พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 400 ให้ความตื่นตระหนกตกใจด้วยความดีใจแก่เขา
ไป๋วู่เหรินฝั่งโน้นได้รับวิธีการติดต่อของเนี่ยเฟิง ดูดั่งสิ่งล้ำค่า เขาระดมกำลังกองทัพที่ยอดเยี่ยมทั่วประเทศทันที ออกคำสั่งว่าจะต้องอยู่ภายในเวลาสั้นที่สุดคัดเลือกนักศึกษาที่เก่งมากที่สุดออกมาสิบคน
และหลังจากข่าวนี้ของไป๋วู่เหรินถูกข้างบนรู้แล้ว ข้างบนดีใจมาก “จะต้องจับฉวยโอกาสให้ดีๆอย่างแน่นอน!”
ทุกคนล้วนรู้ว่านี่หมายความว่าอะไร ตามความจริงเพียงแค่เนี่ยเฟิงยินยอม เขาไม่เพียงแค่สามารถทำให้ประเทศอื่นๆประจบเขาได้ เขายังสามารถทำลายล้างทั้งประเทศ
เนี่ยเฟิงเพิ่งกลับไปไม่นาน ก็ได้รับข่าวของไป๋วู่เหริน ไป๋วู่เหรินบอกกับเนี่ยเฟิงว่า “กองทัพที่ยอดเยี่ยมของพวกเราวันนี้มาถึงแล้ว”
เนี่ยเฟิงก็นึกไม่ถึงความเร็วของพวกเขาถึงขนาดเร็วขนาดนั้นเช่นกัน
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็สอนสักบทเรียนแก่พวกเขาเถอะ
“เที่ยงคืนวันนี้ รวมตัวกันอยู่ท่าเรือเก่าเจียงบิน”
ไป๋วู่เหรินได้รับการชี้บอกของเนี่ยเฟิง ไม่ต้องบอกว่าดีใจขนาดไหน ก่อนหน้านี้เขาได้ตักเตือนพวกผู้ยอดเยี่ยมที่ถูกคัดเลือกออกมาเหล่านี้มาก่อนแล้ว ครูผู้ฝึกที่อบรมพวกเขาล้วนไม่เหมือนกับสมัยก่อนที่ผ่านมา วิธีของเขาเป็นไปได้ว่าอาจจะโหดเหี้ยมทารุณมาก จำเป็นต้องพยายามปรับตัวให้เข้ากันได้และพวกเขาก็เป็นคนที่เคยผ่านสนามรบมาก่อนแล้ว พวกเขาไม่รู้สึกว่านี่มีอะไรเลยสักนิด มีหลายคนที่ถือดีกว่า มีความอยากรู้อยากเห็นเล็กน้อยแล้ว อาจารย์ของพวกเขาตกลงว่าเป็นคนแบบไหนกันแน่
เข้าสู่กลางคืน ในคฤหาสน์ราชาอ่าวหยกเขียว พวกพี่ๆของเนี่ยเฟิงล้วนเข้านอนแล้วเขาเดินออกไปอย่างเงียบสงบ หลังจากออกไปเนี่ยเฟิงใส่หน้ากากอันหนึ่ง
ท่าทางของเนี่ยเฟิงอ่อนช้อยมาก เดินเหินอยู่บนหลังคาได้อย่างคล่องแคล่ว ผ่านไปไม่นานเขาก็มาถึงท่าเรือเก่าเจียงบินแล้ว
“เฟยหลง คุณว่าคนที่มาคนนี้ตกลงว่าเป็นคนแบบไหนกันแน่?”
บนกายของพวกเขาล้วนสวมใส่ชุดฝึกอบรมอยู่ แอบซ่อนอยู่ในความมืด
“ก็ไม่รู้ว่าอาจารย์คนนั้นตกลงว่ามีภูมิหลังอะไรกันแน่ ไม่งั้นพวกเราให้ความตื่นตระหนกตกใจด้วยความดีใจแก่เขาสักหน่อยเถอะ?”
พวกเขาสหพันธ์แข็งแกร่งที่สุดในทั่วประเทศวันนี้ได้พบเจอกันตอนช่วงบ่ายแล้ว ถึงยังไงก็คนเก่งร่วมมือกับคนเก่ง ดังนั้นพวกเขาตั้งชื่อให้กับองค์กรของตนเอง นั่นก็คือสหพันธ์ที่แข็งแกร่งที่สุด
ทั้งเพราะว่าพวกเขาประสบเจอสงครามมานานแล้ว มากน้อยล้วนแบกชีวิตของคนเอาไว้ในมือ ดังนั้นพวกเขาไม่ใช่คนไร้สมองเหล่านั้นเลย จะไม่ถูไถผ่านไป
“ความหมายของคุณคือพวกเราจะดักซุ่มอยู่ที่นี่เหรอ?”
