พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 460 ก่อจราจล
หลู่เปิ่นเหว่ยไม่อยากสูญเสียความช่วยเหลือจากเนี่ยเฟิง ถึงอย่างไรหากพวกเขาถูกสอบสวนอย่างละเอียดในตอนนี้ มันจะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่
อีกอย่างยาห้ามใช้เหล่านั้นกำลังจะถูกทำลายโดยน้ำมือเขา แล้วเขาจะทนอยู่ได้อย่างไร?
ยิ่งกว่านั้นเมื่อตลาดหวาเซี่ยล่มสลาย เขาก็จำเป็นต้องหาเส้นทางอื่น ความสามารถในการเผยแพร่ของเขานั้นมีจำกัด แต่ถ้าหากมีเนี่ยเฟิงช่วยก็จะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
หลู่เปิ่นเหว่ยรู้ว่าทำแบบนี้มันอันตราย แต่เขาก็จำเป็นต้องทำแบบนี้
“คุณเฮนรี่ คุณต้องการทราบข้อมูลที่แน่นอนใช่ไหม?”
หลู่เปิ่นเหว่ยพูดพลางเงยหน้าขึ้น มองไปทางเนี่ยเฟิง เขาก็ไม่ใช่คนสูงอยู่แล้ว ยังกินเสียจนอ้วนมาก แต่ในเวลานี้ เขายังคงแสดงท่าทีที่เด็ดเดี่ยว
“คุณหมายความว่าคุณต้องการให้ผมดูข้อมูลที่แน่นอนใช่หรือไม่?” เนี่ยเฟิงเลิกคิ้วถาม
“ใช่ ในเมื่อต้องการร่วมมือกัน ผมก็ต้องแสดงความจริงใจด้วย คุณเฮนรี่ คุณพูดถูก”
หลู่เปิ่นเหว่ยพยักหน้าอย่างหนักแน่น
ตอนนี้ไม่เพียงแต่ผู้คนในเมืองหยางเฉิงเท่านั้นที่กระวนกระวายใจ แต่ยังรวมถึงผู้คนในเมืองอื่นด้วย การสูญเสียมีมากพอแล้ว หากยังไม่ได้รับการกอบกู้ในตอนนี้ ก็อาจจะมีความสูญเสียมากกว่านี้ก็ได้
“ดูเหมือนว่าคุณจะคิดออกแล้ว ถ้าอย่างนั้นผมจะให้โอกาสคุณ แนะนำผลิตภัณฑ์ที่คุณพูดถึงให้ดี ถ้ามันน่าสนใจ ผมจะซื้อมัน”
เนี่ยเฟิงพยักหน้า หลู่เปิ่นเหว่ยพาเนี่ยเฟิงกลับไปที่ห้องทำงานเมื่อครู่ “แค่สถิติของผลิตภัณฑ์หลักเท่านั้น ผมแบ่งปันได้เฉพาะกับคุณเฮนรี่เท่านั้น ไม่สามารถเปิดเผยกับคนอื่นๆ ได้”
หลู่เปิ่นเหว่ยพูดพลางชี้ไปที่บอดี้การ์ดสองคนที่อยู่ด้านหลังเนี่ยเฟิง รวมถึงหมิงอี๋หานด้วย
แม้ว่าเนี่ยเฟิงจะไม่พอใจมาก แต่หลู่เปิ่นเหว่ยไม่ยอมอ่อนข้อในเรื่องข้อมูลสถิติเลย
เนี่ยเฟิงก็รู้ว่า จะสามารถจับหมาป่าได้ก็ต่อเมื่อยอมตัดใจทิ้งเด็ก ดังนั้นเขาจึงบอกให้ทั้งสามคนออกไปก่อน
ในเวลานี้ เหลือเพียงเนี่ยเฟิงกับหลู่เปิ่นเหว่ยเพียงสองคนในห้องทำงาน
“คุณเฮนรี่ กรุณาตามผมมา”
หลู่เปิ่นเหว่ยพูดพลางนำทางไปข้างหน้า
เนี่ยเฟิงเคยคิดว่าที่นี่มีเพียงห้องเดียว แต่คิดไม่ถึงว่าจะยังมีประตูเล็กๆ บานหนึ่งที่ทะลุไปสู่อีกห้องหนึ่ง
“นี่คือห้องลับต่อเนื่องของคุณ”
เนี่ยเฟิงพูดหยอกล้อ
“ถึงอย่างไรก็เป็นสมบัติล้ำค่า ดังนั้นต้องรอบคอบหน่อย คุณเฮนรี่ มาที่นี่”
หลู่เปิ่นเหว่ยพูดพลางพาเนี่ยเฟิงเดินลงไป ข้างล่างเป็นชั้นถัดไปที่ล้อมรอบไปด้วยมวลอากาศเย็น เมื่อเทียบกับชั้นบนที่มีสถาปัตยกรรมที่วิจิตรตระการตา ที่นี่ดูทรุดโทรมกว่าอย่างชัดเจน
