พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 436 ความจริง
หยูจิงหงไม่รู้เหมือนกันว่าจะอธิบายกับเนี่ยเฟิงอย่างไร เนี่ยเฟิงเหมือนครีมหนังวัว เกาะติดกับร่างกายของตนเอง ไม่ว่าจะสลัดอย่างไรก็สลัดไม่ออก
“นายทำแบบนี้มันอันตรายมากเลยนะ ภารกิจของฉันมีความยากมาก ถ้านายติดตามฉันไป ถึงเวลานั้นถ้าที่อยู่ถูกเปิดเผยขึ้นมาจะทำยังไง?”
หยูจิงหงทำได้เพียงค่อยๆโน้มน้าว
“ไม่ได้นะครับ ไม่ว่าพี่สองจะพูดอะไรผมก็ไม่ฟังทั้งนั้นแหละ อีกฝ่ายร้ายกาจขนาดนั้น แต่พี่มีแค่ตัวคนเดียว ปล่อยให้พี่ไป งั้นพี่ก็ตกอยู่ในอันตรายไม่ใช่เหรอ?เพราะฉะนั้นผมต้องติดตามไปเพื่อปกป้องความปลอดภัยของพี่!”
เนี่ยเฟิงพูดจบก็ตบหน้าอกของตัวเอง แววตาไร้ซึ่งความหวาดกลัว
หยูจิงหงอดที่จะกุมหน้าผากของตัวเองไม่ได้ เวลานี้เบื้องบนส่งข้อความให้เธอแล้ว
“เนี่ยเฟิงอยู่ด้วยเหรอ?”
หยูจิงหงคิดไม่ถึงว่าเบื้องบนจะรู้เรื่องนี้แล้ว เธอจึงรีบตอบกลับไปว่า“ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะฉันจะจัดการเอง อีกทั้งเขาจะไม่มีทางทำให้เรื่องถูกแพร่งพรายออกไป”
“คุณทำภารกิจกับเขาเถอะ!”
หยูจิงหงถึงกับสงสัยว่าเธอตาฝาดไปรึเปล่า พวกเขาคิดอย่างไร?ทำไมถึงปล่อยให้เนี่ยเฟิงเข้าร่วมด้วย นี่เป็นการกระทำที่อันตรายมาก!
“ไม่ได้!”
“เนี่ยเฟิงเป็นคนมีพรสวรรค์คู่ควรแก่การฝึกฝน ก่อนหน้านี้ให้คุณพาเขาเข้ามาเยี่ยมชมในกองทัพ ทักษะการใช้ปืน สมรรถภาพและจิตสำนึกของเขาเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่น่าเสียดายที่เขาไม่มีความคิดที่จะเข้าร่วมกับกองทัพ แต่เขาบอกแล้วว่า ขอเพียงแค่ตราบใดที่มีตรงไหนที่เขาสามารถช่วยได้ ก็ให้สั่งมาได้เลย ตอนนี้เป็นเวลาที่ได้ใช้ประโยชน์จากเขาสักที”
“แต่นี่มันไม่สมเหตุสมผลเลยนะคะ!”
“เพื่อนร่วมทีมคนหนึ่งที่คุณคุ้นเคยและเชื่อใจ สามารถช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์เป็นสองเท่าโดยใช้ความพยายามเพียงครึ่งเดียว!”
หยูจิงหงต้องปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเด็ดขาด หลังจากที่เห็นข้อความแล้ว เธอจึงอดที่จะถอนหายใจออกมาไม่ได้ หลังจากนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นมองไปยังเนี่ยเฟิง ซึ่งเนี่ยเฟิงกำลังจ้องมองเธออยู่
“งั้นนายปฏิบัติภารกิจกับฉันแล้วกัน แต่นายต้องจำไว้ว่าขณะปฏิบัติภารกิจ นายต้องฟังฉัน ห้ามทำงานโดยใช้อารมณ์ เข้าใจไหม?”
เนี่ยเฟิงรีบพยักหน้า หลังจากนั้นเขาก็หยิบกระดาษเช็ดปากยื่นส่งให้เธอ“พี่สอง พี่เช็ดคราบน้ำตาตรงหางตาก่อนเถอะ!”