“ท่าเรือเก่าเจียงบินตอนนี้รกร้างแล้ว ดังนั้นกลางคืนดึกๆจะไม่มีคนมาที่นี่อีกทั้งที่นี่ ห่างกันกับครัวเรือนที่ใกล้ที่สุดยังไกลมาก ดังนั้นพวกเรายิงปืนก็จะไม่มีคนได้ยินเช่นกัน แต่ผมแนะนำว่าทุกคนคงอย่าใช้อาวุธร้อนอย่างง่ายดาย อาวุธเย็นจึงเป็นหลัก”
เฟยหลงลูบคางแล้วลูบคางอีก จากนั้นใส่หน้ากากไว้ “ในมือของผมยังมีระเบิดน้ำตา ระเบิดควัน ต่างๆ ผมคิดว่าอุปกรณ์ที่ติดตั้งของพวกคุณไม่แตกต่างกันกับผมเท่าไหร่ ฝ่ายตรงข้ามน่าจะบุกเดี่ยวมา ถ้าเป็นเช่นนี้ งั้นพวกเราอยากให้ความตื่นตระหนกตกใจด้วยความดีใจกับเขาจะไม่ยิ่งง่ายกว่าเยอะเลยเหรอ?”
“เฟยหลง อย่างนี้ไม่ค่อยดีมั้ง?” ชิงเหนี่ยวมีความกังวลเล็กน้อย เธออดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมา
ชิงเหนี่ยวเป็นทหารหญิง หน้าตาสวยงามมาก ถึงแม้ว่าอยู่ในความมืดก็ยากที่จะปกปิดความงามของเธอ
“ผมรู้สึกว่าเฟยหลงพูดถูกมาก ฝ่ายตรงข้ามก็ไม่รู้ว่าตกลงมีภูมิหลังอะไรกัน มีสิทธิ์เป็นอาจารย์ของพวกเราหรือไม่ ถ้าหากแม้แต่อย่างนี้เขาล้วนหลบไม่พ้นละก็ ผมคิดว่าเขาก็ไม่ได้เก่งมากขนาดนั้นอย่างที่ปู่ไป๋พูด”
เสวียนอู่แสยะปากยิ้มหนึ่งที “ไม่เป็นไร พวกเราเพียงแค่เล่นพิเรนทร์เล็กๆเท่านั้น นี่ก็ถือว่าเป็นของขวัญที่ให้พบหน้ากันครั้งแรกด้วย ทุกคนว่าถูกหรือไม่?”
ต่อการอบรมในครั้งนี้แท้ที่จริงคนอื่นๆไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ เพราะว่าพวกเขาคือกองทัพที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่ถูกคัดเลือกออกมา
ผู้ยอดเยี่ยมทั้งหมดในกองทัพทหารที่ยอดเยี่ยมทั่วประเทศล้วนรวมตัวกันอยู่ที่นี่
เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะให้คนคนหนึ่งที่เทียบเท่ากับตนเองไม่ได้มาเป็นครูผู้ฝึกอบรมพวกเขา
“เกิดอะไรขึ้นผมรับผิดชอบก็ได้แล้ว! ใช้วิธีการสู้รบที่เชี่ยวชาญมาโดยตลอดของพวกเราเองไปสู้รบก็พอแล้ว!”
ในพวกเขามีคนมีฝีมือรบประชิด ก็มีการใช้อาวุธเย็นดีเป็นพิเศษ ยิ่งมีคนที่ออกมาจากตระกูลการต่อสู้ ความสามารถของแต่ละคนล้วนไม่เหมือนกัน
พวกเขาซ่อนเร้นอยู่ในความมืดอย่างรวดเร็ว ถึงเวลาเที่ยงคืนพอดี
ในท่าเรือที่อยู่ในความมืดส่งเสียงย่างก้าวที่อ่อนช้อยมาพักหนึ่ง คนทั้งหลายกระตุ้นสติขึ้นมาทันที พวกเขาเห็นเงาคนคนหนึ่งเดินมายังทิศทางของท่าเรือ
เฟยหลงค่อยๆถอนหายใจออกหนึ่งที อาวุธเย็นของเขาใช้ดีเป็นพิเศษ ดาบฟันผีเสื้อด้ามหนึ่งเล่นอยู่ในมือเขาได้หลายลูกไม้
อีกทั้งการต่อสู้รบประชิดของเขาคะแนนดีที่สุด ก็เพราะเช่นนี้นั้นเอง เฟยหลงจึงจะเอ่ยข้อเสนอแบบนี้ออกมา
เนี่ยเฟิงทั้งเดินมาทั้งฮัมเพลงอยู่ เสียงเพลงของเขาไม่แรงมาก พอตั้งใจฟังหน่อยก็สามารถฟังออกได้ว่า เพลงที่เขาฮัมคือ “‘วันมงคล’”
“มาแล้ว!”
