พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 45 วิลล่าซิงเยว่
บทที่ 45 วิลล่าซิงเยว่
ทั้งสองคนนั่งรถกลับมาถึงวิลล่า ชิวมู่เฉิงรู้สึกใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ อีกฝ่ายอย่างไรก็เป็นพวกในวงการ ไม่รู้ว่าจะยอมให้เงินแก่เธอโดยดีหรือไม่
เดิมทีเธอกังวลว่าราคาที่พวกเธอเรียกจะสูงเกินไปหรือเปล่า แต่เดิมชิวมู่เฉิงก็คล้อยตามเนี่ยเฟิงตลอด ฉะนั้นไม่ว่าเนี่ยเฟิงจะทำอะไร ในสายตาของเธอก็เห็นว่าสมเหตุสมผล
เริ่มแรกเป็นอีกฝ่ายที่รังแกพวกเขาก่อน ถ้าพวกเธอยังอดกลั้น ก็เท่ากับว่าบอกคนพวกนั้นว่า พวกเธอรังแกกันง่ายๆ
เนี่ยเฟิงกลับมาถึงบ้านเอามือถือออกมารีเฟรช หลังจากรีเฟรชข้อความแล้วเขาก็ดูอีเมลในเมล์บอกซ์ พอเปิดดูเส้นเอ็นที่ขมับก็ตึงขึ้นมา
เขากัดฟันกรามกรอดๆ ดวงตาทั้งคู่ก็เต็มไปด้วยไอสังหาร
เขากลับมาครั้งนี้เพื่อคิดบัญชี นอกจากสืบดูการตายของพ่อแม่และปริศนาชาติกำเนิดของบรรดาพี่สาวแล้ว ยังมีอีกเรื่องก็คือจัดการคนที่แบ่งทรัพย์ตระกูลเนี่ยไป
พวกเขาเอาทรัพยากรของตระกูลเนี่ยไป แต่ละคนตำแหน่งใหญ่โต นั่งบนกองเงินกองทอง
แล้วพวกที่เข้าร่วมในการแบ่งทรัพย์ครั้งใหญ่ในครั้งนี้ ก็คือสี่ตระกูลตัวพ่อ
สมัยที่พ่อแม่เขาถูกทำร้ายในทะเล ไร้ผู้สืบทอด ไอ้พวกที่ปกติทำตัวมีคุณธรรมก็ยิงฟันแยกเขี้ยวรวมหัวกันตีตระกูลเนี่ย
สมัยนั้นตระกูลเนี่ยเป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่เพียงหนึ่งเดียว ตระกูลอื่นล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ แต่ตอนนั้นกลุ่มมังกรไร้ซึ่งหัวหน้า พวกเขาก็ฉวยโอกาสร่วมมือตีขนาบพังตระกูลเนี่ยทั้งภายในภายนอก แล้วก็แบ่งทรัพย์สินของตระกูลเนี่ย
“เว่ยฉางจ้าน……คุณเป็นคนชนปากกระบอกปืนก่อนเอง งั้นก็เชือดคุณก่อนก็แล้วกัน
จนฟ้าค่ำ ชิวมู่เฉิงก็ได้รับโทรศัพท์สายหนึ่ง เธอเห็นสายที่เข้ามาก็อดขมวดคิ้วไม่ได้
“ผมเตรียมเงินเรียบร้อยแล้ว ถ้าพวกคุณจะเอา ก็มาเอาที่วิลล่าซิงเยว่ก็แล้วกัน!”
ลิซานเผ้าพูดจบยังไม่ทันรอให้ชิวมู่เฉิงเอ่ยปาก เขาก็วางสายไป
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็ให้ผมไปเถอะ!”
เนี่ยเฟิงยืนขึ้นมาอย่างกล้าหาญ เอามือตบอกตัวเอง
“เธอไปไม่ได้ ท่าทางพวกเขาคงไม่ได้คิดจะให้เงินพวกเรา หรืออาจจะวางกับดักไว้ก็ไม่แน่ ถ้าเธอไป ก็จะติดกับพวกมัน!”
