พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 379 พ่อเป็นหนี้ ลูกต้องชดใช้
ก่อนที่ฉินเห้าหรานจะตั้งสติและตอบสนองได้ เขาก็ถูกเนี่ยเฟิงกดศีรษะลงไปในสระน้ำ เขาพยายามดิ้นรนอย่างหนัก เพราะการขาดอากาศหายใจทำให้เขาหวาดกลัวมากๆ
ไม่ว่าเขาจะดิ้นรนยังไง ฉินเห้าหรานก็ไม่สามารถหลุดออกจากมือของเนี่ยเฟิงได้
ถ้าเนี่ยเฟิงไม่ยอมปล่อยฉินเห้าหราน ฉินเห้าหรานก็หนีไม่พ้น
ฉินเห้าหรานโดนกดศีรษะอยู่
ในขณะที่ฉินเห้าหรานคิดว่าตัวเองกำลังจะตาย จู่ๆเนี่ยเฟิงก็ยกมือขึ้น ทำให้ฉินเห้าหรานสามารถสูดอากาศที่บริสุทธิ์ได้
“คุณเงียบได้หรือยัง สามารถฟังสิ่งที่ฉันพูดได้ไหม?”
เนี่ยเฟิงมองฉินเห้าหรานด้วยสายตาเย็นชา หัวใจของฉินเห้าหรานเต้นอย่างแรงด้วยความหวาดกลัว ความรู้สึกที่ตัวเองใกล้จะตายยังคงวนเวียนอยู่ในสมองของเขา เอาความรู้สึกนั้นออกจากสมองไม่ได้!
เขาไม่กล้าโต้เถียงเนี่ยเฟิงอีก?เขารีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว“คุณพูด!คุณพูดได้เลย!”
เนี่ยเฟิงพยักหน้าด้วยความพอใจ แต่มือของเขายังจับศีรษะของฉินเห้าหรานอยู่
“เดิมทีฉันมีครอบครัวที่สมบูรณ์ พ่อแม่รักฉันมากๆ ฉันก็รักพวกท่านเหมือนกัน แต่มีคนวางแผนการร้ายทำให้ฉันบ้านแตกสาแหรกขาด”
เนี่ยเฟิงถอนหายใจย่างช้าๆ“บางทีพวกเขาอาจจะอิจฉาพ่อของฉัน บางทีพวกเขาไม่อยากให้ตระกูลของฉันเจริญมากขึ้น ดังนั้นพวกเขาก็เลยร่วมมือกันฆ่าล้างคนในตระกูลของฉัน อันที่จริงฉันคนนี้ควรตายอยู่ในทะเล แต่ฉันรอดชีวิตกลับมาได้”
ดวงตาของเนี่ยเฟิงไร้ซึ่งชีวิตชีวา และเขารู้ดีว่าหลายปีมานี้ชีวิตของเขาผ่านอะไรมาบ้าง
“คุณ ทำไมคุณต้องพูดเรื่องพวกนี้กับฉัน?”
เมื่อฉินเห้าหรานเห็นเนี่ยเฟิงไม่พูดอะไรออกมา ทั้งสองฝ่ายตกอยู่ในบรรยากาศที่เงียบสงัด ฉินเห้าหรานไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกัดฟันและเอ่ยปากพูดก่อน
“เพราะว่าฉันอยากให้คุณได้รับรู้ ว่าคุณโดนทำร้ายเพราะสาเหตุอะไร”
เนี่ยเฟิงยิ้มทันที รอยยิ้มของเขานั้นดูปกติ แต่รอยยิ้มนั้นทำให้ฉินเห้าหรานหวาดกลัวจนตัวสั่น!
ฉินเห้าหรานกลืนน้ำลายอยากยากลำบาก“ฉันผิดไปแล้ว!ฉันยอมรับผิด!”
“ไม่ คุณไม่รู้หรอก”
เนี่ยเฟิงส่ายหัว“พ่อของคุณกับพ่อของฉันเป็นหุ้นส่วนที่ดีทางธุรกิจ พ่อของคุณได้รับผลประโยชน์มากมายจากพ่อของฉัน ผลประโยชน์ที่เขาได้รับกลายมาเป็นชีวิตที่สุขสบายของคุณในวันนี้ ทั้งรถยนต์สุดหรูของคุณ หรือแม้แต่ผู้หญิงของคุณก็ตาม”
เนี่ยเฟิงพูดอย่างช้าๆ ในสระว่ายน้ำนอกจากเขาสองคนก็ไม่มีใครอีกเลย เพราะคนอื่นๆก็โดนเนี่ยเฟิงจัดการไปหมดแล้ว
“แต่พ่อของคุณโลภมากเกินไป มันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย”
เนี่ยเฟิงหรี่ตา“เขาก็เป็นคนที่ค่อยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง และตอนที่ฉันต้องทนทุกข์ทรมาน พวกคุณพ่อลูกก็ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายบนความทุกข์ของตระกูลฉัน”
ฉินเห้าหรานส่ายหัวและตัวสั่น:“ไม่ๆๆ!สิ่งที่คุณพูดฉันไม่รู้เรื่องเลย!ฉันไม่รู้เรื่องนั้นจริงๆ!”