ชิงเหนี่ยวเลียริมฝีปากที่แห้งๆเลียแล้วเลียอีก จับปืนไรเฟิลที่อยู่ในมืออย่างแน่น แน่นอนที่ใส่อยู่ในปืนไรเฟิลแท้ที่จริงเป็นกระสุนฝึก นอกจากยิงโดนตาของคน มิฉะนั้นจะไม่เสียหายอะไร
ดวงจันทร์ของคืนนี้ไม่ค่อยดี บนหัวเป็นพระจันทร์ทรงกลด แสงมากมายหลายหลากสาดส่องลงมา สาดส่องคนจนเลือนรางเหลือเกิน
แต่ว่าทิศทางคร่าวๆยังคงรู้อยู่
เฟยหลงยกมือขึ้นมา ให้มือปืนซุ่มยิงคุ้มครองเขาอยู่ข้างหลัง เพียงเห็นเขารูปร่างดั่งปีศาจร้าย ผ่านไปไม่นานก็แอบอยู่ตู้คอนเทนเนอร์ที่อยู่ข้างๆแล้ว
ตู้คอนเทนเนอร์นี้มีสภาพที่เสียหายไปแล้ว แต่เนื่องด้วยตู้คอนเทนเนอร์ใหญ่มาก ดังนั้นสามารถปิดคลุมรูปร่างของเขาไว้ได้
เขามาถึงข้างหลังเนี่ยเฟิงอย่างเงียบสงบ ย่างก้าวของเขาเช่นดั่งแมว ถึงแม้ว่าอยู่ในสนามรบพบเจอกับศัตรู ศัตรูก็สังเกตถึงไม่ได้เช่นกัน
ยิ่งกว่านั้นอีก “ศัตรู” คนนี้ที่อยู่ต่อหน้า ในตอนนี้ยังฮัมเพลงอยู่ล่ะ นี่ยิ่งส่งผลกระทบต่อการวินิจฉัยของเขา!
เพียงเห็นเฟยหลงยกดาบฟันผีเสื้อที่อยู่ในมือขึ้น แทงเข้าไปในลำคอของเนี่ยเฟิงอย่างรุนแรง แต่นึกไม่ถึงก็อยู่ในเวลานี้เงาคนที่อยู่ต่อหน้าเขาถึงขนาดแว็บหนึ่งไม่เห็นแล้ว!
“อะไรนะ?!”
เฟยหลงตกกะใจ และในเวลานี้ชิงเหนี่ยวที่เล็งตรงเนี่ยเฟิงยิงไปแล้ว ดังคำกล่าวที่ว่าไม่มีลูกศรย้อนกลับในคันธนู ชิงเหนี่ยวอยากจะหยุดการยิงก็ไม่ทันแล้ว เพราะว่าทั้งๆที่เธอเห็นเนี่ยเฟิงอยู่ในกล้องติดปืนไรเฟิล ล็อกตำแหน่งที่อยู่ของเนี่ยเฟิงไว้ แต่เนี่ยเฟิงในเวลานี้กลับหายไปจากกล้องติดปืนไรเฟิลแล้ว!
“ปัง!”
กระสุนยิงโดนคนจริงๆ แต่คนที่โดนยิงถึงขนาดเป็นเฟยหลง!
เฟยหลงก็คาดไม่ถึงว่าตนเองถึงขนาดจะถูกจับแล้วเช่นกัน เขาแม้แต่ฝ่ายตรงข้ามล็อกข้อมือของตนเองเอาเขามาเป็นโล่ปิดกั้นได้ยังไง เขาล้วนไม่รู้!
“ถ้าหากไม่ใช่กระสุนฝึก คุณอาจจะตายแล้ว”
เนี่ยเฟิงจับจุดเลือดลมบนข้อมือเฟยหลงหนึ่งที เฟยหลงรู้สึกเพียงว่าข้อมือของตนเองชาไปพักหนึ่ง ชั่วพริบตาเดียวนิ้วมือทั้งห้าไม่มีเรี่ยวแรง และดาบฟันผีเสื้อก็โดนเนี่ยเฟิงแย่งไปเช่นกัน
“ของเล็กน้อยยังแปลกใหม่มาก”
เนี่ยเฟิงแสยะปากยิ้มหนึ่งที จากนั้นจับดาบฟันผีเสื้อในมือไว้ โยนออกไปอย่างรุนแรง
“คว้าก!”
ชั่วพริบตาเดียวเสวียนอู่ตกใจจนเหงื่อท่วมตัว เพราะว่าดาบฟันผีเสื้อเล่มนั้นติดอยู่บนปากปืนของเขา!
ในเวลานี้ เฟิ่งหวง ทูจิ้ว หม่างซือและคนอื่นๆยังดักซุ่มอยู่ในความมืด แต่พวกเขายังไม่ทันที่จะโต้ตอบกลับ ก็ถูกเนี่ยเฟิงจี้เห็นตำแหน่งที่อยู่อย่างชัดเจนแล้ว!
“พวกคุณซ่อนเร้นอย่างนี้เลยเหรอ? นี่ถ้าอยู่ในสนามรบโดนคนเห็นมานานแล้ว”
เนี่ยเฟิงค่อยๆถอนหายใจหนึ่งที จากนั้นปล่อยมือเฟยหลงออก “ผมไม่ใช่เคยบอกกับคนที่แซ่ไป๋มาก่อนแล้วเหรอ? ถ้าจะหาก็หาผู้ยอดเยี่ยมที่สุดมา พวกคุณพวกหัวมังกุท้ายมังกรกลุ่มนี้จะช่วยโลกได้ยังไงล่ะ?”