หยูจิงหงรีบเช็ดทันที ขณะนี้จุดนี้ในสนามบินถูกเปิดเผยแล้ว พวกเขาก็รู้ว่าตัวตนของพวกเขาไม่อาจปิดได้นาน เกรงว่าจะต้องทำการซื้อขายให้แล้วเสร็จภายในสองวันนี้ หลังจากนั้นก็รีบจากไป
“ไม่ต้องรอที่สนามบินต่อแล้ว เราไปโรงแรมที่จองก่อนเถอะ ตามฉันมา”
หลังจากที่หยูจิงหงพาเนี่ยเฟิงออกมาพร้อมกัน พวกเขาก็พากันไปโรงแรมที่จองกันไว้แล้ว หลังจากที่มาถึงโรงแรมหยูจิงหงก็รีบเข้าไปอาบน้ำก่อน บนเสื้อผ้าและร่างกายของเธอเต็มไปด้วยกลิ่นของแก๊สน้ำตา
ผมของหยูจิงหงอาจกล่าวได้ว่าสั้นที่สุดในบรรดาพี่น้องทุกคนแล้ว เธอเข้าร่วมกับกองทัพ ดังนั้นผมที่ยาวจึงกลายเป็นภาระ
แต่เป็นเพราะผมที่สั้นมาก ดังนั้นจึงเผยให้เห็นสัดส่วนรูปหน้าของหยูจิงหงชัดเจน
คิ้วของเธอหนามาก ดวงตากลมโต ขนตายังงอนยาวอีกด้วย ใบหน้างดงามผิวขาวเรียนเนียน ถึงแม้จะทำการฝึกภายนอกจะต้องดำคล้ำและไหม้แดดแค่ไหน พอผิวกายของเธอลอกออก ก็จะเป็นเหมือนเปลือกไข่ถูกปลอกออก
สิ่งนี้ทำให้คางเมิ่งรู้สึกอิจฉาเธอมาก และมักจะพูดถึงการที่พี่สองสามารถขาวมากได้โดยไม่ต้องใช้ครีมกันแดด
หยูจิงหงเช็ดผมอยู่ครู่หนึ่ง ผมสั้นยังคงเปียกเล็กน้อย
“ข้อมูลที่ฉันเอาให้นายดูจบแล้วใช่ไหม นี่คือภารกิจที่เราจะทำกันในครั้งนี้ หลังจากที่ดูข้อมูลพวกนั้นจบแล้วก็จัดการทิ้งซะ”
ก่อนที่หยูจิงหงจะเข้าไปอาบน้ำเธอได้เปิดลิ้งก์ในโทรศัพท์ให้เนี่ยเฟิง เดิมทีเนี่ยเฟิงความจำดีมากอยู่แล้ว เขาล้มลง หลังจากนั้นก็ปิดลิ้งก์ ภารกิจที่พวกเขาทำในครั้งนี้คือจับคนสอดแนมจากตงหยิง
“ข่าวที่พวกเราได้รับคือพวกเขามากันสองคน นั่นก็คือผู้หญิงสองคนนั้นที่เราต่อสู้ด้วย แต่คิดไม่ถึงว่าจะมีนักดาบอีกสามคน ตัวตนของพวกเขาบริสุทธิ์ ดังนั้นพวกเขาจึงผ่านระบบเฝ้าระวังของเราได้อย่างง่ายดาย แต่พอคนของเราเข้าไปตรวจสอบ กลับพบว่าพวกเขาคือกลุ่มเดียวกัน”
ในตอนที่หยูจิงหงเข้ามาใกล้ เนี่ยเฟิงได้กลิ่นพิเศษบนร่างกายของเธอ ค่อนข้างใสบริสุทธิ์ เหมือนกับป่าไผ่ที่ผ่านการฝนตกมาแล้ว
“ตอนนี้เราต้องควบคุมพวกเขาให้ได้ แต่ตอนนั้นฉันคิดว่าฉันแหวกหญ้าให้งูตื่นไปแล้ว……”
หยูจิงหงขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด“เรื่องนี้เป็นความผิดของฉัน”
“โทษพี่สองไม่ได้หรอกครับ เพราะในข่าวบอกว่ามีผู้หญิงแค่สองคน ตอนนั้นเป็นโอกาสที่ดีที่สุดจริงๆนั่นแหละ ตอนนี้มีผู้หญิงหนึ่งคนถูกพวกเรายิงตายไปแล้วคนหนึ่ง ผู้หญิงอีกคนกับนักดาบสามคน เราต้องหาสี่คนนั้นให้เจอ เป้าหมายที่พวกเขามาที่เมืองหยางเฉิงคืออะไร?”
ถ้าคนเหล่านี้คือคนสอดแนม งั้นพวกเขาก็ต้องขโมยของบางอย่างถูกไหม?
