เฉาตื๋อเหรินส่งมาใช่ไหม?คิดว่าคนเยอะแล้วจะล้มฉันได้งั้นเหรอ?งั้นพวกแกคงจะไร้เดียงสาเกินไปแล้วล่ะ เพราะฉันไม่กลัวพวกแกเลย”
เนี่ยเฟิงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ มองดูห้องวีไอพีเล็กๆที่จุคนอยู่ประมาณสามสี่สิบคนเห็นจะได้ เขากวักมือเรียกคนพวกนั้น“อย่าซ่อนตัวอยู่อีกเลย เอาความสามารถดูแลบ้านของพวกแกออกมาใช้ซะ เพราะว่าอีกไม่นานพวกแกต้องสยบอยู่ใต้ฝ่าเท้าของฉัน ขยับไปไหนไม่ได้”
“ไอ้เด็กเวร แกนี่มันใจกล้าจริงๆเลยนะ กล้าพูดจาจองหองต่อหน้าพวกฉันแบบนี้!”
คนที่เป็นหัวหน้าไม่ใช่ใครอื่นเลย เขาคือเฉาตื๋อเหรินเป็นยอดฝีมือคนที่พ่อของเฉากวงหมิงส่งตัวมาเป็นพิเศษ
เฉากวงหมิงรู้จักคนไม่น้อย และในหมู่คนเหล่านี้มีทหารของทีมทหารรับจ้างผู้ที่อยู่ข้างหน้าทหารรับจ้างเหล่านี้ก็คือคนที่มีความสามารถซึ่งติดอันดับหนึ่งในห้าสิบทีมใหม่ของโลก
“ที่ฉันพูดมันจริงไหมล่ะ พวกแกก็เข้ามาลองสิเดี๋ยวก็รู้เอง ไม่ต้องอ่อนข้อให้หรอก”
เนี่ยเฟิงมองคนเหล่านั้นอย่างน่าเศร้า ถึงแม้ว่าพวกเขาจะทำไปเพื่อเงิน แต่มาคิดๆดูแล้วไม่รู้ว่าคู่ต่อสู้ของตัวเองเป็นใคร เดิมทีคิดว่าตัวเองต้องชนะแน่ๆ แต่สุดท้ายกลับถูกกระทืบจนฟันร่วงหมดปาก คงต้องเจ็บมากแน่ๆ?
ฝ่ายตรงข้ามไม่พอใจที่เห็นถึงความหยิ่งจองหองของเนี่ยเฟิง เมื่อเขาสั่งการเสร็จ คนที่อยู่ด้านหลังก็รุดพุ่งตัวเข้ามาอย่างรวดเร็ว แต่คิดถึงว่าเนี่ยเฟิงจะใช้พละกำลังแรงของตัวเอง กลับเปิดเส้นทางสายเลือดสู่เส้นทางชีวิตใหม่จนได้ เหล่าทหารที่ฝึกฝนอย่างตรากตรำในช่วงเวลาปกติ ตอนนี้ถูกซ้อมจนล้มลงพื้นอย่างระเนระนาด ไม่สามารถยืนขึ้นมาได้ด้วยซ้ำ
ในตอนแรกผู้นำทหารมีความมั่นใจมาก แต่พอเห็นฉากนี้แล้วกลับรู้สึกว่าหวาดกลัวจนหัวใจเต้นรัว นี่มันสัตว์ประหลาดที่หลุดออกมาจากไหนเนี่ย?ทำไมถึงเก่งได้ถึงเพียงนี้?
“ตกลงแกเป็นใครกันแน่เนี่ย?”
นี่มันเป็นเครื่องจักรสังหารที่มีรูปร่างเป็นมนุษย์ชัดๆ!
“ฉันเป็นใครมันไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญก็คือ ทีมของพวกแกกระจอกเกินไป ไม่สามารถขัดขวางฉันได้ด้วยซ้ำ”
หัวหน้านายทหารมีหรือจะกล้าปะทะกับเนี่ยเฟิง ไอ้หมอนี่น่ากลัวขนาดนี้ ถ้าหากปะทะกับเนี่ยเฟิง พวกเขามีแค่ทางตายสถานเดียว!
