พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 420 งัดข้อ
“ใช่! ลูกพี่ ก็คือไอ้คนนี้! คุณจะต้องสั่งสอนๆเขาให้ดีๆ!”
ในเวลานี้ตู้เจิ้งเอินกำลังยืนอยู่ข้างกายของพี่ลายสักเขียวคนนี้ เมื่อกี้เขาล้มคว่ำหน้าอยู่กับพื้น ขายหน้าไปหมด เขาก็สนใจมากขนาดนั้นไม่ได้แล้ว ปัจจุบันนี้แค่อยากจะทำให้เนี่ยเฟิงตาย!
“ตู้เจิ้งเอิน! คุณคิดจะทำอะไรเหรอ? ที่นี่เป็นบริเวณโรงเรียนนะ”
ฝูยานหรงเห็นคนมากมายขนาดนั้น ก็ได้รับความตกใจไม่เบาเช่นกัน แต่ว่าเธอก็เคยเห็นสถานการณ์ใหญ่มาก่อนแล้วเช่นกัน ดังนั้นไม่นานก็นิ่งลงมาแล้ว
เหลยจ้านก็รู้สึกว่าตนเองถูกคนกลุ่มนี้ขู่ขวัญจนกลายเป็นลักษณะแบบนี้ขายหน้ามาก ต้องรู้ว่าในตอนนี้บ้านของพวกเขาเป็นสมาคมต่อสู้ที่ใหญ่ที่สุดแห่งเมืองหนานหูนะ!
“พวกคุณรู้ว่าผมเป็นใครไหม? ก็มาแส่หาเรื่องอยู่ที่นี่ล่ะ? ผมคือเหลยจ้าน พ่อผมเหลยเทียน! อาผมเหลยเป้า! ประธานสมาคมการต่อสู้แห่งเมืองหนานหูเป็นอาจารย์ผมเนี่ยเฟิง!” เหลยจ้านพูดอยู่ยืดอกขึ้นมา
“เจ้าตัวเล็กช่างโอหังมากนะ?” ลูกพี่คนนำหัวเราะเย็นชาเสียงหนึ่ง “ถุ่ย” หนึ่งทีคายไม้จิ้มฟันออกจากปาก
พูดตามหลัการ ก็ไม่ใช่แค่ไม้จิ้มฟันไม้หนึ่งเหรอ? โดยทั่วไปมักจะไม่มีอานุภาพอะไร แต่ว่าในตอนนี้ไม้จิ้มฟันไม้นี้ถึงขนาดพุ่งไปยังตาของเหลยจ้านแล้ว
เหลยจ้านหลบไม่พ้นแน่เลย!
เร็วอย่างเหลือเชื่อ เนี่ยเฟิงยื่นมือออกมาฉับพลันในทันที นิ้วทั้งสองคีบไม้จิ้มฟันไม้นั้นไว้ “วิธีการเหี้ยมโหดขนาดนั้นเหรอ?”