“คุณคิดว่าฉันเหมือนคนที่จะให้อภัยกับคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยเหรอ?อืม?”
รอยยิ้มของเนี่ยเฟิงเย็นชามากขึ้น“เห็นได้ชัดว่าฉันไม่ใช่คนแบบนั้น”
หลังจากเนี่ยเฟิงพูดจบ เขาก็ดึงเส้นผมของฉินเห้าหรานแล้วยกขึ้นมาอีกครั้ง
ฉินเห้าหรานกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
เส้นผมและหนังศีรษะของเขาต้องรองรับน้ำหนักตัวของเขา มันจะไม่เจ็บปวดได้ไง?
ฉินเห้าหรานรู้สึกว่าศีรษะของตัวเองกำลังจะถูกถลกหนังออกมา!มันเจ็บปวดมากจนทำให้เขาตัวสั่น!
เนี่ยเฟิงโยนเขาลงไปในสระว่ายน้ำ เขายืนขึ้นและมองฉินเห้าหรานที่ดูเหมือนปลาที่กำลังจะตาย
“พ่อเป็นหนี้ลูกต้องชดใช้ ประโยคนี้คุณน่าจะเคยได้ยิน ในเมื่อพ่อของคุณเป็นหนี้ครอบครัวของฉัน ฉันก็ต้องทนทุกข์ทรมานมากๆก็เพราะพ่อของคุณ ดังนั้นฉันจะเอาคืนจากตัวคุณบ้าง”
“คุณจะทำอะไร!ฉันขอเตือนคุณ!คุณอย่าทำอะไรบ้าๆนะ!”
เนี่ยเฟิงเหยียบมือของฉินเห้าหราน“ไม่เป็นไร แค่รู้สึกเจ็บเอง”
เห็นเนี่ยเฟิงหักนิ้วมือของฉินเห้าหรานจนมีเสียงกระดูกหัก“กร๊อบแกร๊บ”ดังขึ้น !
“อ๊าก!”
ฉินเห้าหรานไม่เคยเจ็บปวดแบบนี้มาก่อน เขาทนไม่ไหวจนตะโกนเสียงดังออกมา
เนี่ยเฟิงไม่คิดที่จะปล่อยเขาไปง่ายๆ ตอนนี้เขาค่อยๆทรมานฉินเห้าหรานอย่างช้าๆ
ตอนที่มีคนพบฉินเห้าหราน กระดูกมือ นิ้ว เท้า และซี่โครงของเขาหักเยอะมาก เขาเหมือนตุ๊กตาผ้าขาดๆที่ถูกทิ้งไว้ในถังขยะ
ฉินเห้าหรานถูกนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว แต่เขาไม่มีสติสัมปชัญญะแล้ว
แต่เขายังละเมอและขอความเมตตาตลอด
หลังจากที่เนี่ยเฟิงกลับไป แขนเสื้อของเขาเปียกเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ
ตอนนั้นเขาก็อ้อนวอนขอความเมตตา?แต่ไม่มีใครฟังในสิ่งที่เขาพูดเลย?
เนี่ยเฟิงไม่มีทางปล่อยคนพวกนี้ไปอย่างแน่นอน เขาจะแก้แค้นคนพวกนี้อย่างสาสม
หลังจากที่ฉินเทียนกังผู้เป็นพ่อของฉินเห้าหรานมาถึง เห็นสภาพอันน่าเวทนาของฉินเห้าหราน!
“ใคร!ใครเป็นคนทำร้ายเขา!”
ฉินเทียนกังโกรธมากๆ รีบส่งคนไปตรวจสอบเรื่องนี้ทันที
ถึงแม้อาการของฉินเห้าหรานจะบาดเจ็บสาหัส แต่ก็สามารถรักษาให้หายได้ แต่ความเจ็บปวดที่น่ากลัวขนาดนี้จะอยู่กับฉินเห้าหรานไปอีกนาน
นอกจากนี้ ความผิดปกติทางจิตของฉินเห้าหรานก็ไม่รู้ว่าจะรักษาให้หายขาดได้เมื่อไหร่
ฉินเทียนกังโกรธมากๆ ลูกชายของเขาโดนทรมานขนาดนี้ ถ้าเขาไม่โกรธก็คงเป็นไปไม่ได้?
“รีบไปตรวจสอบ!ต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่าใครเป็นคำทำ!ฉันจะหั่นศพมันเป็นหมื่นๆชิ้น!ฉันจะทำให้มันตายทั้งเป็น!”
