พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 413 ไม่ต้องให้คุณช่วย
นี่ไม่ทันตั้งตัวจริงๆ พวกเขาไม่แอบวางหมากอยู่บนรถคุณท่าน รถที่ถูกแอบวางหมากถึงขนาดเป็นรถคันหลัง หลอกใช้อัตราที่เป็นไปได้แค่นี้สร้างอุบัติเหตุเหรอ?
“ถ้าเป็นเช่นนี้ละก็โทษพวกคุณไม่ได้จริงๆ งั้นคราวนี้ก็แล้วกันไป สืบให้ชัดเจนว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นใครหรือยัง?”
“พวกเรากำลังสืบหาช่วงเวลานี้คนที่เคยเตะต้องรถเขา มีเพียงช่างคนหนึ่งช่วยซ่อมรถมาก่อน แต่ว่าอู่ซ่อมรถนั้นน่าจะเป็นของปลอม อีกทั้งความสามารถในการป้องกันการตรวจจับของเขาแข็งแกร่งมาก คิดว่าน่าจะเป็นยอดฝีมือในนั้น”
เนี่ยเฟิงลูบคางของตนเองลูบแล้วลูบอีก “เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ พวกคุณไปสืบหาต่อเพิ่มการเฝ้าคุ้มครองต่อฝูยานหรงกับปู่ฝูให้มากขึ้น”
แม้แต่พวกเขาก็สืบไม่ได้เช่นกัน งั้นดูแล้วฝ่ายตรงข้ามเก่งมากจริงๆ
“ใช่!”
เพียงแค่เนี่ยเฟิงฝั่งนี้วางแผนเสร็จแล้ว ฝูยานหรงกลับไม่รับ
“ฉันเคยพูดมาก่อนแล้ว เรื่องของเราเองพวกเราจัดการด้วยตนเอง คุณไม่ต้องเข้าแทรกเข้าร่วม ฉันรู้ว่าคุณย่อมวางแผนคนแอบปกป้องพวกเราแน่นอน แต่อย่างนี้จะทำให้สถานการณ์ของพวกเรายิ่งเพิ่มความลำบากใจอีก ดังนั้นคุณยังคงเก็บมือเลยเถอะ”
ฝูยานหรงกัดริมฝีปากกัดแล้วกัดอีก เมื่อกี้คุณปู่บอกกับเธอมาก่อนแล้ว ให้เธออย่าขับไล่เนี่ยเฟิง แต่ว่าเธอควบคุมตนเองไม่อยู่
“ในเมื่อการคงอยู่ของผมทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจ งั้นผมก็ห่างไกลจากคุณสักหน่อยเถอะ” เนี่ยเฟิงกะพริบตาแล้วกะพริบตาอีก จากนั้นถอยหลังก้าวหนึ่ง
“ไม่ได้หมายความว่าอย่างนี้ ความหมายของฉันคือให้คุณอย่ายุ่งกับเรื่องนี้อีก คุณรู้หรือยัง?”
หลังจากฝูยานหรงพูดจบไสหัวไปเลย ที่นี่มีเนี่ยเฟิงวางแผนยอดฝีมือมากมายปกป้องคุณท่านอยู่ ดังนั้นความปลอดภัยของคุณท่านไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่ว่าฝูยานหรงตอนนี้ยังต้องไปเรียน…..
สภาพการณ์ของเธอยากที่จะจับกุมเล็กน้อย
“พี่เฟิง งั้นเรื่องนี้คุณก็อย่ายุ่งอีกเลย เดี๋ยวผมให้พ่อผมวางแผนคนมาปกป้องเธอสักหน่อย เธออยู่ในโรงเรียนจะไม่เป็นอะไรล่ะ!”
เหลยจ้านรู้ถึงการกระทำเหล่านี้ของฝูยานหรง ทำให้คนเสียใจมากจริงๆเลย ดังนั้นเขารีบเข้าไปพูดปลอบใจเนี่ยเฟิงแบบนี้
“พวกคุณทั้งสองอยู่ห้องเรียนเดียวกันเหรอ?”
อยู่ดีๆเนี่ยเฟิงถามคำถามนี้ ทำให้เหลยจ้านมีการรับมือไม่ทันเล็กน้อย เหลยจ้านงุนงงส่ายหัวแล้วส่ายหัวอีก “พวกเราไม่ได้อยู่ห้องเดียวกัน สาขาวิชาที่พวกเราเรียนล้วนไม่เหมือนกัน เพียงแค่ล้วนเข้าร่วมสมาคมสเก็ตบอร์ดเท่านั้น ทำไมคุณจะถามเช่นนี้ล่ะ?”
ถ้าหากพวกเขาอยู่ห้องเดียวกัน งั้นในตอนต้นเรื่องที่คนแซ่เสี้ยงก่อกวนฝูยานหรงนี้ เขาย่อมรู้แน่นอน
“ในเมื่อไม่ใช่ห้องเดียวกัน งั้นพวกคุณทำไมเล่นอยู่ด้วยกันล่ะ?”
