พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 448 ห้องทดลอง
“ไอ้! คนอย่างคุณนี่ล่ะ ก็คือถ่อมตัวเกินไปแล้ว ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน ผมก็ได้พบเห็นจุดเด่นนี้ของคุณแล้ว ความสามารถเลิศล้ำขนาดนั้น อีกทั้งยังถ่อมตัวขนาดนั้น คนที่เหมือนอย่างคุณแบบนี้เป็นไปได้ยังไงที่จะไม่สำเร็จล่ะ?”
ท่านจิ่วอดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจหนึ่งที ต่อจากนี้เขาเดินไปยังข้างกายของเนี่ยเฟิง พินิจพิเคราะห์เขาอย่างละเอียดอยู่อีกครั้ง
“ไม่ทราบว่าผมสามารถแตะต้องร่างกายของคุณสักหน่อยหรือไม่”
ถ้าหากพูดคำนี้กับผู้หญิง อาจจะเกิดการก่อกวนทางวาจาแล้ว แต่ว่าเนี่ยเฟิงกลับไม่ได้ใส่ใจอะไร
เนี่ยเฟิงยื่นมือออกไปอย่างเป็นธรรมชาติมากๆ เขาก็ไม่ได้พูดอะไรมากเช่นกัน ดูแล้วเขามีความมั่นใจในร่างกายของตนเองอย่างมาก
ท่านจิ่วใช้มือเตะสัมผัสร่างกายของเนี่ยเฟิงหนึ่งที กล้ามเนื้อของร่างกายเขาแข็งแรงมาก อีกทั้งเต็มไปด้วยความยืดหยุ่น
“เป็นยังไงล่ะ? ผมเริ่มฝึกฝนตั้งแต่เด็กจนโต ร่างกายนี้ไม่เลวมากใช่ไหม?” เนี่ยเฟิงยิ้มอยู่ซักถามแบบนี้
ท่านจิ่วพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก ชื่นชมอยู่พูดว่า “ไม่เลวมากๆจริงๆ ร่างกายนี้สามารถฝึกฝนจนกลายเป็นลักษณะแบบนี้ เห็นได้น้อยเกินไปแล้ว”
ท่านจิ่วเพียงรู้สึกว่าน่าเหลือเชื่อ เป็นไปได้ยังไงที่ร่างกายของคนทั่วไปจะฝึกฝนจนกลายเป็นลักษณะแบบนี้ได้อีกล่ะ ไอ้คนนี้ช่างไม่ธรรมดาจริงๆนะ!
“ท่านจิ่วดึกดื่นเที่ยงคืนเรียกผมมาที่นี่ น่าจะไม่เพียงเพื่อที่จะทดสอบกำลังวังชาของผมมั้ง? ผมรู้ว่าท่านจิ่วเป็นคนที่ตรงไปตรงมาคนหนึ่ง ผมก็เช่นกัน พวกเราก็ไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว ท่านมีอะไรพูดตรงๆก็ได้แล้ว” เนี่ยเฟิงเก็บมือกลับไปพูดอย่างตรงประเด็น
“ในเมื่อคุณตรงไปตรงมาขนาดนั้น งั้นถ้าผมอืดอาดชักช้าอีกก็จะเห็นได้ชัดว่าไม่เคารพคุณแล้ว คุณตามผมมา”
ท่านจิ่วทั้งพูดอะไรด้วยทั้งนำทางอยู่ข้างหน้า และเนี่ยเฟิงในเวลานี้ก็ได้กระตุ้นจิตสติขึ้นมาเช่นกัน
เขาติดตามอยู่ข้างหลังท่านจิ่ว ทั้งสองคนเดินไปยังที่ลึกๆของตึกใต้
ไปถึงข้างในสุดของตึกใต้ เนี่ยเฟิงเห็นท่านจิ่วหมุนแจกันดอกไม้ที่อยู่ข้างๆหนึ่งที อยู่ดีๆข้างหน้าของพวกเขาปรากฏประตูบ้านหนึ่งออกมา