ลูกพี่คนนำยักคิ้วหนึ่งที “แฮ่โย! น่าสนใจ! ไอ้หนุ่มคุณมีความน่าสนใจนิดหน่อยนะ!” เห็นเพียงลูกพี่คนนั้นเดินเข้ามา ในตอนนี้เหลยจ้านมีความสั่นเทิ้มเล็กน้อยหลีกออกจากที่ให้ เดินไปยังข้างกายเนี่ยเฟิงกับฝูยานหรง
การสักลายของลูกพี่คนนำคนนั้นสักถึงคอโดยตรง บนหน้าผากยังมีตาของฟ้าดวงหนึ่ง ดูแล้วร้ายกาจมาก
เขานั่งลงเช่นดั่งภูเขาเล็กๆลูกหนึ่ง เสื้อกล้ามที่สวมใส่อยู่บนกายฟิตมาก เขาแจ่มแจ้งห้าวหาญมีพลังมากเลย
“คุณช่างน่าสนใจมากนะ”
ลูกพี่คนนำใช้สายตาที่อันตรายจ้องมองเนี่ยเฟิง เขานึกไม่ถึงว่าความเร็วในปฏิกิริยาของเนี่ยเฟิงจะเร็วขนาดนั้น
เนี่ยเฟิงทิ้งไม้จิ้มฟันนั้นไว้ข้างๆอย่างสบาย
“อย่าพูดจาไร้สาระเลย ไม่ใช่มาแส่หาเรื่องเหรอ? รีบรบรีบจบ อาหารของพวกเรายังไม่ทำออกมาล่ะ”
ประเด็นหลักคือเมื่อกี้เหลยจ้านชื่นชมอาหารที่เถ้าแก่ทำว่าอร่อยมากมาโดยตลอด เนี่ยเฟิงก็มีการเฝ้ารอคอยเล็กน้อยแล้ว ใครจะรู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง คนกลุ่มนี้มาก่อเรื่องถึงแผงขายอาหารข้างทาง ทำให้เถ้าแก่ล้วนรู้สึกถึงความหวาดกลัว งั้นเป็นไปได้ยังไงที่เขายังจะกล้าทำอาหารต่อล่ะ?
“น่าสนใจ! น่าสนใจจริงๆ!”
สายตาของลูกพี่คนนำกลายเป็นบ้าบิ่นขึ้นมาแล้ว
“ลูกพี่ อย่าพูดเรื่อยเปื่อยกับเขาอีกเลย รีบจัดการเขา!”
ในตอนนี้ตู้เจิ้งเอินนึกถึงที่ตนเองขายหน้าอยู่ต่อหน้าเพื่อนร่วมชั้นมากมายขนาดนั้น เขาก็รู้สึกกระหืดกระหอบ!
“ใช่ บัญชีนี้ยังต้องคิดนะ มา! คิดบัญชี!”
ลูกพี่คนนำพูดอยู่ ชี้ไปที่โต๊ะชี้แล้วชี้อีก “ผมเห็นความเร็วในปฏิกิริยาของคุณก็ไม่เลวมากนะ ผมชื่นชมคุณมาก ดังนั้นผมให้โอกาสคุณ งัดข้อกับผม เป็นยังไงล่ะ?”
เนี่ยเฟิงจ้องมองแขนของลูกพี่คนนำ เกือบจะเท่าตัวเขา มือข้างนั้นใหญ่มาก ใหญ่ล่ำมากกว่าขาของเนี่ยเฟิง
แต่ว่า……
“ได้สิ พูดเถอะ เงื่อนไขอะไรเหรอ?”
เนี่ยเฟิงไม่หวาดกลัวสักนิด
“พี่เฟิง……”
เหลยจ้านกลืนน้ำลายหนึ่งทีอย่างลำบาก เขาย่อมรู้ว่าความเร็วของเนี่ยเฟิงเร็วมากอยู่แล้ว อีกทั้งแรงระเบิดแข็งแกร่งมาก แต่ว่างัดข้อนี่ไม่ใช่แรงระเบิดแข็งแกร่งก็จะได้แล้ว
ฝ่ายตรงข้ามรูปร่างสูงใหญ่ เนี่ยเฟิงอาจจะยังไม่ทันรวมพลังล่ะ ก็ถูกเตะลงจากหลังม้าแล้ว
“เจ้าตัวเล็ก คุณหุบปากเลยดีกว่า จู้ๆจี้ๆอีก ผมก็จะจัดการคุณเลย!”
ลูกพี่คนนำเหลือบมองเหลยจ้านหนึ่งที ที่ไหนเหลยจ้านจะกล้าพูดอีกล่ะ? เขาได้เพียงแต่รู้สึกเสียหน้าหุบปากไปเลย แต่ว่าตากลับกังวลเหลือเกินจ้องมองเนี่ยเฟิง
แม้แต่ฝูยานหรงก็รู้สึกว่านี่อันตรายแน่ๆ ในใจเธอแอบคิดอยู่ว่าตู้เจิ้งเอินไอ้คนนี้ช่างเจ้าเล่ห์จริงๆ ถึงขนาดเรียกบุคคลในสังคมมาเสริมกำลัง! มากเกินไปแล้ว!
