พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 352 ใจเต้นแรงราวกับฟ้าผ่า
บทที่ 352 ใจเต้นแรงราวกับฟ้าผ่า
เหลยเทียนพยักหน้าอย่างลนลาน แล้วเตะลูกชายจอมโง่ของเขาไปที “แกยังมัวทำอะไรอยู่? รีบไปเตรียมห้องให้เรียบร้อยสิ!”
เหลยจ้านยิ้ม แล้วรีบไปจัดเตรียมห้องอย่างดีอกดีใจ
ฝูยานหรงเล่าเรื่องหมอให้คุณปู่ฟัง หลังจากฝูหลังตงรู้เรื่องแล้ว เขาก็พูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเธอก็พักอาศัยอยู่ที่นั่นก่อน ดูว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง!”
“คุณปู่! เขานั่งอยู่ที่นี่มันเกี่ยวอะไรกับฉันด้วย พูดอีกอย่างก็คือทำไมฉันต้องช่วยเขาด้วย?”
แม้ว่าฝูยานหรงจะพูดอย่างนั้น แต่ในใจก็นึกอยากอยู่ที่นี่ ส่วนใหญ่เป็นเพราะว่าเนี่ยเฟิงได้คว่ำภาพลักษณ์ที่มีในหัวใจของเธอ ซึ่งทำให้ในใจฝูยานหรงรู้สึกแปลกไป
“เธอเชื่อฟังปู่นะ ไม่มีใครผิด พูดอีกอย่างก็คือ ถ้าเธอพักอาศัยอยู่ที่นั่น หากเธอต้องการเรียนรู้อะไรก็สามารถขอคำแนะนำจากเสี่ยวเฟิงได้เลย เสี่ยวเฟิงเก่งในเรื่องศิลปะการต่อสู้มาก!”
อันที่จริง ฝูหลังตงต้องการให้หลานสาวของตัวเองใกล้ชิดกับเนี่ยเฟิงมากขึ้น เพราะหลานสาวมักจะรู้สึกว่าการตายของพ่อแม่ของเธอมีส่วนเกี่ยวข้องเนี่ยเฟิง
นี่ไม่ใช่สิ่งที่ฝูหลังตงอยากเห็น
ตอนแรกฝูยานหรงอยากจะปฏิเสธ แต่ปู่ของเธอขอร้องเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฝูยานหรงจึงต้องพยักหน้าตกลง
“งั้นก็ได้ค่ะ”
แต่เนื่องจากได้อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย ฝูยานหรงจึงนอนไม่ค่อยหลับ
กลางดึก ฝูยานหรงยังคงนอนไม่หลับ เธอจึงลุกเดินออกไป
ข้างนอกเป็นทางเดิน ต้องบอกว่า ที่นี่นั้นมากจริงๆ นอกจากสนามฝึกซ้อมแล้ว ยังมีพื้นที่สีเขียวอีกด้วย ดูเหมือนจะเป็นสวนสาธารณะมากกว่า
ฝูยานหรงมองดูแสงจันทร์อันเยือกเย็นภายนอก เธอนั่งลงบนขั้นบันไดของทางเดินและแหงนหน้ามองอย่างเศร้าสร้อย
เมื่อก่อนตอนที่เธออาศัยอยู่กับพ่อแม่ ก็ได้ชื่นชมแสงจันทร์ในเวลากลางคืนเช่นกัน แต่ตอนนี้พ่อแม่ของเธอจากไปแล้ว
“ดึกดื่นป่านนี้ทำไมคุณยังไม่นอนอีก มาทำอะไรตรงนี้?”
เสียงของเนี่ยเฟิงดังขึ้นมาอย่างกะทันหัน ทำให้ฝูยานหรงสะดุ้งตกใจ เธอหันขวับกลับมาทันที แล้วพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “คุณเป็นแมวเหรอไง? ทำไมเดินมาไม่ให้สุ้มให้เสียง?”
“ผมเดินมีเสียงอยู่แล้ว แต่เพราะคุณกำลังจมอยู่กับความคิด ก็เลยไม่ได้ยินเสียงผมเดิน”
เนี่ยเฟิงนั่งลงถัดจากฝูยานหรง เขามองไปที่ฝูยานหรงแล้วถามว่า “คุณคิดถึงอะไรเลยนอนไม่หลับเหรอ?”
มุมปากของฝูยานหรงกระตุกเล็กน้อย “เกี่ยวอะไรกับคุณ? ทำไมคุณถึงมายุ่งวุ่นวายแบบนี้?”