เนี่ยเฟิงอดขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้ “หลู่เปิ่นเหว่ย คุณอย่ามาเล่นตลกกับฉัน”
“คุณเฮนรี่ คุณไม่ต้องกังวล ผมอยากจะร่วมมือกับคุณด้วยใจจริง” หลู่เปิ่นเหว่ยรู้ว่าเนี่ยเฟิงกังวลใจมาก แต่ตอนนี้เขาอยู่ในความสนใจ เขาไม่สามารถถือชิปไปไหนมาไหนได้ จำเป็นต้องตรวจสอบให้ดี
เนี่ยเฟิงเดินตามหลู่เปิ่นเหว่ยมาถึงหน้าประตูบานหนึ่ง ที่นี่มีบอดี้การ์ดคุ้มกันหลายต่อหลายชั้น เนี่ยเฟิงมองไปรอบๆ และพบว่าบอดี้การ์ดเหล่านี้มีศักยภาพที่แข็งแกร่งมาก
“คุณเฮนรี่ เชิญทางนี้”
หลังจากเนี่ยเฟิงเข้าไป เฮนรี่ก็เชิญเนี่ยเฟิงนั่งลงทันที จากนั้นก็เปิดตู้เซฟ แล้วหยิบชิปออกมา “เดี๋ยวผมจะเปิดฉายให้คุณดูเดี๋ยวนี้”
ภายในห้องมีโปรเจ็กเตอร์ขนาดเล็กเท่าฝ่ามือ เขาเอาชิปใส่เข้าไป พบว่าภายในมีข้อมูลที่ซับซ้อนอยู่มากมาย
“นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น คุณเฮนรี่ ยาเทพสามารถยืดอายุและเสริมสร้างความแข็งแกร่งของร่างกายได้จริงๆ ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น แน่นอน ผมไม่มีวันพูดเล่นกับคุณ”
หลู่เปิ่นเหว่ยยิ้มแล้วมองไปที่เนี่ยเฟิง เนี่ยเฟิงหรี่ตาลง
“คุณก็พูดมาเพียงส่วนเดียวเท่านั้น ผมดูไม่เข้าใจ คุณไม่ควรให้ข้อมูลที่แน่นอนแก่ผมเหรอ?”
รอยยิ้มของหลู่เปิ่นเหว่ยค้างเติง เขาส่ายหัว “คุณเฮนรี่ก็รู้ นักธุรกิจอย่างพวกเราล้วนเน้นหนักในเรื่องความจริงใจ ตอนนี้ผมก็ได้แสดงเนื้อหาใจความสำคัญบางส่วนให้คุณดูแล้ว จะว่าไปแล้ว เทคนิคการสกัดยาเทพนั้นยังอยู่ภายใต้การควบคุมของเรา คุณจำเป็นต้องรู้การใช้ยาเทพนี้ก็พอแล้ว”
ต้องบอกว่าหลู่เปิ่นเหว่ยเป็นนักธุรกิจอย่างแท้จริง สิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง
เมื่อครู่เนี่ยเฟิงก็ได้เห็นแล้ว กล่องที่หลู่เปิ่นเหว่ยเก็บชิปนั้นทำจากโลหะจำรูป นอกจากลายนิ้วมือและรูม่านตาของ หลู่เปิ่นเหว่ยแล้ว อย่างอื่นก็ไม่สามารถเปิดได้
โลหะจำรูปมันทำให้เสียหายได้ยาก ต่อให้เนี่ยเฟิงเอาตู้เซฟไปก็ไร้ประโยชน์
ดังนั้นเนี่ยเฟิงจึงจำเป็นต้องฉวยโอกาสในตอนนี้!
“ยาเทพของพวกคุณ ผมทำความเข้าใจแล้ว ผมลงทุนกับมันได้”
เนี่ยเฟิงพยักหน้า “คุณเคยฉีดไหม?”
หลู่เปิ่นเหว่ยรีบพยักหน้าทันที “แน่นอนอยู่แล้ว! ไม่อย่างนั้นร่างกายของผมคงไม่แข็งแกร่งเหมือนตอนนี้”
เนี่ยเฟิงคิดในใจว่าดูไม่เห็นจะแข็งแกร่งตรงไหน…
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ก็ต้องเอาชิปมาให้ได้
ขณะที่เนี่ยเฟิงกำลังจะแอบเล่นไม่ซื่อ เสียงสัญญาณเตือนภัยอันแสบแก้วหูก็ดังขึ้น!