“เป้าหมายของพวกเขาคือยาห้ามใช้”
หยูจิงหงเหลือบมองไปที่เนี่ยเฟิง หลังจากนั้นก็ค่อยๆพูดออกมาว่า“นายเป็นน้องชายและเป็นสหายร่วมรบของฉัน ดังนั้นเล่าให้นายฟังก็ไม่มีอะไร ยาห้ามใช้มันปรากฏขึ้นตั้งแต่เมื่อสิบปีที่แล้ว เมื่อประเทศของเราจับนักวิทยาศาสตร์ที่ทำการทดลองในมนุษย์ได้ พวกเขาทำการวิจัยยาที่เสริมสร้างร่างกายให้แข็งแกร่ง ซึ่งอันที่จริงแล้วตอนนี้เราเรียกมันว่ายาห้ามใช้”
ยาพวกนี้มีส่วนผสมที่แปลกมาก ถ้าหากร่างกายของมนุษย์ไม่สามารถรับไหว หัวใจก็จะวายตาย และคนที่ได้รับยาต้องห้ามนี้ เลือดของพวกเขาจะค่อยๆกลายเป็นสีม่วง อีกทั้งจะไม่รับรู้ถึงความเจ็บปวด
“มันเกี่ยวพันกัน เพราะร่างกายไม่สามารถแบกรับไว้ ดังนั้นพวกเขาจึงทำในสิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปไม่สามารถทำได้ ยกตัวอย่างเช่นการเคลื่อนไหวของพวกเขาเร็วมาก พละกำลังของพวกเขาก็มากเช่นกัน เหมือนกับเป็นความสามารถเหนือธรรมชาติ”
“ฟังไปแล้วเหมือนน่ากลับมาก!”
ข่าวของพวกเขามีความตรงกัน นั่นก็คือคนทดลองยา
“ถึงแม้พวกเขาจะจับกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ได้ แต่องค์กรดังกล่าวอาจพบได้ทั่วประเทศ ด้วยเหตุนี้เราจึงทำการสืบอย่างลับๆ แค่พวกเขาหายเข้ากลีบเมฆ เวลาผ่านไปพวกเขาก็ไม่ปรากฏให้เห็นอีกเลย อันที่จริงเราพบว่าพวกเขามีการทดลองมนุษย์เพราะมีกลุ่มเด็กกำพร้าเป็นตัวทดลองยา……พวกเขาได้รับการตรวจร่างกาย”
หยูจิงหงพูดถึงตรงนี้แล้วมองไปที่เนี่ยเฟิง“คุณเนี่ยเจิ้งสร้างสัมพันธ์ที่ดีและมั่นคงกับผู้อื่น จัดตั้งโรงเรียนประถมศึกษา สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า สถานสงเคราะห์และอื่นๆมากมาย ตอนนั้นคุณเนี่ยเจิ้งได้ทำการปรับปรุงสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ค่อนข้างทรุดโทรม ต่อมาพอเห็นเด็กกำพร้าพวกนี้แล้ว แววตาของพวกเขาพร่ามัว หน้าซีดตัวเหลืองผอมแห้ง คุณเนี่ยเฟิงกับคนอื่นๆจึงเป็นกังวลว่าเด็กเหล่านี้อาจเป็นโรคติดต่อบางอย่าง จึงใช้เงินเป็นจำนวนมาก เชิญโรงพยาบาลและหมอเข้าทำการตรวจร่างกายของพวกเขา และเป็นเพราะการตรวจร่างกายในครั้งนี้เผยให้เห็นองค์กรที่น่ากลัวอย่างการทดลองร่างกายมนุษย์……”
เนี่ยเฟิงตกตะลึง“พ่อของผมเป็นคนทำ?เรื่องนี้ทำไมผมถึงไม่รู้?”
“เพราะการทดลองร่างกายมนุษย์มันชั่วร้ายเกินไป ข่าวจึงถูกบล็อกในทันที คุณเนี่ยเจิ้งก็รู้ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ กลุ่มนักธุรกิจธรรมดาที่รู้เรื่องนี้ได้ลงนามในข้อตกลงกับกองทัพ อันที่จริงฉันได้สัมผัสกับการทดลองที่น่ากลัวนี้กับร่างกายมนุษย์หลังจากเข้ากองทัพ ฉันถึงพึ่งรู้เรื่องนี้”
ดังนั้นหยูจิงหงจึงชื่นชมเนี่ยเจิ้งมาก อีกทั้งยังเคารพเกรงใจอีกด้วย
ตอนนั้นเนี่ยเฟิงคิดว่าพ่อแม่ของตัวเองไปขัดผลประโยชน์ทางธุรกิจของคนจำนวนมาก นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมพวกเขาถึงได้รับอันตรายจากคนเหล่านั้น ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะมีอะไรมากกว่านั้น