พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 44 โดนอัดจนน่วมเป็นหมูตอน
ตอนที่44 โดนอัดจนน่วมเป็นหมูตอน
ลิซานเผ้าฝืนกลืนน้ำลายลงคอ เขาถอยหลังตัวหัดไปหนึ่งก้าว นึกว่าสองพี่น้องนี้จะบี้ด้วยมือได้ง่ายๆ แต่นึกไม่ถึงว่าเนี่ยเฟิงเพียงคนเดียวก็คว่ำคนไปเกือบ200คน!
อย่างที่รู้คนพวกนี้ฝึกฝนการต่อสู้ แล้วในมือก็มีอาวุธ ในสถานการณ์เช่นนี้สุ่มคนไม่กี่คน ก็สามารถซัดชายวัยกลางคนปางตายได้
แต่คนที่ถูกซัดหมอบปางตายกลับกลายเป็นพวกเขา!
ลิซานเผ้าเห็นท่าไม่ดี คิดจะใส่เกียร์หนี!
“คุณคิดจะไปไหนเหรอ? ผู้อำนวยการลิ”
“ปัง!” ประตูห้องปิดลงในพริบตา ลิซานเผ้าออกแรงเปิดประตูสุดกำลัง แต่ประตูบานนั้นเหมือนถูกมือที่ไม่มีตัวตนดึงเอาไว้ ไม่สามารถผลักออกได้!
เนี่ยเฟิงเหมือนปีศาจร้ายจากขุมนรก เดินไปหาลิซานเผ้าอย่างช้าๆ เห็นแต่เขาบีบไปที่ลำคอของลิซานเผ้า ใบหน้าเต็มไปด้วยไอสังหาร
“รังแกผมน่ะได้ แต่จะรังแกพี่สาวผมไม่ได้ ดูท่าทางคุณคงเบื่อโลกแล้วใช่ไหม”
ดวงตาที่เต็มไปด้วยไอสังหารคู่นั้นของเนี่ยเฟิง ลิซานเผ้าถูกบีบลำคอไว้ เหมือนจะขาดอากาศหายใจ เขาตกใจจนรู้สึกในกางเกงร้อนเป็นไฟ จากนั้นกลิ่นสาบปัสสาวะก็ไหลเป็นทางลงมา
ชิวมู่เฉิงมองดูบอดี้การ์ดพวกนั้นตัวหงิกงอบนพื้นด้วยความตกตะลึง พวกเขากุมแผลบนตัวส่งเสียงเจ็บปวดอย่างไม่สามารถลุกขึ้นมาได้
ชิวมู่เฉิงผละสายตามองมายังเนี่ยเฟิง นี่ยังใช่น้องของเธออยู่หรือเปล่า? ทำไมถึงดูแปลกหน้าอย่างนั้น?
ชิวมู่เฉิงเห็นลิซานเผ้าใกล้จะถูกบีบจนตาย เธอรีบรุดไปข้างหน้าคว้ามือเนี่ยเฟิงเอาไว้ “เสี่ยวเฟิง! พอเท่านี้เถอะ! อย่าทำเรื่องโง่ๆ เลย!”
เนี่ยเฟิงจึงได้คลายมือลง ลิซานเผ้าถึงได้ไออย่างรุนแรงขึ้นมา ลำคอเป็นรอยช้ำน่ากลัว
ชิวมู่เฉิงเห็นคนพวกนั้นกองไปอยู่ที่พื้นก็รู้สึกแปลกในใจ
“เฮ้! เมื่อกี๊คุณพูดจาหยาบคายกับพี่สาวผม ไม่คิดจะขอโทษกันเลยเหรอไง!”
เนี่ยเฟิงคล้อยต่ำมองลิซานเผ้าด้วยความน่ากลัว ลิซานเผ้าที่เกือบรักษาชีวิตไม่รอดหวาดกลัวจน เมื่อครู่เผลอฉี่ราดรดกางเกง
เขาเป็นพวกขี้ขลาดที่รังแกแต่คนอ่อนแอ พอได้ยินเนี่ยเฟิงพูดเช่นนี้ ก็รีบคุกเข่าโขกหัวลงกับพื้น “ขอโทษครับคุณชิว ผมมีตาหามีแววไม่ ช่วยรอมชอม ไว้ชีวิตผมด้วย!”
“คุณพูดอะไร? ช่วยพูดดังๆ หน่อย!”