ชิวมู่เฉิงส่ายหน้า: “เสี่ยวเฟิง ตอนนี้เป็นไปได้ว่าเราทำให้ตระกูลเว่ยขุ่นเคือง ตระกูลเว่ยลงมือเหี้ยมโหด ต้องไม่ลามือแน่ เราอย่าไปถิ่นของเขาเลย จะดูเป็นฝ่ายบุกเกินไป”
“แล้วเราจะไม่ไปตามนัดแล้วเหรอ?” เนี่ยเฟิงแกล้งทำเป็นถาม
ชิวมู่เฉิงส่ายหน้า “เรื่องนี้พี่จะปรึกษากับพี่สองก่อน ถ้าพวกเขาแค่จะเล่นงานพี่ พี่ก็มีวิธี แต่ถ้าพวกเขาจะเล่นงานเธอ ก็ไม่ใช่เรื่องเล็กแล้ว เธอกลับไปพักผ่อนที่ห้องเถอะ พี่จะไปหาพี่สองปรึกษาดู”
เนี่ยเฟิงพยักหน้า
แต่ด้านหน้าชิวมู่เฉิงเพิ่งจะก้าวออกไป ด้านหลังเนี่ยเฟิงก็ไปจากวิลล่า
รถออสตินคันหนึ่งจอดอยู่ในมุมหนึ่งไม่ไกลจากวิลล่า
เนี่ยเฟิงส่งสัญญาณนิ้ว รถก็เคลื่อนมายังด้านหน้าเนี่ยเฟิงเหมือนลมทันที
“คุณชาย!”
คนที่ขับรถไม่ใช่ใครอื่น เป็นเนี่ยเหล่าสี่
“แผลบนตัวเป็นอย่างไรบ้าง?”
เนี่ยเฟิงขึ้นรถแล้วก็ถามขึ้น
“เพราะบารมีของคุณชาย ผมได้รับการรักษาอย่างดี ตอนนี้เดินได้เหมือนบิน! คุณชาย เราจะไปตามนัดกันลำพังเหรอ?”
เนี่ยเหล่าสี่รู้สึกกังวล ตระกูลเนี่ยบัดนี้ไม่เหมือนก่อนแล้ว ขนาดบ้านเกิดก็รักษาไว้ไม่อยู่
วิลล่าซิงเยว่เคยเป็นทรัพย์สินของตระกูลเนี่ยมาก่อน ตอนนั้นพ่อของเนี่ยเฟิงใช้เงินหนึ่งร้อยแปดสิบล้านประมูลมา มอบให้เป็นของขวัญวันเกิดแม่ของเนี่ยเฟิง ตอนนี้กลับเปลี่ยนเจ้าของไปแล้ว
หลังจากเจ้าบ้านตระกูลเนี่ยเกิดโศกนาฏกรรมในทะเล เว่ยฉางจ้านก็รีบพาพรรคพวก ราวกับเมฆดำปกคลุมหลังคา ช่วงชิงวิลล่าซิงเยว่ไป
“จะเป็นการไปตามนัดตามลำพังได้อย่างไร?” เนี่ยเฟิงยิ้มอย่างเยือกเย็น “ตอนนั้นพวกมันชิงวิลล่าซิงเยว่ไปอย่างไร? ผมก็จะให้พวกมันคืนกลับมาอย่างนั้น!
“ครับ! คุณชาย!”
เนี่ยเหล่าสี่จงรักภักดีมาตลอด โดยเฉพาะเจ้าบ้านตระกูลเนี่ย บัดนี้นายท่านที่เขาติดตามไม่อยู่แล้ว ฉะนั้นตอนนี้เขาจึงภักดีติดตามเนี่ยเฟิง
“ไปเถอะ”
แล้วก็ขับรถทิ้งควันออกไป เดิมทีสมรรถนะของรถออสตินก็ดีอยู่แล้ว เสียงเครื่องยนต์ของมัน ราวกับเสียงเจ้าป่าคำราม ทะยานไปตามถนนในภูเขา
เนี่ยเฟิงเห็นแสงไฟที่ลอดออกมาจากวิลล่าซิงเยว่อยู่ไกลๆ
วิลล่าซิงเยว่ตั้งอยู่ที่กลางภูเขาจายซิง
แถบนี้มีวิลล่าเป็นบริเวณกว้าง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวตากอากาศอย่างดี แต่วิลล่าที่นี่เป็นของส่วนบุคคล ป่าแถบนี้ก็เช่นกัน
ที่ถูกเรียกว่าวิลล่าซิงเยว่ ก็เพราะการออกแบบของวิลล่า พอเข้าสู่ความมืด มองไกลๆ วิลล่าซิงเยว่ก็เหมือนผืนดวงดาวบนเส้นขอบฟ้า
หลังจากท่านเนี่ยประมูลวิลล่า ก็พาเนี่ยเฟิงมาอยู่ที่นี่สองสามเดือน เนี่ยเฟิงเองก็ชอบมาก
การกลับมาเยือนถิ่นเดิมอีกครั้ง เนี่ยเฟิงอดรู้สึกขมขื่นไม่ได้ เขามองดูวิลล่าซิงเยว่อยู่ไกลๆ ก็นึกถึงภาพพ่อแม่ขึ้นมา
ภาพที่สวยงามเหล่านั้นย้ำเตือนเขา พวกยักษ์ใหญ่ที่คุมถิ่นอยู่ในเมืองตงไห่ ล้วนเป็นเพชฌฆาตกันทุกคน!