ท่านจิ่วเดินเข้าไปเลย เนี่ยเฟิงก็ติดตามอยู่ข้างหลังท่านจิ่วเช่นกัน ในเวลานี้เนี่ยเฟิงสังเกตถึงความเย็นเล็กน้อยแพร่กระจายมาจากข้างใน อุณหภูมิของที่นี่ต่ำกว่าข้างนอกเยอะเลย ก็เหมือนดั่งตู้เย็นเครื่องหนึ่ง
ตอนนี้เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ด้วยเหตุนี้อุณหภูมิเช้าเย็นต่างกันมาก แต่เนี่ยเฟิงยังคงรู้สึกถึงว่าเย็นขึ้นมาทั้งตัว
โชคดีความสามารถในการปรับตัวของเนี่ยเฟิงค่อนข้างแข็งแกร่ง
เดินต่อไปยังข้างในอีก หลอดไฟที่อยู่บนหัวสาดส่องลงมา ทำให้เนี่ยเฟิงรู้สึกตาพร่าเล็กน้อย
และในอากาศก็เต็มไปด้วยกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้ออยู่อย่างหนึ่ง
เดินไปประมาณเกือบสามสี่นาที ท่านจิ่วจึงหยุดลงมา ยิ้มอยู่พูดกับเนี่ยเฟิงว่า “คุณดูสิ”
ข้างในนี้กั้นห้องเช่นดั่งห้องผู้ป่วยแห่งหนึ่ง ในทุกห้องล้วนมีคนที่สวมใส่เสื้อสีเทาขาว
บนเสื้อพวกเขาล้วนมีหมายเลข
เนี่ยเฟิงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมา “คนเหล่านี้อยู่ที่นี่ทำอะไรกันล่ะ? พวกเขาเป็นยังไงแล้วเหรอ? ไม่สบายแล้วเหรอ?”
“ไม่ พวกเขาไม่ได้ไม่สบาย เพียงแค่พวกเขาอยากจะเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งยิ่งกว่านี้ ดังนั้นจึงมาหาผม”
เสียงท่านจิ่วยกสูงขึ้นไม่น้อย ในใจเนี่ยเฟิงคิดอยู่ว่าในที่สุดก็เข้าสู่ประเด็นแล้ว
“อยากจะเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งยิ่งกว่านี้เหรอ? นี่หมายความว่าอะไรล่ะ?” เนี่ยเฟิงแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ
“วันนี้คุณแข่งขันกับวาตานาเบะ ทาคาซิ ได้พบเห็นว่าเขามีแรงระเบิดที่สูงมากอยู่หรือไม่ล่ะ?”
สายตาท่านจิ่วแวววาวจ้องมองเนี่ยเฟิง ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยการหลอกให้ลุ่มหลง ซักถามเนี่ยเฟิงแบบนี้
เนี่ยเฟิงพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก “จริงๆ ความเร็วกับกำลังวังชาของเขา ยังมีแรงพลังล้วนแข็งแกร่งมาก ถ้าหากผมไม่ได้ทุ่มสุดแรงทั้งหมด ช่างไม่มีทางที่จะต่อต้านเขาได้จริงๆ”
ตามความจริงเนี่ยเฟิงก็ไม่ได้ทุ่มสุดแรงทั้งหมด เขารู้ว่ากำลังวังชาของวาตานาเบะ ทาคาซิเมื่อยกสูงขึ้นก็จะฮึกเหิม ฮึกเหิมเกินไปก็จะหัวใจระเบิดแตกตาย
“ก็เป็นอย่างนี้! ตอนนี้คุณแข็งแกร่งมาก แต่ว่าคุณยังสามารถแข็งแกร่งยิ่งกว่านี้อีก! คุณไม่หวั่นไหวเลยเชียวเหรอ?”
ในสายตาท่านจิ่วแฝงไว้ด้วยความชื่นชมยินดี
เนี่ยเฟิงแกล้งทำเป็นงุนงงเต็มใบหน้าจ้องมองไปยังท่านจิ่ว “ผมไม่ค่อยเข้าใจความหมายของท่าน…….”
