พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 461 วุ่นวาย
แม้หลู่เปิ่นเหว่ยจะนับได้ว่าก็เห็นมามากแล้วเช่นกัน แต่ปัจจุบันนี้ชีวิตน้อยๆของตนเองยังจะไม่รอด เขาช่างรับมือไม่ไหวจริงๆ ถ้าหากไม่มีบอดี้การ์ดหิ้วปีกเขาไว้ ตอนนี้่คาดว่าเขาคงล้มอยู่กับพื้นไปแล้ว
ย่างเท้าของเนี่ยเฟิงกลับเบามากตามเข้าไปแล้ว ปัจจุบันนี้ทุกคนล้วนอยู่ในความวุ่นวาย ดังนั้นไม่มีคนสังเกตได้ เนี่ยเฟิงชิดใกล้กับหลู่เปิ่นเหว่ยแล้ว
หลู่เปิ่นเหว่ยถูกเสียงปืนหลายเสียงทำให้ตกใจเหลือเกิน เขาสั่นระริกๆจับบอดี้การ์ดที่อยู่ข้างๆไว้อย่างแน่น มือทั้งสองล้วนยื่นออกมาแล้ว
เนี่ยเฟิงตาสว่างขึ้นมา รู้ว่าเวลานี้เป็นโอกาสที่เหมาะเจาะ ดังนั้นอาศัยตอนที่วุ่นวายอยู่หยิบเครื่องโปรเจคเตอร์ที่อยู่ในกระเป๋าของหลู่เปิ่นเหว่ยนั้น อีกทั้งดึงชิปออกอย่างรวดเร็ว ค่อยคืนเครื่องโปรเจคเตอร์กลับไปอีก สิ่งที่เขาทำเป็นคำที่เรียกได้ว่าไหลลื่นเป็นธรรมชาติแบบนั้น
ถึงแม้ว่าฆ่าหลู่เปิ่นเหว่ยแล้วค่อยหยิบชิปออกไปอาจจะยิ่งเรียบง่ายมากกว่า แต่ว่าเนี่ยเฟิงยังอยากจะเห็นความคึกคักอีก
รูปร่างลักษณะที่หลู่เปิ่นเหว่ยถูกทำให้ตกใจจนตับไตไส้พุงขาดเป็นชิ้นๆช่างน่าขำมากจริงๆ
เสียงปืนดังขึ้นอีกหลายนัด ดูแล้วฝ่ายตรงข้ามไม่เพียงมีแค่คนกลุ่มเดียวเท่านั้น เนี่ยเฟิงเดินถึงท้ายสุดได้เห็นคนกลุ่มหนึ่งบุกเข้ามาอีก เขารู้ว่าตอนนี้ถึงเวลาแล้ว
ในเวลานี้หลู่เปิ่นเหว่ยไม่รู้จะทำยังไงดีแล้ว คนที่อยู่ชั้นอื่นๆก็ถูกเสียงปืนทำให้ตกใจจนสั่นริกๆ พวกเขาคนที่หนีก็หนีคนที่หลบก็หลบ สถานการณ์กลายเป็นวุ่นวายเป็นพิเศษ
ในเวลานี้เนี่ยเฟิงอาศัยตอนที่วุ่นวายอยู่ทะลวงเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง เขาทำจนถึงเทพไม่รู้ผีไม่เห็น ตอนนี้ต่างคนต่างหนีตายสำคัญกว่า ย่อมจะไม่มีคนสังเกตเห็นเขาแน่นอน
“พี่สี่ ตอนนี้พวกคุณอยู่ที่ไหนล่ะ? ผมได้ชิปแล้ว ผมจะไปหาพวกคุณ”
“เสี่ยวเฟิง! ไม่ต้องเข้ามา!”