“ก็ต้องเกี่ยวกับผมสิ ตอนนี้เราสองคนเป็นสหายร่วมรบกันแล้ว”
เนี่ยเฟิงตอบพร้อมกับตบหน้าอกตัวเอง
“ไม่มีอะไร แค่นอนไม่หลับเท่านั้นเอง แล้วคุณล่ะ ตื่นมาทำไม?”
“ห้องผมอยู่ติดกับคุณ ผมเป็นคนที่ฝึกศิลปะการต่อสู้ ความสามารถในการได้ยินเสียงดีมาก เมื่อกี้ที่คุณลุกขึ้นมามีการเคลื่อนไหวดังมาก ตั้งนานแล้วก็ยังไม่ได้กลับเข้าไป ผมเป็นห่วงคุณว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น เลยตามออกมาดูหน่อย”
เนี่ยเฟิงแทบไม่ได้นอนเลย เมื่อกี้เขาก็กำลังนั่งอยู่ตรงทางเดิน ดูรอยแผลเป็นที่ขาของตัวเอง
เดิมทีเขามีรอยฟกช้ำปกคลุมไปทั่วร่างกาย แต่เขาจำได้อย่างชัดเจนว่าทุกรอยบาดแผลนั้นมาได้อย่างไร
ผู้ที่ทิ้งรอยแผลเป็นไว้บนตัวเขาได้ ล้วนเป็นคู่ต่อสู้ของเขาทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่ได้เสียชีวิตไปแล้ว เพราะเนี่ยเฟิงเป็นคนที่มีแค้นต้องชำระ
ตอนนั้นเขากำลังมองดูบาดแผลที่ขาของตัวเอง พอได้ยินเสียงเขาจึงหันกลับมา และเห็นฝูยานหรง ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอออกมาทำไม
ฝูยานหรงกลับเอาจริงเอาจัง เธอแปลกใจเล็กน้อย “คุณฝึกมาถึงระดับไหนแล้ว? ความสามารถในการได้ยินของคุณดีเยี่ยมขนาดนั้นเลยเหรอ?”
เนี่ยเฟิงอดหัวเราะไม่ได้ ในเวลานี้ฝูยานหรงถึงเพิ่งตระหนักว่าเนี่ยเฟิงกำลังหัวเราะเยาะตัวเอง
“ฮึ่ม! ฉันรู้อยู่แล้วว่าคนอย่างคุณเนี่ยโกหกเป็นไฟ! ไม่มีค่าให้น่าเชื่อถือเลย! ถุย!”
“เฮ้อ คุณอย่าโกรธเลยนะ ผมแค่ล้อเล่นเท่านั้นเอง”
เนี่ยเฟิงโบกมือ “ว่าแต่ว่า คุณก็กำลังฝึกฝนศิลปะการต่อสู้อยู่เหมือนกัน วันนั้นผมใช้กระบวนท่ากับคุณหลายท่า พบว่ากระบวนท่าของคุณฝึกไม่ได้มาตรฐานเท่าไรนัก”
เดิมทีฝูยานหรงนึกโกรธ แต่พอได้ยินว่าเนี่ยเฟิงบอกว่าการเคลื่อนไหวของเธอไม่ได้มาตรฐาน เธอก็เบิกตากว้างทันที “จริงเหรอ? ตรงไหนคะ?”