“คุณมา!”
ท่านจิ่วอาจจะรู้สึกว่าเนี่ยเฟิงหวั่นไหวแล้ว ดังนั้นเขาตื่นเต้นดีอกดีใจพาเนี่ยเฟิงมาถึงห้องทดลองทันที
ในห้องทดลองมีคนเสื้อกาวน์หลายคนกำลังร่วมหารืออะไรอยู่ หลังจากเห็นท่านจิ่วมาแล้ว พวกเขารีบเข้าไปต้อนรับ เคารพนบนอบเรียกชื่อท่านจิ่วอยู่
“นี่ก็คือยาเทพ”
ท่านจิ่วพูดอยู่ ชี้ไปยังยาที่เป็นสีแดงอมม่วงขวดหนึ่งชี้แล้วชี้อีก “เพียงแค่ฉีดอันนี้ เซลล์ของร่างกายก็จะเรียบเรียงใหม่อีกครั้ง พันธุกรรมจะเพิ่มความแข็งแกร่ง ร่างกายคนได้รับการเติบโตใหม่อีกครั้ง!”
เนี่ยเฟิงกะพริบตาหนึ่งที เยี่ยมมาก สิ่งที่ซ่อนเร้นในการค้นคว้าวิจัยนี้ช่างลึกพอจริงๆล่ะ งั้นข้างใน
เดิมทีเนี่ยเฟิงคิดอยู่ว่าถ้าหากท่านจิ่วไม่เปิดโปงความจริงล่ะก็ งั้นเขาก็จะเรียกองค์กรข่าวกรองของสำนักมังกรมาโดยตรงตรวจสอบที่นี่โดยสิ้นเชิง
ดาวหยางเฉิงของพวกเขาก็มีหน้ามีตาเช่นกัน จะสร้างที่สาธารณะอยู่ในสถานที่ทุรกันดารขนาดนั้นได้ยังไงล่ะ?
เป็นอย่างที่คิดไว้ถูกเขาคาดเดาถูกแล้วจริงๆ ตาแก่แย่ๆนี้ชั่วมาก
“คุณรู้สึกว่าเป็นยังไงล่ะ? จะทดลองดูไหม?” ตาทั้งคู่ของท่านจิ่วเปล่งแสงจ้องมองเนี่ยเฟิง
ประเด็นหลักคือร่างกายของเนี่ยเฟิงเดิมทีก็แข็งแกร่งมากๆแล้ว กล้ามเนื้อของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความยืดหยุ่น ด้วยเหตุนี้เป็นไปไม่ได้ว่าเคยฉีดยาห้ามใช้มาก่อน
เขารวบรวมผู้มีความสามารถมากมาย ก็คือเพื่อที่จะได้รับข้อมูลยิ่งทั่วทุกด้าน
ยาห้ามใช้ยังอยู่ในการยกระดับไปเรื่อยๆ ในเวลาเดียวกันที่พวกเขาใช้อันนี้มาไขว่คว้ากำไรอันมหาศาล ท่านจิ่วก็หวังที่จะค้นคว้าวิจัยยาห้ามใช้ที่ยิ่งร้ายกาจออกมาได้เช่นกัน
ตอนนี้ดูแล้วเขาเยาว์วัยมาก แต่ตามความจริงประสิทธิภาพทางกายของเขาลดลงแล้ว เขาอายุมากแล้ว ดังนั้นยิ่งกระหายที่จะทำให้ร่างกายฟื้นฟูอย่างเยาว์วัย
เขายังอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อ! อีกทั้งต้องเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งยิ่งกว่านี้!