เสียงของหมิงอี๋หานดังขึ้นฉับพลันในทันที ล้วนไม่เหมือนกับน้ำเสียงในยามปกติ เนี่ยเฟิงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วอย่างแน่น รู้ว่าพวกเขาฝั่งโน้นย่อมได้พบเจอกับความยุ่งยากแล้วแน่นอน เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่ไปล่ะ
“เฟยหลง, หม่างซือรายงานทิศทางของพวกคุณสิ”
เนี่ยเฟิงรีบเปลี่ยนช่องสื่อสารซักถามพวกเขาทั้งสองทันที ตอนนี้พวกเขาทั้งสองเป็นลูกน้องของเขา ดังนั้นจำเป็นต้องเชื่อฟังทั้งหมด
“ปัจจุบันนี้พวกเราอยู่ชั้นที่สิบ ผมกับเฟยหลงยังมีคุณหมิงที่เดินคลาดกันแล้ว มีคนทดลองยากลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งบ้าคลั่งแล้ว สถานการณ์รุนแรงจนไม่สามารถจัดการได้”
ตอนนี้เฟยหลงกำลังตามหาหมิงอี๋หานอยู่
“ผมจะเข้าไปหาพวกคุณเดี๋ยวนี้ พวกคุณรีบไปตามหาหมิงอี๋หาน นี่เป็นคำสั่ง!”
ตาทั้งคู่ของเนี่ยเฟิงขึงลับลง เขานึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกันเมื่อกี้นึกแล้วนึกอีก ต่อจากนั้นเขาหัวเราะเย็นชาเสียงหนึ่ง “มิน่าล่ะ ที่แท้พวกเขาก็กัดกันเอง”
ฝ่ายตรงข้ามคือคนทดลองยา ทั้งโจมตีหลู่เปิ่นเหว่ยอย่างแม่นยำ ขนาดนั้นอีก คิดว่าน่าจะแบ่งผลประโยชน์ไม่เท่ากันมั้ง? หลู่เปิ่นเหว่ยอาจจะอยากหลุดพ้นจากการควบคุมของกองทัพใหญ่ บินเดี่ยวตัวคนเดียว ดังนั้นจึงถูกคว่ำบาตรแล้ว
ในปัจจุบันนี้เรือสำราญที่โออ่าหรูหราลำนี้ก็เหมือนดั่งกรงขัง และพวกคนทดลองยาคล้ายดั่งผีดิบออกจากกรง พวกเขาเสียสติไปแล้ว จะต่อสู้เพียงเพื่อเจ้านายของพวกเขาเท่านั้น
ตลอดทางเนี่ยเฟิงก็พบเจอกับคนที่วิ่งหลบหัวซุกหัวซุนไม่น้อยเช่นกัน ยังมีคนทดลองยาที่ฆ่าคนอย่างไร้สติเหล่านั้น
คนที่สามารถขึ้นเรือสำราญลำนี้ถ้าไม่รวยก็สูงส่ง แต่ตอนนี้พวกเขาได้เพียงแต่หลบซ่อนอย่างคับขันลำบาก ไม่มีคนกล้าโผล่หน้าออกมา แต่ถึงแม้ว่าหลบอยู่ในมุมแล้ว ถูกพบเห็นแล้วยังต้องถูกฆ่าตายเช่นกัน
สถานะของเนี่ยเฟิงก็จะดึงดูดความสนใจของคนมากมายเช่นกัน เขาขึ้นเรืออย่างโออ่าขนาดนั้น ถ้าเป็นคนล้วนรู้จักเขา ดังนั้นเขาเช็ดการแต่งหน้าแบบได้ผลพิเศษที่อยู่บนหน้าออกทันที สีแต่งหน้าเหล่านั้นอยู่บนใบหน้าเขาเลอะเทอะกลายเป็นก้อน
เขาถอดเสื้อที่อยู่บนกายออก ใส่เพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวหนึ่งไว้ และชิปชิ้นนั้นเขาซ่อนเร้นให้ดีๆแล้ว