เสียงตะโกนของฉินเทียนกังดังไปทั่วโรงพยาบาล
และคนที่ทำเรื่องนี้ได้กลับมาถึงบ้านแล้ว
หลังจากที่เนี่ยเฟิงกลับมาถึง มองเห็นสีหน้าที่เคร่งเครียดของพี่สาวทุกคน
“เกิดอะไรขึ้น?”
“วันนี้ฉันบอกให้คุณไปหาพี่ใหญ่ไม่ใช่เหรอ?ทำไมคุณถึงไม่ไป?”
เย่หรูเสว่โกรธมากๆ จ้องหน้าเนี่ยเฟิงและถาม
“เดิมทีฉันก็อยากไป แต่เมื่อฉันพบลุงสี่ ฉันก็ไปคุยเล่นกับลุงสี่ ไม่มีเรื่องอะไรหรอก พวกมันก็แค่นักเลงหางแถวเอง!”
เนี่ยเฟิงโบกมือ เพราะเนี่ยเหล่าสี่เป็นคนส่งเขาไปหาฉินเห้าหราน ดังนั้นเมื่อเขาพูดว่าไปคุยเล่นกับเนี่ยเหล่าสี่ก็ดูไม่มีอะไรผิดปกติ
“ฉันคิดดีแล้ว พวกเราย้ายบ้านกันเถอะ”
จู่ๆชิวมู่เฉิงก็เอ่ยปากพูด
ดวงตาของเนี่ยเฟิงเป็นประกาย เขากำลังคิดอยู่ว่าจะพูดเรื่องย้ายบ้านยังไงดี เพราะว่าที่นี่มันเล็กเกินไป เขาหวังว่าพี่สาวทั้งหลายจะย้ายไปอยู่ในที่พักอาศัยที่ใหญ่กว่านี้ แทนที่จะอยู่ในที่แคบๆตรงนี้
“คราวที่แล้วพวกเราก็ถูกผู้ไม่หวังดีล้อมบ้านไปแล้วหนึ่งครั้ง ยังมีครั้งนี้อีก ที่นี่มันไม่ปลอดภัยจริงๆ พวกเราต้องหาที่พักอาศัยที่มีความปลอดภัย”
“ถ้าเป็นอย่างนี้ ฉันจะไปหาบ้านเอง!เรื่องหาบ้านฉันถนัดที่สุด!”
เนี่ยเฟิงรีบตบหน้าอกตัวเองเบาๆเป็นการรับปาก
“คุณพูดมั่วอะไรอยู่?คนที่ถนัดเรื่องหาบ้านน่าจะเป็นพี่ใหญ่ คุณลืมไปแล้วเหรอว่าพี่ใหญ่ทำอาชีพอะไร?”
คางเมิ่งอดไม่ได้ที่จะกลอกตา และกัดแตงกวาไปด้วย
ที่เธอพูดก็ถูก เพราะที่นี่ชิวมู่เฉิงเป็นคนที่ถนัดเรื่องหาบ้านที่สุด
เนี่ยเฟิงแลบลิ้นออกมา“แต่พวกเราจะย้ายบ้านไปอยู่ที่ไหน?เราต้องหาที่อยู่อาศัยที่อยู่ใจกลางเมือง เพื่อความสะดวกสบายของพี่สาวทุกคน”
“พี่ใหญ่ ช่วงนี้พี่ใหญ่ยุ่งอยู่กับโปรเจกต์ของอ่าวนกยูง และพี่ใหญ่คงไม่มีเวลาแน่นอน พี่ใหญ่ต้องดูแลโปรเจกต์และต้องหาบ้านไปด้วย อาจจะทำให้เสียเวลามากๆ ฉันคิดว่าฉันกับเสี่ยวเฟิงไปหาบ้านจะดีกว่า หากมีบ้านที่เหมาะสมกับพวกเราก็จะจองมันทันที”
สีหน้าของหมิงอี๋หานบ่งบอกว่าเธอมีเงินมากๆ
อันที่จริง หมิงอี๋หานมีเงินน้อยกว่าเนี่ยเฟิง
เมืองจินไห่เป็นเมืองอันดับต้นๆ และอสังหาริมทรัพย์ที่นี่มีราคาสูงมากๆ
เพราะเหตุผลนี้ ทำให้การพัฒนาอ่าวนกยูงจึงต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก
ชิวมู่เฉิงมีเรื่องที่ต้องไปจัดการมากมาย ช่วงนี้คางเมิ่งกำลังเตรียมการเรื่องภาพยนตร์ พวกพี่สาวทั้งหมดมีเพียงหมิงอี๋หานที่มีเวลาว่าง
แต่……
“ไม่ได้ เธอไปกับเสี่ยวเฟิงไม่ได้”
ชิวมู่เฉิงส่ายหัว
หมิงอี๋หานอึ้งไปชั่วครู่“เพราะอะไร?”
เป็นเพราะเธอไม่น่าเชื่อถือเหรอ?