เนี่ยเฟิงขมวดคิ้ว เกิดอะไรขึ้น?
หลู่เปิ่นเหว่ยก็ตกใจเช่นกัน เขารีบคว้าโปรเจ็กเตอร์ทันที “เกิดอะไรขึ้น!”
เขารีบถามทันที
“เถ้าแก่! เกิดเรื่องแล้ว!”
เกิดเหตุยิงกันรุนแรง คนกลุ่มหนึ่งบุกเข้ามา
นี่ไม่ใช่คนของเนี่ยเฟิง เนี่ยเฟิงขึ้นเรือมาในครั้งนี้ เขาไม่ได้เรียกแม้แต่คนจากสำนักมังกรด้วยซ้ำ แค่ให้เฟยหลงและหม่างซือ รวมถึงหมิงอี๋หานติดตามเขามาด้วยเท่านั้น
เพราะเนี่ยเฟิงไม่ได้มาเพื่อฆ่าคน แต่มาเพื่อขโมยข้อมูล
เหตุการณ์ดวลปืนในตอนนี้คือเรื่องอะไรกัน?
“เร็วเข้า! หาที่หลบ! หาที่หลบ!”
หลู่เปิ่นเหว่ยกลัวจนตัวสั่นไปหมด ตอนนี้เขาไม่มีแก่ใจจะไปสนใจเนี่ยเฟิง ได้แต่หลบหนีตามไปอยู่ในกลุ่มคน
แน่นอนว่าเนี่ยเฟิงก็ตามเขาไป เพราะหลู่เปิ่นเหว่ยยังมีชิปอยู่ในมือ
“เสี่ยวเฟิง ข้างนอกเกิดเรื่องขึ้นแล้ว คนกลุ่มหนึ่งก่อความวุ่นวาย ฉันอยู่กับเฟยหลงและหม่างซือ นายระวังตัวด้วย”
เสียงของหมิงอี๋หานดังผ่านหูฟังทหารขนาดเล็ก
เนี่ยเฟิงพยักหน้า “พวกคุณก็ระวังตัวด้วยนะ”
สิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่มีใครรู้ว่าเหตุใดจึงเกิดเหตุจลาจลในตอนนี้
เนี่ยเฟิงเห็นคนชุดดำเหล่านี้ เขานึกถึงคดีร้ายแรงในทะเล ดูเหมือนคราวนี้จะมีเหตุการณ์นองเลือดขึ้นอีกครั้ง…
แต่เนี่ยเฟิงกลับไม่รู้สึกหวาดกลัว เขาเคยชินกับมันแล้ว
ขณะที่หลู่เปิ่นเหว่ยถอยให้พ้นเขตอันตราย เขาก็คำรามด้วยความโกรธ “ไอ้พวกไร้ประโยชน์ เวลานี้ยังไม่รีบไปสืบหาว่าใครเป็นคนก่อการจลาจลอีก!”
บอดี้การ์ดคนอื่นๆ กำลังคุ้มครองความปลอดภัยของหลู่เปิ่นเหว่ยอยู่ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีเวลาสนใจเรื่องนั้น
หลู่เปิ่นเหว่ยโกรธจัด เขากำลังได้เส้นสายทางคุณเฮนรี่อย่างราบรื่นแล้ว แต่การจลาจลที่น่ากลัวกลับมาขัดจังหวะการค้าขายของพวกเขา
ในเวลานี้หลู่เปิ่นเหว่ยเห็นเนี่ยเฟิงตามมาด้วย จึงให้คนไปคุ้มครองเขาทันที “คุณเฮนรี่ คุณไม่ต้องกังวล พวกเราจะรับประกันความปลอดภัยของคุณ!”
“ผมเตือนคุณแล้ว ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับผมบนเรือสำราญของคุณ ผมจะไม่มีทางปล่อยคุณไป! มีคนจำนวนมากที่กำลังโจมตีคุณอยู่!”
เนี่ยเฟิงแสร้งทำเป็นตื่นตระหนก หลบหนีหัวซุกหัวซุน ดูๆ ไปก็น่าหัวเราะ ความจริงในใจเขามั่นคงมาก ต่อให้หลู่เปิ่นเหว่ยจะตาย เขาจะไม่มีวันตาย
พวกเขาถอยกลับไปที่ทางเดิน นึกไม่ถึงว่ามีกลุ่มคนที่เฝ้าอยู่ที่นี่ด้วย หลังจากเห็นเนี่ยเฟิงและหลู่เปิ่นเหว่ย กลุ่มคนเหล่านั้นก็เปิดฉากยิงอย่างคลุ้มคลั่ง! ภาพนั้นกลายเป็นความโกลาหล