ลิซานเผ้าหดตัว จากนั้นก็โขกศีรษะแรงๆ จนหน้าผากช้ำไปหมดแล้ว เนี่ยเฟิงร้ายกาจอย่างนั้น จัดการคนไป200กว่าคน เกือบจะบีบคอเขาตายแล้ว ตอนนี้เขากลัวจนเรียกว่าตัวสั่นงันงก
“ผมขอโทษ! ผมขอโทษ! คุณชิวยกโทษให้ผมเถอะนะ!”
เนี่ยเฟิงจึงค่อยๆ พยักหน้า “วิธีของคุณมันสกปรกเกินไป ถ่วงการก่อสร้างของพวกเรา ความเสียหายในสองสามวันนี้ของเราคุณไม่คิดจะชดใช้เหรอ?”
“ชดใช้! ชดใช้! ชดใช้แน่นอนครับ!”
ลิซานเผ้าพยักหน้าโค้งตัว รีบคุกเข่าตัวสั่นยื่นมือถือส่งไปให้ “เชิญว่าตัวเลขมาครับ!”
“มือของคุณทุบรถของพี่ใหญ่ผมพัง ทำให้พี่สาวผมมีเงาในใจ ฉะนั้นคุณต้องชดใช้รถดีๆ ให้พี่ใหญ่ผมหนึ่งคัน บวกกับทำให้ผมกับพี่ใหญ่ผมเสียเวลา บัญชีนี้ก็ต้องคิด ยังไงก็ต้องสักพันล้านล่ะ!”
ลิซานเผ้าเบิกตาโตขึ้นมาในทันที “เยอะอย่างนั้นเชียว?!”
“แน่นอนสิ หรือคิดว่าบริษัทเทียนหลงรังแกกันได้ง่ายๆ!”
เนี่ยเฟิงยิ้มอย่างเย็นชา
“แต่ตอนนี้ผมไม่มีเงินมากขนาดนั้น อีกอย่างการนัดกับธนาคารต้องใช้เวลาหน่อย ขอเวลาเส้นตายให้ผมสักสองวันเถอะนะ?”
“ผมให้เวลาคุณได้ แต่ให้ได้แค่ตอนเช้า ตอนบ่ายผมต้องเห็นเงินจำนวนนี้ พวกคุณต้องเอาเงินมาหาผมที่ People & Spring”
เนี่ยเฟิงพูดแล้วก็โยนมือถือทิ้งลงต่อหน้าลิซานเผ้า ใบหน้าอ้วนๆ ของลิซานเผ้าบิดเป็นก้อนขึ้นมาในทันที
เขารีบรับมือถือเป็นพัลวัน “ครับๆ สมควรแล้วครับ!”
“พี่ใหญ่ พวกเราไปกัน”
เนี่ยเฟิงพูดแล้วก็จากไปพร้อมกับชิวมู่เฉิง
“เสี่ยวเฟิง เธอร้ายกาจอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
หลังจากลงมาจากตึก ชิวมู่เฉิงลังเลชั่วขณะ สุดท้ายก็เอ่ยปากถาม
เนี่ยเฟิงยิ้มด้วยความไร้เดียงสา “ที่จริงในสิ่งแวดล้อมที่ซับซ้อน ก็ต้องมีความเจ๋งถึงจะเอาตัวรอดได้ พี่ใหญ่ไม่ชอบให้ผมชกต่อยสินะ?”
ชิวมู่เฉิงนึกถึงรอยแผลที่แผ่นหลังของเนี่ยเฟิง ก็ปวดใจขึ้นมา สิ่งแวดล้อมแบบไหนกันที่ทำให้เนี่ยเฟินเป็นอย่างวันนี้?
น้องชายของเขาเดิมทีทำตัวอิสรเสรีได้โดยไม่ต้องมีพิธีรีตอง
“ฉันไม่ชอบที่เธอชกต่อยจริงๆ เพราะฉันไม่อยากเห็นเธอบาดเจ็บ”
“แต่สถานการณ์เมื่อกี๊ช่วยไม่ได้จริงๆ ถ้าผมไม่ออกโรงตอบโต้พวกเขา คนที่พวกเขาจะซัดก็คือพี่ ผมจะมองดูพี่ถูกรังแกได้อย่างไรกัน?”
เนี่ยเฟิงปัดมือไปมา
เมื่อครู่เขาออกแรงมากเกินไป ทำให้บาดแผลที่มือปริออก ผ้าก็อซที่พันแผลไว้ก็แดงฉานขึ้นมา
“เธอบาดเจ็บนี่!”