“ผมชอบพูดคุยกับคุณ เพราะว่าไอ้หนุ่มคุณตรงไปตรงมา! เป็นสิ่งที่ผมชอบ! แต่ว่าชอบส่วนชอบ คุณรังแกคนของผม ผมจะไม่ปล่อยคุณไปอย่างเด็ดขาด ในเมื่อคุณเป็นคนทำร้ายน้องชายบุญธรรมของผม งั้นผมก็ให้น้องชายบุญธรรมของผมบอกว่าจะลงโทษคุณยังไง”
ลูกพี่คนนำพูดจบเชิดคางแล้วเชิดคางอีก จ้องมองไปยังตู้เจิ้งเอิน
ตู้เจิ้งเอินขบเขี้ยวเคี้ยวฟันพูดว่า “นั่นยังต้องพูดเหรอ? ย่อมตีให้ขาเขาหักแน่นอน! ให้เขาไม่สามารถเล่นบาสได้ตลอดกาล!”
“มากเกินไปแล้วมั้ง!” ฝูยานหรงโมโหแทบตาย เธอออกหน้าแทนเนี่ยเฟิง
“ไอ้โย เมื่อกี้ผมไม่ได้สังเกตเห็น ถึงขนาดยังมีสาวสวยคนหนึ่ง หน้าตาสวยนะ!” ลูกพี่คนนำยิ้มอึมครึมหนาวเย็นอยู่ จ้องมองฝูยานหรง
ฝูยานหรงถูกมองจนขนลุกทั้งตัว เธอกัดฟันหลังกัดแล้วกัดอีก “พวกคุณมีสิทธิ์อะไรตีขาคนอื่นจนหักล่ะ? พวกคุณถือว่าเป็นใครกัน!”
“ดีมาก วัยรุ่นในปัจจุบันนี้กล้าหาญมากจริงๆ มา บอกกับพวกเขาว่าพวกเราเป็นใคร”
ลูกพี่คนนำรู้สึกน่าขำมาก ถูกยั่วยุก็รู้สึกแปลกใหม่มากเช่นกัน
“มองให้ชัดเจนเลย! คนนี้เป็นลูกพี่รองของแก๊งเสือเถื่อน! เป็นพี่ชายบุญธรรมของผม!”
สีหน้าของเหลยจ้านซีดขาวทันที! แก๊งเสือเถื่อนเป็นแก๊งที่ใหญ่ที่สุดของพวกเขาที่นี่ อำนาจอิทธิพลใต้ดินนี้ยอดเยี่ยมมาก ใครล้วนไม่กล้าไปยุ่ง มองโดยทั่วไปไนต์คลับ สถานบันเทิงในทั้งเมืองหนานหูล้วนเป็นกิจการของพวกเขาแก๊งเสือเถื่อน
ถ้าหากว่าล่วงเกินแก๊งเสือเถื่อนแล้วจะเลวจนไม่อยากจะไปนึกถึง
มิน่าตู้เจิ้งเอินเขาจึงกล้าหยาบคายไร้เหตุผลล่ะ ที่แท้เบื้องหลังมีผู้อยู่เบื้องหลังแบบนี้!
“แก๊งเสือเถื่อนเหรอ? ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน”
เนี่ยเฟิงไม่เคยได้ยินมาก่อนจริงๆ ประเด็นหลักคือแก๊งเล็กๆที่ไร้ชื่อเสียงเหล่านี้เขาไม่มีความสนใจที่จะไปทำความเข้าใจ
“ไอ้หนุ่ม คุณยั่วยุผมอยู่เหรอ?”