เผชิญหน้ากับการซักถามของเนี่ยเฟิง เหลยจ้านมีความรู้สึกเขินเล็กน้อยลูบหัวของตนเองลูบแล้วลูบอีก “เพราะว่าตอนเรียนมหาวิทยาลัยพวกเราเข้าร่วมสามาคมเดียวกัน นั่นก็คือสมาคมสเก็ตบอร์ดคุณก็ได้เห็นแล้วเช่นกัน คนมากมายอยู่ในสมาคมสเก็ตบอร์ดล้วนไม่ใช่อยู่วิทยาเขตเดียวกัน สิ่งที่ฝูยานหรงเรียนคือวิชาตรวจวัดคนที่อยู่ในห้องพวกเขาน้อยจะตาย สาขาวิชาที่จืดชืดไร้รสชาติขนาดนั้น คนอย่างผมเรียนไม่ได้นะ”
สาเหตุที่ฝูยานหรงเลือกวิชาตรวจวัด เป็นเพราะว่าคุณปู่เธอวางแผนจัดการบริหาร พิพิธภัณฑ์ส่วนตัวแห่งหนึ่ง ข้างในมีวัตถุโบราณมากมาย
“งั้นผมรู้แล้ว”
หลังจากเนี่ยเฟิงพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีกจากไปอย่างสง่าผ่าเผย เหลยจ้านมีความสงสัยงงงวยเล็กน้อยเอียงหัวแล้วเอียงหัวอีกเนี่ยเฟิงแปลกประหลาดมากถามคำถามเหล่านี้กับตัวผมเอง จากนั้นพูดว่าตัวเขาเองว่ารู้แล้ว งั้นเขาตกลงว่ารู้อะไรบ้างกันแน่?
เนี่ยเฟิงกลับถึงโรงแรม โรงแรมนี้เป็นโรงแรมฮอลิเดย์หนานหูของเมืองหนานหู ทั้งเป็นโรงแรมห้าดาวด้วย เป็นกิจการของเขา
แทบจะทุกเมืองล้วนมีกิจการโรงแรมของเนี่ยเฟิง เพราะจะรับรองอย่างจริงแท้ว่าราชามังกรของสำนักมังกรกลับถึงประเทศล้วนมีที่พักได้ทุกเวลาทุกสถานที่
“ช่วยลงทะเบียนให้ผม กลายเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยหนานหู สาขาวิชาก็เลือกเหมือนกับฝูยานหรง”
หลังจากเนี่ยเฟิงสั่งการเสร็จ คางเมิ่งโทรมาหา “ไอ้หนุ่ม แกทำไมไม่เอ่ยสักคำก็ไปแล้วล่ะ? แกรู้ไหมว่าพวกพี่ๆเป็นห่วงแกขนาดไหนล่ะ?”
เนี่ยเฟิงเปลี่ยนน้ำเสียงเอาจริงเอาจังในเมื่อกี้ทันที เอ่ยปากพร้อมรอยยิ้มพูดว่า “เป็นพี่เจ็ดเหรอ? เป็นอย่างนี้ล่ะ ครั้งก่อนผมกลับมาเที่ยวในเมืองหนานหูรู้จักเพื่อนๆที่ดีไม่น้อย พวกเขาอยากจะให้ผมไปเที่ยวเมืองหนานหูหลายวัน เพราะว่าค่อนข้างรีบเร่ง ดังนั้นผมก็ไม่ทันที่จะพูดกับพวกคุณ”
เดิมทีคางเมิ่งมีความโมโหเล็กน้อย แต่คิดดูแล้วเพื่อนของเนี่ยเฟิงไม่เยอะจริงๆ ชวนเขาออกไปเที่ยวมักจะดีกว่าให้เขาอยู่บ้านคนเดียว
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นครั้งนี้ก็ปล่อยแกไปเถอะ แต่ว่าคราวหน้าออกไปจะต้องบอกกับพวกเราสักหน่อยจึงจะได้ จะอยู่ที่นั่นนานขนาดไหนล่ะ?”
คางเมิ่งถือโอกาสสืบสวนสักหน่อย
เนี่ยเฟิงก็บอกไม่ถูกว่าจะอยู่นานขนาดไหนเช่นกัน แต่ว่าฝ่ายตรงข้ามย่อมยังจะทำการจู่โจมอีกครั้งอย่างแน่นอน ถึงเวลานั้นเพียงแค่จับเบาะแสของพวกเขาไว้ สืบตามเบาะแสหาคนออกมาได้จัดการไปเลยก็พอแล้ว ตามความจริงพวกเขายังคงพุ่งเป้ามาหาตนเองอยู่
“น่าจะอยู่อาทิตย์กว่าๆมั้ง พี่เจ็ดคุณช่วยผมพูดกับพวกพี่ๆสักหน่อยดีไหม?”
“ในเวลานี้นึกถึงฉันแล้วเหรอ? ฮึ! งั้นฉันก็ช่วยแกบอกกล่าวสักหน่อยเถอะ แต่ว่าแกต้องจำไว้แกติดหนี้บุญคุณฉันครั้งหนึ่งนะ!”