เนี่ยเฟิงทะลุระเบียงทางเดินอย่างรวดเร็ว ถ้าหากข้างหน้ามีคนขวางเขาไว้ เขาก็จะจัดการโดยตรง
เครื่องสื่อสารฝั่งโน้นติดต่อหมิงอี๋หานไม่ได้แล้ว สิ่งที่เนี่ยเฟิงกังวลที่สุดก็คือความปลอดภัยของเธอ
เฟยหลงกับหม่างซือยังอยู่ที่ชั้นสิบ ตอนนี้เนี่ยเฟิงอยู่ชั้นที่เก้า เขาต้องขึ้นไปอีกจึงจะได้
เรือสำราญลำนี้มีป้ายชี้ทางมากมาย แต่เพียงแค่แหล่งจ่ายไฟของเรือสำราญในตอนนี้ถูกทำลายแล้ว เรือสำราญทั้งลำล้วนตกอยู่ในความวุ่นวายเลย มีแต่อุปกรณ์หลบหนีความปลอดภัย เปล่งแสงสีอ่อนๆอยู่เท่านั้น
เนี่ยเฟิงแยกแยะทิศทางไม่ได้ ดังนั้นตอนนี้เขาจำเป็นต้องขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือ อย่างนี้เขาจึงจะสามารถวางแผนตำแหน่งที่อยู่ของตนเองใหม่ได้
ความเร็วของเนี่ยเฟิงก็เช่นดั่งลมพัดทะลุฝูงชนอย่างรวดเร็ว
เขามาถึงบนดาดฟ้าเรืออย่างเงียบสงบ เขาดักซุ่มอยู่ในความมืด เพียงแค่เขาคิดจะทำ งั้นก็จะไม่มีคนสังเกตเห็นการคงอยู่ของเขา
เนี่ยเฟิงทำตายี๋แล้วทำตายี๋อีก หลังจากตรวจสอบบันไดจนแน่ชัดแล้ว เขามุ่งไปยังทิศทางบันไดอย่างรวดเร็ว
“ปัง!”
เท้าหน้าของเนี่ยเฟิงเพิ่งถึง ยังไม่ทันที่จะเข้าไป เท้าหลังที่บันไดนี้ถึงขนาดระเบิดแล้ว
ในเวลานี้เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างรุนแรง สายตาเนี่ยเฟิงหนาวเหน็บทันที คนเหล่านี้ตกลงว่าอยากจะทำอะไรกันแน่? พวกเขาคิดที่จะระเบิดเรือสำราญลำนี้ทิ้งเลยเชียวเหรอ?
บันไดถูกทำลายแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะขึ้นไป ทุกชั้นล้วนมีบันไดต่อๆกันทั้งหมดมีสี่อัน เนี่ยเฟิงอ้อมขึ้นจากบันไดข้างหลังทันที
ด้วยเหตุที่เพราะว่าระเบิด เรือสำราญลำนี้ไฟไหม้หลายที่ เมื่อกี้ยังมืดมิดไปหมด ตอนนี้แสงไฟพุ่งขึ้นสู่ฟ้าแล้ว
เนี่ยเฟิงไม่ทันที่จะไปตรวจดู เรื่องสำคัญเร่งด่วนที่ต้องจัดการในทันทีคือหาหมิงอี๋หานให้เจอ
ตอนนี้ชั้นที่เนี่ยเฟิงอยู่คือห้องอาหาร ข้างในก็มีคนมากมายเช่นกัน พวกเขาหวาดกลัวมาก หนีหัวซุกหัวซุน
เนี่ยเฟิงติดต่อหมิงอี๋หานอีกครั้ง แต่ว่าหมิงอี๋หานฝั่งโน้นกลับยังไม่มีเสียงใดๆ
“เฟยหลง คุณอยู่ที่ไหน?”
“ครู! ผมอยู่ข้างบนที่นี่มีมือปืนซุ่มยิง!”
“ปัง!”
ตำแหน่งที่เนี่ยเฟิงยืนอยู่เห็นได้ชัดมาก ชั่วพริบตาเดียวที่เขาได้ยินเสียงปืน ร่างกายเกิดมีปฏิกิริยาออกมาแล้ว!