“ฉันรู้ว่าพวกแกเป็นคนที่ทำงานเพื่อเงิน แต่สิ่งที่พวกแกไม่สมควรทำที่สุดคือช่วยไอ้หมอนั่น”
เนี่ยเฟิงตรงเข้าชกนายทหารที่เป็นหัวหน้าคนนั้นที่ถูกทำให้ตกใจอย่างไม่สามารถขยับไปไหนได้จนล้มลงกับพื้น
คนที่อยู่ในร้านอาหารต่างถูกจัดการทิ้งจนหมด และเนี่ยเฟิงก็เดินออกมาอย่างช้าๆ พึ่งเดินมาถึงหน้าประตูเขาก็มองเห็นเลขาที่กำลังหดมือหดเท้า(ไม่กล้าทำเพราะคิดเยอะเลยไม่กล้าลงมือทำ)อยู่
“ไม่ต้องหนี เพราะว่าเธอหนีไม่พ้นหรอก กลับไปบอกเฉาตื๋อเหรินซะ ให้เขาส่งคนที่มีความสามารถมากกว่านี้มาหน่อย พวกคนแก่อ่อนแออย่างพวกนี้อย่าส่งมาอีกนะ พรุ่งนี้ฉันจะไปหาถึงบ้านด้วยตัวเอง คนอย่างฉันไม่ชอบเยิ่นเย้ออืดอาด ฉันชอบจัดการอย่างเฉียบขาด ไปบอกเขาว่าอย่าเป็นเต่าหัวหดอยู่อีก ความแค้นระหว่างเราได้เวลาชำระให้สิ้นซากแล้ว”
ในเวลานี้เลขาที่ได้ยินอย่างนั้นก็ถึงกับตกใจจนฉี่แตก มีหรือจะกล้าสนใจอะไรมาก เขารีบวิ่งกลับไปรายงานถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้กับเฉาตื๋อเหรินทั้งที หลังจากที่เฉาตื๋อเหรินได้ยินดังนั้น ก็โกรธเป็นอย่างมาก
“มันพูดแบบนั้นจริงๆเหรอ?”
“คุณชายครับแน่นอนว่ามันเป็นความจริง ผมจะกล้าปิดบังคุณได้ยังไง ไอ้หมอนั่นเก่งจริงๆนะครับ คนที่เราส่งไปถูกกระทืบจนล้มระเนระนาด ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลย อีกทั้งเขายังบอกว่าพรุ่งนี้จะมากระทืบถึงที่อีกด้วย เราควรทำยังไงดีครับ?”
เฉาตื๋อเหรินไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงแล้ว เขาคิดไม่ถึงว่าเนี่ยเฟิงจะมีความสามารถถึงเพียงนี้ แม้แต่ทหารรับจ้างก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
“ยังคิดวิธีอะไรได้อีกล่ะ รีบไปรายงานพ่อของฉันเร็วเข้า ให้พ่อของฉันวางแผน!”
เดิมทีเฉาตื๋อเหรินคิดอยากจะจัดการเนี่ยเฟิงด้วยตัวเอง แต่เนี่ยเฟิงเก่งมากจริงๆ เขาฆ่าทุกคนที่พวกเขาส่งไปเพียงลำพัง นั่นเกือบห้าสิบคนเชียวนะ!
ทหารรับจ้างจำนวนมากพวกนั้นที่ได้รับฝึกฝนกันมาอย่างดี ในสายตาของเนี่ยเฟิงเป็นเหมือนคนแก่อ่อนแอเปราะบางเท่านั้น พวกเขาล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเนี่ยเฟิง เพราะฉะนั้นถ้าคิดอยากจะหยุดยั้งเนี่ยเฟิงก็จำเป็นต้องตามหาคนที่เก่งมาจัดการให้ได้
หลังจากที่เฉากวงหมิงรู้เรื่องนี้แล้ว ถึงกับตกใจจนหน้าซีด“พรุ่งนี้ไอ้หมอนี้จะตามมาถึงบ้าน ฉันรู้แล้ว งั้นเราตรงไปที่สนามประลองใต้ดินดีกว่า!ฉันไม่เชื่อ ว่าเขาจะสามารถต่อสู้กับคนของสนามประลองใต้ดินได้”
“พ่อครับ เราเคยมีปัญหากับเถ้าแก่สนามประลองไม่ใช่หรือครับ?ตอนนี้ถ้าเราไปคุยเรื่องนี้กับเถ้าแก่สนามประลอง พวกเขาต้องไม่ชอบใจแน่……”
“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับชีวิต แกหาคนที่ฉันสามารถหาได้มาต่อกรกับเนี่ยเฟิง แม้แต่พวกเขาก็ไม่ใช้คู่ต่อสู้ของเนี่ยเฟิง งั้นเราก็ต้องวางแผนในระยะยาวแล้วล่ะ ถึงเรากับเถ้าแก่สนามประลองจะเคยมีปัญหากัน แต่เถ้าแก่สนามประลองก็เปิดร้านนี้เพื่อเงิน ในเมื่อเราสามารถควักเงินจ่ายได้ เถ้าแก่สนามประลองก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ช่วยเราอยู่แล้ว?”
เฉากวงหมิงยังคงเชื่อมั่นว่า บนโลกใบนี้เงินสามารถปลุกผีขึ้นมาโม่แป้งได้(มีเงินจะทำอะไรก็ได้)ถึงเนี่ยเฟิงจะเก่งแค่ไหนก็สู้พวกนักสู้ในสนามประลองไม่ได้!
“ดี!ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นเราก็ไปคุยกับเถ้าแก่สนามประลอง ให้เขานำนักสู้ที่เก่งที่สุดให้กับพวกเรา!