“ผมฟังอยู่ทำไมรู้สึกแปลกประหลาดขนาดนั้นล่ะ?” เนี่ยเฟิงขมวดคิ้วแล้วขมวดคิ้วอีก ท่านจิ่วเห็นลักษณะท่าทีของเขาดูเหมือนลังเลมาก
ดังนั้นเขาพูดอีกว่า “คุณไม่ต้องหวาดกลัว ยาเทพนี้ก็เหมือนดั่งผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ สามารถทำให้ร่างกายดี ผมรู้ว่าคุณย่อมมีความวิตกกังวลแน่นอน คุณมาดูสิ!”
ท่านจิ่วพูดอยู่พาเนี่ยเฟิงเดินไปข้างหน้าของอุปกรณ์แสดงผลเครื่องหนึ่ง เปิดวิดีโออันหนึ่งให้เนี่ยเฟิงตรวจดู
“เด็กคนนี้ ก่อนที่จะฉีดยาเทพ ดูแล้วหน้าซีดมีอาการซึมๆ ยังตรวจพบว่าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว เขาจะอยู่ได้ไม่นานแล้ว”
ท่านจิ่วพูดอยู่ถอนหายใจหนึ่งที ต่อจากนี้เขาเปิดวิดีโออีกอันหนึ่ง ให้เนี่ยเฟิงดู “นี่เป็นหลังจากที่เขาฉีดยาเทพ คุณดูเขาสิ ตอนนี้ดูมีชีวิตชีวา กำลังวังชาพุ่งขึ้นมาแล้ว อีกทั้งมะเร็งเม็ดเลือดขาวของเขาก็หายแล้วด้วย ปัจจุบันนี้กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจอยู่ล่ะ!”
ท่านจิ่วกังวลว่าเนี่ยเฟิงจะไม่เชื่อ ยังเอาข้อมูลทางการแพทย์ไม่น้อยให้เนี่ยเฟิงดู
ถ้าหากเป็นคนทั่วไป คาดว่าจะอ่านข้อมูลทางการแพทย์เหล่านี้ไม่ออก แต่ว่าเนี่ยเฟิงอ่านออก เพราะว่าเดิมทีเนี่ยเฟิงก็เป็นหมอคนหนึ่งอยู่แล้ว
เนี่ยเฟิงแกล้งทำเป็นมีลักษณะท่าทีที่รู้แจ้งกระจ่างในฉับพลัน “ที่แท้เป็นอย่างนี้นี่เอง งั้นช่างยอดเยี่ยมมากเลยจริงๆ! นี่จะเป็นยาเทพจริงๆนะ! น่าจะต้องเผยแพร่ทั่วโลกจึงจะใช่ล่ะ!”
ท่านจิ่วเห็นว่าเกลี้ยกล่อมเนี่ยเฟิงได้แล้ว ปลื้มใจมากๆพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก “สิ่งที่คุณพูดไม่ผิด เทคโนโลยีชิ้นนี้พวกเรายังค้นคว้าวิจัยอยู่ แม้ว่าการตรวจรักษาทางการแพทย์มั่นคงแล้ว แต่พวกเราหยุดเพียงแค่นี้ไม่ได้ พวกเราจะต้องผลิตยาเทพที่ยิ่งดีกว่าออกมา! คุณว่าใช่หรือไม่ล่ะ?”
เนี่ยเฟิงตื่นเต้นมาก พยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก “ท่านจิ่ว! เมื่อกี้ผมยังคิดอยู่ท่านน่าจะเป็นโรคประสาทแล้ว ในบนโลกนี้เป็นไปได้ยังไงจะมียาเทพอะไรคงอยู่! นึกไม่ถึงท่านแข็งแกร่งมากขนาดนั้น เป็นผมเข้าใจท่านผิดแล้ว!”
ท่านจิ่วถูกความซื่อตรงจริงใจของเนี่ยเฟิงพูดจนใบหน้าแก่ๆแข็งทื่อทันที แต่ว่าไม่นานเขาก็คืนสติกลับมาแล้ว “ก็มิน่าล่ะ ถึงยังไงเรื่องแบบนี้จะทำให้คนธรรมดาคนหนึ่งยอมรับได้ทันทีเป็นสิ่งที่ยากลำบากมาก”