เนี่ยเฟิงมีความหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้เล็กน้อย นิสัยของคางเมิ่งยังคงเช่นดั่งเด็ก แต่ว่านี่ก็ไม่เลวเช่นกัน
พวกพี่ๆฝั่งโน้นเนี่ยเฟิงกลับไม่ต้องเป็นห่วง เพราะว่าปัจจุบันนี้คนเหล่านี้ยังสืบไม่ถึงบนกายของพวกเธอ อีกทั้งเนี่ยเฟิงก็วางแผนยอดฝีมือหลายคนปกป้องพวกเธออยู่
เพียงแค่พวกเขาอยู่ด้านสว่างศัตรูอยู่ด้านมืด เป็นไปได้มากจะถูกศัตรูจู่โจมก็ไม่แน่
ไอ้คนกลุ่มนี้ช่างจำแต่สิ่งที่ดีแต่ลืมตอนที่ทุกข์จริงๆ ถ้าเป็นเช่นนี้งั้นเขาก็ไม่ต้องเกรงใจแล้วเช่นกัน ตัดสินใจแก้ปัญหาอย่างรวดเร็วเฉียบขาดโดยตรง ขุดรากถอนโคนคนกลุ่มนี้ โจมตีสหพันธ์ของพวกเราทั้งหมดอย่างเรี่ยราด ทำให้พวกเขาไม่สามารถทำชั่วอีก
ช่วงบ่าย ฝูยานหรงยังต้องไปเรียน อารมณ์ของเธอมีความไม่ดีเล็กน้อย เดิมทีคิดว่าจะลาไปอยู่เป็นเพื่อนคุณปู่ แต่คุณปู่ตบขาของตนเองพูดว่า “ผมเพียงแค่ขาหักข้างหนึ่งก็ไม่ได้เสียชีวิตสักหน่อย แกจะอยู่ที่นี่ทำอะไรล่ะ? นักศึกษาก็ต้องมีลักษณะท่าทีที่นักศึกษาควรมี ไปเรียนให้ดีๆ รู้หรือยัง?”
นิสัยของฝูหลังตงกับฝูยานหรงทั้งสองคนล้วนดื้อรั้นมากไม่ต่างกัน แต่ว่ายังคงเป็นฝูยานหรงที่พ่ายแพ้แล้ว ถึงยังไงเธอก็เป็นเด็กผู้หญิงที่ดีรู้จักเคารพนับถือผู้ใหญ่รักเอ็นดูต่อเด็ก
ก็อยู่ตอนที่ฝูยานหรงใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเปิดอ่านหนังสือที่อยู่ในมืออยู่ อาจารย์ที่ยืนอยู่หน้ากระดานพูดกับพวกนักศึกษาที่อยู่ข้างล่างว่า “วันนี้ห้องเรียนของเรามีนักศึกษาที่ย้ายมาใหม่ ขอให้ทุกคนปรบมือต้อนรับ”
ฝูยานหรงขมวดคิ้วแล้วขมวดคิ้วอีก ในใจคิดว่าในเวลานี้จะมีนักศึกษาย้ายมาใหม่ได้ยังไง
เธอตบมือแล้วตบมืออีกอย่างขอไปที จากนั้นเงยหน้าขึ้นจ้องมองไปยังหน้าประตู เพียงเห็นเงากายเงาหนึ่งค่อยๆเดินเข้ามา
บนกายของฝ่ายตรงข้ามสวมใส่ชุดลำลองสีเทาอยู่ ดูแล้วสดใสเหลือเกิน เขาพายกระเป๋าสะพายข้างใบหนึ่ง ข้างในก็ไม่รู้ว่าใส่อะไรบ้าง เพียงแค่เห็นรอยยิ้มเขาที่สวยสดงดงามพูดว่า “สวัสดีอาจารย์ สวัสดีพวกเพื่อนๆ ชื่อของผมเรียกว่าเนี่ยเฟิง! วันหลังก็คือนักศึกษาวิชาตรวจวัดแล้ว ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วย”
ฝูยานหรงตื่นตกใจอย่างมาก เธอเบิกตาโพลง ยากที่จะเชื่อจ้องมองเนี่ยเฟิงที่อยู่หน้ากระดาน
ฝูยานหรงรู้จักเส้นสนกลในของเนี่ยเฟิงอยู่แล้ว เขาเป็นราชามังกรของสำนักมังกร บุคคลที่หมื่นๆคนเลื่อมใสศรัทธา ผู้นำของประเทศอีกมากมายล้วนมาประจบเขา
เขายากลำบากอยู่ข้างนอก ประสบเจอสงครามที่น่ากลัวขนาดนี้ในสนามรบมาก่อน ความรู้ที่เขายึดกุมไว้ทั้งหมดยิ่งสลับซับซ้อนละเอียดกว่าพวกเขานักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งนี้ คนที่เหมือนอย่างเขาไม่จำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติมเลยสักนิดล่ะ