พวกมันฉวยโอกาสเป็นโจรเข้าปล้น บีบตระกูลเนี่ยจนหมดหนทาง!
พอประตูวิลล่าซิงเยว่เปิดออก รถของเนี่ยเฟิงก็ขับเข้าไปข้างใน จอดอยู่หน้าลานน้ำพุอย่างเสิบสาน
บริเวณรอบๆ เงียบอย่างประหลาด
“คุณชาย!”
เนี่ยเฟิงกลับไม่เกรงกลัวเลย เปิดประตูเดินลงจากรถ บริเวณนี้ถ้ามีคนลอบทำร้าย เขาก็กลายเป็นเป้าเคลื่อนไหว!
“ไม่ต้องห่วง ผมรู้จักแยกแยะ”
เนี่ยเฟิงยกมือบอกปัด เนี่ยเหล่าสี่จึงพยักหน้า ก้าวตามจังหวะของเนี่ยเฟิง
“ลิซานเผ้า! ผมมาแล้ว คุณเตรียมเงินไว้แล้วยัง?”
“ฮ่าๆๆ ! เนี่ยเฟิง! นายนี่ก็ช่างกล้ามาคนเดียว ฉันขอนับถือในความกล้าของนาย!”
ลิซานเผ้าเดินกะโผลกกะเผลกออกมาจากประตูด้านข้างที่มีแสงส่องจากในวิลล่าซิงเยว่ ยิ้มด้วยความชั่วร้าย “แน่นอนผมเตรียมเงินให้คุณไว้แล้ว! แต่งเงินจำนวนนี้คุณต้องไปเอาด้วยตัวเอง”
เนี่ยเฟิงยักคิ้วขึ้น “ได้เลย”
แม้เนี่ยเหล่าสี่จะกังวล แต่เขารู้ว่าในตัวเนี่ยเฟิงมีเลือดเจ้าบ้านของตระกูลเนี่ยไหลเวียนอยู่ กล้าหาญชาญชัยมาแต่ไหนแต่ไร เขาจึงเชื่อฟังโดยไม่มีข้อแม้
เนี่ยเฟิงก้าวเข้าไปอย่างมั่นใจ เขาเห็นชายคนหนึ่งสวมชุดสีดำ นั่งไขว่ห้างอยู่ในห้องรับแขก พร้อมกล่องหลายกล่องวางอยู่ข้างตัว
ในปากของชายผู้นั้นคาบซิก้าเอาไว้ ท่าทางยโสมองดูเนี่ยเฟิง
“นายน่ะเหรอเจ้าหนุ่มที่คว่ำบอดี้การ์ดของฉันไปสองร้อยกว่าคน?”
คนที่พูดไม่ใช่ใครอื่น นั่นก็คือเว่ยฉางจ้าน
เนี่ยเฟิงมองดูเว่ยฉางจ้านตั้งแต่หัวจรดเท้า “คุณเป็นใคร? มีสิทธิอะไรพูดอย่างนี้กับผม?”
ตั้งแต่ที่เว่ยฉางจ้านได้ทรัพยากรของตระกูลเนี่ยไป เขาก็ล้างมือในอ่างทองคำไม่ทำแล้ว แอบใช้ทรัพยากรนี้หาเงินจำนวนมาก จากนั้นก็ปักหลักเป็นหนึ่งในสี่ตัวพ่อ
เขาในตอนนี้ได้ควบคุมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเมืองตงไห่ ในสมัยนั้นเป็นของตระกูลเนี่ย ตอนนี้ถูกเขายึดไว้หมดแล้ว
หลังจากเว่ยฉางจ้านเข้าสู่วงสังคมชั้นสูง ไม่มีใครกล้าพูดจาเช่นนี้กับเขา มีแต่เจ้าหนุ่มตรงหน้าคนนี้เท่านั้น!
“เจ้าตัวแสบ คราวก่อนคนที่พูดอย่างนี้กับฉันถูกฉันยิงตายไปแล้ว นายเบื่อโลกแล้วเหรอไง?”
“หุบปาก! คุณมันเป็นใคร? ถึงได้กล้าหุนหันต่อหน้าเจ้าบ้านเนี่ยเช่นนี้?!