เนี่ยเฟิงชี้ไปยังพื้นที่โล่งตรงหน้าเขา “บังเอิญจังที่ตอนนี้คุณนอนไม่หลับ และผมก็นอนไม่หลับเหมือนกัน ผมจะค่อยๆ ให้คำแนะนำคุณ ตอนนี้คุณออกไปแสดงกระบวนท่าต่างๆ ให้ผมดูหน่อย”
พอได้คุยถึงเรื่องนี้ ฝูยานหรงก็ไม่รู้สึกง่วงอีกต่อไป เธอกระโดดลงไป รำหมัดต่อหน้าเนี่ยเฟิงโดยไม่เคอะเขิน
เธอทำไปหลายกระบวนท่า เนี่ยเฟิงเห็นแล้วก็บอกให้หยุด “คุณดูนี่ กระบวนท่านี้คุณทำไม่ค่อยถูกต้อง ตรงนี้ควรออกหมัดแบบนี้”
เนี่ยเฟิงแสดงให้เธอเห็นว่าต้องทำอย่างไร
ฝูยานหรงเห็นปุ๊บก็รู้แจ้งในทันใด
“ก่อนหน้า นี้คุณรู้สึกค่อนข้างอึดอัดที่ท่อนแขนใช่ไหม? นั่นเป็นเพราะการวางท่าไม่ถูกต้อง ฝึกฝนไม่ถึงกล้ามเนื้อนั้นส่วน”
ฝูยานหรงศึกษาด้วยตัวเองมาโดยตลอด ไม่มีใครสอนเธอ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องน่าทึ่งที่เธอสามารถฝึกฝนได้ถึงระดับนี้
“ขออีกครั้ง”
เนี่ยเฟิงชอบผู้หญิงฉลาดแบบฝูยานหรง แนะแป๊บเดียวก็เข้าใจทุกอย่าง ฝูยานหรงเรียนรู้อย่างจริงจัง คอยปรับปรุงแก้ไขกระบวนท่าของตัวเอง
“ตรงนี้ไม่ถูก ฐานล่างของคุณต้องรักษาสมดุลไว้”
เนี่ยเฟิงพูดพลางสาธิตให้ฝูยานหรงดู
แต่การเคลื่อนไหวเช่นนี้ ฝูยานหรงยังทำได้ไม่ดีนัก
เนี่ยเฟิงเห็นดังนั้นก็ถอนหายใจ ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเข้าไปแก้ไขปรับปรุงการเคลื่อนไหวของฝูยานหรงด้วยตนเอง
แต่ในเวลานี้ ฝูยานหรงได้เสียการทรงตัวแล้วล้มหงายหลังลงไป
โชคดีที่เนี่ยเฟิงยืนอยู่ข้างหลังฝูยานหรง มือไวตาไวกอดฝูยานหรงไว้ได้อย่างรวดเร็ว
ฝูยานหรงรูปร่างเล็ก เอนตัวพิงอยู่บนร่างกายของเนี่ยเฟิง เธอรู้สึกได้ว่าถูกโอบล้อมไปด้วยลมหายใจของเนี่ยเฟิง ในวินาทีนั้น ฝูยานหรงหน้าแดง ใจสั่นระรัว!
“เป็นอะไรไป?”
เนี่ยเฟิงถามด้วยความสงสัย
ฝูยานหรงลุกขึ้นยืนทันที แล้วกระแอมไอออกมา “ไม่มีอะไร! ฉันไม่ฝึกแล้ว! ดึกมากแล้ว เราไปนอนกันเถอะ!”
ฝูยานหรงพูดจบก็รีบเข้าไปในห้อง และปิดประตูราวลมกระโชกแรงทันที
เนี่ยเฟิงมองฝูยานหรงที่วิ่งเร็วยิ่งกว่ากระต่ายด้วยความงุนงง เขาไม่เข้าใจว่าทำไมฝูยานหรงถึงกลายเป็นแบบนี้
ฝูยานหรงนอนไม่หลับทั้งคืน จิตใจของเธอเต็มไปด้วยภาพของเนี่ยเฟิงที่ทำให้เธอกลัดกลุ้มใจมาก
วัดถัดมา สีหน้าของฝูยานหรงเริ่มแย่ลง
เพราะเมื่อเธอตื่นขึ้นในตอนเช้า ก็พบว่าภายในห้องนั้นว่างเปล่าไม่มีใครเลย
“ฝูยานหรง! ทำไมคุณถึงยังอยู่ที่นี่! ที่ห้องโถงด้านหน้าเกิดเรื่องแล้ว! เรารีบไปดูกันเถอะ!”
เหลยจ้านสวมกางเกงไปพลาง เร่งฝูยานหรงไปพลาง
ฝูยานหรงตกใจมาก เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ห้องโถงด้านหน้า เธอจึงรีบไปที่ห้องโถงด้านหน้าโดยไม่สนใจอะไรแล้ว
เป็นไปตามคาด ห้องโถงด้านหน้ารายล้อมไปด้วยผู้คนมุงดุหลายต่อหลายชั้น
”เสื้อผ้าของคนพวกนี้…พวกเขา…พวกเขามาจากสมาคมการต่อสู้เขตตะวันออกเฉียงใต้?”
ฝูยานหรงมองปราดเดียวก็สามารถบอกได้อย่างรวดเร็ว
สีหน้าของเหลยเทียนเคร่งขรึม “บัดซบ! ปกติเราต่างก็ไม่ล้ำเส้นกัน แต่ตอนนี้พวกเขามาหาเราถึงที่เลย! บ้าบอที่สุด!”
ฝูยานหรงยังสังเกตเห็นถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้ เธอหรี่ตามองไปที่คนกลุ่มนี้ ในเวลานี้เธอเห็นคนที่เคยตามจีบ?
ฝูยานหรงสะดุ้งตกใจ เธอก้าวถอยหลังทันที พยายามหลบอยู่หลังเหลยจ้าน