ลูกพี่คนนำทำตายี๋แล้วทำตายี๋อีก แรงพลังอันตรายที่อยู่นัยน์ตาทั้งคู่ของเขาล้วนล้นออกมาแล้ว
“คุณก็เห็นคุณค่าของตนเองมากไปแล้ว” เนี่ยเฟิงยักไหล่แล้วยักไหล่อีก “การพนันที่คุณบอกผมรับปากแล้ว ถ้างัดข้อผมแพ้แล้วผมก็ยินยอมถูกพวกคุณตีขาทั้งคู่หัก แต่ว่าถ้าพวกคุณแพ้แล้วล่ะ? คุณจะทำยังไงเหรอ?”
“ยังเป็นครั้งแรกที่มีคนกล้าพูดเช่นนี้กับผม แปลกใหม่จริงๆ!”
เขาจะแพ้เหรอ? ล้อเล่น!
“ช่างเถอะ ผมก็ไม่พูดจาไร้สาระกับคุณแล้ว ถึงยังไงคุณก็รับมือผมไม่ไหว ถึงเวลานั้นผมพูดอะไรก็จะไม่ใช่เป็นอย่างนั้นเหรอ”
เนี่ยเฟิงพูดอยู่ ปรับท่านั่งสักหน่อย เห็นเพียงข้อศอกเขาติดอยู่บนโต๊ะ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งจับข้างโต๊ะไว้
ตู้เจิ้งเอินเห็นเนี่ยเฟิงวางท่าทางออกมา อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะ ต้องรู้ว่านี่เป็นผู้ชายที่มีแรงพลังเช่นดั่งหมี ดังนั้นคนของมาเฟียก็เรียกเขาว่าพี่หมีเช่นกัน
แรงพลังของพี่หมีไม่มีคนเทียบเท่าได้ เขาสามารถใช้มือเปล่าชกทะลุกำแพงได้!
“ได้ ไอ้หนุ่ม คุณกล้าพอ!”
บนใบหน้าของพี่หมีปรากฏรอยยิ้มที่โหดเหี้ยมออกมาหนึ่งที เขาก็วางท่าทางออกมาเช่นกัน มือของคนทั้งสองจับไขว้อยู่ด้วยกัน
“อ่า ใช่แล้ว ต้องมีกรรมการตัดสินสักคน ผู้หญิงที่อยู่ฝั่งโน้นเข้ามาหน่อย”
พี่หมีกวักมือแล้วกวักมืออีกต่อเถ้าแก่เนี้ยที่หลบอยู่ข้างๆ เถ้าแก่เนี้ยตกใจจนตัวสั่น เธอไม่กล้าเข้าไป ลูกน้องของพี่หมีถึงขนาดเข้าไปลากตัวเข้ามาโดยตรง ทั้งยังกระชากผมด้วย
เส้นผมที่ถูกกระชากของเถ้าแก่เนี้ยสยายออก เธอได้รับการขู่ขวัญแล้ว
คิ้วของเนี่ยเฟิงค่อยๆขมวดขึ้นมา
“บำรุงได้ไม่เลวนะ! คืนนี้ติดตามผมเลยเถอะ?”
เถ้าแก่เนี้ยส่ายหัวอย่างสั่นระริกๆ
“อย่าพูดจาไร้สาระ” เนี่ยเฟิงตัดคำพูดพี่หมี “เถ้าแก่เนี้ย อีกสักครู่คุณก็แค่พูดว่า เริ่มเลย ก็พอ”
เถ้าแก่เนี้ยตกใจจนหน้าซีดแล้ว เธอรู้สึกว่าคำพูดล้วนติดอยู่ในคอพูดไม่ออก
“เริ่ม……”
“ปัง!” คำของเถ้าแก่เนี้ยยังพูดไม่ครบ โต๊ะที่อยู่ต่อหน้าเธอก็ถูกทุบแตกเป็นเสี่ยงๆแล้ว!