โชคดีความเร็วในปฏิกิริยาของเขาเร็วพอ หลบกระสุนพ้นเลย
มิน่าล่ะคนที่หลบอยู่ในห้องอาหารจึงสั่นริกๆ ไม่กล้าเปล่งเสียงสักนิด
“พวกคนขี้ขลาด! รีบออกมาเถอะ! หลบอยู่ทำไม! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
อยู่ในความมืดมีคนหัวเราะอยู่อย่างบ้าคลั่ง
ตอนนี้เนี่ยเฟิงหลบอยู่หลังเสา เขาวิเคราะห์ว่าที่นี่มีคนมากน้อยเท่าไหร่อย่างรวดเร็ว
ผู้ก่อการจลาจลเหล่านี้แทบจะฆ่าคนอย่างไม่แบ่งแยกแล้วนะ เพียงแค่อยู่ในความมืดพวกเขาจะวินิจฉัยว่าเป็นศัตรูหรือเพื่อนได้ยังไงอีกล่ะ?
เนี่ยเฟิงจ้องมองไปยังผู้ก่อการจลาจลคนนั้น ในเวลานี้เนี่ยเฟิงพบเห็นมีจุดเล็กๆที่เปล่งแสงอ่อนๆอยู่หน้าอกของเขาอันหนึ่ง หากไม่มองอย่างละเอียดยังช่างจะมองไม่ออกจริงๆ น่าจะเป็นวัตถุดิบแบบสะท้อนแสง
“หม่างซือ สังเกตเห็นเข็มกลัดของพวกเขา จะสะท้อนแสง เฟยหลง ตามหาหมิงอี๋หานต่อ”
“ปังปังปัง!”
ในมือฝ่ายตรงข้ามถือปืนแก็ตลิงอยู่ยิงกราดไปทั่ว ยิงจนอุปกรณ์ในห้องอาหารที่ราคาแพงล้วนจะกลายเป็นรังแตนแล้ว
“รีบออกมา! ผมสามารถทำให้พวกคุณตายอย่างสะใจสักหน่อย!”
ไอ้คนที่ก่อการจลาจลเช่นดั่งคนอย่างนี้ยังมีมากมาย
เนี่ยเฟิงสงบมั่นคง เขาคลำเจอที่ไม่รู้ว่าเป็นเศษถ้วยหรือว่าจานชิ้นหนึ่งขึ้นมาจากพื้น เขาค่อยๆถอนหายใจออกหนึ่งที ต่อจากนี้ข้อมือขยับหนึ่งที เศษชิ้นนั้นลอยออกไปฉับพลันในทันที! โยนใส่บนหัวของไอ้คนนั้นโดยตรง!
ถึงแม้ว่าในมือเนี่ยเฟิงไม่มีอาวุธก็ไม่เป็นไรเช่นกัน หินเล็กๆอันหนึ่งเศษเล็กๆแผ่นหนึ่งเขาล้วนสามารถประยุกต์ใช้ได้
หลังจากเนี่ยเฟิงจัดการไอ้คนนี้ไปแล้ว เริ่มค้นหาพวกเดียวกันของไอ้คนนี้ เห็นลักษณะท่าทีของพวกเขาน่าจะเป็นคนทดลองยาชั้นต่ำกว่า ถ้าหากเลือดที่อยู่บนกายล้วนปรากฏออกมาเป็นสีม่วงจริงๆงั้นพวกเขาจะไม่กลัวความเจ็บปวดไม่โดนจุดตายน่าจะไม่ตายเช่นกัน
มีข่าวกรองที่เนี่ยเฟิงจัดหาให้ หม่างซือก็จะจัดการพวกเขาก็ง่ายขึ้นเยอะอย่างเห็นได้ชัดเลย
เมื่อกี้พวกเขายังเป็นฝ่ายถูกกระทำอยู่ แต่ปัจจุบันนี้คือเห็นคนหนึ่งฆ่าคนหนึ่ง เห็นสองคนฆ่าเป็นคู่แล้ว