ชิวมู่เฉิงตกใจ รีบรุดมาข้างหน้า “เรารีบไปโรงพยาบาลน้องสี่กัน!”
“พี่ใหญ่ ดูพี่ทำเรื่องใหญ่เป็นเรื่องเล็กอีกแล้ว แค่บาดแผลเล็กๆ เอง ไม่เป็นไรหรอก! พี่ใหญ่ เมื่อกี๊ผมหล่อใช่ไหมล่ะ! พี่ต้องรางวัลผมหรือเปล่า?”
เนี่ยเฟิงมองดูชิวมู่เฉิงด้วยดวงตาส่องประกาย ชิวมู่เฉิงนึกถึงตอนที่เนี่ยเฟิงเอาตัวมาขวางข้างหน้า ก็รู้สึกคันหัวใจขึ้นมา “ก็หล่อจริงๆ ไหนว่ามาว่าอยากได้รางวัลอะไร?”
“เมื่อกี๊อย่างผมเรียกว่าระเบิดโมโหเพื่อสาวงาม สาวงามนางนั้นควรมอบจูบหอมๆ ให้ผมสักฟอดเหรอเปล่า?”
เนี่ยเฟิงพูดพลางก็ทำปากจู๋พลาง เหมือนรอชิวมู่เฉิงจูบลงมา
ชิวมู่เฉิงรู้ทั้งน่าโกรธและก็น่ารัก และแล้วก็เกิดความรู้สึกแปลกๆ ขึ้นในใจ เธอกระแอมไอเบาๆ ขึ้นมา ยื่นมือไปตบที่ปากเนี่ยเฟิง “พี่ว่าเธอคงครั่นเนื้อครั่นตัวอยากถูกตี”
“งั้นก็ไม่มีของรางวัลแล้วเหรอ?”
เนี่ยเฟิงทำหน้าน่าสงสารมองไปยังชิวมู่เฉิง แต่เขารู้ว่า พี่ใหญ่เป็นคนที่จริงจังตลอด ให้เธอมาจูบเนี่ยเฟิง แทบจะเป็นนิยายเรื่องอาหรับราตรี (เปรียบเปรยว่าแทบจะเป็นเรื่องเพ้อฝัน)
“งั้นเธอหลับตา”
เนี่ยเฟิงตกใจ “พี่ใหญ่ พี่จะจูบผมเป็นรางวัลจริงเหรอ?”
ใบหน้าของชิวมู่งเฉิงแดงระเรื่อขึ้นมา เหมือนยามโพล้เพล้ ชวนให้คนอดใจไม่ไหว
“แล้วเธอจะเอารางวัลหรือไม่เอา?”
เนี่ยเฟิงฉีกยิ้ม “รางวัลนี้ต้องเอาสิ!”
เนี่ยเฟิงหลับตาลง ชิวมู่งเฉิงมองดูใบหน้าที่เป็นผู้ใหญ่ของเขา ก็ไม่ลังเลอีก ประกบปากอันนุ่มนวลลงไป
ตอนที่ทั้งสองคนเข้าใกล้กัน ชิวมู่เฉิงรู้สึกได้ว่าในตัวของเนี่ยเฟิงมีกลิ่นกายลูกผู้ชายที่เคร่งขรึมที่ก้าวร้าว
เธอจูบอย่างรวดเร็ว เนี่ยเฟิงลืมตาขึ้นในทันที “พี่ใหญ่พี่นี่เจ้าเล่ห์จริงๆ ผมนึกว่าพี่จะจูบปากผมอีก!”
“พูดอะไรเหลวไหล ไว้เธอหาแฟนได้ เธอค่อยพูดเรื่องนี้กับแฟนของเธอละกัน”
ชิวมู่เฉิงฉุนกึกค้อนตาใส่เนี่ยเฟิง
เนี่ยเฟิงก็พูดขึ้นมาอย่างหน้าด้านๆ “งั้นผมจะหาแบบพี่ใหญ่ ถ้าไงพี่ใหญ่มาเป็นแฟนผมเลยก็แล้วกัน!”
“ห้ามพูดจาเหลวไหล”
ชิวมู่เฉิงกระแอมไอขึ้น เดินไปข้างหน้าโดยไม่เหลียวหลัง สิ่งที่เธอได้ยินเนี่ยเฟิงพูดเมื่อครู่ ได้หวั่นไหวหัวใจของเธอ